
เป็นที่แน่นอนแล้วว่า 1 พฤศจิกายนนี้ ประเทศไทยจะเปิดรับนักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนครบโดสและเดินทางจากประเทศความเสี่ยงต่ำ (ตามที่รัฐบาลกำหนด) โดยไม่กักตัวแล้ว และทำ RT-PCR test ในวันแรกที่มาถึง จากเดิมที่กำหนดให้ต้องอยู่ในพื้นที่ 7 วัน และทำ RT-PCR test 3 ครั้ง
การผ่อนคลายมาตรการดังกล่าวทำให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ปรับคาดการณ์ใหม่อีกครั้ง โดยประเมินว่าไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ประเทศไทยน่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติถึง 1 ล้านคน พร้อมตั้งเป้าว่าในปี 2565 จะมีรายได้ประมาณ 50% ของปี 2562 และเพิ่มเป็น 80% ของปี 2562 ในปี 2566 และมีรายได้ใกล้เคียงกับปี 2562 ได้ในปี 2567
แอร์ไลน์แห่คืนสลอตฤดูหนาว
ต่อคำถามว่า ตามสลอตการบินฤดูหนาว หรือ winter schedule ปีนี้ สายการบินต่าง ๆ แจ้งความประสงค์กลับมาทำการบินแล้วมากน้อยแค่ไหน “นิตินัย” บอกว่า ที่ผ่านมาสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ หรือ IATA ยังยกเว้นไม่ลงโทษสายการบินที่ทำผิดเงื่อนไขการบิน ในเกณฑ์ 80 : 20 (สายการบินไหนผิดเงื่อนไขเกิน 20% สิทธิ์สลอตการบินเวลาเดิมในปีหน้าจะหลุด) ทำให้ ทอท.บริหาร
งานยาก เพราะไม่สามารถรู้ดีมานด์ที่แท้จริง สลอตการบินยังคงถูกจองไว้เต็ม (สีแดง) เหมือนช่วงก่อนวิกฤต
อย่างไรก็ตาม ประเด็นนี้ล่าสุดสถาบันการบินพลเรือนได้ผ่อนผันเกณฑ์ 80 : 20 ของ IATA โดยใช้เกณฑ์ใหม่เรียกว่า 50 : 50 โดยเปิดทางให้สายการบินที่รู้ตัวว่า 1 เดือนล่วงหน้าจะไม่ทำการบินทำการยกเลิกสลอตการบินไปก่อน โดยจะไม่นับเป็น 50% ที่ขาดหรือผิดเงื่อนไข หากสายการบินไหนพร้อมก็แจ้งความประสงค์จองสลอตเวลาที่ว่าง (สีเขียว) เพื่อกลับมาทำการบิน
เมื่อมีเกณฑ์ใหม่นี้ออกมา ทำให้สายการบินส่วนใหญ่ยอมคืนสลอตการบินไว้ก่อน ส่งผลให้สลอตการบินที่เคยเต็มเป็นสีแดงทั้งตารางเปลี่ยนเป็นสีเขียวชัดเจนขึ้น
“นิตินัย” บอกว่า จากเกณฑ์ใหม่ของสถาบันการบินพลเรือนนี้ทำให้สายการบินทั้งต่างประเทศและในประเทศไทยคืนสลอตเวลาออกมาเป็นจำนวนมาก โดยภาพรวม 6 สนามบินในความดูแล พบว่าสายการบินต่างประเทศยกเลิกสลอตเวลาไป 82% ส่วนสายการบินในประเทศ (สัญชาติไทย) ยกเลิกสลอตเวลาไป 34%
หากประเมินเฉพาะในส่วนกลางคือ สนามบินสุวรรรภูมิและดอนเมือง พบว่าสายการบินต่างประเทศคืนสลอตรวมกันเฉลี่ยประมาณ 70% ขณะที่สนามบินดอนเมืองนั้น พบว่า สายการบินต่างประเทศยกเลิกสลอตการบินไปทั้งหมด 100% ส่วนสายการบินภายในประเทศยกเลิกสลอต 33%
“ตอนนี้โดยรวมสายการบินคืนสลอตกันไปประมาณ 70-80% นั่นแสดงว่าสลอตการบินในภาพรวมของเราก็จะว่างเป็นสีเขียว 70-80% เช่นกัน สายการบินไหนพร้อมจะกลับมาก็มาเลือกสลอตเวลาเอาว่าจะบินเวลาไหน เกณฑ์นี้ถือว่าช่วยให้เราบริหารจัดการและเห็นทิศทางของอุตสาหกรรมการบินที่ชัดเจนขึ้น”
สะท้อนสายการบินยังไม่เชื่อมั่น
“นิตินัย” อธิบายเพิ่มเติมด้วยว่า กรณีที่สายการบินต่าง ๆ คืนสลอตการบินฤดูหนาว หรือ winter schedule 2564-2565 (ระหว่าง 31 ตุลาคม 2564-26 มีนาคม 2565) จำนวนมากนั้น สะท้อนว่า ธุรกิจการบินในช่วง 5 เดือนนี้ สายการบินยังมองถึงความไม่แน่นอนของสถานการณ์ ทั้งเรื่องการเปิดน่านฟ้าระหว่างประเทศ เรื่องของโรคระบาด รวมถึงเรื่องการ
เปิดประเทศของพวกเขาด้วย เป็นต้น
พูดง่าย ๆ คือ สายการบินต่างประเทศยังมองว่าในช่วง 5 เดือนนี้ ยังมีความไม่แน่นอนสูง
“ในส่วนของสายการบินต่างชาตินั้น ส่วนใหญ่ที่คืนสลอตเวลามาเป็นสายการบินในฝั่งภูมิภาคเอเชียเป็นเส้นทางบินระยะใกล้เป็นหลัก ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าเขาอาจมองว่าการบินใกล้นั้น กลับมาง่ายกว่าการบินระยะไกล”
ขณะที่สายการบินภายในประเทศคืนสลอตเวลาเฉลี่ยประมาณ 40% นั้น น่าจะเป็นเพราะว่าสามารถปรับสลอตการบินที่มีอยู่มาให้บริการเส้นทางบินภายในประเทศแทนได้
กระทบผลประกอบการปี’65-66
“นิตินัย” จากปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ สะท้อนชัดเจนถึงผลประกอบการโดยรวมของ ทอท. สำหรับปีงบประมาณ 2565-2566 ว่า ยังคงได้รับผลกระทบต่อเนื่องเช่นกัน เนื่องจากในไตรมาส 1 ของงบประมาณปี 2565 (1 ตุลาคม-31 ธันวาคม 2564) นั้นยังคงไม่ฟื้นตัวนัก
เช่นเดียวกับปีงบประมาณ 2566 (1 ตุลาคม 2565-30กันยายน 2566) ที่คาดว่าอุตสาหกรรมการบินจะยังอยู่ในภาวะซ่อมแซม เนื่องจากคาดว่าจะมีซัพพลายเชนบางส่วนที่หายไป และบางส่วนต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูธุรกิจให้กลับมาแข็งแรงได้เหมือนกัน
ส่วนผลประกอบการสำหรับปีงบประมาณ 2564 (1 ตุลาคม 2563-30 กันยายน 2564) นี้จะเป็นปีที่ขาดทุนเกิน 10,000 ล้านบาท เพราะได้รับผลกระทบตลอดทั้งปี โดยตัวเลข 9 เดือนแรกที่แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯไปแล้วมีตัวเลขขาดทุนอยู่ที่ราว 11,000 ล้านบาท
ที่มา https://www.prachachat.net/tourism/news-785125