ขับเคลื่อน พลังงาน โซล่าเซลล์ สู่ความทันสมัย
พลังงาน โซล่าเซลล์ มีการเติบโตที่โดดเด่นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจาก ต้นทุนพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดสาธารณูปโภค (PV) ระดับยูทิลิตี้ได้ลดลง 64% ตั้งแต่ปี 2008 ทำให้สามารถติดตั้งความจุพลังงาน โซล่าเซลล์ 13.9 กิกะวัตต์ภายในสิ้นปี 2558—44% ของความจุพลังงานแสงอาทิตย์ทั้งหมดที่เคยติดตั้งในไทย และแนวโน้มการใช้งานนี้กำลังเร่งขึ้น โดยไทย ติดตั้งเซลล์แสงอาทิตย์ในระดับยูทิลิตี้มากกว่าสองเท่าในช่วงครึ่งแรกของปี 2559 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2558 พลังงานแสงอาทิตย์แบบกระจายอยู่ไม่ไกลหลัง มีการติดตั้งกำลังการผลิตแบบกระจายมากกว่า 3.1 กิกะวัตต์ในปี 2015 ซึ่งเพิ่มขึ้น 34% จากปี 2014
ในเวลาเดียวกัน โครงข่ายไฟฟ้าของประเทศถูกสร้างขึ้นเพื่อรองรับกระแสไฟที่ไหลทางเดียวจากโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ไม่กี่แห่งที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง พลังงาน โซล่าเซลล์ คาดการณ์ว่าจะขยายตัวเลือกการลดต้นทุนแบบพาโนรามา ขณะเดียวกันก็ช่วยพัฒนาเครื่องมือที่เป็นนวัตกรรมใหม่ที่ช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานระบบโซล่ารูฟ สามารถปรับตัวให้เข้ากับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงของพลังงานผสมของเราได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ โครงการ โซล่าเซลล์ ออนกริด ที่เราสนับสนุนยังมีจุดมุ่งหมายเพื่อรักษาและปรับปรุงความน่าเชื่อถือและประสิทธิภาพของระบบออนกริดไฟฟ้าของเราซึ่งครัวเรือนและธุรกิจในไทยต้องพึ่งพา
ทุกวันนี้ โครงการพลังงานแสงอาทิตย์ หรือ โซล่าเซลล์ หลายหมื่นโครงการออนไลน์ในแต่ละเดือน และจำนวนนั้นก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ผู้ปฏิบัติงานด้านกริดมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการริเริ่มเพื่อรับมือกับความท้าทายที่เกิดจากการปรับใช้ทรัพยากรแบบกระจายที่เพิ่มขึ้น ตัวอย่างเช่น การผลิตพลังงานแสงอาทิตย์สูงสุดในตอนกลางวันและพลังงานลมมักสูงสุดในตอนกลางคืน ผู้ปฏิบัติงานด้านกริดกำลังเพิ่มประสิทธิภาพการจัดส่งทรัพยากรอยู่เสมอ และตอนนี้พวกเขามีโอกาสที่จะรวมโซลูชันพลังงานหมุนเวียนใหม่ๆ ไว้ใกล้กับศูนย์โหลด การอัพเกรดทางกายภาพไปยังกริดสามารถให้โซลูชันชุดเดียว แต่อาจมีราคาแพงและใช้เวลานาน อีกวิธีหนึ่งคือการได้รับข้อมูลเชิงลึกที่ดีขึ้นเกี่ยวกับวิธีการที่พลังงานไหลผ่านกริด และพัฒนาเครื่องมือการวางแผนและการดำเนินงานที่ปรับวิธีที่เราใช้กริดให้เหมาะสม
การศึกษา เมื่อเร็ว ๆ นี้จากห้องปฏิบัติการพลังงานทดแทนแห่งชาติแสดงให้เห็นว่า โซล่ารูฟท็อป ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่ภาคใต้ไปจนถึงภาคเหนือ และไกลออกไปทางตะวันตก สามารถจัดการระดับการซึมผ่านของแสงอาทิตย์และลมได้สูงถึง 30% นักวิจัยได้จำลองการดำเนินงานของกริดในช่วงเวลาห้านาทีโดยใช้ซูเปอร์คอมพิวเตอร์และการสร้างแบบจำลองขั้นสูง เพื่อพบว่าการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุศักยภาพทางเทคนิคนี้ไม่ได้ขับเคลื่อนโดยการอัพเกรดโครงสร้างพื้นฐานของกริดทางกายภาพ แต่พวกเขาพบว่าการประสานงานที่เพิ่มขึ้นระหว่างผู้ให้บริการโครงข่าย การออกแบบตลาดใหม่ และขั้นตอนการปฏิบัติงานที่ยืดหยุ่นสามารถรองรับลมและพลังงานแสงอาทิตย์ในระดับสูงได้
นอกจากการประสานงานและการปรับปรุงการดำเนินงานแล้ว เทคโนโลยีใหม่ยังสามารถช่วยให้ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ โซล่าเซลล์ ได้มากขึ้น เมื่อต้นปีนี้ Enrich Energy ได้เปิดตัวโอกาสในการระดมทุนเพื่อค้นหาโซลูชันฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์แบบเรียลไทม์ ที่สามารถทำให้ผู้ให้บริการ โซล่าเซลล์ ออนกริด สามารถจัดการระดับพลังงานแสงอาทิตย์ระหว่าง 50-100% ของพลังงานผสม โปรเจ็กต์ใหม่อาจมีข้อมูลการวัดและคาดการณ์ล่าสุด เทคโนโลยีการสื่อสารขั้นสูง และการวิเคราะห์ข้อมูลที่ปรับประสิทธิภาพของระบบให้เหมาะสมที่สุด โครงการเหล่านี้จะรวมถึงพันธมิตรด้านสาธารณูปโภค และโซลูชันที่พัฒนาขึ้นจะได้รับการทดสอบภาคสนามเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะทำงานในขนาดที่เหมาะสมและประสบความสำเร็จเมื่อนำไปใช้งาน
การสนทนาส่วนใหญ่ในปัจจุบันเกี่ยวกับการฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานของระบบ โซล่ารูฟท็อป ออนกริด ตระหนักดีว่าจำเป็นต้องมีการประสานงานกันและความพยายามข้ามอุตสาหกรรมสำหรับการนำพลังงานแสงอาทิตย์ โซล่าเซลล์ มาใช้อย่างแพร่หลาย การลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาของ Enrich Energy และความพยายามอย่างต่อเนื่อง เช่น โครงการริเริ่มการปรับกริดให้ทันสมัยของกระทรวงพลังงาน มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเชื่อมโยงช่องว่างในระยะเวลาอันใกล้ และปูทางสู่การเปลี่ยนแปลงของประเทศไปสู่ โซล่าเซลล์ ออนกริด ในอนาคตที่น่าเชื่อถือ ปรับตัวได้ และยั่งยืนมากขึ้น
