เจออีกแล้ว งานหลอกคนเสียเงิน อย่าหลงเชื่อเด็ดขาด

[เมื่อ:]

เจออีกแล้วครับ คนที่โดนหลอก เอาเรื่องแบบนี้มาให้อ่านกันอีก จะได้ไม่มีใครโดนหลอกครับ
ยาวไปนิด แต่เป็นประโยชน์มากครับ ผมล่ะสงสารน้องเค้าจิงๆ
*******************************************************************************
ต้องบอกไว้ก่อนว่าบทความนี้เป็นความเห็นส่วนบุคคล แค่อยากเล่าให้ฟัง แล้วให้เพื่อน ๆ ทราบเอาไว้ และรับรู้ไว้ว่า “งานนี้ไม่ได้เหมาะกับทุกคน (ไม่ได้เหมาะกับคนดี ๆ)” เพื่อที่จะได้ระวังตัวเอาไว้ และไม่หลงเชื่อใครง่าย ๆ ค่ะ
กาลครั้งหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้ ข้าพเจ้า ซึ่งครั้งนั้นยังเรียนอยู่มหาวิทยาลัยปีสาม วันนึงได้เห็นโฆษณาบนหน้าเว็บของ***์เกี่ยวกับการทำงานผ่านอินเตอร์เน็ต ประมาณว่า งานออนไลน์ รายได้ดี ทำง่าย ทำอยู่บ้านก็ได้เงิน อะไรทำนองนั้น ก็เลยคลิกเข้าไปดู ก็มีวีดีโอของชายคนนึง(นายสน) ออกมาพูดชักชวนว่าทำง่ายจริง ๆ ถ้าอยากทำให้กรอกข้อมูล ชื่อและเบอร์โทรเอาไว้ คุณเราตอนนั้นก็ยังไร้เดียงสาต่องานพวกนี้ คือไม่รู้ (และอยากรู้) ว่ามันทำยังไง ได้เงินจริงหรือเปล่า ก็เลยกรอกข้อมูลไป
ไม่กี่วันต่อมา ก็มีคนติดต่อมา บอกว่าขอสัมภาษณ์เพื่อเข้าทำงาน เค้าก็ทำเป็นถามชื่อ ถามความถนัด ถามว่าเล่นเน็ตวันละกี่ชั่วโมง ถามรายละเอียดต่าง ๆ มากมาย แล้วก็สรุปว่าเรามีคุณสมบัติเพียงพอที่จะทำงานกับเค้า และเชิญให้ไปฟังวิธีการทำงาน และเข้ารับการสัมภาษณ์อีกรอบหนึ่ง (บอกสถานที่เสร็จสรรพ) ข้าพเจ้าก็พยายามถามว่าเป็นงานอะไร เป็นงานแบบไหน และต้องทำอะไรบ้าง แต่เค้าก็จะเลี่ยง ๆ ในการตอบ (ถามยังไง ๆ ก็ตอบไม่ตรงประเด็น) สรุปคือบอกแต่เพียงว่าต้องเข้ามาฟังถึงจะรู้
เอาวะ อยากรู้... ก็เลยตัดสินใจเข้าไปฟัง ก็นัดวันเวลากับคนที่โทรมาสัมภาษณ์ไว้อย่างดี คนนี้เค้าจะใส่ใจเรา
มาก ๆ – มากที่สุด เช้าวันนัดยังอุตส่าห์ส่งแมสเซสมาบอกว่าอย่าลืมไปสัมภาษณ์งาน (ถ้าตอนนั้นสังเกตสักหน่อยคงจะ
คิดว่า “ทำไมคุณนี่มันตื๊อให้เราไปทำงานนัก”) แต่ตอนนั้นความอยากรู้อยากเห็นเข้าครอบงำเลยไม่ได้สังเกตอะไร ไปเพราะอยากไปดูเท่านั้น
ถึงที่นัดหมาย (วันเสาร์ ตึกThaiCC) ข้าพเจ้าก็ได้เจอกับคนที่โทรไปสัมภาษณ์ (ชื่อต้น อายุก็ 40 กว่า ๆ แล้ว) ซึ่งพยายามเกาะติดหนึบอยู่ข้าง ๆ ข้าพเจ้าตลอดเวลา ไม่ให้คลาดสายตาไปไหน จากนั้นเขาก็พาขึ้นไปหน้าห้องประชุมที่มีคนมาลงทะเบียนหน้าห้องเยอะมาก ๆ (เยอะจริง ๆ ไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนที่มาสัมภาษณ์งานอะไรเยอะขนาดนี้) ต้องต่อแถวรอลงทะเบียนนานมากกว่าจะได้เข้าห้องประชุม

[ตอบ #1 เมื่อ:]

ในห้องประชุม แรก ๆ ดูเหมือนงานแสดงปาฐกถาอะไรสักอย่าง ที่มีเวทีพร้อมมอนิเตอร์อยู่ด้านหน้า แล้วมีเก้าอี้วางชิด ๆ กันอยู่เต็มห้องไปหมด คนก็เข้าไปนั่งกันแน่นเลย (ไม่เหมือนมาสัมภาษณ์งานซักนิด) พอถึงเวลาก็จะมีการเปิดตัวด้วยการให้ดูสไลด์เกี่ยวกับแนวทางธุรกิจอะไรซักอย่างที่น่าตื่นตาตื่นใจจริง ๆ (แรก ๆ คุณจะไม่มีสิทธิ์รู้เรื่องเลยว่ามันพูดถึงเรื่องอะไรอยู่กันแน่ เว้นแต่บางคนที่อาจจะรู้มาก่อนว่ามันคืออะไรเนื่องจากเพื่อนผู้ตกเป็นเหยื่อไปแล้วบังคับให้มา) นั่นแหละ ทนดูไปเรื่อย ๆ ก็อาจจะพอจับใจความได้ว่านี่ต้องเป็นธุรกิจขายอะไรสักอย่างแน่นอน และแล้วช่วงเวลาระทึกก็มาถึง อยู่ ๆ ก็มีเสียงคนตบมือมาจากด้านหลังกึกก้อง (โอ้มายก็อด นี่มันดงอะไรกัน) แล้วทุกคนก็จะหันไปดู จะมีคนกลุ่มหนึ่งเดินเรียงแถวกันเข้ามา ทุกคนตบมือ แล้วเดินขึ้นเวทีไปอย่างอลังการ
มีพิธีกรคนนึงออกมา เป็นผู้หญิง พูดเก่งมาก มาอธิบายถึงที่มาที่ไปของอะไรสักอย่าง (ถ้าคุณมาด้วยโฆษณาคลุมเครือทางเน็ต คุณจะงง ๆ หน่อย) เสร็จแล้วก็พูดถึงเงินรายได้ที่พวกที่มายืนต่อแถวเมื่อกี้ได้รับ เป็นหมื่น เป็นแสน เป็นล้าน แล้วก็ให้ตบมือแสดงความยินดี ข้าพเข้าก็งง แล้วตกลงนี่มันงานอะไร ขายอะไรแน่ แล้วเราต้องทำอะไรถึงจะได้เงินอย่างที่เค้าว่า คำถามพวกนี้คุณจะไม่ได้รับคำตอบแบบตรงประเด็นแต่อย่างใดเลย เขาจะพูดให้คุณสงสัยแบบคลุมเครือต่อไป จากนั้นเป็นการสัมภาษณ์รายคน สัมภาษณ์พวกที่มายืนบนเวทีนั่นแหละ ว่าแต่ละคนเป็นยังไงมายังไง และมีรายได้เท่าไหร่แล้ว และต้องพูดว่า “ขอบคุณเฮอร์บาไลฟ์” ด้วยนะ... จบด้วยการอธิบายแผนการตลาดสุดอลังการที่คุณไม่รู้ว่ามันเป็นยังไงมายังไง และตบท้ายว่า สามารถทำที่บ้านผ่านเน็ตได้ ใช้เวลาน้อย มีระบบทำงารผ่านเน็ต ฯลฯ แต่ถ้าอยากรู้รายละเอียด และวิธีการทำงานให้มาฟังบรรยายเต็มรูปแบบพรุ่งนี้ ในงาน How to make money (อ้าว! แล้วที่เสียเวลามานี่คืออะไร?)
พอจบการประชุม ก็จะให้แต่ละคนไปพบผู้แนะนำ จะมีคนที่ทำอยู่ก่อนแล้วมาคอยไซโคลหว่านล้อม ล้อมหน้าล้อมหลังตลอดเวลา เชิญชวนให้มาเข้าฟังบรรยายวันถัดไป (แต่ต้องเสียค่าเข้าฟัง 550) มีคนขึ้นไปพูดบอกว่า “งานนี้ไม่ได้บังคับนะครับ ใครคิดว่าไม่อยากทำให้ออกไปได้เลยครับ” (แต่มันออกไปไม่ได้ง่าย ๆ หรอก เพราะที่จริงมีมันคนใส่สูตรดำ เหมือนพวกบอดี้การ์ดมาเฟีย ยืนกดดันอยู่หน้าประตู และยังมีผู้แนะนำของเราที่ยืนดักรอเราอยู่ คอยกันไม่ได้เราไปไหนง่าย ๆ) คุณเราก็มีงานต้องทำ การบ้านก็ยังไม่ได้ทำ วันจันทร์มีสอบ จะให้ไปฟังพรุ่งนี้อีกทั้งวันคงไม่ไหว ข้าพเจ้าบอกว่าไม่ว่างไปฟังหรอก พวกนั้นก็รวมหัวกันโกหกว่า ถ้าพรุ่งนี้ไม่มา ก็ไม่รู้ว่าจะได้มาเมื่อไหร่ เพราะงานบรรยายที่สุดวิเศษนี้นาน ๆ จะมีครั้ง ครั้งต่อไปจัดที่ต่างประเทศ หรือคุณอยากจะไปฟังที่ต่างประเทศ แต่ถ้าคุณไม่มีเงินไปอาจจะไม่มีโอกาสอีกแล้วก็ได้ ตื๊ออยู่อย่างนั้นโดยเฉพาะนายต้นผู้แนะนำตัวดี ที่ท่าทางใจดีแบบเขี้ยว ๆ (อดีตนักการเมือง และมีสันดานแบบนักการเมืองจริง ๆ) ความรู้สึกตอนนั้นเหมือนเป็นนักโทษ ถ้าไม่ตกลง มันก็ไม่ให้กลับ แต่ไม่ว่างจริง ๆ ก็เลยปฏิเสธไป พวกเขาก็บอกว่างั้นอบรมแบบรวบรัดมั้ย แปบเดียว เดี๋ยวจัดให้เลย ข้าพเจ้าก็เลยตกลง เขาก็พาข้าพเจ้าขึ้นไปคุยกับใครไม่รู้เป็นการส่วนตัว มีคนร่วมชะตากรรมอีกสองคน เข้าไปก็ฟังเขาอธิบายถึงการตลาด (ที่ดูเหมือนจะเปิดเผย แต่ยังคงปฏิเสธการตอบคำถามแบบตรงประเด็น) เป็นการอธิบายที่นานมาก นานจนฟ้าเริ่มมืด จนข้าพเจ้ากระวนกระวายอยากกลับบ้าน กว่าจะเลิกเกือบสองทุ่ม สรุปแล้วยังไง ๆ อาทิตย์หน้าก็ต้องให้ไปฟังบรรยายที่งาน How to make money ในโรงแรมอะไรนั่นอีกถึงจะรู้เรื่อง ต้องจ่ายเงินค่าไปฟังด้วย 550 ข้าพเจ้าก็จ่ายไปจะได้จบ ๆ

[ตอบ #2 เมื่อ:]

ระหว่างอาทิตย์นั้นก็มีโทรศัพท์ของนายต้น(เรียกว่าลุงต้นดีกว่ามั้ง) เข้ามาบ่อยมากจนน่ารำคาญ รวบรัดมาถึงอาทิตย์ที่ต้องไปฟังบรรยายอะไรนั่นเลยแล้วกัน...ก็จ่ายค่าบัตรไปแล้ว จะไม่ไปก็เสียดายเงิน ก็เลยไปซักหน่อย กะว่าเปิดหูเปิดตาด้วย ก็เหมือนเดิมเจอผู้แนะนำ ลงชื่อเข้าห้อง มีคนร่วมชะตากรรมมากมายเช่นเคยแต่รู้สึกจะมากกว่าเดิมซะอีก การบรรยายเป็นไปแบบสนุกสนานเหมือนดูโชว์โน้ตอุดม แต่เน้นจิตวิทยาเต็มขั้น เนื้อหาหลัก ๆ ก็เพ้อเจ้อถึงเงินมากมายที่พวกเขาได้รับ และออกจะดูถูกเงินที่พวกเราได้รับจากการทำงานทั่วไปว่าน้อย ประมาณว่าจะไปพอยาไส้อะไร เอาพวกหน้าม้ามาโชว์ว่าได้เท่านั้นเท่านี้ ได้ไปต่างประเทศ จัดปาร์ตี้กับดารา (ตอนนั้นอั้มเป็นผู้ที่ถูกกล่าวถึงบ่อยที่สุด) ผู้บรรยายตัวหลักเท่าที่เห็นก็จะมี ไมเคิล(ฝรั่งชาวเดนมาร์ก หน้าตาค่อนข้างดี แต่มีนิสัยออกจะซกมกหยาบคาย) นายบอล(คนนี้จำประวัติไม่ได้รู้สึกว่าเคยจนมาก่อนอะไรทำนองนั้น) หมอซี(ที่เรียนหมอไม่จบ เพราะดรอปมาขายเฮอร์บาไลฟ์) นายสน(ที่บอกว่าครอบครัวรวยมาก แต่สู้ขายเฮอร์บาไลฟ์ไม่ได้) มีสองสามีภรรยา(ที่ภรรยาจะออกมาเล่าเรื่องพ่อตาย แล้วบีบน้ำตาโชว์) และลุงแก่ ๆ คนหนึ่ง(ที่บอกว่าเคยทำงานธนาคารเงินเดือนเป็นแสน แต่รวยสู้ขายเฮอร์บาไลฟ์ไม่ได้) และทีมงานอีกมากมาย อื้อเลย ทุกคนล้วนแต่งตัวดูดี น่าเชื่อถือ (ดูภายนอกเหมือนพวกมีการศึกษาและมีอันจะกิน) นอกจากนี้ยังมีการอธิบายถึงการตลาด ตำแหน่งต่าง ๆ วิธีคิดเปอร์เซ็นต์ และแผนผังเกี่ยวกับสายงาน แต่ขอบอกว่าถ้าคุณอยู่ในสถานการณ์ขณะนั้น คุณจะรู้สึกเหมือนถูกขับกล่อม สะกดจิตให้คล้อยตามไปแบบไม่รู้ตัว (ถึงคุณจะรู้สึกว่ามันออกจะเพ้อเจ้อก็เถอะ) เค้าจะพูดให้คุณรู้สึกว่าคุณกำลังจะทำการตัดสินใจเลือกทางเดินที่ยิ่งใหญ่ ที่ผู้กล้าหาญ ขยัน อดทน และฉลาดเท่านั้นที่จะเลือกเดิน และถ้าคุณไม่เลือก คุณก็จะโง่บัดซบแบบสุด ๆ ไปเลย และทุกคนจะดูถูกเหยียดหยามคุณ จนคุณไม่ควรจะมีหน้าอยู่บนโลกนี้ได้ คุณจะรู้สึกแบบนั้นจริง ๆ (มาถึงตอนนี้ แม้ว่าคุณอยากจะลุกไปเข้าห้องน้ำ คุณก็จะต้องสู้กับความรู้สึกที่ว่า คุณมันขาดความอดทน แค่ปวดฉี่ก็ยังทนไม่ได้ ที่นายไมเคิลมันด่าดักไว้ล่วงหน้า)
เมื่อขับกล่อมจนคุณรู้สึกอย่างว่าได้แล้ว เขาก็จะพูดถึงประเด็นสำคัญของเขาล่ะ นั่นคือ ค่าใช้จ่ายในการเข้าร่วมขบวนการสุดหรูนี้ คุณสามารถเป็นได้หลายตำแหน่งขึ้นอยู่กับว่าเงินในกระเป๋าของคุณจะพาขึ้นไปได้ถึงอันดับไหน แต่ละตำแหน่งจะมีเปอร์เซ็นต์รายได้ต่าง ๆ กัน ตำแหน่งสูงก็ได้ลดเปอร์เซ็นต์เยอะ กำไรเยอะ ได้เงินเยอะ ฯลฯ มีอะไรบ้างจำไม่ค่อยได้แล้ว จำได้สองตำแหน่งคือ ตำแหน่งล่างสุด(แค่เป็นสมาชิก และพนักงานขาย) อันนี้เสียเงินหลักพัน และตำแหน่งที่สูงกว่านั้นคือตำแหน่งซุป(Supervisor) เสียขั้นต่ำหลักหมื่นขึ้นไป แต่เป้าหมายขั้นต่ำของงานนี้คือพยายามให้ทุกคนอยากจะสมัครเป็นซุป นั่นคือเอาเงินมาเปิดแต้มซื้อตำแหน่ง (ซื้อของเพื่อซื้อตำแหน่ง) ใครมีเงินมาก เปิดเองคนเดียว ครั้งเดียวเป็นซุปเลยประมาณแสนสี่ ใครไม่มีเงิน จะมีกระบวนการประณีประนอมต่าง ๆ นานา เช่น เปิดร่วมกับคนอื่น หรือ เปิดไปจำนวนหนึ่งก่อน แล้วขายของได้ เอาเงินมาลงต่อจนได้เป็นซุปตอนสิ้นเดือน ส่วนมากถ้าคุณไม่มีเงินพอที่จะซื้อตำแหน่งเองเลยซะทีเดียว คุณจะเจอคำพูดประมาณว่า “ครั้งนี้คุณโชคดีมาก เดือนนี้เรามีโปรโมชั่น ให้คุณสามารถซื้อไปบางส่วนได้ก่อน ให้คุณเสียเงินน้อยลง (เสียประมาณแปดหมื่น) เพราะจะเอาแต้มคนอื่นมาช่วย ถ้าไม่รีบตัดสินใจคุณจะพลาดโอกาสทองนี้ไปได้” (มารู้ทีหลังว่าเขาจะพูดแบบนี้ตลอดค่ะ) และต้องยอมรับว่าข้าพเจ้าก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ฟังแล้วคล้อยตาม ด้วยความหวัง ความโลภ และความโง่ รู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรืออาจจะด้วยความไว้ใจในจิตสำนึกของเพื่อนมนุษย์ก็ได้ เพราะโดยส่วนตัวแล้วก็เป็นลูกสาวคนเดียวที่ถูกเลี้ยงมาในครอบครัวที่อบอุ่น และมีการอบรมด้านศีลธรรมอย่างดี จึงไม่อยากเชื่อว่าจะมีกลุ่มคนใจร้ายที่กล้าจัดตั้งองค์กรไร้ศีลธรรมนี้ขึ้นมาได้อย่างยิ่งใหญ่และเป็นรูปธรรมถึงเพียงนี้
หลังจบการบรรยายใครที่คิดว่าจะไม่ทำ จะถูกไล่ออกจากห้องบรรยายด้วยคำพูดเหยียดหยามแบบสุภาพ ๆ ใครที่คล้อยตามเข้าขั้นอยากทำเขาก็ปล่อยให้ไปพบกับที่ปรึกษา (ผู้ที่แนะนำมา) คือคนเหล่านี้รวมทั้งข้าพเจ้าตอนนั้นด้วย จะถูกเกลี้ยกล่อมอีกครั้งจากพวกมืออาชีพ เขาจะไม่ปล่อยให้เราตัดสินใจนาน คาดว่าคงกลัวเราจะไปทราบความจริงจากแหล่งต่าง ๆ ก่อนมั้ง นั่นคือ ถ้าเราเข้าฟังการบรรยายวันอาทิตย์ วันจันทร์ต้องมาฟังแผน(วันนี้เป็นวันบังคับให้ตัดสินใจ คนส่วนมากถ้ามาในวันนี้จะเสร็จหมด) พิธีการในวันจันทร์นี้ก็เหมือน ๆ กับทุกวันคือใช้จิตวิทยาหลอกล่อกันต่อไป ไมเคิลรับหน้าที่พูดหว่านล้อม (และดูถูกผู้ที่คิดจะเปลี่ยนใจ) วิธีเร่งการตัดสินใจอย่างหนึ่งคือ ที่ปรึกษาจะบอกว่าขณะนี้มีคนสนใจอยู่แล้ว 2-3 คน ถ้าใครสมัครก่อน จะให้คนที่สมัครทีหลัง สมัครต่อจากคนก่อน พอคุณตัดสินใจทำปุ๊บ จะมีการบังคับให้หาเงินมาภายใน 2-3 วัน

[ตอบ #3 เมื่อ:]

โชคร้ายที่ข้าพเจ้าตัดสินใจทำ จึงโทรไปขอยืมเงินพ่อ และยิ่งโชคร้ายหนักเข้าไปอีกที่ครอบครัวของข้าพเจ้าเป็นครอบครัวที่สนับสนุกลูกสุดฤทธิ์ ไม่ว่าอยากทำอะไรก็ไม่เคยห้ามเลย (ประมาณว่าถ้าพลาดก็ถือว่าเป็นประสบการณ์นะลูก)
วันรุ่งขึ้นพ่อก็โอนเงินมาให้แสนสี่ ข้าพเจ้าก็ดีใจ โทรไปขอบคุณและสัญญาว่าจะใช้คืนให้ทั้งหมดภายใน 6 เดือน (พร้อมดอกเบี้ย) ด้วยเชื่อคำพวกที่ปรึกษาที่เขาวางแผนการไว้ให้ซะอย่างดิบดี ว่าหกเดือนจะมีเงินคืนพ่อ และก็ยังฝันต่อไปว่าถ้ามีเงินเยอะ ๆ จะให้พ่อแม่เลิกทำงานไปเลย (แบบนี้จะเรียกว่าโง่เพราะความกตัญญูจะได้มั้ยเนี่ย)
บ้านของข้าพเจ้าไม่ได้รวยหรอกนะ มีธุรกิจเล็ก ๆ พออยู่พอกิน แต่ก็ไม่ถึงขั้นเดือดร้อนด้วยเงินจำนวนนี้ สงสารก็แต่เพื่อนร่วมชะตากรรมอีกคน เป็นชายวัยกลางคน ซึ่งมีที่ปรึกษาคนเดียวกับข้าพเจ้า เขาอยากทำมาก เพราะทางบ้านกำลังเดือดร้อนเงิน บ้านก็กำลังจะถูกยึด มีภาระลูกเมียต้องดูแล หนี้สินรุงรัง เขาก็ยังเล่าให้ข้าพเจ้าฟังแล้วพูดอย่างมีความหวังว่า “ถ้ามีบุญได้ทำงานนี้ คราวนี้ละ จะได้หลุดหนี้กันสักที ลูกเมียจะได้สบายไม่ต้องลำบากลำบนอีก” (ให้เพื่อน ๆ นึกถึงแววตาเปล่งประกายด้วยความหวังของสัญชาตญาณความเป็นพ่อก็ได้ งานนี้มันคงเป็นเหมือนแสงสว่างสำหรับเขาในตอนนั้น) แต่ทำไงล่ะ เงินเป็นหมื่นเป็นแสนจะไปเอามาจากไหน ตัวเองก็อยู่ต่างจังหวัด เค้าก็ปรึกษาปัญหานี้กับที่ปรึกษาและอัพไลน์คนอื่น ๆ ทุกคนก็ลงความเห็นว่าให้ไปหามาให้ได้ ไม่มีให้กู้ กู้ไม่ได้ให้ไปหยิบยืมมา มีไม่ครบให้ซื้อของบางส่วนก่อน แล้วค่อยทยอยซื้อให้ได้ตำแหน่งซุปก่อนสิ้นเดือน แล้วก็เล่าไปถึงคนที่ไม่มีเงินเลย เขายังเที่ยวโทรไปยืมคนนั้นคนนี้ทีละร้อย ห้าร้อย ไล่ยืมเงินทุกคนจนได้ครบ ตอนนี้ก็ร่ำรวยไปแล้ว ฯลฯ สรุปคือ คุณจะทำไงก็ได้ เอาเงินมาให้ได้ อยากรวยมั้ย ใช้ความพยายามหน่อย ถ้าแค่นี้ยังทำไม่ได้ก็กลับใปใช้ชีวิตอันน่าอดสูของคุณต่อไป ประมาณนั้นเลย และในที่สุดพี่ชายคนนั้นก็ตัดสินใจว่าจะขายที่นา ที่ทำกินผืนสุดท้าย มาลงทุน...
เอาล่ะ สรุปว่าข้าพเจ้าก็ได้เป็นซุปไก่ตราเฮอร์บาไลฟ์แบบเต็มตัว ได้สินค้าชุดใหญ่มากองเต็มห้อง แล้วไงต่ออ่ะ? คือเพื่อน ๆ ต้องเข้าใจว่า องค์กรนี้ มันจะมีสองระยะ ระยะก่อนจ่ายเงิน และหลังจ่ายเงิน (เหมือนโรคร้ายที่เรามักบังเอิญตรวจพบตอนมันอยู่ในระยะลุกลามใกล้จะตายพอดี)
ระยะก่อนจ่ายเงิน ที่ปรึกษาบอกว่าจะช่วยทุกอย่าง... ไม่มีเวลาเหรอ? ไม่เป็นไร เรื่องงานเดี๋ยวโทรคุยกันได้ / ไม่มีลูกทีมเรอะ? ไม่เป็นไร เดี๋ยวช่วยหา / ขายของไม่เป็นเรอะ? ไม่เป็นไร เดี๋ยวสอนให้ และจะช่วยขายด้วย / การทำงานเป็นยังไง? โอ๊ยง่ายมาก แค่โทรไปคอนเฟิร์มออเดอร์ ถ้าเค้าตกลงซื้อก็ส่งของรับเงิน กินเปอร์เซ็นต์ สบายจะตาย งานก็ทำออนไลน์ เรียนรู้ได้ง่ายมาก ทำอยู่บ้านยังได้เลย / แล้วรายชื่อลูกค้าเอามาจากไหนอ่ะ? ไม่ต้องห่วงเดี๋ยวพี่จัดให้ น้องมีหน้าที่โทรอย่างเดียว ไม่ต้องลำบากเลย มีเว็บลิงค์ด้วย... มาถึงตอนที่คุณได้รู้ว่าคุณต้องเสียเงินแสนกว่าแล้วคุณคงไม่ถามแล้วล่ะว่ามีค่าใช้จ่ายอย่างอื่นอีกไหม และเขาก็จะไม่กรุณาบอกคุณเช่นกัน (ให้คุณไปรู้เองทีหลัง)
ระยะหลังจ่ายเงิน ในกรณีที่คุณไม่มีเงินทุ่มมากนัก อยู่ในประเภทจ่ายเงินไม่ถึงแสน ยังไม่ได้เป็นซุปเต็มตัว และยังต้องการความช่วยเหลืออีกมาก ประกอบกับได้ที่ปรึกษามือใหม่ยังไม่รอบจัดเท่าที่ควร คุณจะเริ่มรู้สึกว่าที่ปรึกษาแสนดีที่โทรหาคุณวันละหลายรอบนั้นเริ่มหายตัวไป อาทิตย์ต่อ ๆ มาพวกเขาจะไม่รับโทรศัพท์คุณ และอาจจะหายไปจากชีวิตคุณเลยก็ได้ เพราะเขาคงไม่รู้ว่าจะช่วยคุณได้อย่างไร หรือไม่อยากจะช่วยแล้ว เสียเวลา หาเหยื่อรายใหม่ดีกว่า (เพื่อนที่ประสบภาวะนี้เล่าให้ฟัง) แต่ในกรณีที่คุณได้เป็นซุปเต็มตัวแล้ว ท่าทางคุณหน่วยก้านดี น่าจะพอมีประโยชน์ ที่ปรึกษาของคุณจะกลายร่างจากที่ปรึกษาที่น่ารัก เป็นเจ้าพ่อมาเฟีย เจ้านายจอมเผด็จการ (ใครว่าทำธุรกิจนี้แล้วคุณจะได้อิสระกับชีวิต และเวลาว่างเหลือเฟือให้ไปใช้เงิน ไม่มีเจ้านายคอยจิก อย่าไปเชื่อเด็ดขาด เพราะคุณจะได้ชีวิตที่ขาดอิสระภาพยิ่งกว่าเดิม ไม่มีเวลายิ่งกว่าเก่า และได้ผู้ตามจิกที่แย่ยิ่งกว่าเจ้านาย เพราะเขาเอาแต่ได้ ไม่เคยจ่ายให้คุณ เว้นแต่ว่าคุณจะมีความสามารถล้ำลึกเยี่ยงไมเคิล และคณะแกนนำ ที่สามารถหลอกล่อคนให้เข้ามาได้อาทิตย์ละเป็นหมื่นคน แบบนั้นคุณอาจจะไม่มีคนตามจิก แต่ต้องออกมาโชว์ตัวทั้งวันทั้งคืนแทน)

[ตอบ #4 เมื่อ:]

หลังจากสถานะของข้าพเจ้าเข้าสู่ระยะจ่ายเงินแล้ว เป็นซุปแล้ว ที่ปรึกษา(หรือในที่นี้จะเรียกว่าอัพไลน์) ของข้าพเจ้าก็เริ่มมาตรการตามจิกทันที สิ่งที่ข้าพเจ้าต้องทำคือ รับสคริปท์ไปหนึ่งแผ่น เนื้อหาในสคริปท์นั้นคือเรื่องโกหกที่ข้าพเจ้าได้ฟังตอนที่มีคนโทรมาหาข้าพเจ้าครั้งแรกนั่นเอง ยกตัวอย่างเช่น “สวัสดีค่ะ ดิฉันโทรมาจากบริษัท....ซึ่งเป็นสถาบันที่ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับสุขภาพ ที่คุณได้ลงชื่อสมัครงานไว้ คุณเป็นผู้โชคดีมากที่คอมพิวเตอร์ได้สุ่มชื่อคุณออกมาจากผู้สมัครจำนวนมาก คุณจึงมีสิทธิ์เข้ารับการสัมภาษณ์งาน ซึ่งดิฉันขอสอบถามรายละเอียดเบื้องต้นก่อนนะคะ สะดวกคุยหรือเปล่าคะ...” จะอะไรก็ว่าไป หน้าที่คือหลอกให้คนเขาเชื่อให้ได้ว่าคุณคือเจ้าหน้าที่ติดต่อประสานงานของสถาบันดูแลรักษาสุขภาพแห่งหนึ่งที่น่าเชื่อถือและต้องการพนักงานคุณภาพจำนวนจำกัดเข้าไปทำงาน หลอกให้เขาเชื่อว่าเขาคือคนที่มีคุณสมบัติตามที่บริษัทต้องการ และขอให้เข้ามารับการสัมภาษณ์และฟังการอบรมตามสถานที่ ๆ นัดหมาย ช่ายแล้ว...อัพไลน์เอาคุณนี่มาให้แล้วให้ข้าพเจ้าท่องไป ท่องไป ท่องให้ขึ้นใจราวกับจะให้ข้าพเจ้าทำใจยอมรับว่ามันเป็นความจริง
ถึงตอนนี้ความพอใจของข้าพเจ้าเริ่มสั่นคลอน ระบบการทำงานต่าง ๆ ขององค์กรนี้มันชัดเจนแล้วโดยไม่ต้องอธิบายกันอีกต่อไป เขาไม่ได้ให้เราทำแค่โทรไปคอนเฟิร์มออเดอร์ลูกค้า และแนะนำผู้สนใจในแบบที่ข้าพเจ้าคิดไว้ แต่ให้ดำเนินการล่อลวงครบวงจรตั้งแต่ต้นจนจบ ข้าพเจ้าไม่อยากทำแล้ว อยากจะเลิกซะตอนนั้นเลย แต่ทำยังไงได้ ลงทุนไปตั้งแสนสี่ (แถมเป็นเงินพ่อ พ่อที่อุตส่าห์ทำงานงก ๆ กว่าจะได้เงินเป็นแสนคงไม่ใช่เรื่องง่าย เราเอามาผลาญในชั่วพริบตาเดียวให้แก่ความโลภของตัวเอง และให้องค์กรนรกนี่) จึงต้องอดทนทำต่อไป กะว่าพอได้เงินเท่าที่จ่ายไปมาคืนพ่อแล้วก็จะเลิกทันที ข้าพเจ้าต้องการแค่นั้น แต่เชื่อไหมแค่ทำความต้องการขั้นต่ำแค่นั้นให้เป็นจริง ข้าพเจ้าก็ไม่สามารถที่จะทำได้แล้ว (สำหรับคนที่มีศักดิ์ศรี และมีจิตสำนึกสักหน่อยจะเข้าใจความรู้สึกของข้าพเจ้าว่ามันเป็นอย่างไร)
วันเวลาช่วงนั้นผ่านไปอย่างทุกข์ทรมาน ทรมานกับความรู้สึกฝืนใจ และทรมานกับความกดดันที่องค์กรมอบให้ อัพไลน์บอกว่าจะเอารายชื่อลูกค้ามาให้ แต่ก็ไม่เคยให้เลย นาน ๆ ให้ทีก็เป็นรายชื่อเสีย ๆ เว็บลิงค์ที่บอกว่าจะมีให้ (เข้าใจว่าน่าจะเป็นหน้าเว็บโฆษณาของเราที่คนสนใจสามารถกรอกข้อมูลแล้วข้อมูลนั้นจะส่งมาถึงเมล์เราโดยตรง) ก็ไม่มี ค่าใช้จ่ายที่ก่อนสมัครไม่เคยพูดถึงมาก่อนเลย ก็ประเดประดังเข้ามา (ก่อนสมัคร คนพวกนี้จะหลีกเลี่ยงการพูดถึงรายจ่ายถึงแม้จะถามก็ตาม) ทั้งค่าเช่าโต๊ะ ค่าซื้อสินค้ามาใช้(บางทีถูกบังคับให้ซื้อเพื่อช่วยคนนั้นคนนี้ทำแต้ม) ค่าโฆษณา และอื่น ๆ อีกมากมาย ถ้าอยากได้รายชื่อต้องซื้อไมเคิล หรือไม่ก็ลงโฆษณากับไมเคิลเดือนละแพง ๆ ซึ่งสุดปัญญาที่จะทำได้ ส่วนที่อัพไลน์บอกว่าจะช่วยหาลูกทีม ช่วยขายของ ช่วยค่าโฆษณา ช่วยหารายชื่อ อะไรนั่นลืมไปซะเถอะ เรื่องโกหกทั้งเพ เรื่องระบบการทำงานออนไลน์นั่นยิ่งโกหกทั้งนั้น ไม่มีหรอก ไม่มีใครพูดถึงมันอีกเลย นอกจากระบบลงโฆษณาบนอินเตอร์เน็ตกับไมเคิล ข้าพเจ้าต้องหาผู้สนใจด้วยตนเองโดยการโพสต์โฆษณาตามเว็บบอร์ด ทำ hi5 โฆษณา ส่งเมล์ให้ได้มากที่สุด ใช้โปรแกรมแชททุกยี่ห้อ หาเหยื่อมาให้ได้ เพื่อหาเงินแสนสี่กลับมาคืนพ่อ(นี่มั้งที่เรียกว่าทำงานด้วยระบบออนไลน์) โชคดีที่ข้าพเจ้าก็พอจะมีความรู้อยู่บ้าง ก็เลยทำเว็บดักคนเองเลย คือเพจโฆษณาชวนเชื่อ(เนื้อหาก็อย่างเดิม ๆ) มีช่องให้กรอกชื่อกะเบอร์โทร แล้วส่งเข้าเมล์ข้าพเจ้าเอง ก็เลยพอมีรายชื่อมาโทรเพื่อหาคนเข้าไปฟัง
แต่แค่นั้นยังแก้ปัญหาไม่ได้หรอก มันยังมีมากกว่านั้นเยอะ นอกจากต้องหาคนมาให้ได้แล้วอัพไลน์ยังโทรจิกให้เข้าประชุม เข้าฟังนั่นฟังนี่ตลอดเวลา ทุกวัน ทุกอาทิตย์ ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางก็ไม่ใช่น้อย ๆ ในแต่ละครั้ง ประชุมก็ดึก ๆ ดื่น ๆ ประชุมกันแต่เรื่องเดิม ๆ ไร้สาระ ก็วางแผนว่าทำไงจะหลอกเอาเงินเค้ามาให้ได้นั่นแหละ ถ้าอยู่ดึกไม่ได้ก็จะโดนเหน็บว่าไม่มีความพยายาม ไม่รับผิดชอบ เข้าประชุมไม่ได้ก็โดนว่าโดนบ่น ไม่เคยฟังเหตุผลอะไรทั้งนั้น คิดแต่ว่ามันเป็นข้อแก้ตัว พอดีบ้านข้าพเจ้าอยู่ห่างจาก ม. พอสมควร ก็เลยเช่าหออยู่ใกล้ ๆ แล้วหอมันปิดสี่ทุ่ม กลับดึกก็ไม่มีที่นอน บอกอัพไลน์ว่ากลับดึกไม่ได้ อัพไลน์บอกว่า “ไม่ใช่ปัญหา ก็ย้ายหอสิ” ดูพูดเข้า แล้วไม่ห่วงเลยเหรอว่าเรามันก็ผู้หญิงจะให้กลับดึก ๆ ดื่น ๆ ยังไง หนักกว่านั้นคือช่วงทำสัมมนา ช่วงสอบ ไม่มีเวลาจะอ่านหนังสือเลย บอกอัพไลน์ว่า ช่วงนี้ขอเถอะ หน้าที่การเรียนของเราก็ยังต้องรับผิดชอบ เพราะมันเป็นหน้าที่หลัก อัพไลน์บอกให้เลิกเรียนซะงั้น เรียนไปก็ไม่มีประโยชน์ มาทำเงินดีกว่า ดูเอาเถอะว่าเขาเห็นแก่ตัวแค่ไหน ดีที่ข้าพเจ้ายังประคับประคองตัวเองมาได้ ไม่ให้เสียการเรียน(ถึงเกรดจะตกวูบลงไปเลยก็เหอะ)

[ตอบ #5 เมื่อ:]

ก็ต้องทำแบบนั้นเรื่อยไปเป็นเดือน แต่ไม่มีอะไรดีขึ้น เพราะส่วนตัวแล้วข้าพเจ้าเป็นคนไม่ชอบตื๊อ ไม่ชอบง้อ ไม่ชอบบังคับใคร คือถ้าได้ชื่อมา ให้โทรครั้งแรกน่ะทำได้ แต่ถ้าโทรไปแล้วเขามีท่าทีเบื่อหน่ายไม่พอใจ หรือไม่สนใจ ข้าพเจ้าก็ไม่อยากกวนใจแล้ว ไม่หน้าด้านหน้าทนเหมือนพวกอัพไลน์มืออาชีพ อีกอย่างข้าพเจ้าก็รู้สึกละอายลึก ๆ ทุกครั้งที่จะต้องหลอกคนอื่นแบบนี้ ก็เลยไม่ประสบความสำเร็จนักทั้งในด้านการขายและการหาลูกทีม พวกแขกที่หามาเข้างานได้นาน ๆ ครั้ง อัพไลน์ก็มักจะช่วยกดดันคนเหล่านั้นให้ เพราะข้าพเจ้าทำไม่ได้หรอก แค่บากหน้าไปมองหน้าแขกก็อายจะแย่อยู่แล้ว
ยังมีอีกเรื่องที่ข้าพเจ้าไม่สามารถรับได้จริง ๆ ก็เรื่องเที่ยวกลางคืน ปาร์ตี้กลางคืน คือองกรค์นี้เค้าจะมีการจัดปาร์ตี้กลางคืนบ่อยมาก ปาร์ตี้ที่อั้มมาร่วมแจมน่ะ(ตอนนั้นยังเป็นอั้ม) พวกอัพไลน์ผู้ชายคงชอบมั้ง แต่จัดบ่อยจริง ๆ เขาว่าจัดเพื่ออวดให้คนนอกเห็นว่าเรามีรายได้จริง รวยจริง เขาจะได้สนใจ นั่นคือสมาชิกที่ทำยอดได้(หรือไม่ได้ก็ตามแต่) จะได้รับตั๋วเข้างานปาร์ตี้นี้คนละ 2-3 ใบ หรือแล้วแต่โควต้า หน้าที่คือให้หาคนนอกไปงานด้วย จะเป็นเพื่อนหรือใครก็ได้ ให้เข้าไปเห็นว่าเราใช้ชีวิตกันอย่างสุขรำราญเพียงใด ทำนองนั้น ในงานก็มีการจัดเลี้ยงอาหาร ดื่มเหล้าอะไรกันไปเหมือนไปงานเลี้ยงตามผับ ข้าพเจ้าเป็นคนที่เกลียดการทำตัวเลอะเทอะแบบนี้ที่สุด จึงหลีกเลี่ยงที่จะไปเสมอ ไม่เคยไปเลยสักครั้งเดียว และไม่เคยรับตั๋ว แต่มีครั้งหนึ่งที่ถูกบังคับให้รับมาสามใบ ต้องหาคนเข้าไปให้ได้ หรือถ้าข้าพเจ้าไม่ไป ก็ต้องหาใครไปก็ได้ เพื่อนก็ได้ แล้วเดี๋ยวอัพไลน์จะดูแล(ล่อลวง)คนเหล่านั้นให้เอง...ข้าพเจ้าจะไปหาใครล่ะ? เพื่อน ๆ ที่ ม. เหรอ เป็นไปได้ยากมาก เพราะข้าพเจ้าไม่ชอบคบเพื่อนที่ชอบเที่ยวอย่างว่าอยู่แล้ว และข้าพเจ้าเรียนอยู่คณะวิทศวกรรมซอฟต์แวร์ เพื่อนแต่ละคนล้วนเป็นพวกไม่ชอบเข้าสังคม(ถ้าใครเป็นโปรแกรมเมอร์ก็จะรู้ว่าคนพวกนี้ใช้ชีวิตอยู่กับคอมฯ ไม่ใช่กะฝูงชน) ขืนบอกเพื่อนต้องถูกขำตายแน่(ที่จริงข้าพเจ้าไม่เคยบอกเพื่อนเลยด้วยซ้ำว่าทำธุรกิจนี้ เพราะอาย) ข้าพเจ้าจึงตัดสินใจเข้าเน็ต ประกาศแจกบัตรฟรี งานเลี้ยงกับอั้ม มีผู้หญิงคนหนึ่งสนใจโทรมา บอกว่าขอบัตรทั้งหมด จะเอาไปให้เพื่อนด้วย ข้าพเจ้าเลยบอกเบอร์โทรของอัพไลน์ไป แล้วบอกให้ติดต่อกับเขาแทน(หน้าที่ของข้าพเจ้าเป็นอันสิ้นสุด คือหาคนเข้างานได้แล้ว) ข้าพเจ้าก็นอนอยู่บ้าน มาทราบทีหลังว่าคนกลุ่มนั้นที่ไปงานเลี้ยงต้องเจอกับการตามตื๊อของบรรดาอัพไลน์ทั้งหลายให้เข้าฟังบรรยายเป็นค่าตอบแทนที่เลี้ยงฟรี รู้สึกผิดมาก ดีนะที่เขาไม่โทรมาด่า

จนกระทั่งวันหนึ่ง พระเจ้าคงสงสารข้าพเจ้า หรือมันคงเป็นจุดสิ้นสุดเวรกรรมของข้าพเจ้าเองก็ไม่ทราบ มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งติดต่อมาหาข้าพเจ้า บอกว่าโทรมาจากเชียงใหม่ เรียนอยู่ ม.6 อยากมีงานทำ เพราะบ้านจน แต่อยากมีเงินเรียนต่อมหาวิทยาลัย น้องพูดจาไร้เดียงสาน่ารักมาก ฟังดูรู้ว่าเธอบริสุทธิ์และอ่อนต่อโลกจริง ๆ ข้าพเจ้าก็บอกไปว่าถ้าอยากทำงานก็ต้องมาเข้าสัมภาษณ์และอบรมการทำงานที่กรุงเทพฯ(ตามสเต็ป) น้องเค้าก็ถามว่า
น้อง : “แล้วหนูจะได้เงินจริงหรือเปล่าคะพี่ หนูต้องลงทุนอะไรหรือเปล่าคะ ถ้าลงทุนเล็ก ๆ น้อย ๆ หนูก็พอมีเงินเก็บอยู่บ้าง แต่ถ้าต้องลงทุนเยอะ ๆ หนูก็ไม่มีหรอก”
ข้าพเจ้า : “ไม่ต้องลงทุนอะไรเลย เป็นการอบรมฟรี น้องจะได้เงินแน่นอน”
น้อง : “จริงหรือคะพี่(น้ำเสียงดีใจ) งั้นหนูจะไป ดีเหมือนกันหนูจะได้เอาเงินที่เก็บไว้มาเป็นค่าเดินทาง นี่หนูกะว่าจะเก็บไว้เป็นค่าเทอม แต่ช่างเถอะเผื่อว่าปีหน้าหนูจะได้มีเงินเรียนต่อ”
แล้วข้าพเจ้าก็นัดวันเวลาน้องเขาไป เป็นแขกที่ใจง่ายจริง ๆ ในบรรดาคนทั้งหมดที่พบมา
คืนนั้นข้าพเจ้านอนไม่ค่อยหลับ เพราะคิดไปต่าง ๆ นานา ว่า นี่เรากำลังจะให้น้องเขามาจริง ๆ หรือ? ด้วยเงินเก็บทั้งหมดที่เอาไว้จ่ายค่าเทอมเลยนะ นั่นอาจจะเป็นอนาคตทั้งหมดที่น้องมีอยู่ จะเอาน้องเข้ามาให้พวกผีดูดเลือดพวกนั้นเชือดจริงเหรอ? มันเป็นความรู้สึกที่น่าละอายจริง ๆ เหมือนตัวเองกลายเป็นอะไรที่ไม่ใช่คนไปเสียแล้ว…เอาวะ เป็นไงเป็นกัน
ตอนเช้าข้าพเจ้าตัดสินใจโทรไปหาน้องคนนั้นอีกครั้งแล้วบอกว่า “น้องคะ น้องไม่ต้องมาแล้วล่ะ คุณบริษัทนั้นมันเจ๊งไปเรียบร้อยแล้วค่ะ ถ้ามีใครโทรหาน้องบอกให้มาสัมภาษณ์งาน ก็อย่าได้มาเด็ดขาด” น้องเขาท่าทางคงจะงง ๆ เหมือนว่าจะถามอะไรสักอย่าง แต่ข้าพเจ้ากดวางสายไปก่อน เสร็จแล้วจึงโทรหาพ่อ
ข้าพเจ้า : “พ่อคะ เงินที่หนูยืมพ่อมาแสนสี่ หนูคิดว่าหนูคงคืนให้พ่อภายใน 6 เดือนนี้ไม่ได้แล้วล่ะค่ะ”
พ่อ : “อ้าวทำไมล่ะลูก มีอะไรหรือเปล่า?”
ข้าพเจ้า : “(เล่าเรื่องทั้งหมดให้พ่อฟัง) หนูขอโทษค่ะพ่อ หนูรู้ว่าพ่อทำงานเหนื่อย แล้วหนูจะค่อย ๆ ผ่อนคืนให้ทีหลัง”
พ่อ : “ดีแล้วล่ะลูก ทำได้ถูกต้อง สมแล้วที่เป็นลูกพ่อ”
พอได้ยินคำนี้เท่านั้น ข้าพเจ้าก็ร้องไห้โฮ เรากลายเป็นคุณตัวบ้าอะไรมาตั้งนาน... รู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูกเลยจริง ๆ น่าจะทำอย่างนี้มาตั้งนานแล้ว ช่างโง่เง่าซะจริง ๆ

[ตอบ #6 เมื่อ:]

ใช่แล้ว ข้าพเจ้าตัดสินใจเลิกทำมันซะเลย ของที่กองอยู่เต็มห้องก็ยังไม่พร่องไปไหน เลยจัดการโดยการขนไปให้พ่อกับแม่กิน(จึงรู้ผลทีหลังว่าของเค้าดีจริง) ส่วนหนึ่งที่มันไม่เป็นชุด ก็เอาไปเที่ยวแจก ไม่อยากเก็บไว้ไม่อยากเห็น ให้ทานกับความโง่ประชดชีวิตไป เพราะตอนนั้นไม่รู้ด้วยว่าคืนได้ เพราะอัพไลน์บอกว่าต้องขายให้หมด เพราะคืนไม่ได้ คืนได้ก็ลำบากยากเย็น ฯลฯ
เสร็จแล้วไปบอกอัพไลน์ว่าเลิกทำแล้วตั้งแต่นี้ต่อไปไม่ต้องโทรตามอีกนะ อัพไลน์ถึงกะอึ้งไปสักพัก แต่คงเห็นข้าพเจ้าท่าทางจริงจัง เขาก็เลยเสียงอ่อนลง
อัพไลน์ : “ทำไมล่ะ มีปัญหาอะไรหรือเปล่า? มีอะไรก็บอกได้นะ”
ข้าพเจ้า : “มีหลายอย่างเลยล่ะค่ะ แต่บอกไปคุณก็คงช่วยอะไรไม่ได้หรอก” (จนป่านนี้แล้วยังไม่รู้อีกเรอะว่าชั้นมีปัญหาอะไรบ้าง)
อัพไลน์ : “อย่าทำอย่างนี้เลย เสียดายเงิน เสียดายเวลา ของยังเหลืออีกตั้งเยอะไม่ลองขายดูก่อนหรือ”
ข้าพเจ้า : “ไม่เป็นไร ช่างหนูเถอะ บอกว่าก็พอว่าจะเลิกต้องทำไงบ้าง...”

เมื่อเหนี่ยวรั้งไว้ไม่ได้อีกต่อไป ข้าพเจ้าก็ได้รับอิสระภาพอีกครั้ง บอกกับดาวน์ไลน์ว่า อะไรเป็นอะไรทุกคนก็ต่างรู้ดี ต่อแต่นี้ก็แล้วแต่ว่าทุกคนจะตัดสินใจอย่างไรใครคิดว่าทำได้ ก็สู้ ๆ กันต่อไป ใครคิดว่าทำไม่ได้ก็ต้องรีบจัดการกับตัวเอง ทั้งนี้ต้องขออโหสิด้วยทุก ๆ คน...ปรากฎว่าดาวน์ไลน์ทุกคนเข้าใจดี ส่วนมากตัดสินใจเลิกทำ มีบางคนที่มีใจชอบ ก็ยังทำกันต่อไป แต่หลังจากนั้นก็ยังมีคนโทรมาหาข้าพเจ้าเรื่อย ๆ ขอให้ช่วยซื้อของปิดแต้มบ้าง อะไรบ้าง น่ารำคาญมาก ยังตื๊อไม่เลิก จนข้าพเจ้าต้องเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์หนี หมดเวรหมดกรรมกันไปที แต่อย่างน้อยก็ได้บทเรียนราคาแพงกลับมา บทเรียนที่ว่าไม่มีอะไรได้มาง่าย ๆ ฟรี ๆ บทเรียนที่ว่าในสังคมเรานี้ศัตรูที่น่ากลัวที่สุดมักจะมาในรูปของปิยะมิตร “ขอบคุณเฮอร์บาไลฟ์” ที่ทำให้ข้าพเจ้าเติบโตขึ้นอีกระดับหนึ่ง
ขอเตือนเพื่อน ๆ ที่กำลังสนใจทำงานออนไลน์ผ่านอินเตอร์เน็ตทุกคน ถ้าไปเจองานนี้ หรือบางอย่างที่คาดว่าน่าจะเป็นงานทำนองนี้เข้า คือมีการกรอกข้อมูลไว้ แล้วมีคนโทรมาบอกให้ไปสัมภาษณ์ ไปอบรมโดยไม่บอกว่าแท้ที่จริงแล้วเป็นงานอะไรกันแน่ ข้าพเจ้าก็ไม่อยากจะบอกว่าห้ามไปเด็ดขาด อยากจะไปดูเฉย ๆ ก็ได้ แต่ก่อนที่จะไปให้คิดๆๆให้ดี ๆ ก่อนนะคะ เพราะว่าถ้าไปแล้วมันออกยากมาก มันจะปลุกปั่นเราทุกรูปแบบ ทั้งใช้จิตวิทยาเกลี้ยกล่อม ทั้งใช้คนมากดดัน ถ้าใครใจไม่แข็งพออย่าไปเลย น้อยคนที่จะออกมาได้แบบไม่เสียอะไรเลยจริง ๆ

ถ้าใครกำลังทำธุรกิจนี้อยู่ ต้องขออภัยจริง ๆ ที่แฉความจริงออกไป แต่จะเห็นว่าข้าพเจ้าไม่ได้โจมตีเฮอร์บาไลฟ์แต่อย่างไร อีกทั้งยังโฆษณาให้ด้วยว่าผลิตภัณฑ์เฮอร์บาไลฟ์นั้นดีจริง ๆ ทั้งนี้ใครที่ทำธุรกิจแบบใสสะอาด ถูกวิธี ก็ข้อให้เจริญ ๆ ร่ำรวย ๆ แต่ขอประณามการกระทำขององค์กรที่นำเฮอร์บาไลฟ์มาหากินด้วยวิธีสกปรกเช่นนี้ ขอให้มันมีอันเป็นไปสักที ประเทศชาติบ้านเมืองของเราจะได้สะอาดขึ้น
ขออภัยเพื่อน ๆ และแอดมิน ที่ข้าพเจ้าเล่าเรื่องซ้ำ ๆ (ซ้ำกับที่คนอื่น ๆ เล่า) แต่อยากจะเล่าจริง ๆ มันอึดอัดใจ ที่จริงเรื่องราวนี้เกิดขึ้นมาเป็นปีแล้วเห็นจะได้ แต่ก็ยังจำความรู้สึกแย่ ๆ ได้อย่างดี และบังเอิญมาเห็นเว็บบอร์ดที่น่าสนใจนี้เข้า ที่จริงข้าพเจ้าอยากร่วมมูลนิธิเพื่อผู้ประสบภัยเฮอร์บาไลฟ์ของท่านมาก อยากเรียนถามว่าตอนนี้ได้ก่อตั้งเป็นทางการแล้วหรือยัง และข้าพเจ้าจะเข้าร่วมในส่วนใดได้บ้าง ทั้งนี้ข้าพเจ้าสนใจที่จะร่วมขบวนการกำจัดและปราบปรามองค์กรที่กล่าวถึงนี้ด้วย ข้าพเจ้าตั้งใจว่าจะเผยแพร่บทความนี้บนเว็บไซต์ของข้าพเจ้าด้วย และขออนุญาติทำลิงค์มาที่เว็บบอร์ดแห่งนี้ เพื่อที่เพื่อน ๆ ที่ยังไม่ได้เห็น ได้เข้ามาอ่านกัน ขอบคุณล่วงหน้ามา ณ ที่นี้ค่ะ
สุดท้ายนี้ถ้าผู้ใดต้องการตอบโต้กระทู้นี้ กรุณาอย่าใช้คำหยาบคายไร้สกุลให้ระคายเคืองหูตาของผู้อ่าน เพราะมันยิ่งจะเป็นการกระกาศว่าพวกคุณเป็นเช่นนั้นจริง ๆ หากท่านไม่ได้หลอกลวงจริง กรุณาอธิบาย 3 ข้อต่อไปนี้ให้ด้วย

1. ทำไมพวกคุณต้องหลอกคนอื่นด้วยว่ามันเป็นงานออนไลน์ ทำผ่านเน็ต ทำที่บ้าน ทำไมไม่บอกว่ามันเป็นงานขายตรงเฮอร์บาไลฟ์ ปิดบังทำไม ?
2. งาน how to make money ที่ชอบพูดว่านาน ๆ จัดที แต่ที่จริงมันจัดกันทุกอาทิตย์เนี่ยหมายความว่าไง ?
3. ที่ว่าทำงานวันละ 2-3 ชั่วโมง ไม่กระทบการเรียนและงานประจำ แล้วโทรเรียกให้เข้าประชุม เข้าออฟฟิศทุกวัน กว่าจะได้กลับก็ดึกดื่นมันคืออะไร
ที่จริงยังมีข้อข้องใจอื่น ๆ อีกมาก แต่คิดแค่ 3 ข้อนี้พวกองค์กรนี้ก็คงหาคำตอบที่เป็นเหตุเป็นผลดี ๆ มาตอบไม่ได้แล้วล่ะ
หมายเหตุ : ข้าพเจ้าไม่สงสัยเรื่องความร่ำรวยของผู้ประสบความสำเร็จในธุรกิจนี้ เพราะถ้าพวกคุณพยายามทำ(หลอกชาวบ้าน) ถึงขนาดนี้แล้วยังไม่รวยอีกน่ะ น่าสงสัยกว่า ไม่ต้องมาตอบกระทู้ในทำนองว่า “ชั้นทำ ชั้นก็ได้เงินจริง ๆ คุณไม่ทำ คุณไม่พยายาม คุณก็ไม่ได้เงิน เพราะคุณมันโง่” เพราะกระทู้นี้เราเน้นพูดถึงมนุษยธรรม และจิตสำนึก ไม่ได้พูดถึงความรวยของพวกคุณ

*******************************************************************************

[ตอบ #7 เมื่อ:]

ขอบพระคุณจากใจจริง ที่ให้สังคมได้รับรู้ถึงอีกด้านที่เลวร้าย ทำให้ระวังตัวมากขึ้น

[ตอบ #8 เมื่อ:]

ตอนนี้พวกมันอยู่ที่ตึก All season ชั้น 24
และเปลี่ยนชื่อองค์กรไปเรื่อยๆ เพราะมีคนแฉ
เช่น global advertising ,global IT ,global ...........

[ตอบ #9 เมื่อ:]

คุณแน่มากเลยที่กล้าเสียสละเวลามาเขียนรายละเอียดเรื่องที่สุดแสนจะสยดสยองครั้งนี้ ขอให้บุญกุศลที่คุณทำในครั้งนี้ส่งผลให้คุณพ้นจากบ่วงกรรมของพวกเปรตนรก เฮอร์เบอร์ไลพ์ ที่ชอบหลอกคนทางเน็ต นึกแล้วว่าต้องเป็นแบบนี้ ชอบเรื่องของคุณจริง ๆ ชอบในความอดทนที่จะบรรยายรายละเอีด คุณนี้ ยอดมากจริง ๆ นับถือเลย...

[ตอบ #10 เมื่อ:]

เคยลงสมัคร ทำงานทางเนต เหมือนกัน พอกรอกใบสมัคร ก็มีเมลตอบกลับมาว่าให้ไป ฟังคำบรรยาย แต่ไม่มีเวลาไป คิดว่า เป็นการหลอกมากกว่า ซเพราะเคย สมัครเป็นตัวประกอบ ตอนเรียน ให้เขียนใบสมัครแล้วต้องจ่ายค่าสมัคร 150 มีนักเรียนไปสมัครเยอะ แต่ไม่มีเรียกตัวให้ไปแสดงสักที เลยคิดว่างานนี้มันต้องมีอะไรมากไปกว่านี้ เลยตัดสินใจไม่ทำำงานทางเน็ต ถ้าทำแล้วรวยนะ ทุกคนไม่ต้องไปทำงานเงินเดือนแล้วจ่ายค่าเน็ตนอนกินนั่งกิน อยู่บ้านดีกว่า จริงอะป่าว ไม่มีอะไรที่ได้มาง่ายหรอก....ก็ใช้วิจารณญาิณ เอาเองแล้วกันไม่ได้ว่า เน็ตใคร บางเน็ตก็มีจริง จ้าง หญิงสาว ให้ไปคุยทางเน็ต ให้พวกหื่น ก็มี งานทางจิต วิทยาคุยทางโทรศัพท์ ก็มี งานแปลกๆ ยังมีอีกเยอะ กรรมแล้วกัน ชาวโลกเน้อ

[ตอบ #11 เมื่อ:]

คุณแน่มากเลยที่กล้าเสียสละเวลามาเขียนรายละเอียดเรื่องที่สุดแสนจะสยดสยองครั้งนี้ ขอให้บุญกุศลที่คุณทำในครั้งนี้ส่งผลให้คุณพ้นจากบ่วงกรรมของพวกเปรตนรก เฮอร์เบอร์ไลพ์ ที่ชอบหลอกคนทางเน็ต นึกแล้วว่าต้องเป็นแบบนี้ ชอบเรื่องของคุณจริง ๆ ชอบในความอดทนที่จะบรรยายรายละเอีด คุณนี้ ยอดมากจริง ๆ นับถือเลย...

ต้องยกเครดิตให้น้องคนที่เค้าไปประสบมา และนำมาเล่าให้ฟังครับ ผมเพียงแค่ไปเจอเรื่องของน้องเค้าเท่านั้นครับ เลยเอามาตีแผ่ประชาชนได้รู้ถึงกลลวงของพวกที่ทำนาบนหลังคนครับ

[ตอบ #12 เมื่อ:]

เราก็เคยสมัครทางเน็ต หลังจานั้นไม่นานก็มีคนโทรกลับมา ถามกลับไปว่าเป็นงานอะไร เขาไม่บอก บอกเพียงแต่ว่าให้มาฟังแล้วกัน เราก็ถามกลับไปว่าเป็นงานขายใช่ไหม เขาตอบกลับด้วยความรำคาญ แล้วนัดให้ไปฟังวันเสาร์อาทิตย์ เราเห็นท่าไม่ดีตอบไปว่าไม่สมัครแล้วขอยกเลิก เท่านั้นแหละเขาต่อว่า ทีหลังไม่ต้องสมัครมาอีกนะไม่ว่าจะเป็นโฆษณาไหน เขาบอกว่าเป็นบริษัทเครือเดียวกันหมด วางหูโทรศัพท์เลย ขอบคุณคุณน้องที่ได้เล่าเรื่องให้ฟัง กลัวจริง ๆ ถ้าจะต้องเจอแบบน้อง

[ตอบ #13 เมื่อ:]

มีโทรมาเหมือนกันแต่คิดว่าคงหลอกกัน เพราะมีกระทู้ดีๆนี้แหละทำให้ดิฉันไม่หลงเชื่อและไปฟัง มันโม้ ขอบคุณน้ะค่ะ

[ตอบ #14 เมื่อ:]

ผมเคยโดนมาแล้วเหมือนกันครับ จำได้ว่าช่วงนั้นอยากหาอะไรทำเพราะอยู่เฉยๆไปวันๆ เหมือนคนไม่มีประโยช์อะไรเลยคิดว่า เออว่ะ หาอะไรทำดู เลยเข้าเว็บดูงาน ไปเจอแบบนี้เลย ผมก็สมัครไป 2-3วันต่อมา เค้าก็ติดต่อมา [ ผมลืมบอกไป ช่วงนั้นประมาณเดือนกันยายนเลยวันตรุษจีนไป 2-3วัน ครับ ] ใช้เวลา พูดเร็วมาก ไม่เกิน5นาที นัดผมเสร็จ พอถึงวันนัดผมก็ไปตามที่นัด ชวนเพื่อนไป1คนนั่งรถไฟใต้ดินไปลงที่สถานีสีลม ออกจากใต้ดินเสร็จแล้ว ก็ต้องไปต่อฺ BTS ลงสถานีศาลาแดง พอใกล้ถึง ผมก็โทรหาพี่ที่ติดต่อมาตลอด [ เป็นผู้หญิงนะ ] ที่ๆผมไป เป็นตึกสูงๆ จำได้ว่า มันเขียนว่า การค้าส่งออกจีน หรืออะไรสักอย่างมีคำว่าจีน เนี่ยแหลๆ เพื่อนผมบอกว่าใช่หรอ แต่ผม คิดว่าใช่ ตามที่พี่เค้าบอกนะ ผมก็เข้าไป ต้องขึ้นลิฟ ไปที่ชั้น 34 แล้วต่อบันไดไปชั้น 35 ผมมาถึงช้าไปสัก ชั่วโมงกว่าๆ เค้าให้ผม เซ็นชื่อแล้วมี สติกเกอร์ดาว แป๊ะให้ 1อัน ผมชวนเพื่อนเข้าไป แต่เพื่อน บอกว่ากูไม่เข้า รออยู่ข้างนอกนะ ผมก็เข้าไปที่สัมภาษ คนเต็มเลย นั่งไปสักพัก เค้าก็ พูดโน้นนี้ เป็นพี่ผู้ชาย บอกว่าสินค้าเนี่ยดี รู้มั้ย พี่เกือบไม่ลอดเป็นมะเร็งหรือ อะไรสักอย่างเนี่ยแหละ บอกว่ามาเจอสินค้าเนี่ยลองใช้ดูหายเลยจากโรคที่เป็นอยู่ พูดโน้นนี้ไปเรื่อย เค้าก็พูดว่าถ้าใครไม่สนใจทำให้ออกไปได้เลยครับ ตอนนั้น ผมเอะใจแล้ว เพราะผมเหมือนจะมีเซ้น ผมเหมือนว่าเวลา ผมมองใครก็ตามแต่ เหมือนผมรู้ว่าคนนี้นิสัยเป็นอย่างงัยบ้าง โกหกรึเปล่า แล้วเค้าก็พูดว่าใครสนใจทำให้ยกมือขึ้นครับ แต่ผมก็ดันยกซะงั้นเหมือน โดนสะกดจิตยังงัยไม่รู้ เค้าก็ให้บอกชื่อพี่ที่ติดต่อเราไป แล้วให้ไปหาเค้าผมก็ไป เค้าบอกว่าเดี๋ยวจะมีการสอนงานดูงาน อะไรประมาณนี้ แต่จะต้องเสียค่าใช้จ่ายนิดหน่อยประมาณ 500นั้นแหละผมรู้เลยว่ากูโดนแล้วเค้าพูดว่ามีก่อนรึเปล่าพี่จะได้เอาไปจองที่ให้ผมบอกไปว่าไม่มีเค้าบอกต่อว่ามีATMมั้ยกดมาก่อนก็ได้เดี๋ยวลงไปกดด้วยกันผมบอกว่าไม่มีเค้าก็ถามว่าจะไปมั้ยจะให้เซ็นใบไว้ก่อนผมคิดว่าเซ็นๆไปเถอะจะได้รีบออกไปซะทีเซ้นเสร็จปุปผมก็รีบเดินออกเลยบอกเพื่อนว่าโดนหลอกแน่ๆ วันรุ่งขึ้นพี่คนนั้นก็โทรมาแต่ผมไม่รับโทรมาได้2-3วันก็เงียบหายไปเลย [ เพื่อนๆครับหางานต้องดูดีๆนะครับระวังจะโดนหลอก ]...

[ตอบ #15 เมื่อ:]

เคยเกือบโดน ...ดีที่ไม่มีตังแต่ แย่ไปบอกน้องน้องตัดสินใจ...แล้วก็จะว่าแย่ก็แย่จะว่าไม่แย่ก็ไม่แย่..ได้กินของดี ขายได้บ้าง ก็พอไปได้นิดหน่อย...แต่มันแย่ที่ว่าไม่รักายอดแล้วตำแหน่งที่ได้รับส่วนลดมันหมดอายุนี่สิ....เซ็งเลย ของเค้าดีถ้าขายกันแบบตรงไปตรงมา
ตามถนัดของแต่ละคนไม่ซิกแซ้กแบบนี้...ชื่อเสียหมดเลย

[ตอบ #16 เมื่อ:]

ก่อนอื่นต้องขอชมเจ้าของกระทู้นี้ที่เยี่ยมยอดจริง ๆ กับการเล่าให้อ่านอย่างละเอียด ซึ่งจริง ๆ แล้ว เราก็เป็นคนนึงที่ชอบแสวงหางานพิเศษทำนอกเหนืองานประจำ คือต้องกล่าวย้อนไปเมื่อตอนประมาณ 7-8 ปีที่แล้วได้ ช่วงนั้นอินเตอร์เน็ตกำลังเป็นที่แพร่ระบาด แล้วกระแสทำงานทางเน็ตก็กำลังฮิตและเป็นอะไรที่ใหม่สำหรับคนเล่นเน็ต ก็เจอโฆษณาประมาณว่าทำงานออนไลน์ที่ล่ะ เด็กอายุ 17 ปีทำได้เป็นแสน คุณก็ทำได้ ก็เลยหลงเชื่อกรอกเบอร์โทร-ชื่อ อีกสักวันสองวันก็มีคนโทรมานัดให้มาสัมภาษณ์ที่นั้นแหละ ที่เชือด (TCC / หอการค้า สถานรถไฟฟ้า สุรศักดิ์) ก็ไป ครั้งแรกก็ตื่นเต้นนะ ก็ฟัง ๆ แบบเดียวกะน้องคนที่เล่านี่ล่ะ พอเสร็จก็บอกว่าถ้าต้องการทราบวิธีทำงานก็ให้มาอีกครั้งพรุ่งนี้ (วันอาทิตย์) แต่ต้องเสียตังคนละ 500 บาท อ่อต้องบอกว่า กว่าจะเสียตังจ่ายมาเพื่อมาฟังงาน how to make many เนี้ย เชื่อป่ะว่าเรามาฟังบรรยายแบบนี้ประมาณเกือบจะ 5 ครั้ง เพราะเชื่อว่าคงไม่มีบริษัทไหนมันจะหลอกคนมาฟังแบบนี้โดยเป็นบริษัทเดียวกันได้ ที่นี้ก็สงสัยว่าจริงรึ ที่คนเข้ามางาน how to make many แล้วจะได้เงินเป็นแสน ก็ตัดสินใจอย่างเด็ดขาดว่า เอาว่ะ ลองดูซักตั้งเป็นงัยเป็นกัน (ตัดสินใจคนเดียวด้วยนะมาก็มาคนเดียว) พอมาถึงวันนัด คือ โรงแรมหรูใจกลาง กทม. คนเยอะมากอ่ะ ไม่น่าเชื่อ ก็เออๆ ก็ฟัง ๆ ในช่วงเช้าก็ยังไม่พูดอะไรมากมาย ตอนกลางวันก็ทานอาหารบุฟเฟ่ พอตอนบ่ายก็นั่งฟังอีกกะว่าเอาให้รู้เลยว่าเค้าทำงัยให้ได้เงินแสน ก็ฟังมาเรื่อยจน 5 โมงเย็นเป็นจบการโม้สุดอลังการ ยังไม่รู้เรื่องเลยว่าได้เงินแสนยังไงกัน แต่มาจบเอาตอนที่แยกย้ายให้มาหาที่ปรึกษานี้ล่ะ ตอนนั้นถึงบางอ้อเลยว่า ต้องเสียเงินซื้อตำแหน่ง เลยเข้าใจทู้กอย่าง คิดเองได้เป็นสเต็ปเลยว่า เรากำลังจะโดนหลอกแล้ว ดีว่าตอนนั้นไม่มีตัง+ใจแข็งที่ไม่ยอมกู้หนี้ที่ไหนเพื่อเอาเงินซื้อตำแหน่งให้ตัวเอง เสียเวลาสุด ๆ อ่ะนะกับงาน how to make many เนี้ย อยู่ตั้งแต่ 9 โมง - 3 ทุ่ม ไม่มีอะไรเลย อีกอย่างคุ้นมากับคนชื่อบอล , ไมเคิล , แล้วก็คนที่เรียนหมอ (แต่ไม่จบ) ทุกวันนี้พวกนี้ยังอยู่อีกหรอ นานแล้วนะ เฮอร์เบอร์ไลห์จริง ๆ ผลิตภัณฑ์เค้าดีจริง แต่วิธีการโฆษณามันทุเรศมากอ่ะ ถ้าขายแบบตรง ๆ ป่านนี้คนกินเต็มบ้านเต็มเมืองแล้ว แต่รับไม่ได้กับการหลอกคนมาต้มตุ้น ถ้าทุกคนทำงานออนไลน์แล้วรวย เค้าคงไม่มาทำงานประจำกันอย่างทุกวันนี้หรอกนา ก็ฝากน้องคนรุ่นหลัง ๆ ด้วยว่าจะทำอะไรให้ศึกษาให้ดีก่อนตัดสินใจ งานประจำที่ทำอยู่อ่ะก็ดีอยู่แล้ว แต่จะหางานพิเศษอะไรทำเสริมก็ดูให้ดี ๆ ละกัน

[ตอบ #17 เมื่อ:]

ใช่เลย มาแบบเดียวกัน แต่เผอิญไม่ว่าง เลยไม่โดนหลอกแบบที่เขียนมานี้ ทุกวันนี้ยังมีแอบส่ง e-mail โฆษณามาให้เรื่อยๆ เลย copy ส่งให้พวกมันดูซะ จะได้เลิกส่งมาอีก คุณพวกลวงโลก ทำนาบนหลังคน ทุเรศจริงๆ ต้องช่วยกันกระจายให้คนอื่นรู้จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อ เมื่อก่อนเห็นอยู่แถวๆชิดลม เวลาเจอกันข้างนอก มันชอบหาเรื่องมาคุย ตีสนิทด้วย ไร้ยางอายจริงๆ คุณทำงานขายตรงน่ะไม่มีใครเขาว่าหรอก แต่มาหลอกคนอื่นๆให้ไปประชุม เก็บเงิน ทำเป็นสำบัดสำนวนหลอกล่อ ข่มขู่(กลายๆ) ให้เขามาจ่ายเงิน รกโลกจริงๆ ขอให้นรกมารับตัวไปเร็วๆด้วยเถิด คนประเภทนี้

[ตอบ #18 เมื่อ:]

อั้ยพวก ไมเคิล ซี บอล รวมถึงอั้ยอ้วนต้น ทุกวันนี้มันยังหลอกต้มคนได้อยู่อีกหรือเนี่ย? โดนเปิดโปงซะขนาดนี้ ดูซิว่ามันจะหากินกันยังไงต่อไป แต่ผลกรรมติดจรวดคงตามสนองพวกมันในไม่ช้า เวรกรรมมีจริง หลอกคนตกงานใกล้จะตายให้มาเป็นหนี้เป็นสินท่วมหัวซ้ำเติมชีวิตเขาให้มันจมดินลงไปอีก ระวังกรรมจะสนองในไม่ช้า

[ตอบ #19 เมื่อ:]

One friend of mine is trapped in this stupid company... untill now she still not aware what is going on...
she wants some money to give to this company but she did tell us why she need to put her money in..
Ijust understand now...

Hope she read this massege and open her eyes..

[ตอบ #20 เมื่อ:]

เตือนเอาไว้ภัยสังคมทาง Internet .... บริษัท Global advertising จะทำให้คุณเป็นหนี้

Global advertising เป็นบริษัท ที่ขายอาหารเสริม ยี่ห้อ Herbalife (เอ่อ ผมไม่ได้ว่า Herbalife ไม่ดีนะ แต่วิธีการทำงานของ global advertising มันเข้าข่ายหลอกลวง) ผมจะมาบอกประสบการณ์ที่เคยโดนมากับตัวเองให้รู้กันเพื่อให้เป็นข้อมูลก่อนจะตัดสินใจเข้าทำงานกับบริษัทนี้ เค้าจะให้ข้อมูลที่สำคัญกับเราไม่หมดนะ ย้ำให้ข้อมูลไม่หมด ทำให้ตัดสินใจผิดพลาดพอมาบอกอีกทีก็กลับใจลำบากแล้วเพราะเสียหายอย่างมาก ถ้าจะเลิกก็ยากอีกเนื่องจากนำเงินมาลงทุนเยอะแล้ว (บางคนต้องลาออกจากงาน หรือพักการเรียน เพราะคนในองค์กรแนะนำ) จึงได้นำข้อมูลที่เค้าปิดบังไว้มาบอกกันก่อน แต่ก็อาจเป็นงานที่เหมาะกับหลายๆคนนะ ...ไม่แน่
หัวหน้าองค์กรนี้เป็นระดับ President team เป็นชาวต่างชาติ ชื่อไมเคิล (เฮงซวย)ชอบดูถูกคนอื่นอย่างมาก อายุ 24 ปี (ที่ปี ค.ศ. 2008) ไม่ใช่ไมเคิลโอจอห์นสัน นะอย่าเข้าใจผิด และมีทีมงานระดับหัวหน้าอีกหลายคน เช่น ซี นักศึกษาแพทย์ปีสุดท้าย(บอกว่าปีสุดท้ายมาหลายปีแล้ว) , หญิง , บอล , โกศล และอีกหลายคน ซึ่งแต่ละคน ตอแ...ล่ เก่งมากๆ
โดยที่เค้าจะมีโฆษณา อยู่บนWebsite ......... รับสมัครงาน ส่วนอีกแบบลงว่าลดน้ำหนักอันนี้สำหรับลูกค้า เมื่อเข้าไปกรอกข้อมูลเค้าจะบอกว่าเป็นการทำงาน Internet (แต่จริงๆก็คืองานขายตรงซึ่งไม่ยอมบอกว่าเป็นงานขายตรง จะบอกว่าเป็นการทำงาน Internet เท่านั้น) แล้วนัดให้เราเข้าไปอบรม บอกว่าทำงานเพียงวันละ 2 ชม./วัน (เราเชื่อที่เค้าพูดว่าเป็นอย่างนั้นจริง คงไม่โกหกกันหรอก ไม่น่าจะกระทบกับการเรียน และการทำงานมากนัก) ก็ตัดสินใจเข้าไปฟัง
ในการอบรมก็ไม่มีอะไร เป็นเพียงการแนะนำสินค้าของเค้า และโฆษณาว่ามีใครเกี่ยวข้องกับเค้าบ้างเพื่อให้น่าเชื่อถือ แต่จริงๆก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไรมากนักในเรื่องการขายของ ของแต่ละคน และมีการให้ลูกทีมขึ้นเวทีมาบอกว่ามีรายได้เท่าไหร่ (ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่ ถ้าจริงไม่รู้มีรายจ่ายสำหรับงานนี้ต่อเดือนเท่าไหร่ไม่ยอมบอก) และไม่บอกเรื่องค่าใช้จ่ายต่อเดือนด้วยว่าเท่าไรมีอะไรบ้าง (ขั้นต่ำ 20,000 บาทต่อเดือนที่ต้องจ่ายให้บริษัทนี้) จากนั้นจะนัดให้ไปอบรมอีกครั้งบอกว่าเป็นการอบรมที่สำคัญมากๆๆๆๆ ถ้าใครจะทำงานนี้ต้องไปถ้าไม่ไปก็ทำงานนี้ไม่ได้ (แต่ข้อมูลมันก็ไม่ได้แตกต่างจากที่อบรมไปเมื่อกี้เท่าไหร่) ต้องเสียค่าใช้จ่าย 500 บาท มีการโกหกด้วยว่าการอบรมครั้งนี้จะจัดที่ประเทศไทยในวันอาทิตย์นี้ ถ้าพลาดก็ไม่รู้ว่าจะมาจัดในประเทศไทยอีกเมื่อไหร่ (แต่เค้าก็จัดทุกวันอาทิตย์นั้นแหละ แล้วงานอบรมของคนใหม่ที่บริษัทนี้ก็ไม่เคยจัดต่างประเทศสักที) เมื่อผู้สนใจที่อยากทำงานได้ยินเช่นนี้ก็เกรงว่าจะเสียโอกาสในการทำงาน จึงต้องรีบตัดสินใจโดยไม่มีเวลาคิดให้รอบครอบ
เมื่อเข้าไปอบรมจะถูกการสร้างภาพ และโน้มน้าวให้เห็นว่าทำได้ง่ายเพียงแค่เปิดดูรายชื่อใน E-mail แล้วโทรหาลูกค้า และส่งของไปให้เท่านั้น ใช้เวลาแค่ 2 ชม.ต่อวันก็พอ (แต่จริงๆแล้วมันมีอะไรซ่อนไว้อีกมากๆๆที่ไม่ได้บอกเรา) จากนั้นทาง Upline ก็จะชวนให้เราสมัคร เสียค่าสมัครพันกว่าบาท แต่ไม่บอกว่าต้องเสียค่ารายปีอีกประมาณสองพันกว่าบาท หลังจากนั้นก็ให้เราเลือกว่าจะทำเป็น Supervisor(Sup) หรือ Distributor(Dis) อันนี้เหมือนว่าจะเลือกได้นะแต่จริงๆไม่มีทางเลือกหรอก ทำไมน่ะเหรอก็เพราะว่าถึงแม้จะเลือกทำเป็น Distributor แต่พอทำไปสักพักก็จะถูกบังคับทั้งทางตรงและทางอ้อม เช่นไม่ให้รายชื่อลูกค้า ,กดดันด้านต่างๆ เป็นต้น ทำให้เราเริ่มขายของไม่ค่อยได้ก็จำใจต้องทำคุณสมบัติเป็น Sup ซึ่งการทำคุณสมบัติที่ว่านี้จะต้องทำคะแนน 4,000 VP เป็นเงินมากกว่า 130,000 บาท หรือ 2,500 VP ต้องทำ 2 คนพร้อมกันในเดือนเดียวกันเป็นเงินคนละมากกว่า 85,000 บาท 2 คนรวมกัน 170,000 บาท (ราคานี้ยังมี Vat 7 % ที่ต้องจากเพิ่มอีก) แล้วก็ไม่บอกด้วยว่ายังมีค่าใช้จ่ายหลังจากที่เป็น Sup แล้วอีกเท่าไหร่(ขั้นต่ำ 20,000 บาท) แล้วถึงแม้ว่าเราบอกว่าขอทำงานเป็น Dis เพื่อเก็บเงิน และสร้างฐานลูกค้าก่อนแล้วค่อยทำคุณสมบัติเพราะตอนนี้ไม่มีเงิน ก็จะได้รับคำแนะนำวิธีหาเงินแทนที่จะทำตามแผนที่เราวางไว้ เช่นแนะนำว่าให้ไปกู้เงิน ,ทำบัตรเครดิต เป็นต้น เพื่อให้นำมาทำคุณสมบัติให้ได้ แล้วบอกว่าเมื่อเป็น Sup จะได้อะไรบ้าง แต่ไม่บอกว่าต้องเสียอะไรบ้าง (มีต่อ)

[ตอบ #21 เมื่อ:]

(ยก 2)
เมื่อเรายอมเชื่อทำคุณสมบัติแล้วโดยการซื้อสินค้ารวม Vat 7% เป็นมูลค่ากว่า140,000 บาท ซึ่งตรงนี้จะทำให้ Upline ของเราได้รับรายได้จากการที่เราสั่งซื้อสินค้าเป็นหมื่น และนี้ก็เป็นเหตุที่ Upline ของเราพยายามทำทุกวิถีทางที่จะให้เราเป็น Sup ให้ได้ แม้ว่าเราจะสั่งซื้อสินค้า แล้วขายไม่ได้ก็ตาม (ไม่มีฐานลูกค้า) เมื่อ Upline ของเราได้ตามเป้าหมายของเค้าแล้วในส่วนนี้ ที่นี้เค้าก็จะเริ่มเผยไต๋ออกมาให้เรารู้อะไรบ้างแล้ว (เพราะเราลงทุนไปแล้วถึงรู้ก็เลิกทำไม่ได้อยู่ดี) อย่างเช่น ต้องจ่ายเงินค่าโฆษณาเป็นรายเดือนอย่างต่ำ 15,000 บาท หรือมากกว่านั้น ต้องจ่ายค่า Office ,ค่าโต๊ะ ประมาณ 5,000 บาท ต้องจ่ายค่าสมาชิกเป็นรายปีมากกว่า 2,000 บาท และยังมีรายจ่ายในการดำเนินการอีกมากมาย ซึ่งในความคิดเห็นของเรา เหมือนกับว่าเราทำงานต้องลงทุน และแบกรับความเสี่ยงเอง แต่ว่ารายได้ที่ได้ต้องนำมาให้กับทางบริษัทเกือบทั้งหมด กว่าจะขายให้ได้กำไร 20,000 บาท เน้นว่ากำไรนะ ต้องลงทุนไปเท่าไหร่ ต้องลงแรง ต้องยอมรับภาระขาดทุน แต่กลับไม่ได้ใช้เงิน เพราะต้องมาจ่ายให้บริษัทนี้ และการทำงานนี้มากกว่า 20,000 บาทต่อเดือน เท่ากับว่าไม่มีเงินที่จะนำมาใช้จ่ายได้เลย แถมต้องเป็นหนี้อีกต่างหากเพราะกู้เงินมาทำคุณสมบัติแล้วแทนที่จะได้เงินมาคืนหนี้สิน แต่กลับต้องมาจ่ายให้กับบริษัทนี้ทุกเดือน แต่เราก็ต้องทำเพราะคิดว่าต้องหารายได้มาใช้หนี้ที่กู้ยืมมาก่อน ก็พยามยามทำไปแต่ก็สู้รายจ่ายไม่ไหว รายชื่อที่ได้มาก็ไม่แน่นอนมีชื่อที่ลงแกล้งไม่มีตัวตนจริง และรายชื่อที่ได้ก็น้อยมากไม่คุ้มกับเงินลงโฆษณา 15,000 บาทเลยทำให้ขาดทุนเรื่อยๆ จึงปรึกษากับ Upline และได้คำแนะนำมาว่าเรายังให้เวลากับงานไม่พอ ซึ่งปกติก็เข้าบริษัทสม่ำเสมอ และให้เวลากับงานนี้ 6 – 10 ชม.ต่อวันอยู่แล้ว แล้วถ้าอยากได้รายชื่อเพิ่มก็จ่ายเงินโฆษณาเพิ่มอีก และแนะนำให้เราพักการเรียน ถ้าเป็นคนที่ทำงานประจำจะให้ลาออกจากงานประจำ (มันเป็นกับดักให้เราไม่สามารถไปทำอย่างอื่นได้อีกต้องหารายได้ให้กับเค้าตลอด อย่างคนที่เรียนไม่จบใครเค้าจะไปรับเข้าทำงานในตำแหน่งดีๆ เงินเดือนสูงๆบ้าง ถ้ามีบอกด้วยนะจะได้ไปทำต้องการด่วนเลย ฮา ฮา ฮา...) แต่ถึงแม้จะทำตามที่บอกก็ไม่สามารถนำเงินที่หาได้มาใช้จ่ายส่วนตัวต้องจ่ายให้กับบริษัทนี้ และลงทุนเพิ่มอีก
ลืมบอกไปแม้ได้ตำแหน่งแล้วก้อต้องทำยอดรักษาตำแหน่งด้วยนะไม่ใช่ว่าได้แล้วจะได้ตำแหน่งไปตลอด เช่นได้ตำแหน่ง SUP ก็จะมีสถานภาพเป็น SUP ประมาณ 6 เดือนถ้าทำยอดไม่ได้ก็ถูกปลดเป็นสมาชิกธรรมดา ที่เค้าเรียกว่า Resup หรือ Reตำแหน่งอื่นๆ ก็ว่ากันไป ฉะนั้นถ้าไม่มีฐานลูกค้าที่จะขายได้ในยอดนั้นๆตลอด แต่สั่งของทำยอดเอาตำแหน่งอย่างเดียวก็เตรียมหาที่เก็บของไว้นอนกอดเล่นที่บ้านได้เลยขายเท่าไรก็ไม่หมด และอย่างลืมสินค้าสำหรับบริโภคมันมีวันหมดอายุนะยิ่งเก็บไว้นานโอกาสที่จะขายได้ก็ลดลงทุกที
ส่วนรายได้อีกทางก็คือการหลอกให้คนอื่นมาเป็น Sup ซึ่งก็คือ Down line ของเรานั่นเอง แล้วก็ต้องทำแบบ UP LINE ที่เคยทำกับเรา ถ้ายังมีจิตสำนึกของความเป็นคนอยู่ก็อย่าทำให้คนอื่นต้องมาเป็นหนี้แบบเราเลยมันบาปมากๆนะ
ถ้าบริษัทนี้มีความจริงใจจริงๆ ก็ควรจะบอกรายละเอียดทั้งหมดให้ทราบตั้งแต่แรกไม่ใช่ว่ามาหลอกเอาเงินจากเราไปแบบนี้แล้วค่อยมาบอกกัน เจอกันวันแรกก็โกหกกันซะแล้วจริงใจมากๆเลย
ข้อมูลนี้น่าจะเป็นประโยชน์กับส่วนรวมนะครับอยากให้ช่วยกันนำไปเปิดเผยให้มากที่สุดจะได้ไม่มีใครต้องมาเสียอนาคต หรือถูกหลอกลวงอีก แต่สำหรับคนที่ต้องการดำเนินธุรกิจนี้จริงๆจะได้มีข้อมูลไว้ประกอบการตัดสินใจ และควรคำนวณส่วนได้ส่วนเสียให้ดีจะได้ไม่ต้องเสียใจภายหลัง (ส่วนได้ส่วนเสียที่ว่านี้ใช่เพียงตัวเงิน มันร่วมถึงคุณธรรม,จิตสำนึก และความเป็นคนด้วย)
ข้อคิดเห็น ควรศึกษาความเป็นไปได้ของธุรกิจจากข้อมูลทั้งหมดหรือมากที่สุดก่อนตัดสินใจ หากไม่สามารถเป็นไปได้จริงจากการวางแผน และการคำนวณ ก็ไม่ควรทำ เพราะการลงมือทำจริงยิ่งมีจุดที่เราคาดไม่ถึงอีกมากจะทำให้ประสบความสำเร็จได้ยากมากๆ ถึงขั้นเป็นไปไม่ได้ ถ้าไม่มีประสบการณ์เพียงพอ หรืออาจมีหนี้สินแทนที่จะมีเงินเหลือไว้ใช้อย่างที่ต้องการ (ค่าศูนย์ก็ยังดีกว่าค่าติดลบ ..... เสมอตัวก็ดีกว่าเป็นหนี้)

[ตอบ #22 เมื่อ:]

อ่านดูแล้วน่าสงสารคนที่ถูกหลอกมากๆครับ

เหมือนกับพวกที่หลอกให้ไปขายประกันเลย

ยังดีที่ไม่โดนเรียกเงินเป็นแสน

แต่ก็มีค่าใช้จ่ายจุกจิกไม่แพ้กัน

และที่เหมือนกันอีกอย่างคือ

คนที่ชวนไปทำจะดทรตามจิกเรา

จนรู้สึกเหมือนชีวิตขาดอิสรภาพไปเลย

[ตอบ #23 เมื่อ:]

หนูโดนของซีมูซี่ไป6000 เจ็บมาก เลวมาก

[ตอบ #24 เมื่อ:]

เราก็เคยเหมือนกัน มันบอกว่าต้องเสียค่าสมัครก่อน ถ้าไม่ไปฟังบรรยายก็ต้องซื้อซีดีมาฟังที่บ้านแต่พูดไปพูดมาก็ต้องไปฟังอยู่ดียังไงเราก็ต้องลงทุน(เสียตังค์) เราก็ตอบไปว่าออกให้ก่อนดิ แล้วก็โอนเงินมาให้ก่อนสัก 50,000 ว่าจะนั่งเครื่องไปฟังบรรยาย จ่ายค่าเช่าห้อง ค่าอาหารการกิน และค่าเที่ยวอ่ะนะ แต่มันไม่ยอมรับข้อตกลงของเรา มันกะจะเอาของเราอย่างเดียว เราก็บอกไปว่าคงไม่นานหรอกเดี๋ยวหาคืนให้ เรากะจะทำงานแทนมันอ่ะ แต่มันก็ไม่ยอมอีก เราก็บอกว่าแค่นี้ทำเป็นงก ไหนบอกว่าได้เดือนละไม่ต่ำกว่าล้านเอาไปไหนหมด เอาไว้ซื้อโลงให้แม่คุณหรือไงครับ เท่านี้แหละแบตเตอร์รี่เราก็หมดพอดี อิอิ

[ตอบ #25 เมื่อ:]

เราก็โดนเหมือนกันแต่ไม่กล้าออกมาพูด อาย ที่โดนหลอก

[ตอบ #26 เมื่อ:]

ขอบคุณมากน่ะค่ะที่เล่าถึงรายละเอียดให้ได้รู้แบบชัดเจนอ่ะ
จิงๆแล้วเราอยากรู้มานานแล้วว่าที่ทำงานผ่านเน็ตเนี้ยได้เงินจริงป่าว เพราะมีอีเมลส่งมาเยอะมากๆอ่ะและไม่รู้ว่าคือเฮอร์เบอไลส์
เพราะที่จิงแล้วเราเคยไปมาแล้วทีตึกนั้นนะนัดให้ไปสัมภาพท์เพราะเพื่อนเรามันติดต่อแล้วมันชวนเราไปด้วยไปถึงก็เซ็นชื่อแล้วมีดาวให้ติดอย่างที่เล่านั้นแหละแล้วก็พูดอะไรมากมายแล้วตบมือสุดท้ายเพื่อนเราก็เสียเงินเพื่อไปงาน เมคมันนี่อ่ะไรนะ มีจัดแค่ครั้งเดียวหลังจากนี้ไปจัดที่ต่างประเทศ
ส่วนเราโชคดีหน่อยที่ยังไงก็ไม่โดยเด็ดขาดเพราะโดยปกติเป็นคนเมารถมากอย่างวันนั้นที่ไปเราก็อาเจียนจนหมดสภาพอ่ะ ก็เลยคิดว่าถ้าให้มาแบบนี้อีกคงไม่มาอ่ะ


ยังไงก็ต้องขอขอบคุณเจ้าของกระทู้มากๆเลยนะค่ะที่ทำให้ได้รู้อะไรที่มันชัดเจนมากขึ้นจริง

[ตอบ #27 เมื่อ:]

บางทีเค้าก็ไม่ได้มาหลอกเราหลอก งานเค้านะทำได้เงินจริง ๆ เหมือนของเอมสตาร์นะแต่ว่าราคาสินค้าเค้าค่อนข้างที่จะราคาสูงมาก ๆ แต่ว่าคนที่จะทำได้ ก็ต้องเป็นคนที่มีทุนหน่อยนะ และต้องชวนคนเก่งมากด้วย ตอนแรก ก็ทำเหมือนกันแต่ว่าเราก็ไม่รีบทำมากหลอก แต่เงินที่ได้มาก็ไม่มากเท่าที่ลงทุนไปหลอก ลงไปสัก 10,000 เนี่ยได้คืนมา ไม่ถึง 1000 เลยด้วยซ้ำ แต่ว่าเห็นผลที่ระยะยาว แต่ก็ต้องบอกว่า บริษัทเค้าดี แต่ว่าจะมาเสียที่คนมากกว่า แบบว่าแรก ๆ เราก็โดนแบบนั้นหละ บอกว่าไม่ต้องไปไหน ในที่สุด ทำงานยังดีกว่า แต่ว่าเราทำไปเรื่อยๆ นะ จะโทรมาหาเราก็บอกว่าไม่ว่าง เราทำในแบบวิธีของเรานะ ไม่ทำแบบต้องลงทุนมา ใช้วิธี ประชุมที่หน้าแคมฟอกเอานะ สำหรับคนที่มีคอมก็ประชุมได้ แต่ถ้าไม่มีก็เดินทางมาประชุมแบบนี้มากกว่า เอมสตาร์เราก็ลงทุนสมัครสมาชิก ครั้งแรกเลยนะ 300 บาท แล้วก็ต้องเป็นซุปนะ ใช้เงิน 3000 บาท แต่ว่าเราซื้อน้ำมันรำข้าว 4400 บาทจะได้ประมาณ 1000PV ก็ประมาณนี้ บางคนก็ซื้อ 3000 บาทก็มี แล้วก็รักษายอดเดือนละ 900กว่าบาท เราก็ซื้อประมาณ 300PV ซื้อ น้ำมันรำข้าว 1 ขวดราคา 750 บาทได้ 250 PV ยาสีฟันขนาด 160กรัม ราคา 180 บาท ได้ 60PV ออ ลืมบอกไปว่า แพคของน้ำมันรำข้าวมี8ขวด ราคา4400 บาท จะราคาถูกกว่าซื้อเป็นขวด 200 นะค่ะ เพราะว่าเอา 4400หารด้วย 8 ก็ได้ 550 บาท จร้า

ก็มาบอกกันนะ ทำอะไรมันก็มีการลงทุนแต่ว่าเราฟังแล้วอย่าลืมนะว่าธุรกิจเครือข่ายต้องฟังแล้วเอามาหาร 100หรือ1000หรือ10000 ด่วย ถ้าเราไม่ทำงานเราก็ไม่ได้อะไรเหมือนกัน มันขึ้นอยู่ที่ตัวเรามากกว่า อยากปรึกษาเรื่องธุรกิจก็ได้นะค่ะ วริศรา 080-7211335 สำหรับผู้ที่ต้องการทำแต่ว่าไม่อยากลงทุนมากไม่ต้องกักตุนสินค้า

[ตอบ #28 เมื่อ:]

พวกบริษัทเลวพวกนี้มันมีวิธีการหลอกล่อ ผมก็เป็นคนหนึ่งที่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ด้วยตนเอง เป็นบริษัทประกันมีชื่อว่า ..อลิ... มันมีคนที่เป็นหัวหน้าหน่วยที่จ.อุดร บอกว่า เป็นบริษัทร่วมทุนกับธนาคาร มีชื่อ ..ศรี...ทำงานเหมือนพนักงานแบงค์ทุกอย่าง แต่ไม่ได้ทำเกี่ยวกับการเงินแค่ขายผลิตภัณฑ์ของธนาคาร ตอนนั้นตกงาน ก็เลยสนใจ มีคนมาสมัครเยอะเหมือนกัน และวิธีการของมันต่อมาคือ ให้พวกผมที่สมัครไว้อุดร แล้วไปสอบสัมภาษณ์ที่กทม.เสียค่ารถตู้เอง แต่มันบอกจะมีเบี้ยเลี้ยงให้ ผมเลยลองไปดู พวกมันก็ให้เข้าไปที่ห้องประชุม บรรยากาศคล้ายกันกับเจ้าของกระทู้มาก ผมก็เริ่มสงสัยว่าคงโดนหลอกมาให้ขายประกันแหงๆ ซึ่งก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ เสียความรู้สึกมาก เสียทั้งเงิน เสียทั้งเวลา มันหลอกกันเป็นขบวนการ แต่ละคนมีตำแหน่งใหญ่โตในบริษัท ผมจำได้ว่าคุณคนที่เป็นหัวหน้าที่อุดร มันชื่อ เอก เป็นดี เจอยู่ที่อุดร มันหลอกคนที่ตกงาน คนที่จนตรอก ขออย่าให้มีใครตกเป็นเหยื่อพวกมันอีกเลย

[ตอบ #29 เมื่อ:]

โดนเหมือนกัน มันขายอารายของมัน มันก็ไม่บอก ให้เราไปฟังบรรยายเอง เราก็ยอมไป ต้องตื่นแต่เช้าไปฟัง ง่วงก็ง่วง นานก็นาน กลับก่อนก็ไม่ได้ มันตามประกบตลอด ก็ต้องหลวมตัวทนฟังมันขอบคุณ เฮอร์บาไลฟ์ที่ให้มันมีรายได้ คนนึงเป็นหมื่น ๆ แสน ๆ
สุดท้ายก็โดนไป พันกว่า ๆ แต่ได้เป็นสมาชิก และมีนมผงรสหวาน ๆ ที่ชงแล้วไม่ละลายมากิน เรากินไปโครตไม่อร่อยเลย แล้วจะไปหลอกขายใครได้วะ
ใครที่กำลังจะสนใจจะทำ เฮอร์บาไลฟ์อยู่ก็รู้ตัวไว้ว่า ระวังคุณกำลังจะมีมงกุฏไปอยู่บนหัว

[ตอบ #30 เมื่อ:]

ถึงทุกๆคนที่โดนหลอก ไม่นานหรอกครับพวกคนเลวกลุ่มต่างๆนี้ก็จะถูกกรรมตามสนองโดยที่ไม่รู้ตัวเช่น จนลงกระทันหัน ถูกโกงหรืออะไรสารพัด ตามที่พระพุทธเจ้าท่านสอนไว้ว่ากรรมชั่วไม่มีอะไรลบล้างได้ ภายในชีวิตที่พวกเขายังอยู่่ก็จะได้รับกรรมที่ทำเอาไว้กับคนอื่น ซึ่งอาจจะไม่เหมือนกับกรรมที่เขาเคยหลอกพวกคุณก็ได้แต่เป็นกรรมสนองในรูปแบบอื่นๆ

[ตอบ #31 เมื่อ:]

พวกนี้มันมีวิธีพูดโน้มน้าว
เรา ถ้าโทรมาเรียกสัมภาษณ์ แล้วน้ำเสียงอยากให้ไปมากๆ
เราจะไม่ไปเลย

[ตอบ #32 เมื่อ:]

ขอบคุณมากค่ะ ที่ให้ข้อมูลที่มีประโยชน์ และไม่ให้คนอื่นต้องตกเป็นเหยื่อ ขอบคุณมากจริงๆ ค่ะ ขอให้คุณได้รับแต่ความสุขความเจริญ ยิ่งๆ ขึ้นไป กำลังจะไปสมัครอยู่พอดี

[ตอบ #33 เมื่อ:]

ตอนปี 2 (หลายปีที่แล้ว)เคยไปฟังคุณ เฮอ.....นี่แหละ ฟังไปครึ่งชั่วโมงไม่ชอบใจเลยเดินออก คนที่หน้าประตุบอกว่าเราโง่ เงินมากองตรงหน้ายังไม่คว้าไว้ เราเลยบอกว่า ที่ทนฟังพวกคุณนาน ครึ่งชั่วโมงเนี่ยก็ดีแล้วน๊ะ ยังจะมาว่าอีก มันบอกว่าเราเรียนไปก็เงินได้เงินเดือนนิดเดียวเอง ทำงานดีกว่า
แถมเป็นผู้หญิงอีกจะได้เดือนละกี่บาทกันเชียว แต่มันก็พูดถูกของมัน เราจบวิศวะไฟฟ้า เงินเดือน 40,000 ตอนนี้อายุก็ 30ปีแล้ว พวกมันได้ตั้งเดือนละ
เป็น แสน คุณพวกชิงแมงกุ๊ดจี่เกิดเนี่ย คุณ P&S ก็เหมือนกันทำซื่อเสียงของบริษัทประกันเขาเสียหมดเลย ทุกคนเลยเหมารวมกันหมดเลย ที่เขาดี ๆ มี ไม่ชวนทำ ดันมาชวนทำคุณที่เสียความรู้สึกดี ลองคิดดูน๊ะถ้าพวกมันเรียนสูงกว่าที่เป็นอยู่พวกมันก็ไม่ทำเหมือนเรานี่แหละที่ตาสว่างขึ้นทุกวัน ทุกวัน ยังมีหน้ามาว่าเราโง่อีก ฉลาดกันตายล่ะคุณ พวกลา หลังเขา

[ตอบ #34 เมื่อ:]

น่าสงสารทุกคนที่ต้องตกเป็นเหยื่อ ทางที่ดีที่สุดก็คือ ทำงานในหน้าที่ๆมีอยู่ให้ดีที่สุด ไม่ต้องไปหวังที่จะรวยทางลัดหรือการที่จะได้เงินมาโดยที่
เราไม่ได้ลงทุน เป็นไปได้ยากมากจริงๆ ระยะนี้มีคนที่ดิฉันไม่เคยรู้จักส่งเมล์มาเชิญชวนบ่อยมากและหลายคนมาก จนดิฉันสงสัยว่าเขาเหล่านั้น
ได้อีเมล์แอดเดรสของดิฉันมาจากไหน ดิฉันไม่สนใจที่จะเปิดอ่าน ทันทีที่เห็นว่ามาจากคนที่ดิฉันไม่เคยรู้จักดิฉันจะลบทิ้งทันที อย่าน้อยก็ป้องกัน
ไวรัสที่มากับเมล์ได้ด้วย...พยามยามนึกถึงคำสอนของพ่อหลวงเข้าไว้ว่า อยู่อย่างพอเพียง จะได้เป็นการเตือนสติตัวเอง
ไปในตัว และจะได้ไม่ต้องตกเป็นเหยื่อของทุกๆขบวนการ

[ตอบ #35 เมื่อ:]

ไม่มีใครให้เราร่ำรวยได้ โดยที่ไม่ต้องการอะไรจากเรา

[ตอบ #36 เมื่อ:]

เราก็ไปนะ เสียแค่ค่าสมัคร เถียงมันว่าจะมาหารายได้พิเศษนะวะ ถ้ามีเงินจะมาสมัครทำไม คุณพวกแปดเหลี่ยมสิบสองคม ดันมาเจอ เดี้ยน ณ กลมกิ๊ก

[ตอบ #37 เมื่อ:]

คุณ วริศรา อะไรกันค่ะ
งง จะโชว์อะไรเอ๋ยยยย

[ตอบ #38 เมื่อ:]

จำไว้อย่างเดียว ... จะมีใครมาให้เราง่ายๆ ฟรีๆ เพราะเงื่อนไขมันจะตามมาทีหลัง

[ตอบ #39 เมื่อ:]

เราเป็นซุป เจอไป แสนสี่เหมือนกัน เอาไปคืน ได้มาสามหมื่น เพื่อนเกือบโดน ดีว่าห้ามทัน ประเทสไทยมันอ่อนแอ โดนหรั่งหลอก มาเลไม่ให้เข้านะรกิจนี้ ระวังตัวกันดีๆนะประชาชน

[ตอบ #40 เมื่อ:]

ดิฉันก็เคยโดนตื๊อเหมือนกัน เขาบอกว่าเราทำงานบริษัท อึดอัดจะตาย ไม่อิสระเหมือนเขา เข้างาน 8 โมงเลิก 5 โมงเย็น ไปไหนก็ไม่ได้ ไม่เหมือนเขา ขณะเราทำงาน เขาไปเที่ยว เขาบอกว่าเขาอยู่เฉยๆ ก็ได้เงินแล้วเดือนละเป็นหมื่น ดิฉันก็เลยบอกว่า(ไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ หรอกทุกคนทำงานเหมือนกันหมด คุณเอง เที่ยวตอนกลางวันทำงานตอนกลางคืน แล้วถ้าคุณไม่หาสมาชิกให้เขาคุณก็ไม่ได้เงินเดือนหรอก) เขาก็เดือดร้อนหาว่าดิฉันว่าเขามารบกวน ดิฉันก็บอกว่าเล่าให้ฟังเพราะไม่มีใครได้อะไรมาโดยไม่ทำงานหรอก ทุกคนทำงานเหมือนกัน แต่ต่างเวลาเท่านั้น ดิฉันไม่มีความสามารถหาสมาชิกให้เขาได้หรอกดิฉันไม่ทำหรอก ก็บอกเขาไปแบบนั้นเลย ขณะนั้นพนักงานบริษัทคนนึงที่มากับเขาคิดจะลาออกจากงานไปทำงานแบบเขา พอเจอดิฉันพูดเข้ากลับไปก็เลยไม่ลาออก มันแล้วแต่พรสวรรค์ของคน แต่ละคนไม่เหมือนกัน

[ตอบ #41 เมื่อ:]

เคยโดนเหมือนกันค่ะ อยู่ต่างจังหวัด อยากมีรายได้เสริม เสียค่ารถ กับเงินอีก 500 เพื่อให้ไปฟังรายละเอียดการทำงานแบบเจาะลึก แต่ไม่ได้ไป คิดว่าเสียค่าโง่ให้เค้าไปค่ะ อโหสิกรรม

[ตอบ #42 เมื่อ:]

เคยเกือบโดนเหมือนกันค่ะ แต่พอดีปรึกษาที่บ้านและเพื่อน ๆ ซะก่อน มีความเห็นว่าไม่ควรไปฟังการบรรยายของคนกลุ่มนี้เพราะอาจเป็นบริษัทที่หลอกลวงได้ โชคดีจริง ๆ ขอขอบคุณเจ้าของกระทู้นะคะที่บรรยายได้ละเอียดดีเยี่ยมจริง ๆ ค่ะ กรรมใดใครก่อ คนนั้นก็คงจะได้รับกรรมเข้าสักวัน สาธุ...

[ตอบ #43 เมื่อ:]

เคยโดนแฟนเก่าหลอกให้สมัครเหมือนกัน เป็นบริษัทขายเครื่องประดับ ( เก๊ ) แถว ๆ สะพานควาย ตึกพหลโยธินเพลส ด้วยความที่ไว้ใจแฟน และเห็นว่าตัวแฟนเองก็ลงทุนไปเกือบแสนเหมือนกัน ตัวเราตอนนั้น ก็เลยเสียเงินไป 40,000 กว่าบาท กับธุรกิจเฮงซวยประเภทนี้ แถมเครื่องประดับที่ได้มาเอาไปขายก็
ได้มาไม่กี่พันบาท ก็เสียค่าโง่กันไปทั้งคู่ นึกแล้วน่าเจ็บใจ แม้เวลาจะผ่านมานาน 7-8 ปี แล้วก็ตาม ( ใช้เวลาเก็บเป็นปี แต่หมดเกลี้ยงในพริบตา ) อยากบอก
ทุกคนไว้ว่า อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจคนเด็ดขาด เดี๋ยวนี้ธุรกิจเครือข่ายนรกแบบนี้มีเยอะมาก ๆ ส่วนใหญ่จะชอบหลอกนักศึกษาจบใหม่ เพราะคิดว่าเอาความอยากได้งานรายได้ดีมาเป็นตัวล่อ !!!

[ตอบ #44 เมื่อ:]

อ่านแล้วเศร้า อยากร้องไห้ให้กับโลกใบนี้ที่มีคนเลวเยอะกว่าคนดี
หลอกลวงกันได้ สร้างความหวังให้กับผู้ที่สิ้นหนทางกับเศรษฐกิจ
ความเมตตาธรรมหายไปไหนหมด ศีลธรรมจรรยา หายไปไหนหมด
ทำไมต้องใช้วิธีเหยียบย่ำซ้ำเติมกัน ทั้งๆภาวะเศรษฐกิจก็แย่สุดๆแล้ว

ต้องขอขอบพระคุณ ผู้ที่มาเตือนมาเล่าให้เป็นวิทยาทาน
พวกเราจะได้ไม่ต้องตกเป็นเหยื่อพวกผีดูดเลือด
ขอบคุณสำหรับคำเตื่อนว่า ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ
อยากได้เงินก็ต้องทำงานอาชีพสุจริต
ไม่ใช่หวังลาภลอยลมๆแล้งๆ หรือใช้วิธีเลวทรามหลอกลวงผู้อื่น
อย่างนี้ไม่ต่างกับการฆ่าคนเลย

ขอบคุณทุกท่านนะคะ ขอให้พวกท่านที่มาช่วยเตือนเรา เจริญยิ่งๆขึ้นไป

ขอบคุณจากหัวใจจริง

[ไอค่อนข้อความ:]

	ปรากฎข้อผิดพลาดตังต่อไปนี้ขณะส่งข้อความนี้:
	คำเตือน: ความคิดเห็นนี้ถูกล็อกไว้! เฉพาะผู้ดูแลเท่านั้นที่ตอบได้
ชื่อ:
	แชร์ไป Facebook ด้วย
กระทู้:
ไอค่อนข้อความ:	ไอค่อนขณะนี้ กระทู้ทั่วไปเหมาะสำหรับผู้ชมทุกวัย กระทู้สำหรับเด็กก่อนวัยเรียน กระทู้สำหรับเด็ก กระทู้ที่ผู้ใหญ่ควรให้คำแนะนำ กระทู้ที่ผู้ใหญ่ควรให้คำแนะนำแก่ผู้อ่านที่มีอายุน้อยกว่า 13 ปี กระทู้ที่ผู้ใหญ่ควรให้คำแนะนำแก่ผู้อ่านที่มีอายุน้อยกว่า 18 ปี กระทู้เฉพาะไม่เหมาะกับเด็กและเยาวชน
	ตัวหนาตัวเอียงตัวขีดเส้นใต้จัดย่อหน้าชิดซ้ายจัดย่อหน้ากึ่งกลางจัดย่อหน้าชิดขวา ขนาดตัวอักษร เล็กมาก เล็ก ปกติ ใหญ่ ใหญ่มาก เปลี่ยนสี สีดำ/ขาว สีแดง สีเหลือง สีชมพู สีเขียว สีส้ม สีม่วง สีนํ้าเงิน/ฟ้า สีเทา สีน้ำตาล สีเขียวฟ้า สีกรมท่า สีเลือดนก สีเหลืองอมเขียว
	[เพิ่มเติม]
	กลับไปกระทู้นี้ หลังจากการตั้งความคิดเห็น ไม่ใช้สัญลักษณ์แสดงอารมณ์
แนบไฟล์:	(แนบไฟล์เพิ่ม) ไฟล์ที่อนุญาต: gif, jpg, jpeg ขนาดไฟล์สูงสุดที่อนุญาต 20000000 KB : 4 ไฟล์ : ต่อความคิดเห็น
ติดตามกระทู้นี้ :	ส่งไปที่อีเมลของสมาชิกสนุก
	ส่งไปที่
พิมพ์อักษรตามภาพ: