เรื่องล่าสุดของหมวด
เช็กก่อนนวด! 12 อาการอันตราย ห้ามไปนวดเด็ดขาด
ลักษณะ "เล็บ" บอกสุขภาพได้
แนะวิธีกิน 5 ผลไม้ไทยให้ได้ประโยชน์ เลี่ยงรับ “น้ำตาล” มากเกินไป
เดินวันละ 10,000 ก้าว ดีต่อร่างกายหรือหักโหมเกินไป
5 อาหารช่วยย่อย ลดแน่นท้อง หลังจัดบุฟเฟ่ต์
อาการ "ไอ" แบบไหนผิดปกติ ควรไปพบแพทย์
3 เรื่องเกี่ยวกับ “โรคซึมเศร้า” ที่คนมักเข้าใจผิด
“นอนไม่หลับ” บ่อยๆ เสี่ยง "อัลไซเมอร์"
8 อาการผิดปกติ สาเหตุจาก "ความเครียด"
"กระตุ้นสมองด้วยคลื่นไฟฟ้า" วิธีรักษาผู้ป่วย "ซึมเศร้า" ที่ดื้อต่อการรักษา
5 วิธีง่ายๆ เลี่ยงภาวะ “หมดไฟ” ในการทำงาน
“ซึมเศร้า” แค่ไหน ถึงควรพบจิตแพทย์
6 เรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับภาวะ “ไขมันพอกตับ”
แพทย์เตือน "โรคเหงือก" รีบรักษา ก่อนต้องเสียฟัน
8 สัญญาณอันตราย เสี่ยง “โรคหัวใจ”
กลุ่มโรคที่มากับ “น้ำท่วม” อันตรายที่มาพร้อมหน้าฝน
"เอ็นข้อมืออักเสบ" สาเหตุ อาการ และวิธีรักษา
6 เคล็ดลับลดเสี่ยง "มะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรง"
"ยาแก้ปวด" และ "ยาคลายกล้ามเนื้อ" ใช้อย่างไรให้ถูกต้อง?
5 ประโยชน์ดีๆ จาก “ย่านาง” ดีท็อกซ์ผิว-ลดน้ำตาลในเลือด
อันตรายจากอาหารเสริม "เมลาโทนิน" สำหรับคนนอนไม่หลับ
วิตามิน-อาหารเสริม จำเป็นแค่ไหน เสียเงินฟรีหรือเปล่า?
4 วัคซีนที่ “ผู้ใหญ่” ควรฉีดเพื่อป้องกันโรค
รู้จักภาวะ “ผิวหนังติดสเตียรอยด์” เมื่อใช้กับผิวหนังนานเกินไป
หน้า: 1
แบ่งปันกระทู้นี้ให้เพื่อนคุณอ่านไหมคะ?
จากการทดสอบเลือดของกลุ่มตัวอย่าง พบว่าเกือบ 80% มีอนุภาคไมโครพลาสติกในกระแสเลือดการค้นพบนี้แสดงให้เห็นว่าอนุภาคขนาดเล็กสามารถเดินทางไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้และอาจถูกกักไว้ตามอวัยวะต่าง ๆ แม้ว่าจะยังไม่สามารถทราบได้ว่า ผลกระทบของไมโครพลาสติกต่อสุขภาพนั้นจะเป็นอย่างไร แต่นักวิจัยก็ยังมีความกังวล เพราะจากการศึกษาในห้องทดลอง พบว่าไมโครพลาติกสามารถทำอันตรายต่อเซลล์ของมนุษย์ได้ และอนุภาคขนาดเล็กของมลพิษทางอากาศสามารถเข้าสู่ร่างกายของมนุษย์ และเป็นสาเหตุให้เกิดการเสียชีวิตกว่าล้านคนต่อปีคุณรู้หรือไม พลาสติกจำนวนมหาศาลเล็ดลอดสู่สิ่งแวดล้อม จนแตกตัวกลายเป็นไมโครพลาสติก ในปัจจุบันไมโครพลาสติกได้ปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อมไปทั่วโลก ตั้งแต่เทือกเขาเอเวอร์เรสไปจนถึงก้นทะเล บางครั้งเราอาจบริโภคพลาสติกที่มีขนาดเล็กผ่านอาหาร น้ำ หรือแม้กระทั่งการหายใจ มากไปกว่านั้น ในปี 2561 มีงานวิจัยที่พบไมโครพลาสติกในอุจจาระของทารกและผู้ใหญ่แต่อย่างไรก็ตาม ประเด็นนี้เป็นที่น่ากังวลและต้องคอยติดตามอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากผลกระทบของมลพิษพลาสติกนั้นใกล้ตัวเราขึ้น และยิ่งทวีความรุนแรงในทุก ๆ วัน เรารู้ว่ามันอยู่ในอาหาร อยู่ในน้ำที่เราดื่ม หรือแม้แต่อากาศที่เราหายใจ จึงไม่น่าแปลกที่จะพบในร่างกายของพวกเรา แม้ว่าเรายังไม่พบผลกระทบต่อร่างกายที่ชัดเจน แต่ผลการศึกษาที่พบพลาสติกในเลือดนั้นก็ยังน่าตกใจอยู่ดีเรามีส่วนช่วยอย่างไรได้บ้าง?ทางด้าน ภาครัฐ- ออกกฎหมายเพื่อควบคุมการใช้พลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวทิ้ง และสนับสนุนระบบใช้ซ้ำทางด้าน ภาคผู้ผลิต- ลดการใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง และเปลี่ยนมาลงทุนในระบบใช้ซ้ำ และระบบที่นำบรรจุภัณฑ์ส่วนตัวไปเติมได้ และหาช่องโหว่งในห่วงโซ่ของตนเพื่อจัดการกับบรรจุภัณฑ์ของตนทางด้าน ผู้บริโภค- ร่วมกันเรียกร้องให้ผู้ผลิตและภาครัฐร่วมกันจัดการปัญหามลพิษพลาสติกอย่างเป็นรูปธรรม- ร่วมลดใช้และค่อย ๆ ปฏิเสธพลาสติกครั้งเดียวทิ้งที่ไม่จำเป็นสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมท่านสามารถอ่านเพิ่มได้จากลิงค์ข้างด้านล่าง ข้อมูลอ้างอิงจาก ข้อมูลอ้างอิง -https://www.theguardian.com/.../microplastics-found-in...- https://www.theguardian.com/.../microplastics-damage...พลาสติกตัวร้าย ภัยคุกคามห่วงโซ่อาหารมลพิษพลาสติกเหล่านี้เป็นภัยคุกคามต่อสิ่งมีชีวิตในทะเล ทั้งเต่าทะเล ปลา นกทะเล รวมถึงปะการังด้วย นอกจากนี้การแตกตัวของขยะพลาสติกไปสู่พลาสติกจิ๋วๆ ที่เราเรียกมันว่า ไมโครพลาสติก ยังมีความเสี่ยงที่จะถูกสัตว์ทะเลกินเข้าไปโดยไม่รู้ตัว เมื่อเป็นเช่นนั้น ไมโครพลาสติกเหล่านี้ก็จะไหลทะลักเข้าสู่ห่วงโซ่อาหาร และแน่นอนว่ามนุษย์เราก็เป็นหนึ่งในห่วงโซ่นี้การปนเปื้อนไมโครพลาสติกในอาหารและมนุษย์หน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อมของออสเตรีย (The Environment Agency Austria) ได้นำอุจจาระจากผู้ร่วมการทดลอง 8 คน จาก 8 ประเทศอย่าง ออสเตรีย อิตาลี ฟินแลนด์ เนเธอร์แลนด์ โปแลนด์ ญี่ปุ่น รัสเซีย และสหราชอาณาจักร โดยแต่ละคนได้รับประทานอาหารประจำวันแบบปกติ (ผู้ที่ร่วมการทดลองไม่มีใครทานมังสวิรัต และมี 6 คนที่ทานปลาทะเล) ก่อนที่จะส่งอุจจาระของพวกเขาให้หน่วยงานได้วิเคราะห์ ผลที่ได้คือ ตรวจเจอไมโครพลาสติกจากอุจจาระของผู้ที่ร่วมการทดสอบทุกราย โดยไมโครพลาสติกที่พบมีตั้งแต่ พอลิเอทธิลีนเทเรฟธาเลท (ใช้ทำขวดน้ำดื่ม) โพลีพรอพีลีน (เช่น ถุงร้อนพลาสติกบรรจุอาหาร แก้วโยเกิร์ต ) ไปจนถึง โพลีไวนิลคลอไรด์ หรือ PVC (เช่น ฟิล์มห่ออาหาร) เฉลี่ยแล้วพบว่าในแต่ละ 10 กรัมของอุจจาระจะเจออนุภาคของไมโครพลาสติกจำนวน 20 ชิ้นนอกจากนี้ยังมีงานวิจัยที่ระบุว่า พบไมโครพลาสติกผสมอยู่ในเกลือ โดยเป็นผลการศึกษาร่วมระหว่างศาสตราจารย์ซึง-คยู คิม (Seung-Kyu Kim) แห่งมหาวิทยาลัยแห่งชาติอินชอน และกรีนพีซ เอเชียตะวันออก เพื่อตรวจสอบการปนเปื้อนของไมโครพลาสติก (พลาสติกขนาดจิ๋ว) ในเกลือ พบไมโครพลาสติกในเกลือจากแบรนด์ต่างๆจากทั่วโลกผลวิจัยนี้แสดงให้เห็นว่ามลพิษขยะพลาสติกไม่ได้เป็นอันตรายต่อสัตว์ทะเล เพียงอย่างเดียว แต่มลพิษขยะพลาสติกที่พวกเราสร้างขึ้นกำลังคุกคามเราอย่างเงียบๆไมโครพลาสติกทำอะไรกับร่างกายเราเมื่อไมโครพลาสติกเหล่านี้หลุดรอดเข้าไปอยู่ในร่างกายของเราโดยที่เราไม่รู้ตัวนั้น เราอาจเปรียบเทียบกับงานวิจัยที่ตรวจสอบการหลุดรอดของไมโครพลาสติกเข้าไปในร่างกาย และข่าวร้ายก็คือ พลาสติกเล็กจิ๋ว(แต่ร้าย)พวกนี้มีสารชนิดหนึ่งที่เรียกว่า BPA หรือบิสฟีนอลเอ สารตัวนี้จะไปรบกวนการทำงานของระบบในร่างกาย รบกวนการทำงานการปล่อยฮอร์โมนเอสโทรเจนด้วยระบบการจัดการขยะพลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวทิ้งที่ล้มเหลว เป็นสาเหตุหลักอีกประการที่ทำให้ขยะพลาสติกไปกองอยู่ในมหาสมุทร นอกเหนือจากปัจจัยเสริมอื่นๆ เช่น ขาดแคลนโครงสร้างพื้นฐาน กิจกรรมต่างๆของมนุษย์ที่สร้างผลกระทบ มีความเข้าใจไม่เพียงพอถึงผลลัพธ์ที่เกิดจากพฤติกรรมของเรา ช่องว่างของการบังคับใช้กฎหมาย ทั้งในระดับภูมิภาคและระดับสากล รวมทั้งขาดแหล่งเงินทุนแม้ว่าในการประชุม Our Ocean (พ.ศ.2561) บริษัทผู้ผลิตอาหารและน้ำดื่มยักษ์ใหญ่ต่างออกมาให้คำมั่น จะปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ให้สามารถรีไซเคิลทั้งหมด 100% ภายในปี ค.ศ. 2020-2030 ซึ่งถ้ามองจากตัวเลขที่ขยะรีไซเคิลพลาสติกสามารถนำเข้ากระบวนการรีไซเคิลได้จริงเพียง 9% ก็คงไม่ช่วย เพราะอีก 91%ก็จะไปสิ้นสุดที่หลุมฝังกลบ เตาเผาขยะหรือมหาสมุทรของเราการเรียกร้องให้แบรนด์ยักษ์ใหญ่เหล่านี้หยุดการใช้พลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวมาเป็นบรรจุภัณฑ์ของสินค้าอุปโภคบริโภค เป็นเรื่องของเราทุกคน ทั้งประชาชน ภาคเอกชน และภาครัฐ ในการกำหนดนโยบายควบคุมและยุติมลพิษพลาสติกตัวร้ายเหล่านี้ข้อมูลอ้างอิงจาก - https://www.greenpeace.org/.../resist/plastic1/harm-plastic/#BreakFreeFromPlastic #พลาสติก#สิ่งแวดล้อมโลก ขอบคุณที่มา https://web.facebook.com/9378497097/posts/10159288653237098/?d=n&_rdc=1&_rdrhttps://www.greenpeace.org/.../resist/plastic1/harm-plastic/
แจ้งเตือน
ภาพและเนื้อหาต่อไปนี้ ไม่เหมาะสมแก่เด็ก และเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี