สมาคมอุตสาหกรรมก๊าซธรรมชาติเหลวนานาชาติ ประกาศกรอบการทำงานว่าด้วยการรายงานข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและความเป็นกลางทางคาร์บอนอย่างโปร่งใส
- กรอบการทำงานดังกล่าวเข้ามากำหนดหลักเกณฑ์ในการรายงานข้อมูลและชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในส่วนที่ลดปริมาณลงไม่ได้
- มุ่งปรับปรุงการรายงานข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ดีขึ้น
- กำหนดคำจำกัดความเกี่ยวกับความเป็นกลางทางก๊าซเรือนกระจกให้สอดคล้องกัน
- เตรียมรวมข้อมูลการปล่อยมีเทนอย่างเต็มรูปแบบด้วย
สมาคมผู้นำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลวนานาชาติ (GIIGNL) ได้ประกาศเปิดตัวกรอบการทำงานอันครอบคลุม เพื่อให้อุตสาหกรรมก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) รายงานข้อมูลการบรรทุกก๊าซ LNG ที่มีความเป็นกลางทางก๊าซเรือนกระจกอย่างสอดคล้องกัน ในช่วงเวลาที่แนวปฏิบัติในการรายงานข้อมูลการบรรทุกก๊าซ LNG 'ที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน' ปรากฏให้เห็นกันมากขึ้น
กรอบการทำงานดังกล่าวมีชื่อว่า Monitoring, Reporting, and Verification (MRV) and GHG (Greenhouse Gas) Neutral Framework โดยเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามร่วมกันในอุตสาหกรรม เพื่อประเมินและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกี่ยวข้องกับ LNG ซึ่งกลายเป็นแหล่งพลังงานที่มีความสำคัญขึ้นเรื่อย ๆ ทั่วโลก ทั้งนี้ หน่วยงานต่าง ๆ ในทุกระยะของวัฏจักรอุตสาหกรรม LNG นำกรอบการทำงานดังกล่าวไปใช้ได้ เพื่อประเมินปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการขนส่ง LNG ของตน
กรอบการทำงานนี้ส่งเสริมการแสดงปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วทั้งห่วงโซ่มูลค่าอย่างถูกต้องและสอดคล้องกัน ตั้งแต่การสกัดก๊าซธรรมชาติ การทำให้เหลว การขนส่ง การเปลี่ยนสถานะจากของเหลวกลับเป็นก๊าซ ไปจนถึงการนำไปใช้ขั้นสุดท้าย กรอบการทำงานนี้สร้างแนวปฏิบัติที่โปร่งใสในการรายงานข้อมูลความเป็นกลางทางก๊าซเรือนกระจกจากการขนส่ง ผ่านใบแจ้งสินค้าบรรทุก (Cargo Statement) ซึ่งประกอบด้วยข้อมูลการปล่อยและชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ได้รับการตรวจสอบยืนยันโดยบุคคลภายนอกแล้ว
GIIGNL ส่งเสริมให้หลีกเลี่ยงและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในส่วนที่ทำได้ โดยจะชดเชยได้ก็ต่อเมื่อหลีกเลี่ยงหรือลดไม่ได้
Jean Abiteboul ประธานสมาคม GIIGNL กล่าวว่า "เราจำเป็นต้องประเมินระดับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วทั้งห่วงโซ่มูลค่าอย่างร่วมมือร่วมใจและสอดคล้องกัน เพื่อดำเนินการตามบทบาทที่ทั้งสำคัญและโดดเด่นของอุตสาหกรรม LNG ในการส่งเสริมเศรษฐกิจโลกสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์"
"นอกเหนือจากการลดและชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในภาพรวมแล้ว เรายังตั้งใจให้กรอบการทำงานนี้เข้ามาช่วยอุตสาหกรรมในการยกระดับความโปร่งใสด้วย"
Steve Hill รองประธานบริหารของ Shell Energy ผู้เป็นรองประธานประจำภูมิภาคอเมริกาของ GIIGNL กล่าวเสริมว่า "กรอบการทำงานดังกล่าวมอบแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดให้กับองค์กรทั้งหลายในอุตสาหกรรม เพื่อยกระดับความโปร่งใสและความแม่นยำในการแสดงปริมาณ รายงานข้อมูล และชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการขนส่ง LNG เรามีความกระตือรือร้นในการเริ่มวางรากฐานในการนำกรอบการทำงานนี้ไปใช้ เพื่อแสดงตัวอย่างการขนส่ง LNG 'ที่มีความเป็นกลางทางก๊าซเรือนกระจก' ตามที่กำหนดไว้ในกรอบการทำงานนี้"
Michiaki Hirose ประธานกรรมการของ Tokyo Gas ผู้เป็นรองประธานประจำภูมิภาคเอเชียของ GIIGNL ชี้ให้เห็นว่า "ในขณะที่กลยุทธ์ในการบรรลุความเป็นกลางทางก๊าซเรือนกระจกขององค์กรต่าง ๆ นั้นอาจแตกต่างกัน แต่ทางอุตสาหกรรมก็หวังที่จะบรรลุเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้ทั่วทั้งห่วงโซ่มูลค่า LNG"
Dan Brouillette ประธานของ Sempra Infrastructure และสมาชิกคณะกรรมการบริหารของสมาคม GIIGNL อธิบายว่า "เครื่องมือและเส้นทางที่ระบุไว้ในกรอบการทำงานนี้ จะช่วยให้องค์กรต่าง ๆ ในอุตสาหกรรม LNG สร้างแนวทางการรายงานข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ชัดเจนและน่าเชื่อถือได้ ทั้งยังเปิดโอกาสให้บุคคลภายนอกตรวจสอบยืนยันได้ เพื่อให้องค์กรเหล่านี้ทำตามพันธสัญญาด้านสภาพอากาศได้ตามที่ตั้งใจไว้"
Abiteboul ผู้เป็นประธานสมาคม GIIGNL กล่าวสรุปว่า "เราสนับสนุนให้อุตสาหกรรมเริ่มนำกรอบการทำงานนี้ไปใช้ตั้งแต่วันนี้ แต่เราก็เข้าใจดีว่าการดำเนินการเช่นนี้เป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา เพราะต้องสร้างทรัพยากรและขีดความสามารถที่จำเป็น เราหวังที่จะทำงานร่วมกับผู้มีส่วนร่วมทุกคน เพื่อให้ประชาคมโลกมีโอกาสที่ดีที่สุดในการบรรลุเป้าหมายปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์"