ประเทศนี้พอน้ำมันแพงก็เห่อรถยนต์ไฟฟ้า พอผักแพงก็เห่อการเกษตรบนดาดฟ้าในเมือง สังคมเราหาจุดสมดุลหรือนวัตกรรมที่สร้างความยั่งยืนแทบจะไม่ได้เลยเพราะเมื่อถูกหยิบยก สุดท้ายก็เป็นแค่โปรเจกต์ขายผ้าเอาหน้ารอดเพียงเท่านั้น
แต่มันจะดีกว่ามาก ถ้ามีคนที่เป็นลูกหลานเกษตรกรสายเลือดคนพื้นถิ่น ผลักดันเพื่อสู้กับวิกฤตที่มีตัวแปลที่มากกว่าแค่ภาครัฐฝ่ายเดียวจะแก้ไขได้ วิกฤตผลิตผลทางการเกษตรแต่เราต้องยอมรับว่ามี ส.ส. หรือนักการเมืองท้องถิ่นจำนวนน้อยมากที่พยายามพูถึงเรื่องนี้ หนึ่งในนั้นคือ
นายเสมอกัน เที่ยงธรรม ส.ส.สุพรรณบุรี เขต 4 พรรคชาติไทยพัฒนา ได้นำเสนอแอปพลิเคชันนี้ผ่านเฟซบุ๊ก ถึงความน่าสนใจของแอปฯ พร้อมให้ความเห็นว่า หากเกษตรกรของไทยหันมาใช้เทคโนโลยีช่วยในการทำเกษตรกรรม จะทำให้สามารถเพิ่มรายได้ และพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นได้มากกว่าเดิม” วันนี้เราจึงได้ลองศึกษาแอปฯ
ฟาร์มเอไอ Farm A.I. โดยสรุปคือ เป็นแอปฯ ของบริษัท ListenField ซึ่งเป็นโครงการที่ได้รับทุนจากรัฐบาลประเทศญี่ปุ่น ในการทำงานวิจัย “เรื่องโครงสร้างข้อมูลเพื่อยกระดับการเกษตร” โดยได้รับการแนะนำจาก นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
แอปฯ นี้ เป็นแอปฯ สำหรับเกษตรกรโดยแท้ ที่ต้องการทำการเกษตรอย่างแม่นยำและยั่งยืน
หลักการทำงานคือ จะสามารถให้ข้อมูลและบันทึกข้อมูลบริหารจัดการฟาร์ม ตั้งแต่ขั้นตอนการเพาะปลูกไปจนถึงการเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ มีระบบแจ้งเตือนสภาพดินฟ้าอากาศ โดยคำนวณข้อมูลพยากรณ์อากาศกับข้อมูลการเพาะปลูกจริงที่ผู้ใช้งานบันทึกลงไป แจ้งเตือนโรคและแมลง เข้าถึงข้อมูลแหล่งความรู้จากกูรูด้านต่างๆ (พืช ดิน) อีกทั้งมีการแจ้งเตือนทั้งการรดน้ำ ใส่ปุ๋ย (แนะนำชนิดที่เหมาะกับพันธุ์พืชที่ปลูกด้วย)
บางคนอาจเกิดความสงสัยถึงความน่าเชื่อถือในข้อมูลที่ระบบประมวลผลมาให้ แต่บอกเลยว่าแอปฯ นี้มีทีมงานผู้เชี่ยวชาญคอยดูแล ทั้งด้านสภาพอากาศจากประเทศสหรัฐอเมริกา และด้านฟิสิกส์การพืชจากประเทศญี่ปุ่น รวมถึงสถาบันวิจัยที่มีชื่อเสียงอื่นๆ ที่ได้ร่วมกันพัฒนาระบบขึ้นมาวิเคราะห์ข้อมูล ทั้งภาพถ่าย ภาพถ่ายทางอากาศ สภาพดิน และพันธุ์พืช สามารถดาวน์โหลดแอปฯ นี้ได้ง่ายๆ ดังนี้
1.สำหรับโทรศัพท์แอนดรอยด์
https://play.google.com/store/apps/details?id=com.farmai
2.สำหรับโทรศัพท์ไอโฟน
https://apps.apple.com/th/app/farmai/id1466037389
จัดเป็นแอปฯ ที่ชาวเกษตรกรควรมี ครบวงจรทั้งความรู้ แนวทางการเกษตร ทำให้เกิดผลผลิตที่มากขึ้น มีคุณภาพและประสิทธิภาพ รวมทั้งพัฒนาเกษตรกรไทยให้ทันยุคทันสมัย เปิดโอกาสสู่ตลาดใหม่ ในยุคดิจิทัลแบบนี้
และแน่นอนว่าภาคการเกษตรเองและเกษตรกรต้องพร้อมรับมือกับปัญหาต่างๆจากสภาพดินฟ้าอากาศในอนาคตอันใกล้จากภาวะโลกร้อนและในบางจังหวัดที่เสี่ยงต่อภัยพิบัติ และอุทกภัยจำนวนมากส่งผลให้พืชผลทางการเกษตรเสียหายจากการเพาะปลูกแบบเดิม นับว่าเป็นไอเดียที่ดีสำหรับการพัฒนาอย่างยั่งยืนในอนาคต