หลอดไฟ LED แตกต่างจากหลอดฟลูออเรสเซนต์ อย่างไร
ในยุคที่หลอดไฟมีการพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว และมีนวัตกรรมใหม่ๆเข้ามามากมาย ทำให้หลอดไฟในปัจจุบัน หลายๆคนเริ่มเลิกใช้หลอดฟลูออเรสเซนต์ ไปแล้วแต่ก็ยังสามารถเห็นได้ประปราย วันนี้เราจะมาดูกันว่าทำไม
หลอดไฟ LED ถึงมีความน่าสนใจและเป็นที่นิยมกันอย่างรวดเร็ว มันดีขนาดที่ว่าทิ้งหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ แบบขาดลอยขนาดนั้นเลยหรอ ไปดูกัน
หลอดไฟ LED จะมีข้อเเตกต่างจาก หลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ มากน้อยแค่ไหน
1. หลอดฟลูออเรสเซนต์ เป็นหลอดไฟที่ถือว่าอันตราย เพราะมีสารปรอทอยู่ในหัวตัวหลอด ถ้าเกิดทำหลอดไฟแตกแล้วเกิดไปเหยียบเศษของหลอดไฟ โดยไม่ล้างแผลทันที จะทำให้เป็นอันตรายร้ายแรง ต่อตัวคุณได้
2.หลอดฟลูออเรสเซนต์ กินไฟกว่า หลอดไฟ LED มากถ้าเทียบกับ หลอดไฟ LED แล้ว หลอดไฟ LED ประหยัดไปมากกว่า ถึง 2 เท่า เลยทีเดียว
3.หลอดไฟ LED มีอายุการใช้
งานที่นานกว่าหลอดฟลูออเรสเซนต์ ถ้าเปิดติดกันเป็นระยะเวลานานๆ จะทำให้อายุการใช้งานยิ่งน้อยลงไป ซึ่งหลอดไฟ LED สามารถยืดอายุการใช้งานได้นานกว่า อย่างเห็นได้ชัด
4. หลอดฟลูออเรสเซนต์ นั้นมีอุณภูมิสูงมากเมื่อใช้งานในระยะเวลาติดต่อกันนานๆ ทำให้มีความร้อนสูงมาก ซึ่งไม่สามารถใช้มือจับได้ต่างจาก หลอดไฟ LED ที่มีความน้อยน้อยกว่ามาก
5.สมัยก่อน
หลอดไฟ LED มีราคาที่สูงกว่าหลอดฟลูออเรสเซนต์มาก แต่ในปัจจุบันราคา หลอดไฟ ทั้ง 2 แบบแทบไม่แตกต่างกันมาก เลยทำให้
หลอดไฟ LED มีความนิยมมากขึ้น
จาก 5 ข้อที่ได้กล่าวไปนั้น เริ่มมองเห็นข้อดีของ หลอดไฟ LED กันมากขึ้นอยู่ยังครับ เพราะหลอดไฟ คือสิ่งที่เราใช้กันอยู่ทุกวัน วันนี้กลับบ้านไปลองดูซักนิดว่าที่บ้านของเรานั้นใช้
หลอดไฟ /หลอดไฟ แบบไหนอยู่ ถ้ายังเป็นหลอดแบบสมัยก่อนแนะนำให้เปลี่ยนมาเป็น หลอดไฟ LED เพราะคุณจะได้ทั้งการ ประหยัดไฟ และอายุการใช้งานก็นานกว่า แถมยังไม่เป้นอันตรายอีกด้วย
