
ข้อควรระวังในการฉีด
โบท็อก สำหรับคนที่กำลังจะตัดสินใจฉีด
โบท็อกครั้งแรก คงมีคำถามและข้อสงสัยมากมายว่า โบท็อกช่วยเรื่องอะไร โบท็อกกี่วันถึงเห็นผล แล้วอยู่ได้นานแค่ไหน โบท็อกแต่ละยี่ห้อต่างกันอย่างไร โบท็อกของแท้ดูอย่างไร การดูแลตัวเองทั้งก่อนและหลังฉีดโบท็อกต้องทำอย่างไรบ้าง รวมไปถึงข้อควรระวัง ความเสี่ยงต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นได้หลังจากการฉีดโบท็อก ฯลฯ หากคุณกำลังกังวลใจกับเรื่องเหล่านี้ วันนี้เราจะพามาเจาะลึกทุกข้อสงสับเกี่ยวกับโบท็อก ที่นี่ที่เดียว! อยากสวยแต่ไม่อยากพลาด ต้องอ่าน!!
ฉีดโบท็อก กี่วันถึงจะเห็นผล ?โบท็อก ลดริ้วรอย จะเห็นผลลัพธ์ที่ 2 สัปดาห์ โดยหลังฉีดไป 3 วันจะเริ่มรู้สึกตึงบริเวณที่ฉีด
โบท็อก ลดกราม ลดน่อง จะเห็นผลลัพธ์ที่ 1 เดือน โดยจะเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงในสัปดาห์ที่ 2 ขึ้นอยู่กับกล้ามเนื้อของแต่ละบุคคล
โบท็อกรักแร้ ลดกลิ่นกาย จะเห็นผลลัพธ์ที่ 1 เดือน
ฉีดโบท็อก อยู่ได้นานแค่ไหน ?ผลลัพธ์ของการฉีดโบท็อกจะไม่ได้อยู่อย่างถาวร ซึ่งปกติแล้วโบท็อกจะอยู่ได้นาน 4-8 เดือน โดยการออกฤทธิ์ของโบท็อกนั้น ขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัยหลัก ดังนี้
ยี่ห้อของโบท็อกที่ฉีด หากเลือกโบท็อกที่มีความบริสุทธิ์สูง จะอยู่ในร่างกายได้นานกว่า เพราะร่างกายจะทำลายโปรตีนที่จับกับโบท็อก โดยโบท็อกที่มีโปรตีนมากกว่าจะถูกทำลายได้ง่ายกว่าโบท็อกที่มีโปรตีนสูง
ตำแหน่งที่ฉีด กล้ามเนื้อมัดใหญ่ เช่น แขน ไหล น่อง จะมีปริมาณเส้นใยกล้ามเนื้อมาก ดังนั้นกล้ามเนื้อจึงกลับมาใช้งานได้เร็ว ระยะเวลาที่โบท็อกออกฤทธิ์จึงสั้นกว่า กล้ามเนื้อมัดเล็ก เช่น กราม หน้าผาก หางตา ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณโบท็อกที่ใช้ ซึ่งต้องอยู่ในการประเมินโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์
หลายคนจะมีความกังวลใจว่าเมื่อโบท็อกหมดฤทธิ์จะทำให้กล้ามเนื้อกลับมาใหญ่กว่าเดิมหรือไม่ ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะโบท็อกทำให้กล้ามเนื้อมัดที่ฉีดไปทำงานลดลง ขนาดกล้ามเนื้อจึงเล็กลง เมื่อหมดฤทธิ์กล้ามเนื้อก็จะกลับมาทำงานเพิ่มขึ้น ขนาดกล้ามเนื้อจะค่อย ๆ เพิ่มขึ้น ซึ่งขึ้นอยู่กับการใช้งาน หากใช้งานมากก็มีโอกาสสูงที่มัดกล้ามเนื้อจะมีขนาดกลับมาเท่าเดิม
โบท็อก แต่ละยี่ห้อต่างกันอย่างไร ?ปัจจุบันโบท็อกมีอยู่ด้วยกันหลายยี่ห้อ ซึ่งจะมีความแตกต่างกันทั้งบริษัทที่ผลิต ประเทศที่ผลิต เช่น ประเทศเกาหลี ประเทศเยอรมัน ประเทศอังกฤษ เป็นต้น รวมไปถึงความบริสุทธิ์ของตัวยาที่จะส่งผลต่อประสิทธิภาพของยาและระยะเวลาในการออกฤทธิ์อีกด้วย ซึ่งวันนี้เราจะมาแนะนำ โบท็อกยอดนิยมที่หลายคนเคยได้ยินชื่อ แต่ยังไม่รู้ถึงความแตกต่างในแต่ละยี่ห้อกันค่ะ
Xeomin โบท็อกซ์ จากประเทศเยอรมัน ที่มีความบริสุทธิ์สูงไม่มีโปรตีนผสม ขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพ เห็นผลชัดเจน นั้นหมายถึงความถ้าคนไข้ฉีดโบท็อกซ์ Xeomin ก็จะได้รับตัวยาโบท็อกเพียว ๆ 100 % โอกาสดื้อยาน้อยที่สุด ผลลัพธ์ให้ความธรรมชาติ ไม่เเข็งตึง มีฤทธิ์อยู่ได้นานถึง 8 เดือน – 1 ปี ( หากเป็นเคสที่เคยดื้อยาเเล้วหยุดฉีดโบท็อกซ์อย่างน้อย 2-3 ปี คุณหมอจะเเนะนำให้ลอง Xeomin )
Allergan โบท็อกจากประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นที่นิยมใช้กันทั่วโลก มีความบริสุทธิ์สูงเเต่ยังคงมีโปรตีนผสมอยู่เล็กน้อย โอกาสดื้อยาน้อย ผลลัพธ์เเม่นยำเป็นธรรมชาติ
Nabota โบท็อกจากประเทศเกาหลี ราคาไม่เเรงคุณภาพเกินร้อย มีความบริสุทธิ์สูง 98.7% ได้รับรองจาก อย.อเมริกา U.S.FDA ตัวยาออกฤทธิ์เร็ว ผลลัพธ์ไม่ทำให้ใบหน้าเเข็งตึง สามารถเเสดงสีหน้าได้อย่างปกติ
Aestox โบท็อกจากประเทศเกาหลี ตัวนี้มีความบริสุทธิ์อยู่ที่ 99.5% มีโปรตีนผสมอยู่ค่อนข้างเยอะกว่ายี่ห้อ Allergan , Xeomin เเต่ก็ได้รับความนิยมไม่เเพ้กัน เหมาะสำหรับมือใหม่อยากฉีดโบเเต่มีงบจำกัด ล่าสุดผ่านการรับรองจาก อย.เกาลี อย.ไทย และ U.S.FDA เป็นที่เรียบร้อย
เตรียมตัวให้พร้อมก่อนฉีดโบท็อก ควรหยุดการใช้ยาแก้ปวด ยาแอสไพริน ยากลุ่มต้านการอักเสบ NSAIDS ได้แก่ Ibruprofen, Naproxen อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนการฉีด เพื่อป้องการอาการฟกช้ำ
งดวิตามินที่ทำให้เลือดหยุดไหลยาก เช่น วิตามินอี น้ำมันปลา น้ำมันอิฟนิ่งพริมโรส สารสกัดจากโสม ขิง กระเทียม ใบแปะก๊วย เป็นเวลา 2 สัปดาห์
งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมงก่อนการฉีด
สุขภาพร่างกายอยู่ในสภาพปกติดี ไม่มีโรคประจำตัวร้ายแรง เช่น โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง และไม่ได้อยู่ในภาวะตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรอยู่
ควรแจ้งให้แพทย์ผู้ฉีดทราบถึงปัญหาที่กังวลและสิ่งที่ต้องการในแต่ละส่วนอย่างชัดเจนก่อนฉีด เนื่องจากความต้องการที่ต่างกันไปตามแต่ละบุคคล เช่น บางท่านชอบให้ตึงมาก ๆ แต่บางท่านอาจชอบให้ดูเป็นธรรมชาติ แตกต่างกันไป
หากเป็นไปได้ในวันฉีดควรล้างเครื่องสำอางหรือทำความสะอาดใบหน้าก่อนพบแพทย์