TuneCore เปิดตัวแผนปล่อยเพลงแบบไม่จำกัดในราคาดีที่สุดให้กับศิลปินอิสระ ซึ่งมีให้เลือกตั้งแต่แผนฟรีไปจนถึงแผนสำหรับค่ายเพลง โดยยังคงนำรายได้สูงสุดมาให้ศิลปินเช่นเดิม
กรุงเทพฯ/นิวยอร์ก - Media OutReach - 8 มิถุนายน 2565 - วันนี้ TuneCore ผู้จัดจำหน่ายเพลงดิจิทัลแบบ DIY ชั้นนำของโลก ประกาศถึงความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เปิดทำการเมื่อ 16 ปีที่แล้ว ด้วยการเปิดตัวแผนปล่อยเพลงรายปีแบบไม่จำกัด ซึ่งในการนี้ Andreea Gleeson ซึ่งเป็น CEO ของบริษัทเป็นผู้ออกมาประกาศด้วยตนเอง
นับตั้งแต่ TuneCore (บริษัทจัดจำหน่ายเพลงในเครือ Believe) ก่อตั้งขึ้น บริษัทได้พัฒนาระบบให้ศิลปินสามารถปล่อยเพลงด้วยตัวเองในราคารายเพลง/รายอัลบั้มที่ย่อมเยา และวันนี้ TuneCore เปิดตัวแผนปล่อยเพลงแบบใหม่ ซึ่งศิลปินสามารถปล่อยเพลงได้ไม่จำกัด ทำให้สร้างสรรค์เพลงได้ต่อเนื่องยิ่งขึ้น โดยมีให้เลือกตั้งแต่แผนแบบฟรี และสามารถอัพเกรดแผนปล่อยเพลงให้ตอบโจทย์กับการใช้งานได้ยิ่งขึ้นไป
Andreea Gleeson กล่าวว่า “เราใช้เวลา 1 ปีในการพูดคุยกับศิลปินและค่ายเพลง เพื่อปรับบริการให้ตอบโจทย์การใช้งานมากขึ้นไปอีก โดยเราพบว่าศิลปินต้องการบริการฟรีเพื่อทดสอบผลตอบรับของเพลงใหม่ๆ และต้องการปล่อยเพลงอย่างสม่ำเสมอมากขึ้น แผนปล่อยเพลงแบบไม่จำกัดของ TuneCore นี้ จึงเพิ่มความอิสระและตอบโจทย์ของศิลปิน โดยยังคงคุณภาพและบริการที่ดีเยี่ยม มีค่าธรรมเนียมที่ต่ำลงอย่างมาก และศิลปินยังได้รับรายสูงสุดจากร้านเพลงเช่นเดิม”
สมวลี ลิมป์รัชตามร Country Director ของ Believe ประเทศไทย กล่าวว่า “Believe มุ่งสนับสนุนศิลปินในทุกย่างก้าวบนเส้นทางดนตรี และหัวใจของ TuneCore นั้นก็คือความเสมอภาคที่เปิดให้ศิลปินทุกคนสามารถกระจายเพลงไปสู่แฟนเพลงทั่วโลกจากที่ไหนก็ได้ และเมื่อไหร่ก็ได้ ด้วยแผนปล่อยเพลงแบบไม่จำกัดนี้ ศิลปินจะสามารถนำเสนอผลงานเพลงได้ไม่จำกัด สร้างฐานแฟนเพลงที่กว้างขึ้น และค้นพบเส้นทางดนตรีของตัวเอง TuneCore จึงเป็นนิยามของการเป็นศิลปินอิสระอย่างแท้จริง และนอกจากนี้ การปล่อยเพลงผ่าน TuneCore ยังเป็นใบเบิกทางไปสู่เครือข่ายที่ครบวงจรของ Believe ซึ่งศิลปินจะได้ร่วมงานกับผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมดนตรีและได้รับบริการด้วยเทคโนโลยีระดับโลก รวมถึงเข้าถึงโอกาสบนเส้นทางดนตรีอีกมากมาย”
แผนปล่อยเพลงแบบไม่จำกัดของ TuneCore มีให้เลือก 4 แบบดังนี้:
แผน New Artist – ฟรี ศิลปินสามารถปล่อยเพลงได้ไม่จำกัดไปยังคลังเพลงโซเชียลมีเดียอย่าง Facebook, Instagram, TikTok และ YouTube (รวมถึง Shorts, Content ID และ YouTube OAC) โดยไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี และรับรายได้ 80%
แผน Rising Artist - $14.99 ต่อปี เป็นแผนจัดจำหน่ายเพลงแบบไม่จำกัดที่มีราคาย่อมเยาที่สุดในโลกอันหนึ่ง โดยรวมทุกบริการในแผน “New Artist” และปล่อยเพลงไปยังสตรีมมิ่งและร้านเพลงกว่า 150 ร้าน เช่น Spotify, Apple Music, JOOX, Deezer และ Tidal โดยที่นำส่งรายได้ให้กับศิลปิน 100% สามารถกำหนดปล่อยเพลงล่วงหน้า ยืนยันโปรไฟล์ทางการใน Spotify และ Apple Music และรับบริการช่วยเหลือศิลปินภายใน 72 ชั่วโมง
แผน Breakout Artist - $29.99 ต่อปี รวมทุกอย่างในแผน “New Artist” และ “Rising Artist” และรวมการตั้ง Store Automator ซึ่งจะปล่อยเพลงโดยอัตโนมัติไปยังสตรีมมิ่งและร้านเพลงทั้งหมดในอนาคต อีกทั้งมีรายงานการขายที่ละเอียดขึ้น และบริการช่วยเหลือศิลปินภายใน 48 ชั่วโมง
แผน Professional - $49.99 ต่อปี เหมาะสำหรับค่ายเพลง ผู้จัดการศิลปิน และศิลปินมืออาชีพ เป็นแผนที่รวมทุกบริการจากทั้ง 3 แผนที่กล่าวมา พร้อมฟีเจอร์เพิ่มเติม เช่น รายงานยอดขายระดับพรีเมียม เครื่องมือช่วยออกแบบหน้าปกเพลง การทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ และโอกาสในการโปรโมทเพลงที่เพิ่มขึ้น และแผนนี้ยังให้สิทธิ์ในการเพิ่มจำนวนศิลปิน ($14.99/ต่อปีสำหรับศิลปินที่เพิ่มมา) และบริการช่วยเหลือศิลปินภายใน 24 ชั่วโมง
ในการนี้ Cyrus Chen (Head of TuneCore SEA) เล่าว่า “เมื่อปลายปีที่แล้ว TuneCore เปิดให้ศิลปินสามารถปล่อยเพลงลงแพลตฟอร์มโซเชียลได้ฟรี และตอนนี้เรายังเปิดให้ศิลปินปล่อยเพลงรายปีได้ไม่จำกัดทุกแพลตฟอร์มอีกด้วย! เรามุ่งมั่นที่จะนำความอิสระและโอกาสในการเข้าถึงเครื่องมือจัดจำหน่ายเพลงที่ดีที่สุดให้กับศิลปินอิสระและค่ายเพลง ซึ่งความตั้งใจของเรานั้นยังมาพร้อมกับรายได้ที่สูงกว่าและบริการคุณภาพ ศิลปินไทยจะได้ใช้แผนปล่อยเพลงในราคาดีที่สุด เพื่อสร้างสรรค์ผลงานเพลงได้ต่อเนื่องและไร้ขีดจำกัด”
ด้าน Anatomy Rabbit ศิลปินไทยที่ใช้ TuneCore ปล่อยเพลงมายาวนานก็เล่าว่า “ไลฟ์สไตล์การทำเพลงของเราบางครั้งอาจจะไม่ได้ตีกรอบหรือสร้างกฏเกณฑ์อะไรมากมาย พอมีเวลาเราจะนัดกันทำเพลงทันทีที่สตูฯ ในจังหวัดอุดรธานี และบ่อยครั้งที่เพลงเสร็จ เราก็คิดที่จะปล่อยเพลงกันทันทีเลย มันทำให้เรารู้สึกอิสระในการทำงาน และ TuneCore ก็ถือว่าตอบโจทย์มากๆ สำหรับเราในการทำงานแบบรวดเร็วและมีคุณภาพ”
นอกจากแผนการปล่อยเพลงแบบไม่จำกัดนี้จะให้อิสระกับศิลปินในการสร้างผลงานเพลงและทดลองปล่อยเพลงในราคาที่ย่อมเยาแล้ว ในก้าวต่อไป ศิลปินยังสามารถเข้าถึงสิทธิ์การรับบริการที่เพิ่มขึ้นจาก Believe Label & Artist Solutions หรือเข้าร่วมโครงการ “Signed By” ของ Believe Artists Services ซึ่งได้ผลักดันศิลปิน TuneCore ให้เข้าถึงโอกาสระดับพรีเมียมในอุตสาหกรรมดนตรีแล้วกว่า 400 คนทั่วโลก
Andreea Gleeson กล่าวต่ออีกว่า “จากการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดนี้ สิ่งหนึ่งที่ยังเหมือนเดิมก็คือ TuneCore ยังยึดมั่นในความสำคัญของศิลปินเหนือสิ่งอื่นใด และทุกครั้งที่เราปรับปรุงบริการของเรา เราจะคำนึงถึงความต้องการของศิลปินเป็นหลักก่อนเสมอ ในที่สุดแล้ว เราจะอยู่ตรงนี้เพื่อช่วยให้ศิลปินทุกคนพัฒนาสร้างสรรค์ดนตรีได้สะดวกและมีคุณภาพยิ่งขึ้น และนำพาพวกเขาไปให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างขึ้นจนถึงที่สุด”
For photos, please download from this link.