ทีเส็บ จับมือ สมาคมไฟฟ้าและพลัง
งานไอทริปเปิลอี (ประเทศไทย) โชว์ผลงานคว้า 3 งานประชุมนานาชาติด้านวิศวกรรมไฟฟ้า-พลังงาน จัดใหญ่ใน 3 เมืองไมซ์ไทยต่อเนื่อง 3 ปี “งาน IEEE PES APPEEC 2023 ที่เชียงใหม่ ปี 2566 งาน IEEE ISC2 2024 ที่พัทยา ปี 2567 และงาน IEEE PES GTD Asia 2025 ปี 2568 ณ กรุงเทพมหานคร” คาดดึงผู้ร่วมงานจากทั่วโลกรวมกว่าหมื่นคน สร้างเม็ดเงินสะพัดกว่า 837 ล้านบาท โชว์ศักยภาพไทยผู้นำงานไมซ์และวิทยาการไฟฟ้า-พลังงานแห่งเอเชีย พร้อมเชิญชวนคนไทยร่วมเป็นเจ้าภาพที่ดี มั่นใจเมืองไมซ์ไทยพร้อมรองรับงานเพิ่มต่อเนื่องตลอดปี ชี้งานสำคัญสะท้อนความพร้อมของไทยในด้านวิทยาการไฟฟ้าและพลังงาน ต่อยอดสู่การดึงงานระดับโลก
ไทยเป็นประเทศเป้าหมายที่สำคัญของอุตสาหกรรมไมซ์ (MICE – Meetings, Incentives, Conventions & Exhibitions) ในเอเชีย โดยมี สสปน. หรือทีเส็บ เป็นองค์กรหลักในการผลักดันอุตสาหกรรมไมซ์เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศและกระจายรายได้ไปสู่ทุกภาคส่วนอย่างยั่งยืน และมีบทบาทสำคัญในการเป็น National Bidder ทำหน้าที่เสนอตัวเป็นผู้ประมูลสิทธิ์ในนามประเทศไทยเพื่อดึงงานระดับโลกเข้ามาจัดในไทย โดยในปี 2562 (ก่อนสถานการณ์โควิด) ภาคธุรกิจไมซ์ได้สร้างรายได้เข้าประเทศและก่อให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจกว่า 280,000 ล้านบาทเกิดผลประโยชน์จากการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่เศรษฐกิจในประเทศประมาณ 277,000 ล้านบาท สร้างการจ้างงานประมาณ 410,000 อัตรา ตลอดจนสร้างรายได้จากภาษีที่รัฐบาลเรียกเก็บโดยประมาณจากค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการจัดงานประชุมอีกประมาณ 20,000 ล้านบาท
และจากการเตรียมความพร้อมของทีเส็บและภาคอุตสาหกรรมไมซ์ไทย ซึ่งรวมถึงการประมูลสิทธิ์งานประชุมและการวางแผนดึงงานอีเวนท์ระดับโลกสู่เมืองไทยในช่วงที่ผ่านมา หลังจากรัฐบาลประกาศเปิดประเทศ ภาคธุรกิจไมซ์จึงพร้อมเดินหน้าต่อในทันที โดยมีสมาคมและองค์กรจากทั่วโลกทยอยเข้ามาจัดงานในไทยแล้วในหลากหลายสาขา โดยล่าสุด ทีเส็บ และสมาคมไฟฟ้าและพลังงานไอทริปเปิลอี (ประเทศไทย) ได้ร่วมกันคว้าสิทธิ์งานประชุมนานาชาติด้านไฟฟ้าและพลังงาน 3 งาน ให้เข้ามาจัดใน 3 เมืองไมซ์ไทยถึงสามปีต่อเนื่อง ประกอบด้วย งานประชุม IEEE PES APPEEC 2023 จัดที่จังหวัดเชียงใหม่ในปี 2566 งานประชุม IEEE ISC2 2024 จัดที่เมืองพัทยาในปี 2567 และงานประชุม IEEE PES GTD Asia 2025 ซึ่งเป็นงานสัมมนาวิชาการและนิทรรศการด้านไฟฟ้าและพลังงานระดับนานาชาติงานใหญ่ที่คาดจะมีผู้เข้าร่วมงานจากทั่วโลกนับหมื่นคน จัด ณ กรุงเทพมหานครในปี 2568
นางนิชาภา ยศวีร์ รองผู้อำนวยการอาวุโส สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) หรือทีเส็บ กล่าวว่า “ความสำเร็จในการดึงงานประชุมนานาชาติในสาขาวิศวกรรมไฟฟ้าและพลังงานได้ต่อเนื่องถึงสามงานในครั้งนี้ เป็นผลจากการวางกลยุทธ์ของทีเส็บด้านการประมูลสิทธิ์งานประชุมนานาชาติสู่ประเทศไทย ผ่านความร่วมมือกับสมาคมวิชาชีพและพันธมิตรในไทยซึ่งรวมถึงเมืองไมซ์เป้าหมาย เพื่อสร้างความมั่นใจต่อเจ้าของงานในต่างประเทศ ให้นำเม็ดเงินและองค์ความรู้ระดับโลกมาลงทุนจัดการประชุมในบ้านเรา โดยคาดว่า 3 งานประชุมที่ทีเส็บร่วมกับสมาคมฯ ดึงมาจัดในไทยในปี 2566-68 ที่เชียงใหม่ พัทยา และกรุงเทพฯ นี้ จะดึงผู้ร่วมงานจากทั่วโลกรวมกว่าหมื่นคน สร้างรายได้เข้าประเทศและก่อให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจรวมกว่า 837 ล้านบาท เกิดผลประโยชน์จากการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่เศรษฐกิจในประเทศประมาณ 465 ล้านบาท และจะเกิดการจ้างงานประมาณ 586 อัตรา ตลอดจนสร้างรายได้จากภาษีที่รัฐบาลเรียกเก็บโดยประมาณจากค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการจัดงานประชุมอีกประมาณ 29 ล้านบาท ทั้งยังเปิดโอกาสให้นักเรียนนักศึกษาและบุคลากรไทยได้เข้าถึงองค์ความรู้ระดับโลกจากผู้เชี่ยวชาญในสาขาวิศวกรรมไฟฟ้า พลังงาน และเมืองอัจฉริยะจากนานาประเทศ สร้างผลกระทบเชิงบวกและคุณประโยชน์ต่อเนื่องทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และการพัฒนาวิทยาการในสาขาที่เกี่ยวข้องสู่ประเทศและพื้นที่จัดงาน สอดรับกับกลยุทธ์สำคัญของทีเส็บในการใช้งานไมซ์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนกระจายรายได้ทั่วภูมิภาค พร้อมยกระดับงานไมซ์ใน 10 เมืองไมซ์ยุทธศาสตร์ของไทย รวมถึงเมืองที่มีศักยภาพอีกมากมาย”
การที่ประเทศไทยได้รับเลือกเป็นเมืองเจ้าภาพงานประชุมนานาชาติด้านไฟฟ้าและพลังงานทั้งสามงานนี้ ยังสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพและความพร้อมของไทยในสาขาไฟฟ้าและพลังงาน ทั้งด้านวิทยาการและองค์ความรู้ ด้านบุคลากรผู้ทรงคุณวุฒิและสมาคมไทยที่เกี่ยวข้อง เช่น สมาคมไฟฟ้าและพลังงานไอทริปเปิลอี ผู้เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนพัฒนาด้านไฟฟ้าและพลังงานของไทย อันจะช่วยตอกย้ำความมั่นใจในการต่อยอดดึงงานใหญ่ระดับโลกสู่ไทยได้ในอนาคต