กันต์ รตนาภรณ์ ‘Life is Art’
เพียงแค่ครึ่งทางของการจัดนิทรรศการภาพวาดเดี่ยว Guntara ‘Life is Art’ ชีวิตกับศิลปะ ของ กันต์ รตนาภรณ์ ซึ่งจัดแสดงร้าน “มาดิ” (Madi) ย่านเจริญกรุง ผลงานของเขาก็กลายเป็นที่ยอมรับของคนเสพงานศิลป์ไปแล้ว โดยล่าสุด เจ้าของแกลอรี่ฮ่องกงติดต่อนำงานของเขาไปโชว์ในงานนิทรรศการศิลปะครั้งใหญ่ของฮ่องกง ขณะที่เดือนพฤษภาคม จะเดินทางไปโชว์งานที่นิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา ซึ่งก่อนที่เขาจะออกเดินทางไปไกลถึงนิวยอร์คเรามารู้จักตัวตนของศิลปินหนุ่มไฟแรงคนนี้กันก่อนค่ะ
ที่ผ่านมาเรารู้จัก กันต์ รตนาภรณ์ ในฐานะเซเลบริตี้หนุ่มนักธุรกิจมากความสามารถ ที่เป็นประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท Maison de Bangkok (เมซอง เดอ แบงค็อก) แต่ในวันที่วิกฤตโควิดยังไม่เลือนหาย กันต์ ค้นหาความจริงของชีวิต แล้วก็มาตกผลึกถึงความสุขกับศิลปะ ในวันว่างเขาจึงย้อนอดีตเลือกทำในสิ่งที่รักมาตั้งแต่เล็กด้วยการผลิตงานศิลปะ แล้วนำมาจัดนิทรรศการภาพวาดเดี่ยว Guntara ‘Life is Art’ ชีวิตกับศิลปะครั้งแรกในชีวิต
กันต์ บอกว่า หลงใหลศิลปะมาตั้งแต่เด็ก จึงเลือกเรียนศิลปะเป็นวิชาเอกเรื่อยมา จนจบด้าน Fine art (งานศิลปะในกลุ่มวิจิตรศิลป์ ที่มุ่งเน้นคุณค่าทางความงามเพื่อตอบสนองประโยชน์ทางจิตใจ หมายรวมถึงการออกแบบพวก ประติมากรรม จิตรกรรม วรรณกรรม สถาปัตยกรรม คีตศิลป์และนาฏศิลป์ และสื่อผสม ที่มหาวิทยาลัยนอร์ทอีสเทิร์น (Northeastem University) ประเทศอเมริกา ผมก็ห่างหายจากการวาดรูป เพ้นท์ติ้ง มาพักใหญ่ แต่จริงๆ แล้วงานศิลปะเป็นสิ่งที่ผมรักและอยากทำมาตลอด ซึ่งพอจังหวะเวลาลงตัว ผมจึงตัดสินใจปรับพื้นที่ในบ้านให้กลายเป็นสตูดิโอ เพื่อสร้างสรรค์งานศิลปะอย่างจริงจัง จนเกิดภาพต่างๆเหล่านี้
จนเมื่อได้ผลงานภาพที่เค้าพอใจแล้วเค้าก็มองหาสถานที่จัดงานแสดง จนมาได้ร้านกาแฟที่มีความเรียบง่ายดูเก๋ แถวเจริญกรุง เยื้องๆไปรณีย์กลางแถวบางรัก ที่ทำให้งานศิลปะของผมมีความลงตัวที่ร้านกาแฟ มาดิ แบงค์ค็อก (Madi Bkk) เป็นอาคารพาณิชย์ ตึกแถวประมาณ2ชั้น ผลงานของผมมีอยู่ทั้งชั้น1และชั้น2 ส่วนใหญ่จะเป็นชั้น 2 ที่นำมาจัดแสดงมีประมาณ 14 ภาพ โดยจะมีภาพใหญ่สุดอยู่ชั้น1
ผลงานครั้งนี้ มีชื่อว่า GUNRATA Solo Exhibition “Life is Art” ซึ่งสะท้อนถึงเรื่องราวต่างๆ ในชีวิตโดยเลือกใช้สีขาวและดำ ที่สื่อถึงชีวิตของคนเราที่มีทั้งด้านมืด และด้านสว่าง เปลี่ยนเสมือนคนเรามีทั้งความทุกข์และความสุข ผสมปนกันอยู่ และจะใช้สัญลักษณ์วงกลมสอดแทรกอยู่ในผลงานแต่ละชิ้น เพราะว่าความทุกข์และความสุขเปรียบเสมือนวัฎจักร กงล้อ ซึ่งก็เปรียบเหมือนกับชีวิตของคนเรา ที่แม้บางวันอาจจะท้อ เศร้า ผิดหวัง จึงใช้สีดำเป็นตัวแทนของความทุกข์แต่ความทุกข์ ความเศร้ามันไม่ได้อยู่กับเราตลอด พรุ่งนี้ชีวิตก็อาจจะกลับมาสว่างสดใสอีกครั้ง
กันต์บอกว่า เขาเลือกใช้ไม้สักทอง ที่มาจากเฟอร์นิเจอร์เก่าภายในบ้าน แล้วนำมาตัดเป็นท่อนๆ เพื่อใช้เป็นอุปกรณ์ที่ทำให้เกิดลวดลาย แทนการใช้พู่กัน ทำให้ภาพที่ออกมามีความพิเศษ และเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่เพียงเท่านั้น เขายังครีเอท(ออกแบบ)เครื่องดื่มสูตรเฉพาะ ตามชื่อผลงานของผมในครั้งนี้ด้วย คือ Hidden Power (Americano), Balance (Latte Coffee), Change (Yuzu Americano), Reset and Restart (Peach Lemon Tea), This too shall pass (Matcha Latte) และ The voice in our head (Dark Cocoa)
จากจำนวนผลงานภาพทั้งหมดที่นำมาโชว์ล้วนมีเรื่องราวเกี่ยวพันธ์กับการดำเนินชีวิตทั้งสิ้น ทุกผลงานของหนุ่มกันต์ไม่เพียงแต่ต้องตาต้องใจคนไทยที่ชื่นชอบงานศิลปะ หากแต่ยังไปสะดุดใจนักสะสมงานศิลปะต่างชาติ จนได้รับการทาบทามให้ไปโชว์ผลงานในต่างประเทศหลายที่ โดยที่เพิ่งเซ็นสัญญาและแสดงงานแน่แล้วคือในเดือนมกราคม 2022 ภาพจากนิทรรศการครั้งนี้ 4 ภาพจะถูกนำไปโชว์ที่แกลอรี่ในงานนิทรรศการศิลปะครั้งใหญ่ของฮ่องกง และในเดือนพฤษภาคม จะเดินทางไปนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา โชว์นิทรรศการที่นั่น โดยเซ็นสัญญาแล้ว ซึ่งผมต้องเดินทางไปทำอาร์ตเวิร์คที่นั่น 3 เดือนก่อน นำมาโชว์เอ็กซิบิชั่นให้คนเข้าชม
กระแสตอบรับที่ได้จากงานครั้ง สะท้อนให้เห็นแล้วว่า กันต์ จัดเป็นศิลปิผู้ผลิตงานศิลปะที่มาแรงในยุคนี้ และเชื่อมั่นว่าปีหน้าเขาจะเติบโตและโด่งดังยิ่งๆขึ้นไป แวะไปชมผลงาน และชิมเครื่องดื่มอร่อยๆ หรือจะถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึก ได้ที่ @madi_bkk ตั้งแต่เวลา 10.00 น. ถึง 16.00 น. วันนี้ – 30 พ.ย. 64
#GunrataStudio #GUNRATA IG : GUNRATA
