นับเป็นโชคดีของคนยุคใหม่ที่มีเครื่องมือ อุปกรณ์และนวัตกรรมทันสมัย เพื่อให้สามารถทำเรื่องต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น รวมถึงการชงกาแฟสดที่เคยถูกมองว่าเป็นเรื่องยุ่งยาก ซับซ้อนและใช้เวลานานให้กลายเป็นเรื่องที่ง่ายดายขึ้น
ปัจจุบันมี เครื่องชงกาแฟ อัตโนมัติที่จะทำให้การชงกาแฟทุกสูตรทุกเมนูง่ายมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกาแฟดำหรือกาแฟสูตรนม โดยเฉพาะ เครื่องชงกาแฟ Nespresso ซึ่งมีหลายรุ่นหลายรูปแบบให้เลือกใช้ตามความต้องการที่แตกต่างกัน ถือว่าช่วยเพิ่มความสะดวกให้กับคอกาแฟได้เป็นอย่างดี เพราะสามารถชงกาแฟดื่มได้ทุกที่ทุกเวลาด้วยรสชาติที่ไม่แตกต่างกับบาริสต้ามืออาชีพชงให้ดื่มเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมี แคปซูลกาแฟ ที่บรรจุกาแฟแท้คั่วบดอยู่ภายในแล้วปิดสนิทด้วยฝาซีลและฟอยล์ เพื่อเก็บรสชาติและความหอมของกาแฟสดไว้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่ง แคปซูลกาแฟ ของ Nespresso นี้ก็มีหลากหลายรสชาติจากการคัดเลือกเมล็ดกาแฟที่มีคุณภาพทั่วทุกมุมโลก โดยแต่ละรสชาติจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งมี 6 กลุ่มรสชาติหลักให้เลือก เช่น กลุ่ม Lungo Master Origin และ Barista เป็นต้น
สำหรับ วิธีใช้เครื่องชงกาแฟ ทุกรุ่นของ Nespresso นั้นถือว่าไม่ยุ่งยากซับซ้อนและสามารถเข้าใจขั้นตอนวิธีการได้อย่างง่าย ๆ โดยขอแนะนำ 3 รุ่นที่ได้รับความนิยมอย่างมากในขณะนี้ ได้แก่
เครื่องชงกาแฟรุ่น Essenza – Mini ถือเป็นรุ่นขนาดเล็ก มีความกะทัดรัด โดยมีน้ำหนักของเครื่องอยู่ที่ 2.3 กิโลกรัมเท่านั้น จึงสามารถพกพาติดตัวไปตามสถานที่ต่าง ๆ ได้อย่างสะดวก โดยเครื่องรุ่น Essenza- Mini นี้เหมาะสำหรับการใช้ชงกาแฟดำสูตร Espresso ปริมาณ 40 มล.และ Lungo ปริมาณ 110 มล. ส่วน วิธีใช้เครื่องชงกาแฟ รุ่น Essenza - Mini นี้ก็แสนง่ายดายไม่ว่าใครก็สามารถชงได้ เพราะเพียงเติมน้ำใส่แท็งก์บรรจุน้ำ เลือกแคปซูลกาแฟรสชาติที่ชอบใส่เข้าไปในเครื่องชงกาแฟ นำ
ถ้วยกาแฟ Nespresso วางรองรับในตำแหน่งที่กำหนด เลือกกดปุ่มเมนูที่ต้องการให้เครื่องชงกาแฟเริ่มทำ
งานแบบอัตโนมัติ เพียงเท่านี้ก็จะได้กาแฟดำพร้อมดื่มภายในเวลาเพียงไม่กี่นาที
เครื่องชงกาแฟรุ่น CitiZ เป็นรุ่นที่มีดีไซน์สวยงามทันสมัย มาในขนาดพอเหมาะกำลังดี จึงนำไปจัดวางในบ้านได้อย่างสะดวกไม่สิ้นเปลืองเนื้อที่ เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบดื่มกาแฟดำโดยเฉพาะ โดยในการชงแต่ละครั้งจะสามารถชงกาแฟ Espresso ได้ในปริมาณ 40 มล. หรือ Lungo ในปริมาณ 110 มล. ด้วยขั้นตอนง่าย ๆ เพียงเติมน้ำใส่แท็งก์ตามปริมาณที่กำหนด นำแคปซูลกาแฟที่เลือกใส่ลงในช่องบนตัวเครื่อง วาง ถ้วยกาแฟ เตรียมรองรับกาแฟ จากนั้นเลือกกดปุ่มเมนูการชงที่ต้องการ รอเพียง 2 – 3 นาทีก็จะได้กาแฟถ้วยโปรดมาดื่มโดยไม่ยุ่งยากเลย
เครื่องชงกาแฟรุ่น Lattissima Touch White เป็นเครื่องรุ่นใหญ่สามารถชงได้ทั้งกาแฟดำและกาแฟสูตรนมหลากหลายเมนู โดยวิธีการใช้เครื่องรุ่นนี้ก็ไม่ยุ่งยากเช่นกันแม้ว่าจะมีฟังก์ชันที่มากกว่า 2 รุ่นแรก แต่ยังคงใช้หลักการคล้ายกันคือ เติมน้ำสะอาดใส่ในแท็งก์น้ำด้านหลังของตัวเครื่อง จากนั้นเติมนมสดและใส่แคปซูลกาแฟให้เรียบร้อย เลือกรสชาติของกาแฟที่ต้องการตามเมนูบนตัวเครื่องซึ่งมีให้เลือก 6 เมนูด้วยกัน ได้แก่ Espresso Lungo Cappuccino
ลาเต้ ครีมลาเต้และฟองนมอุ่น จาก
ที่ตีฟองนม จากนั้นกดปุ่มเพื่อให้เครื่องชงกาแฟเริ่มทำการชง เพียงเท่านี้ก็จบขั้นตอนการชงกาแฟได้ในเวลาอันรวดเร็ว ที่สำคัญคือ เครื่องรุ่น Lattissima Touch White นี้ยังสามารถชงกาแฟได้ต่อเนื่องครั้งละ 5 - 7 แก้วเลยทีเดียว
คนที่กำลังมองหาผู้ช่วยสำหรับชงกาแฟสดก็ต้องพิจารณาถึงขอบเขตและลักษณะการใช้งานก่อนที่จะตัดสินใจเลือกให้สอดคล้องกับความต้องการที่แท้จริง สามารถเลือกดูเครื่องชงกาแฟทุกรุ่นของ Nespresso ได้ที่ www.nespresso.com รังสรรค์กาแฟแก้วโปรดได้ทั้งกาแฟที่มีและ
กาแฟไม่มีคาเฟอีน