สื่อต่างประเทศจับตา “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ (Phuket Sandbox)” โครงการนำร่องแผนเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวของไทย หลังปิดยาวนานนับปีจากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยสำนักข่าว BBC ของอังกฤษ เสนอรายงานพิเศษ Young Thai workers race to reopen deserted beaches เป็นคลิปวีดีโอความยาว 02.26 นาที ว่าด้วยเสียงสะท้อนของแรงงานวัยหนุ่ม-สาว ที่คาดหวังว่า การเปิดเกาะภูเก็ตจะทำให้เศรษฐกิจท้องถิ่นกลับมาคึกคัก คลิปวีดีโอของสื่อเมืองผู้ดี เปิดเรื่องด้วยวลี “ครั้งหนึ่งคือจุดหมายปลายทางในฝัน แต่วันนี้คือฝันร้ายทางเศรษฐกิจ (once a dream destination , now an econonic nightmare)” การปิดประเทศทำให้ชายหาดของภูเก็ตกลายเป็นดินแดนรกร้าง โดย Theewisit “Jay” Jaruwannakul ชายหนุ่มวัย 25 ปี ผู้นำเงินเก็บมาใช้เริ่มต้นธุรกิจรถตู้รับ-ส่งผู้โดยสาร ชี้มือให้กล้องถ่ายไปยังชายหาดด้านหลังของตน แล้วบอกว่า ตอนนี้ไม่มีใครเลย
จากชายหาด Jay ขับรถตู้พาผู้สื่อข่าวเข้าไปดูบรรยากาศในเขตชุมชนย่านท่องเที่ยว พลางบอกว่า แม้แต่ร้านกาแฟชื่อดังที่มีสาขาทั่วโลกอย่างสตาร์บัคส์ (Starbucks) ก็ยังปิด ขณะที่ถนนก็โล่งแทบไม่มีรถสัญจรไป-มา เรียกว่าทุกอย่างมีแต่ความว่างเปล่า โดยเวลานี้ ตนขายอาหารท้องถิ่นอยู่กับพี่น้อง เพราะไม่มีทางเลือกอื่นหากไม่มีธุรกิจท่องเที่ยว และทุกๆ คนก็ต้องหาหนทางใหม่เพื่อรักษาชีวิตของตนเอง เช่นเดียวกับ Ji หญิงสาววัย 23 ปี เพิ่งจบการศึกษาด้านการท่องเที่ยว และมีความฝันอยากเป็นพนักงานสายการบิน แต่วันนี้ทำได้เพียงช่วยครอบครัวขายอาหารในโรงอาหารของสนามบิน ที่กล่าวว่า ทุกๆ คนก็ต้องปรับตัว
เศรษฐกิจไทยร้อยละ 20 นั้นพึ่งพารายได้จากการท่องเที่ยว แต่แล้วในปี 2563 จำนวนนักท่องเที่ยวได้ลดลงจาก 14 ล้านคน เหลือเพียง 4 ล้านคน และเมื่อมีการเริ่มฉีดวัคซีนโควิด-19 ชาวภูเก็ตนั้นค่อนข้างตื่นตัวมาก บรรยากาศ ณ จุดที่เปิดให้ฉีดวัคซีนเนืองแน่นไปด้วยผู้คน โดยผู้ทำงานที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจภาคการท่องเที่ยว คือคนกลุ่มแรกๆ ที่ได้รับวัคซีน แม้จะเป็นคนวัยหนุ่ม-สาวก็ตาม Piyarat "June" Na-Songkhla หญิงสาวอาชีพมัคคุเทศก์ กล่าวว่า มันดูสิ้นหวัง เราไม่มีรายได้มา 1 ปีครึ่งแล้ว และนี่คือโอกาสสุดท้าย เป้าหมายของเราคือการเปิดเกาะ
แผนการของภูเก็ตคือทำให้คนบนเกาะได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 อย่างกว้างขวางที่สุด เพื่อให้เปิดเกาะได้ทันฤดูการท่องเที่ยว และภูเก็ตจะเริ่มต้อนรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2564 เป็นต้นไป รายงานของ BBC ทิ้งท้ายด้วยคำถามที่ว่า “อะไรจะเกิดขึ้นหากภูเก็ตไม่สามารถเปิดเกาะได้ในเร็ววันนี้ (What will happen if this island doesn't re-open soon?)” ด้วยเสียงของคนท้องถิ่นที่ตอบว่า “เชื่อได้เลยว่าผู้คนจะไม่อยู่ที่นี่อีกต่อไป (I'm sure people will not stay here anymore.)”
ขณะที่เว็บไซต์ นสพ.South China Moring Post ของฮ่องกง เผยแพร่บทความ Phuket Sandbox: dos and don’ts for ‘no quarantine’ reopening of Thai resort island ระบุว่า หลังรอคอยมานานถึง 15 เดือน ในที่สุดการได้ใช้วันพักผ่อนบนเกาะภูเก็ตกำลังจะกลับมาอีกครั้ง ในโครงการนำร่อง ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่นักท่องเที่ยวจะสามารถเดินทางไปยังภูเก็ตได้โดยไม่ต้องเข้ากระบวนการกักกันโรค อย่างไรก็ตาม ขอให้นักท่องเที่ยวตรวจสอบให้แน่ใจ ดังนี้
อย่างแรกคือต้องฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบถ้วนตามปริมาณที่กำหนดอย่างน้อย 14 วันก่อนเดินทาง และต้องเป็นวัคซีนที่ทางการไทยหรือองค์การอนามัยโลก (WHO) รับรอง ซึ่ง ณ เวลานี้ ประกอบด้วย ซิโนแวค ซิโนฟาร์ม แอสตราเซเนกา จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน โมเดอร์นา และไฟเซอร์ (วัคซีนในรายชื่อเหล่านี้ ปริมาณที่กำหนดคือให้ฉีด 2 เข็มต่อคน ยกเว้นจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ที่ใช้เพียง 1 เข็มต่อคน) อีกทั้งต้องมีใบรับรองผลว่าไม่ติดเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธีการตรวจแบบ PCR ในเวลาใม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง
นอกจากนี้ ยังต้องมีวีซ่าที่ยังไม่หมดอายุ และใบรับรองการเข้าเมืองจากสถานทูตไทย รวมถึงต้องทำประกันที่ครอบคลุมการรักษาหากติดเชื้อโควิด-19 ที่มีวงเงินคุ้มครองอย่างน้อย 1 แสนเหรียญสหรัฐ หรือราว 3.1 ล้านบาท ซึ่ง ยุทธศักดิ์ สุภสร (Yuthasak Supasorn) ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย อธิบายเพิ่มเติมว่า ในระยะแรก อนุญาตให้นักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนครบแล้วเท่านั้น ยกเว้นเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี ขณะที่สื่อท้องถิ่นของภูเก็ต ระบุว่า ผู้มีอายุ 6-18 ปี จะได้รับการตรวจคัดกรองหาการติดเชื้อโควิด-19 ทันทีที่เดินทางไปถึงสนามบินภูเก็ต
นักท่องเที่ยวยังต้องติดตั้งแอปพลิเคชั่นติดตามตัว และแสดงหลักฐานการเงินประมาณ 640 เหรียญสหรัฐ หรือราว 2 หมื่นบาท และต้องกรอกแบบฟอร์มสุขภาพก่อนเข้าพัก โดยต้องเข้าพักในโรงแรมที่ได้มาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยเพื่อนักท่องเที่ยว หรือ SHA (Safety & Health Administration) ระดับ SHA+ ที่หมายถึงพนักงานโรงแรมร้อยละ 70 ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้ว แต่การหาโรงแรมประเภทนี้ไม่ยาก เพราะโรงแรมส่วนใหญ่บนเกาะภูเก็ต มีความกระตือรือร้นในการยกระดับให้ได้มาตรฐานดังกล่าวอยู่แล้ว
ในเบื้องต้น ยังไม่มีความชัดเจนว่านักท่องเที่ยวจะสามารถออกจากเกาะภูเก็ตไปท่องเที่ยวในพื้นที่อื่นๆ ของไทยได้เมื่อใด บ้างก็ว่าต้องพักค้างและท่องเที่ยวอยู่บนเกาะเป็นเวลา 14 วัน แต่รายงานของ Nikkei Asia หนังสือพิมพ์ของญี่ปุ่นที่เน้นนำเสนอข่าวด้านเศรษฐกิจ ระบุว่า หากอยู่บนเกาะภูเก็ตครบ 5 วันแล้วไปตรวจคัดกรองหาการติดเชื้อโควิด-19 แล้วพบว่าไม่ติดเชื้อ นักท่องเที่ยวจะได้รับอนุญาตให้ออกไปเที่ยวนอกพื้นที่เกาะได้ 1 วัน
จากความไม่ชัดเจนนี้ บทความของสื่อฮ่องกง จึงขอให้นักท่องเที่ยวที่ไปเยือนภูเก็ต ใช้ความอดทนอดกลั้นกับทั้งเจ้าหน้าที่รัฐและคนในท้องถิ่น เพราะแม้แต่คนในพื้นที่เองก็อาจจะยังไม่เข้าใจกฎระเบียบใหม่นี้เช่นกัน แม้เศรษฐกิจของภูเก็ตจะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงในช่วงที่ผ่านมาจากมาตรการจำกัดการเดินทาง และการท่องเที่ยวนั้นเป็นรายได้ถึงร้อยละ 20 ของเกาะ แต่ก็อย่าคาดหวังมากนักว่าจะได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น
บทความยังทิ้งท้ายด้วยว่า “อย่าไปทำตัวแย่ๆ (don’t be an idiot)” ที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวต่างชาติทำพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมหลายกรณี เช่น ที่เกาะพะงัน ทางภาคใต้ของไทย มีการลักลอบจัดงานเลี้ยงทั้งที่เป็นข้อห้ามในช่วงที่มีมาตรการสกัดกั้นการระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งงานเลี้ยงดังกล่าวมีผู้ถูกจับกุมได้ 109 คน ในจำนวนนี้ 89 คนเป็นชาวต่างชาติ หรือที่อินโดนีเซีย มีนักท่องเที่ยวไปทำทีแกล้งสวมหน้ากากปิดปาก-จมูก ทั้งที่ไม่ได้สวมจริง พฤติกรรมทำนองนี้เป็นข่าวอย่างรวดเร็ว และนำมาซึ่งการถูกตำหนิว่าขาดความเคารพต่อจุดปลายปลายทางที่ไปเยือน
https://www.naewna.com/inter/579032