Sanook.commenu

ค้นหา ตรวจหวย ข่าว อีเมล์ ดูทีวีออนไลน์ ฟังเพลงออนไลน์ คลาสสิฟายด์ ริงโทน เกมส์ ดูทั้งหมด »

หน้า: 1 2 3 4 5 6 7
ชนิดกระทู้ ผู้เขียน กระทู้: >>> Avartar .... หนังที่ห่างไกลกับคำว่า สมบูรณ์แบบ !! <<<  (อ่าน 19327 ครั้ง)
Guest
คนคนหนึ่ง
เรทกระทู้
« ตอบ #90 เมื่อ: 9 มี.ค. 10, 19:38 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
Send E-mail

แบ่งปันกระทู้นี้ให้เพื่อนคุณอ่านไหมคะ?

ปิดปิด
 

37 คิดได้แค่เนี๊ย!! อายเด็กประถมว่ะ

เพราะมีคนแก่ๆในสังคมแบบนี้ บ้านเมืองถึงไม่เจริญ บ้าป่าว?

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
อวต้าน
เรทกระทู้
« ตอบ #91 เมื่อ: 9 มี.ค. 10, 22:21 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

q*002 โดนด่ายาวๆ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
**--**
เรทกระทู้
« ตอบ #92 เมื่อ: 10 มี.ค. 10, 15:17 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ทำตัวขวางโลก
ทำได้อย่างเค้าป่ะ มาวิจารเค้าอ่ะ
โง่ อยู่ดีดีก็มาวิจาร หั้ยตัวเองโดนด่า สมน้ำหน้าอ่ะ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #93 เมื่อ: 10 มี.ค. 10, 19:45 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

บางความเห็นในกระทู้นี้ แสดงความคิดได้น่าสนใจดีครับ

คงไม่มีทหารที่ไหนยิงพวกตัวเองหรอก เพราะเป็นเชื่อชาติเดียวกัน หากเรายกมาว่าคุนเป็นทหาร
ผมก็เป็นทหาร อยู่ค่ายเดวกัน แต่คุนเลวสุดขั้ว มั่วทรยศ คิดดูสิ ผมจะยิ่งคุนไหม แล้วถ้ายิ่งคนที่คุนรังแกอยู่
สมมุติ เป็นแม่หรือพ่อคุนอะแล้วคุนจะยิงเขาลงไหม จะให้เขาถูกฆ่า เพราะหมาอย่างคุนหรอ

ใครทรยศ ใครรังแกใครอ่านแล้วเกือบจะเข้าใจแต่งงๆ คุณเป็นทหาร พบว่า เพื่อนร่วมงานของคุณเลวมาก เผ่าพันธ์ของคุณไปรังแกเผ่าพันธ์เพื่อนบ้าน คุณจะกล้าหยิบอาวุธขึ้นมาเข่นฆ่า พ่อคุณ แม่คุณ ทีนับถือศาสนาเดียวกับคุณ นับถือผู้นำคนเดียวกับคุณ แน่แท้จริงหรือ คิดดีๆก่อนตอบออกมาครับ

ส่วนประเด็นสงครามกลางเมือง ไม่ทราบว่าศึกษาละเอียดแน่แล้วหรือเปล่า จริงๆมันเป็นเรื่องการเมืองล้วนๆครับ
ดีนะ ไม่ยกประเด็นเสื้อเหลือง เสื้อแดง ในบางประเทศขึ้นมาถกกันว่าฝ่ายใหนเป็นฮีโร่ ( ฮา )

ฮีโร่ ที่สู้เพื่อความถูกต้องแล้วชนะ .... ไม่มีหรอกครับ คนที่ชนะ คือคนที่เขียนประวัติศาสตร์ครับ

กระทู้นี้ เขียนวิจารณ์โดยมุมมองของผมครับ ไม่ได้บอกว่า ที่ผมคิดถูกต้องที่สุด ไม่ได้ต่อว่าว่าคนที่คิดไม่เหมือน เป็นคนเลว ชั่วช้า แต่นำเสนอความคิดเห็นปัจเจกของประชาชนคนหนึ่ง กรุณาเคารพความเห็นที่แตกต่างด้วยละกันเนอะ

และกรรมการออสการ์ ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นกันแล้วว่า หนังเรื่องนี้ มันไม่ได้มีดีเด่อะไรเลย แค่ได้ชิงออสการ์ก็มากเกินไปแล้ว
คงหายข้องใจกันแล้วสินะครับ ไม่ต้องบอกอีกนะครับ ว่านี่คือสุดยอดหนังของปี หรืออะไร อายเค้าครับ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
อ่านมาตั้งนาน
เรทกระทู้
« ตอบ #94 เมื่อ: 10 มี.ค. 10, 21:41 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

*** กรรมการออสการ์ ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นกันแล้วว่า หนังเรื่องนี้ มันไม่ได้มีดีเด่อะไรเลย แค่ได้ชิงออสการ์ก็มากเกินไปแล้ว
คงหายข้องใจกันแล้วสินะครับ ไม่ต้องบอกอีกนะครับ ว่านี่คือสุดยอดหนังของปี หรืออะไร อายเค้าครับ ***

อ่านถึงตรงนี้ ไม่แปลกใจเลยที่คนส่วนมากรุมด่าคุณซะขนาดนั้น คุณอคติและจิตใจคับแคบมาก หนังทุกเรื่องที่ได้เข้าชิงออสการ์คือหนังที่คัดเลือกมาแล้วว่ามีดีมากพอค่ะ ส่วนเรื่องไหนจะตรงใจกรรมการที่สุด หรือ เรื่องไหนจะตรงใจหหาชนที่สุด ก็ว่ากันไป แต่ไม่ใช่อย่างที่คุณสรุปเข้าข้างตัวเองแน่

คุณเรียกร้องให้ เคารพความเห็นที่แตกต่าง แต่คำพูดที่คล้ายจะสุภาพของคุณกลับเสียดสีและหยามหมิ่นคนที่ชื่นชอบอวตารตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ก็ไม่เปลี่ยน นี่ไม่ใช่แค่ความเห็นที่แตกต่างหรอกค่ะ แต่เป็นการแสดงความเห็นที่อัปลักษณ์มาก

ฉันก็อายุเท่าคุณ เห็นโดนเด็กด่าแล้วอายแทน

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
อายอะไรกัน
เรทกระทู้
« ตอบ #95 เมื่อ: 10 มี.ค. 10, 22:16 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

แหมไม่เห็นจะต้องอายอะไรเลย ก็ มันเป็นหนังที่ดีที่สุดจริงๆน่ะครับในปี2009
ในความเห็นของผม น่ะ
ออสก้าไม่ใช่สถาบันเดียวที่จะ การันตี คุณภาพหนังครับ

หนังที่ชนะได้ออสก้า หลายต่อหลายเรื่องเลย ที่ดูแล้วน่าเบื่อชวนให้หลับ

แล้วหนัง Avatar เค้าก็ได้ รางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมลูกโลกทองคำ แล้วนิครับ
สถาบันนี้ก็มีมานานแล้ว ความน่าเชื่อถือก็ไม่ได้เป็นรองออสก้า หรอกครับ

หนังที่ได้รางวัลลูกโลกทองคำภาพยนตร์ยอดเยี่ยมในอดีตที่ผ่านมาในบางปี
ผมว่า ดีกว่า หนังออสก้า ด้วยซ้ำไป
อย่างเช่น Sweeney tood ของทิม เบอร์ตัน คลาสสิก จริงๆดูแล้วดูอีกได้หลายรอบชอบจริงๆ

สำหรับปีนี้ ระหว่างสถาบันออสก้า กับ ลูกโลกทองคำ ของใครเหนือกว่ากัน

ผมให้มหาชนทั่วโลกตัดสินครับ รายได้ Avatar ตอนนี้แตะที่ 2600 ล้านเหรียญไปแล้ว
อายอะไรกัน หุๆ เผลอๆอาจทะลุไปที่ 3000 ล้านเหรียญก็ไม่แน่ ฉายเรื่องเดียวเก็บเงินได้เป็นแสนล้านบาท
น่าภูมิใจกับเค้ามากกว่าครับบบบบบบบบบบบบบบบบบบ จริงๆน่ะ

ปล. ในความเห็นของ ผมน่ะ





noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
คนรักอวต้า
เรทกระทู้
« ตอบ #96 เมื่อ: 10 มี.ค. 10, 22:49 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

กรรมการออสการ์แค่ 3000 กว่าคน เป็นคนส่วนน้อยมากฮะ
เผื่อคุณยังไม่รู้ ไม่เคยมีหนังไซไฟเรื่องไหนได้ best picture
ถ้าโหวตกันจริงๆ กรรมการขี้ประติ๋วแค่นั้น จะสู้มหาชนเป็นล้านๆ ที่รักเรื่องนี้ได้มั้ย
อย่างเรื่อง the lord of the ring ที่ หลายๆ คนคงยกให้เป็นหนัง top list ในดวงใจ
ภาค 1 ได้ ออสการ์ 4 ตัว
ภาค 2 ได้เพียง 2 ตัว
ซึ่งทั้งสองภาคไม่ได้ทั้งสาขา best picture และ best directure นะฮะ
ส่วนคุณเรื่องอื่นที่เข้าชิงในปีเดียวกันนั้นน่ะ ถามว่าคนส่วนใหญ่จำชื่อได้มั้ย ตอบว่าไม่
แถมยังบอกว่าเป็นหนังเกรด B อีกต่างหาก หุหุ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
สงสัยจังอ่า
เรทกระทู้
« ตอบ #97 เมื่อ: 11 มี.ค. 10, 00:22 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

เจ้าของกระทู้ ตอนเด็กๆกินอาหารได้รับสารอาหารวิตามินต่างๆครบปาว งิ
สงสัยจังอ่า เพราะหนังที่ได้รับการเสนอชื่อให้เข้าชิงรางวัล ออสการ์

ล้วนแล้วแต่จะต้องเป็นหนังที่ดีมีคุณภาพโดดเด่นจริงๆ ในปีนั้นๆ
จึงจะได้รับการคัดเลือกเสนอชื่อให้เข้าชิงรางวัลในสาขาต่างๆ

ดังนั้นการได้รับการเสนอชื่อจึงเป็นการได้รับการ การันตีแล้วว่า
เป็นหนังที่ดีมีคุณภาพในปีนั้นๆ

หนังอย่าง Angels and Demons หรือ 2012 ยังไม่ได้รับการ
เสนอชื่อเลย



noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
เหนื่อยใจครับ
เรทกระทู้
« ตอบ #98 เมื่อ: 11 มี.ค. 10, 11:07 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

จขกท.เขาจะพูดประมาณว่า เรื่องอวตารเนี้ย เขาอยากให้เจค ซัลลี่ หันหลังให้ชาวนาวีครับ เพื่อความสมจริง
ดังนั้น เนื้อเรื่องจะเป็นแบบนี้...
-หมู่บ้านของชาวนาวีโดนถล่ม ตายเรียบหมด
-เจคได้แต่นั่งอยู่บนรถเข็นมองร่างอวตารที่อยู่ถัดจากเขา อย่างช่วยไม่ได้เพราะความขี้ขลาดกลัวตาย
-จนกระทั่งผ่านไปหลายปี แพนโดร่าก็ถูกทำลายไปเพราะระเบิดนิวเคลียร์
-ชาวนาวีที่เหลือถูกจับกลับมาที่โลกเพื่อใช้เป็นแรงงานทาส โดนกดขี่ข่มเหงสารพัด

-ไม่มีใครทำอะไรเลย มีแต่คนอยู่นิ่ง มองคนที่โดนกดขี่ข่มเหงอย่างทารุนอยู่ห่างๆ

จบบริบูรณ์

(ผู้ชมที่อยู่ในโรงหนังมองหน้ากันอย่างงงๆ เมื่อหนังจบด้วยเพลงอันเศร้า พร้อมที่จะมีใครสักคนฆ่าตัวตาย-
และต่างลงความเห็นว่า ข้าจะหยุดงานหลีกหนีชีวิตจำเจ เพราะแค่นี้ โลกเราก็มีหนังอินดี้ หนังหดหู่มากมายอยู่แล้ว
ผู้ชมมาดูหนังสนุกๆ ไม่ใช่หดหู่เยี่ยงนี้ ทำไมๆๆ ผู้กำกับทำแบบนี้)

จากนั้นไม่นาน อวตารก็กวาดออสการ์ไปทุกสาขา
ทว่า อนิจจา... คนดูไม่ปลื้มเอาเสียเลย หนังบ้าอะไรวะ ห่วยก็ห่วย ไร้ซึ่งความบันเทิง ได้ออสการ์มาได้ไง

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
ไม่เลิก
เรทกระทู้
« ตอบ #99 เมื่อ: 11 มี.ค. 10, 18:20 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ฮีโร่ ที่สู้เพื่อความถูกต้องแล้วชนะ .... ไม่มีหรอกครับ คนที่ชนะ คือคนที่เขียนประวัติศาสตร์ครับ
------------
แน่ใจหรือครับ เจ้าของกระทู้เกิดทันใช่มั้ยครับ อ๋อ มิน่าล่ะ ท่าทางดูหนังมาเยอะ สงสัยอยู่มาเป็นร้อยปีแล้ว

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
คนมีสาระ
เรทกระทู้
« ตอบ #100 เมื่อ: 11 มี.ค. 10, 20:59 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

เสียเวลามาอ่านตั้งนานอ่ะนะ อายุตั้ง 37 ปีแล้วแก่ก็แก่ วิจารณ์อย่างอคติ หาความมีสาระไม่ได้

หนังก็คือหนัง ถ้าคุณอยากดูหนังที่เลิศเลอเพอร์เฟคละก็นะ ไปสร้างเองเลยป่ะ

ผมคิดว่านะ คนอย่างคุณไปดูหนังฟอร์มยักษ์ไม่ได้หรอก

อย่างคุณน่าจะซื้อ VCD สารคดีสัตว์โลกไปนั่งดูน่าจะเหมาะกว่านะ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
พับผ่า ซิ
เรทกระทู้
« ตอบ #101 เมื่อ: 11 มี.ค. 10, 23:19 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

แหล่งข้อมูลของผมเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของ อเมริกาที่เลิกทาสแล้วเกิดสงครามกลางเมือง
แหล่งที่มาก็มีความหลากหลายครับ เพราะประวัติศาสตร์ของอเมริกาส่วนใหญ่เป็นที่รับรู้ในวงกว้าง
ไปทั่วโลก ไม่ได้เป็นความลับอะไร เพราะอเมริกาเป็นประเทศมหาอำนาจที่ใหญ่โต
เรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของอเมริกาจึงได้รับความสนใจแพร่หลายไปทั่วโลก

แหล่งแรกก็ประวัติศาตร์ของประเทศไทย สมัย รัชกาลที่ 5
ก็ได้มีกล่าวพาดพิงถึงว่า รัชกาลที่ 5 ทรงมีพระปรีชาสามารถ
ทรงวางแผนเลิกทาสได้สำเร็จ โดยปราศจากความรุนแรง

โดยได้นำไปเปรียบเทียบกับอเมริกา ว่าของประเทศเค้านั้น ประกาศเลิกทาส
แล้วทำให้เกิดสงครามกลางเมือง ผู้คนสู้รบตายกันมากมาย

หรือ คุณเจ้าของกระทู้ จะแย้งว่า ตำราประวัติศาสตร์ของไทย โกหกบิดเบือน
ข้อเท็จจริงทางประวัติศาตร์อย่างนั้นหรือ

แหล่งต่อมา ก็ ตำราเรียนประวัติศาสตร์อเมริกา ระดับปริญญาตรี ก็มีเอ่ยถึงอยู่

สารคดีพระราชประวัติของรัชกาลที่ 5 ที่ออกอากาศตาม ทีวีช่องต่างๆ ก็มีพาดพิงถึง
อยู่บ่อยๆ เกี่ยวกับการเลิกทาสในสมัยรัชกาลที่ 5 แล้วนำไปเปรียบเทียบกับ
ของประเทศสหรัฐอเมริกา

สารคดีประวัติศาสตร์อเมริกา เกี่ยวกับยุคสมัยที่ยังมีระบบทาสก็มีออกอากาศ
ตามทีวีช่องต่างๆ บ้างเหมือนกัน

หนังฝรั่งหลายเรื่องเหมือนกันที่กล่าวถึงเรื่องราวการต่อสู้ของคนในประเทศ
สหรัฐอเมริกาในสมัยที่ยังมี ระบบทาส

ก็ไม่ทราบว่าข้อมูลของคุณเจ้าของกระทู้ที่แย้งมาว่า เป็นเรื่องการเมืองล้วนๆน่ะ
แล้วกล่าวว่าหาถูกแต่งเรื่องโกหกบิดเบือนโดย ผู้ที่เขียนประวัติศาสตร์ น่ะ

ได้ข้อมูลมาจากใหนครับ เอกสารตำราอะไร หวังว่าคงไม่ได้มั่วนิ่มดำน้ำเอาเอง
น่ะครับ

แต่ถึงจะมีเอกสารตำราอย่างที่ว่านั้นจริง ผมก็โต้แย้งได้อีกเช่นกันว่า มันอาจถูก
แต่งเรื่องโกหกบิดเบือน ได้ โดยนักประวัติศาสตร์เช่นกัน เอิ๊กอ๊ากกก

ผมว่า คงต้องนั่งไทม์แมชชีนเจาะเวลาย้อนอดีตกลับไปดูกันแล้วมั้งครับ งานนี้ หุๆ
จึงจะระบุได้ชัดเจนแน่นอน 100 เปอร์เซ็น ซึ่งก็คงจะเวอร์ไป

ผมว่าใช้เหตุผลวิเคราะห์ดู ก็พอมองเห็นคำตอบได้ไม่ยาก ว่า อเมริกา
เลิกทาสแล้วทำให้เกิดสงครามกลางเมืองนี้จริง หรือ ถูกบิดเบือนโดยคนเขียน
ประวัติศาสตร์กันแน่

ตามความเห็นผม ประวัติศาสตร์สามารถถูกบิดเบือนได้โดยคนเขียนมีส่วนจริง
แต่ไม่ทุกกรณี ไม่สามารถทำได้ง่ายๆ ได้แค่บางเหตุการณ์เท่านั้น

ในกรณีเลิกทาสแล้วเกิดสงครามกลางเมือง
ผมว่ามันไม่มีเหตุผลอะไรที่ผู้เขียนประวัติศาสตร์จะแต่งเรื่องโกหก
ที่สร้างความอับอายเสื่อมเสียแก่ประเทศของเค้า ครับ
เลิกทาสแล้วทำให้เกิดสงครามกลางเมือง ผู้คนสู้รบฆ่ากันตายมันเป็นความ
อับอายขายหน้าของประเทศ ไม่มีเหตุผลที่จะมาแต่งเรื่องเช่นนี้

ถ้าจะบิดเบือนแต่งเรื่องโกหก ก็ น่าจะเขียนประวัติศาสตร์ไปเลยว่า
อเมริกา สามารถเลิกทาสได้โดยสงบไม่มีความรุนแรง ไม่ดีกว่าเหรอ
เป็นการสร้างภาพพจน์ที่ดีให้แก่ประเทศ

ผมคิดว่าถ้าสามารถทำได้ เค้าคงเขียนบิดเบือนไปแล้วปกปิดความจริงไว้

แต่อย่างที่ได้กล่าวมาแล้ว การจะแต่งเรื่องโกหกบิดเบือนประวัติศาสตร์
ไม่ใช่ทำได้ง่ายๆ ได้แค่บางกรณีเท่านั้น

กรณีเลิกทาสแล้วทำให้เกิดสงครามกลางเมืองของอเมริกา
มันเป็นเรื่องราวใหญ่โต สงครามยืดเยื้อยาวนานไม่ได้จบในวันเดียว
ผู้คนภายในประเทศ สู้รบฆ่ากันตาย เป็นหมื่นเป็นแสน

นานาประเทศ เค้ารับรู้กันไปทั่วโลกครับ งามหน้ามั๊ยล่ะ

มันเหมือนช้างตายทั้งตัวเอาใบบัวไปปิด ยังไงก็ไม่มิด ครับ
ดังนั้น เหตุการณ์เลิกทาสแล้วทำให้เกิดสงครามกลางเมือง
ของอเมริกา ผมคิดว่าเป็นเรื่องจริงครับ

ส่วนที่คุณว่ามีการเมืองมาเกี่ยวข้องนั้น ผมเห็นด้วยแต่ไม่ทั้งหมด

ถ้าการประกาศเลิกทาส จะมีเหตุผลทางการเมืองหนุนหลังอยู่
อย่างเช่น ฝ่ายที่ชนะ ก็คงได้รับคะแนนเสียงเลือกตั้งจากคนผิวดำ
ทั่วประเทศแน่ เพราะทำให้พวกเค้ามีสิทธิเสรีภาพเท่าเทียมคนผิวขาว

แต่ผมเห็นว่าถึงมีการเมืองมาเกี่ยวข้อง ก็ไม่เห็นเสียหายอะไรนี่ครับ
เพราะยังไง คนพื้นเมืองผิวดำ เค้าก็ได้รับประโยชน์อยู่ นี่นา

และฝ่ายที่ชนะ ได้รับคะแนนเสียงจากคนผิวดำเค้าก็ต้องดูแล
พิทักษ์ สิทธิต่างๆของคนผิวดำต่อไปถ้าต้องการได้รับคะแนนเสียง
อย่างถาวรมั่นคง ดูแล้วคนพื้นเมืองผิวดำยังไงก็ มีแต่ได้ครับ

พระเอก Avatar ผมก็มองว่าไม่ได้ต่อสู้เพื่อความถูกต้องล้วนๆครับ

แต่ก็ทำเพื่อตัวเองด้วยเช่นกัน เพราะเค้าอยู่แพนโดร่าเค้ามีความสุข
นิครับ ได้มีขาครบ ได้มีแฟน มีสังคมที่สวยงามได้ขี่สัตว์ประหลาด
เหาะได้ บินไปสนุกสนาน เป็นผม ผมก็ตัดสินใจแบบพระเอกครับ

ระบบทาสที่เลวร้าย เคยมีในประเทศสหรัฐอเมริกา เคยมีในประเทศไทย

ปัจจุบันนี้ ไม่มีแล้ว ถูกยกเลิกไปแล้ว มันคงไม่ได้สูญสลายไปเอง
แต่ต้องมีผู้นำในการล้มล้างยกเลิกครับ จะมีการเมืองมาเกี่ยวข้องหรือไม่

ไม่สำคัญเพราะ ผู้ที่ถูกจับเป็นทาสได้รับประโยชน์กันทั่วหน้าครับ

ดังนั้นผู้นำการล้มล้างระบบทาส ใน ยุคสมัยนั้นเป็นฮีโร่พิทักษ์ความถูกต้อง
ที่ประสบความสำเร็จได้รับชัยชนะไปเรียบร้อยแล้วครับ




noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
พับซิ ภาค2
เรทกระทู้
« ตอบ #102 เมื่อ: 12 มี.ค. 10, 00:11 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

เสริมอีกเล็กน้อย ผมลองค้นดูใน google ข้อมูล เลิกทาสในอเมริกา
ข้อมูลเพียบเลยครับ บานนนนนนนนเบอะ
เชิญเจ้าของกระทู้ไปหาอ่านได้ครับที่ google
อเมริกาฝ่ายเหนือ ผู้นำในการล้มล้างระบบทาส
สู้รบกันกับฝ่ายใต้ ต่อมาฝ่ายเหนือได้รับชัยชนะ
นำไปสู่การเลิกทาสไปทั่วสหรัฐอเมริกา

ถึงจะมีการเมืองมาเกี่ยวข้องบ้าง แต่คนพื้นเมืองผิวดำได้รับประโยชน์
กันทั่วหน้าครับ
หาคำตอบได้แล้ว ฉับไวที่ google น๊ะจ๊ะ




noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
อับบราฮัม ลินคอล์น
เรทกระทู้
« ตอบ #103 เมื่อ: 12 มี.ค. 10, 02:34 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ประธานาธิบดี ฮัมบราฮัม ลินคอลน์ คือผู้นำกองทัพอเมริกาฝ่ายเหนือ
ในการทำสงครามกลางเมืองล้มล้างระบบทาส ครับ

ข้อความบางส่วนจาก google

อับราฮัม ลินคอล์น ถือได้ว่าเป็นต้นแบบของการเลิกทาสของโลกนำไปสู่การสร้างความเสมอภาคและเท่าเทียมกันในหมู่มวลมนุษยชาติไปทั่วโลกในเวลาต่อมา และยังทำให้สิทธิเสรีภาพของคนในยุคปัจจุบันเบ่งบานถึงขีดสุด เขากล่าวไว้ว่า “รัฐบาลของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชน” อันเป็นนิยามของระบอบประชาธิปไตยที่กระชับและให้ความหมายชัดแจ้งที่สุด


ลินคอห์นไม่เห็นด้วยกับการใช้แรงงานทาสตั้งแต่ต้นเพราะถือว่าผิดหลักในการก่อตั้งสหรัฐอเมริกาเนื่องจากเอกสารที่ระบุไว้ตอนที่สหรัฐฯประกาศอิสรภาพ ในปี ค.ศ. 1820 สภาคองเกรสได้ตกลงให้คำประนีประนอมให้มีการค้าทาสในดินแดนใหม่ที่อยู่ใต้แม่น้ำมิสซูรี แต่ห้ามการค้าทาสเหนือเขตดังกล่าวแต่ในที่สุดปัญหาก็เรื้อรัง มีการแบ่งแยกกันเป็นสองฝ่ายอย่างชัดเจนคือฝ่ายเหนือต้องการให้มีการยกเลิกระบบทาส ส่วนฝ่ายใต้ต้องการให้มีการใช้แรงงานทาสต่อไป
ทั้งสองฝ่ายเผชิญหน้ากันอย่างดุเดือด พวกฝ่ายเหนือหัวรุนแรงได้ก่อตั้งขบวนการเลิกทาสขึ้นโดยมีจุดประสงค์จะดำเนินทุกวิถีทางที่จะให้มีการเลิกทาสขึ้น เช่น ช่วยให้ทาสฝ่ายใต้หนีจากเจ้านาย ใช้อาวุธโจมตีไร่ที่มีทาส สนับสนุนการลุกฮือของทาส แม้จุดประสงค์ของขบวนการจะน่านับถือ แต่วิธีรุนแรงที่ขบวนการใช้ ทำให้ฝ่ายใต้รู้สึกว่าต้องป้องกันตนเอง และต้องรักษาระบบทาสไว้ ทำให้สองฝ่ายเกลียดชังกันมากยิ่งขึ้น


สงครามกลางเมืองสหรัฐฯ ยุติลงเมื่อกองกำลังฝ่ายใต้ยอมแพ้ให้กับกองกำลังฝ่ายเหนืออย่างไม่มีเงื่อนไขเมื่อวันที่ 9 เมษายน 1864 หลังจากดำเนินมาเป็นเวลา 4 ปีเต็ม สหรัฐฯ ต้องสูญเสียพลเมืองไประหว่างสงครามกว่า 6 แสนคน ทรัพย์สินบ้านเรือนเสียหายนับมูลค่าไม่ได้ทั้งฝ่ายเหนือและฝ่ายใต้ หน้าที่ของลินคอล์นในเวลาต่อมาคือการรวมดินแดนทั้งสองฝ่ายให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน




noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
เทียบกันดู
เรทกระทู้
« ตอบ #104 เมื่อ: 12 มี.ค. 10, 23:15 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

เทียบกันชัดๆไปเลย
ข้อความของเจ้าของกระทู้

ในสายตาของผู้เยาว์ ผู้ยังเขลา เรามักจะคิดว่า ถ้าเราเป็นเจค เราจะหยิบอาวุธขึ้นมาต่อสู้ ประหัตประหารกับชนเผ่าเดียวกัน เพื่อผดุงความยุติธรรม ปกป้องความถูกต้อง แต่หากในความเป็นจริง ถ้าสถานการณ์เช่นเดียวกันเกิดกับตัว เชื่อเถิดครับ ร้อยละเกือบร้อยเต็ม จะเลือกที่จะอยู่ข้างชนเผ่าเดียวกัน ไม่ว่าเผ่าพันธ์เดียวกันจะทำคนไม่ดีตำบอน กับเผ่าพันธ์อื่นมากมายขนาดใหนก็ตาม !! ลองดูอเมริกา ยุคหลัง 911 สิ ผู้นำมันทำชั่วซะขนาดใหน แล้วเป็นไง สุดท้ายประชาชนอเมริกัน ก็เลือก จอร์จ บุช จูเนียร์ กลับมาเป็นประธานาธิปดีอีกสมัยอยู่ดี ? จริงใหม ?

......................ยาวไปหรือยัง ? ขอต่ออีกหน่อย .. มนุษย์เราเนี่ยกล้าหาญอยู่แค่ลับหลัง หรือ เก่งแต่ในโลกอวตาร เท่านั้นแหละครับ แต่พออยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง เกือบทั้งหมดก็จะกลายสภาพเป็น " คุณขี้แพ้ " นั่งอยู่บนรถเข็น ทำตาละห้อยสร้อยเศร้า เป็นหมาป่วยกันไปซะหมด !! บ่อยครั้งที่ผมเห็นพวกในโลกอวตาร เที่ยวก่นด่าคนอื่นที่ตัวเองเห็นว่าทำไม่ดี เพียงเพราะพฤติกรรมนั้นจะทำให้พวกเค้าคิดว่า ตัวเองจะกลายเป็นคนดีขึ้นมา ซึ่งมันก็ไม่ใช่ ? การก่นด่าสาปแช่ง หรือ พยายามประชาทัณฑ์ผู้ต้องหา มันก็ไม่ได้ทำให้สถานการณ์ดีขึ้นมาได้ แล้วก็ไม่ได้ทำให้คนเหล่านั้นเป็นคนดี แต่เป็นการบ่งชี้ว่า คนเหล่านี้ก็จิตใจต่ำไม่แพ้ไปกว่าคนที่คุณไปทำเค้า ? หรือการที่เราหยิบอาวุธขึ้นมาเข่นฆ่าคนที่เราเห็นว่าเลว มันก็ไม่ได้ทำให้เกิดการจรรโลงโลกขึ้นมาฉันนั้น สรุปนะครับ หนังบางเรื่องดูแล้วอย่าคิดมาก พยายามช่างฝันเข้าไว้ ถ้าถามลุงเจมส์ แกคงตอบเราว่า อั๊วะทำหนังขายฝันโว้ย ถ้าเอ็งอยากถอดปลั๊ก ก็ไปดู The Matrix โน่นไป๊ !! ( ฮา )


ข้อความจาก google

ในอดีตที่ผ่านมา มีสงครามกลางเมืองครั้งใหญ่ ที่ได้รับการขนานนามว่า “สงครามที่พี่น้องฆ่ากันเอง” นั่นคือสงครามกลางเมืองในประเทศสหรัฐอเมริการะหว่างฝ่ายเหนือกับฝ่ายใต้ ที่เกิดขึ้นในปีพ.ศ. 2404 เพราะญาติพี่น้อง มิตรสหายที่เป็นคนอเมริกันเหมือนกัน ต่างแบ่งเป็นสองฝ่าย จับอาวุธปืนเข้าประหัตประหารกันเอง


ประธานาธิบดีของทั้งสองฝ่ายก็เกิดในรัฐเคนทักกี้ด้วยกัน ประธานาธิบดีอับราฮัม ลินคอล์นที่อยู่ฝ่ายเหนือก็มีพี่เขยเป็นทหารของฝ่ายใต้ถึง 4 คน และ 1ใน4 ของทหารที่จบจากโรงเรียนนายร้อยเวสปอยต์ก็เป็นนายทหารของฝ่ายใต้

สงครามดำเนินไปประมาณสี่ปี คนอเมริกันฆ่ากันตายไปประมาณ 6 แสนคน ไม่นับรวมคนบาดเจ็บที่ต้องตัดแขน ตัดขาอีกหลายแสนคน กว่าฝ่ายใต้จะประกาศยอมแพ้ มากกว่าทหารสหรัฐอเมริกันที่เสียชีวิตในสงครามโลกทั้งสองครั้งและสงครามเวียดนามรวมกัน

และเป็นสัดส่วนการตายที่สูงมาก เมื่อคิดจากประชากรในประเทศสหรัฐอเมริกาขณะนั้นที่มีประมาณ 30 ล้านคน และค่าเสียหายทางเศรษฐกิจคิดเป็นมูลค่าประมาณ 3แสนล้านบาท (มูลค่าเมื่อร้อยกว่าปีก่อน)

ถือเป็นโศกนาฏกรรมทางการเมืองครั้งร้ายแรงที่สุดของประเทศนี้ ซึ่งทั้งสองฝ่ายไม่มีใครคิดว่า เมื่อตอนเริ่มเกิดสงครามใหม่ ๆ เหตุการณ์จะลุกลามใหญ่โตและสร้างความย่อยยับให้กับประเทศถึงเพียงนี้


รัฐธรรมนูญของสหรัฐอเมริกาที่ประกาศใช้ในปีพ.ศ. 2330 ได้ระบุว่าทุกคนเกิดมาเท่าเทียมกัน จึง ได้เขียนไว้ในบทเฉพาะกาลว่า “อเมริกาจะต้องเลิกการค้าทาสให้หมดไปภายในกำหนด 21 ปี” พอครบกำหนด รัฐบาลกลางได้ออกกฎหมายเลิกการค้าทาส แต่ผู้คนในรัฐทางใต้ยังเพิกเฉย

ความขัดแย้งในสังคมจึงได้เกิดขึ้นอย่างรุนแรง คนทางใต้ยิ่งนำเข้าทาสจากทวีปแอฟริกาเพิ่มขึ้นจาก 6 แสนคนเป็น 4 ล้านคนภายในเวลาอันรวดเร็ว คนทางเหนือพากันประณามความไร้มนุษยธรรม ขณะที่คนทางใต้ ซึ่งเป็นคนเคร่งศาสนาก็ตอบโต้ว่า ไม่มีข้อห้ามในศาสนา และพวกเขาปฏิบัติต่อทาสเหล่านี้ด้วยความเมตตา

นักการเมืองทางใต้ก็พากันต่อต้านกฎหมายเลิกทาส เพราะรู้แน่ว่าจะส่งผลสะเทือนต่อระบบเศรษฐกิจของฝ่ายใต้ บรรดาสส.ในสภาต่างฝ่ายต่างก็โหวตให้กับผลประโยชน์ของฝ่ายตัวเอง


ในที่สุดเมื่อลินคอล์น แห่งพรรครีพับลิกันชนะการเลือกตั้งขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ฝ่ายใต้ที่ประกอบด้วย 11 รัฐก็ประกาศแยกประเทศ ไม่ขึ้นต่อรัฐบาลกลางอีกต่อไป และบุกโจมตีป้อมทหารแห่งหนึ่งของทหารฝ่ายเหนือ จนลุกลามเป็นสงครามกลางเมือง ประธานาธิบดีลินคอล์นประกาศระดมทหารเข้าสมรภูมิ 2 ล้านกว่าคน ขณะที่ทหารฝ่ายใต้มีกำลังเพียง 1 ล้านคนเศษ

สงครามครั้งนี้มีการผลิตอาวุธที่ใช้สังหารผู้คนทีละมาก ๆ อาทิปืนกล ระเบิด เรือดำน้ำ รวมไปถึงปืนโคลต์ .45 ปืนสั้นที่มีชื่อเสียง มีการรบกันแทบทุกวัน นับรวมได้สองพันกว่าครั้ง และครั้งที่โหดร้ายที่สุดคือสมรภูมิเกเตสเบิร์ก มีคนตายรวดเดียว 4 หมื่นกว่าคน ประธานาธิบดีลินคอล์นได้เดินฝ่ากระสุนมาเยี่ยมผู้บาดเจ็บ และกล่าวสุนทรพจน์ด้วยความสะเทือนใจที่เห็นพี่น้องชาติเดียวกันต้องมาฆ่ากันตาย


“ เราได้ตั้งปณิธานอย่างแน่วแน่ว่า ทหารทั้งหลายที่เสียชีวิตนี้จะไม่ตายอย่างไร้ค่า เพราะประเทศชาตินี้ภายใต้พระหัตถ์ของพระเจ้าจะได้ก่อกำเนิดเสรีภาพครั้งใหม่ และรัฐบาลของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน จะไม่สูญสลายไปจากโลก



ไม่นานนัก ทหารฝ่ายเหนือก็เอาชนะทหารฝ่ายใต้ได้อย่างเด็ดขาด เพราะพลังทางเศรษฐกิจของฝ่ายเหนือที่แข็งแรงกว่า ประชากรที่มากกว่า และอาวุธเทคโนโลยีอันทันสมัยกว่า ทิ้งความย่อยยับของสงครามให้คนในประเทศได้เยียวยากันอีกหลายสิบปี เพราะไม่มีใครคาดคิดตอนเริ่มสงครามว่า จะมีผู้คนล้มตายมากมาย และประเทศพังพินาศถึงเพียงนี้



noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
คนเดินตรอก
เรทกระทู้
« ตอบ #105 เมื่อ: 13 มี.ค. 10, 01:42 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

คุณคงไม่ได้เป็นนักวิจารณ์หนังใช่ไหมครับ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
อยากแสดงบ้าง
เรทกระทู้
« ตอบ #106 เมื่อ: 13 มี.ค. 10, 02:27 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ผมก็ได้อ่านโดยละเอียดจาก ความเห็นทั้งหมดนะครับ

โดยส่วนตัวผมให้คะแนน(บท)ภาพยนตร์เรื่องนี้ 2.5 เต็มห้าครับ ให้ครึ่งนึง
สำหรับเหตุผลและเกณฑ์ในการให้ซึ่งต่างคนก็ต่างกันไป

ผมให้คะแนนจากเสียงหัวใจตัวเองครับ เวลาดูหนังเคยไหมครับถ้าฉากตื่นเต้นหรือลุ้นระทึก หัวใจเราจะเต้นดังมากจนเราต้องหันมาสังเกตุ ไม่รู้ว่าฉากต่อสู้เรื่องนี้มันห่างจากตัวเรามากไป สวยไป หรือเปล่าทำให้ไม่ค่อยระทึกใจ (เรื่องนี้ทำหัวใจผมเต้นแรงไม่ได้อ่ะครับ อย่าต่อว่ารุนแรงเน้อความเห็นส่วนตัวครับ)

แต่ผมยอมยกนิ้วให้เทคโนโลยีและความสามารถให้การจินตนาการของฝ่ายศิลป์มาก ๆ(ขอให้เต็มห้าเรื่องภาพชอบจริง ๆ) ซึ่งหนังเรื่องนี้สมควรแล้วครับที่จะได้รับรางวัลไป

มีการกระทบพาดพิงหนังเรื่องอื่นว่าได้รางวัลเยอะกว่าแต่มีใครรู้จักไป
ผมเองก็ไม่รู้จักเหมือนกันแต่เค้าได้รางวัลเยอะกว่าจริง ๆ
ที่ไม่รู้จักก็ไม่ได้อยากให้เอาตรงนี้มาเป็นเกณฑ์ในการตัดสินเพราะบ้านเราเจ้าของบริษัทที่ซื้อหนังมาฉายต้องดูอยู่แล้วครับ ว่าบ้านเราหนังแบบไหนขายได้ขายไม่ได้ ถ้าเกณฑ์การตัดสินว่าภาพยนตร์เรื่องไหนทำรายได้เยอะที่สุด ผมก็รับรองครับว่า Avatar สมควรจะเป็นสุดยอดหนัง แต่นี่ต่างคนต่างพิจารณาก็แตกต่างกันไป แล้วส่วนใหญ่จะเป็นการรุมว่าเจ้าของกระทู้มากกว่าครับ ผมเห็นใจคนโดนว่าครับ

อีกอย่างนี่เป็นกระทู้วิจารณ์ภาพยนตร์ ผมเห็นว่าน่าจะเป็นบทวิจารณ์ของแต่ละคนทั้งที่ชอบและไม่ชอบเอามาโพสแลกกันอ่าน เพื่อคนที่ไม่ชอบจะได้มีมุมมองใหม่ ๆ ที่แตกต่าง และคนที่ชอบก็อาจได้เห็นมุมมองที่ไม่เหมือนเดิม จะช่วยเพิ่มอรรถรสจากการดูหนังมากกว่ามานั่งว่ากันนะครับผมคิดว่างั้น

ผมอาจโดนโจมตีจากอีกหลายคนที่เป็นแฟน ชอบ หรือเห็นว่าหนังเรื่องนี้ยอดเยี่ยม

แต่ผมอยากให้คนไทยโต้เถียงกันด้วยเหตุผลครับ อย่างที่เจ้าของกระทู้ตั้งความเห็นว่าเป็นแบบนี้แบบนั้น
ถ้าไม่เห็นด้วย เช่นประเด็นบท ก็อยากให้หาเหตุผลมาหักล้าง ไม่ใช่ว่ากันโดยใช้คำส่อเสียดครับ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
ku
เรทกระทู้
« ตอบ #107 เมื่อ: 13 มี.ค. 10, 08:50 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
วิจารณ์ ได้ปัญญาอ่อนมาก ไม่ต้องพูดรั้ยมากเลยดูได้จาก คห.ข้างบน
ค ว า ย
q*018q*018q*018q*018q*018q*018q*018
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
บารัค โอบามา
เรทกระทู้
« ตอบ #108 เมื่อ: 13 มี.ค. 10, 16:50 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

สุดยอดสุนทรพจน์กินใจของ อับราฮัม ลินคอล์น ที่ยังศักสิทธิ์ถึงทุกวันนี้


“ เราได้ตั้งปณิธานอย่างแน่วแน่ว่า ทหารทั้งหลายที่เสียชีวิตนี้จะไม่ตายอย่างไร้ค่า เพราะประเทศชาตินี้ภายใต้พระหัตถ์ของพระเจ้าจะได้ก่อกำเนิดเสรีภาพครั้งใหม่ และรัฐบาลของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน จะไม่สูญสลายไปจากโลก”


จาก ผม บารัค โอบามา


noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
บุ๋มบิ๋ม
เรทกระทู้
« ตอบ #109 เมื่อ: 14 มี.ค. 10, 01:45 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

อคติ ใจแคบแบบนี้
เป็นนักวิจารณ์หนังจริงๆหรอ?
หนังเค้าออกจะดี
พูดซะเสีย

ถ้าหนังเรื่องนี้ห่วยอย่างที่คุณว่าจริงๆ
คนเขาจะไปดูกันสี่รอบห้ารอบมั้ย??

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
ทนอ่านมานาน
เรทกระทู้
« ตอบ #110 เมื่อ: 14 มี.ค. 10, 23:17 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

เปนการวิจานที่ไม่เปนกลางเลย

แก่แล้วแก่เลย

โตแต่ตัว

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
JBLIFTRUS
เรทกระทู้
« ตอบ #111 เมื่อ: 15 มี.ค. 10, 01:08 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

จัย กว้าง ๆ หน่อย ลุง pandagroup

สง สัย อยาก วิ จารณ์ มั้ง เห็น ใจ เค้า หน่อย

5 5 5

เสีย เวลา อ่าน ตั้ง นาน

ดี นะ ที่ พิม ภา ษา ไทย

เดว ชาว ต่าง ชาติ เข้า มา อ่าน เจอ เค้า ได้ เข้า ใจ ผิด ว่า สิ่ง ที่ ลุง เรียก ตัว เอง ว่า เป็น คน วิ จารณ์ น่ะ

มัน BULL SHIT

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
ดูหนังได้สาระ
เรทกระทู้
« ตอบ #112 เมื่อ: 16 มี.ค. 10, 03:16 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

เหตุการณ์ในภาพยนตร์ตอนที่ตัวร้ายของเรื่อง พันเอกไมล์ ควอริชท์ นำกำลังบุกจู่โจมทำลาย
ต้นไม้ใหญ่อายุหลายร้อยหรือหลายพันปีหักโค่นพังครืนลง และทำให้บรรดาชาวนาวีรวมถึงหัวหน้าเผ่า
พลอยโดนลูกหลงเสียชีวิตไปด้วยนั้นคงทำให้ผู้ชมส่วนใหญ่รู้สึกสะเทือนใจ

และเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้พระเอก และ กลุ่มเพื่อนผู้ร่วมงานหันหลังให้กับกองทัพทหารรับจ้างของบรรดานายทุน
มาช่วย ชาวนาวี ในการทำสงครามกู้ศักดิ์ศรีและความยุติธรรมกลับคืนมา

ถ้ามาเปรียบเทียบกับเหตุการณ์จริงในประวัติศาสตร์ของประเทศสหรัฐอเมริกา
บางทีอาจรู้สึก โอ้โหเหตุการณ์จริงบางครั้งอาจยิ่งกว่าในหนังด้วยซ้ำไปครับ


ข้อความบางส่วนจาก google

อีไลจาห์ เลิฟจอย ผู้เป็นแรงบันดาลใจให้ อับราฮัม ลินคอล์น สู้เพื่อทาส

อีไลจาห์ เลิฟจอย เป็นบรรณาธิการหนังสือพิมพ์"ออบเซอร์เวอร์" ที่ลุกขึ้นมาต่อต้านการกดขี่ การมีทาสในปกครองที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของอเมริกา..
การต่อสู้ของเขา ทำให้แท่นพิมพ์ถูกทำลายไป ถึง 3 ครั้ง.. ถูกขู่ฆ่า ถูกลอบทำร้าย ถูกก่นด่าประณามจากผู้คนมากมายที่ยังติดกับความสบายของการมีทาส โดยไม่สนใจที่จะมองลึกลงไปเลยว่า ภายใต้สีผิวที่แตกต่างนั้น ..นั่นก็คือ คนเหมือนกัน..

ทั้งๆที่ อีไลจาห์ เลิฟจอย.. ไม่จำเป็นที่จะต้องมาต่อสู้กับคนหมู่มาก ที่พร้อมจะกราดเกรี้ยวเอากับคนที่เห็นต่างกับตัวเองเลย เพราะเขาก็มีการศึกษา มีฐานะดีพอที่จะประกอบอาชีพอื่นอย่างสบายได้.. หรือแม้แต่จะยังคงทำอาชีพ บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ต่อไป ก็ยังได้ ตราบใดที่ไม่เแตะเรื่อง ทาส ..เขาก็คงมีชีวิตที่มีความสุขดี..

แต่เขาก็เลือกที่จะยืนหยัดต่อการกดดัน คุกคามทุกรูปแบบ และนำเสนอเรื่องราวที่เขาเห็นว่าถูกต้องต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกันไปจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต..ในวันเกิดอายุครบ 35 ปีของเขา.. ณ โกดังที่แท่นพิมพ์แท่นใหม่ถูกเก็บรักษาอยู่.. ท่ามกลางฝูงชนจำนวนมากที่มาล้อมโกดังไว้ เพื่อจะเข้าไปทำลายแท่นพิมพ์ให้ได้!

กระสุนปืน 5 นัดเจาะเข้าร่างของเขาในวันนั้น.. ด้วยบรรยากาศของฝูงชนที่บ้าคลั่ง คนระดับผู้นำของเมืองหลายคนมีส่วนในการฆาตกรรมเขาด้วย..

มีบันทึกเหตุการณ์กล่าวไว้ว่า ภายหลังที่อีไลจาห์ เลิฟจอยถูกฆ่าตายไม่กี่วัน สมาชิกสภาผู้แทนอับราฮัม ลินคอล์น ได้แสดงสุนทรพจน์เกี่ยวกับปัญหา "กฏแห่งฝูงชนและอันตรายร้ายแรงจากฝูงชนผู้บ้าคลั่งขาดสติ" ต่อหน้าประชาชนมากมาย ..

และเมื่อก้าวเข้าสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา .. อับราฮัม ลินคอล์น ได้ลงนามในประกาศ "ปลดปล่อยทาสเป็นเสรี" ซึ่งทำให้เกิดสงครามกลางเมืองครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของอเมริกา!

ว่ากันว่า ความตายของอีไลจาห์ เลิฟจอยทำให้เสรีภาพของหนังสือพิมพ์ในอเมริกาเกิดขึ้นได้อย่างแท้จริง.. ซึ่งนับแต่นั้นมา ก็ไม่มีใครกล้าแตะต้องเสรีภาพของหนังสือพิมพ์อีกเลย แม้แต่ประธานาธิบดีที่ถือว่า เป็นผู้มีอำนาจมากที่สุดในประเทศ


บทความบางส่วนของอีไลจาห์ เลิฟจอยซึ่ง.. อ่านแล้วรู้สึกสะเทือนใจยิ่งกว่าเหตุการณ์ในหนัง Avatar อีกครับ

ชายผู้หนึ่ง ซื้อทาสหญิงนิโกรวัย 24 ผู้มีความประพฤติและนิสัยใจคอดีมาก เธอแต่งงานแล้วกับหนุ่มผิวดำด้วยกัน เมื่อต่อรองราคาเป็นที่ตกลงกันแล้ว ชายผู้นั้นก็ขอรับตัวทาสสาวทันที โดยให้เวลาเตรียมตัวเพียง 10 นาที!
และไม่เปิดโอกาสให้เธอได้พบสามีที่รักเลยแม้แต่อึดใจ จึงจำต้องเขียนหนังสือบอกไว้ว่า ..


"ดิฉันไปแล้ว.. ขอลาก่อน"..


สามีรับทราบข่าวการจากไปของเมียด้วยความรู้สึกเหมือนถูกตีอย่างแรงที่ท้ายทอย เขาติดตามเข้าไปในเมืองเพื่อขอดูหน้าภรรยาสุดที่รักเป็นครั้งสุดท้าย แล้วก็เกิดความรู้สึกเจ็บปวดรวดร้าว.. การจากไปเป็นความร้ายกาจเกินกว่าจะทนได้ เขาก็เลยตัดสินใจหนีออกจากบ้าน..

"นาย" เกณฑ์สมัครพรรคพวกออกตามจับจนได้ ..ช่วยกันโบยอย่างทารุณ ยังไม่สะใจ ยังลากตัวเข้าไปในป่า จับพาดกับท่อนไม้ แล้วใช้เลื่อยไม้ฟาดกระหน่ำด้านที่มีฟันแหลมคมลงบนแผ่นหลัง และหัวไหล่อันเปลือยเปล่า เสร็จแล้วเอาเชือกมัด ปล่อยให้ตากน้ำค้างอยู่ ณ ที่นั้นตลอดทั้งคืน.. จนรุ่งเช้าจึงค่อยเอาโซ่ไปล่ามพากลับบ้าน"


อีไลจาห์ เลิฟจอยขมวดบทความนี้ของเขาไว้ในตอนท้ายว่า..
"ชายผู้นี้ ถึงแม้สีบนใบหน้าของเขาจะไม่ขาว แต่เลือดของเขาก็เป็นสีแดงเช่นเดียวกับสีเลือดของคนขาวทั้งปวง!"

การเสียชีวิตของอีไลจาห์ เลิฟจอย.. ทำให้หนังสือพิมพ์ได้รับเสรีภาพในการนำเสนอข่าวสารอย่างเต็มที่..
การเสียชีวิตของอีไลจาห์ เลิฟจอย.. เป็นแรงบันดาลใจ ให้คนที่ไม่เห็นด้วยในการค้าทาส กดขี่คนที่ต่างสีผิว กล้าที่จะลุกขึ้นสู้

คนเรา..ใช้ชีวิตอย่างยิ่งใหญ่.. เมื่อตาย ก็ยังทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ในทางที่ดีได้อีก..
ในโลกนี้จะมีซักกี่คนกันเชียว..

สุดยอดสุนทรพจน์อันทรงพลัง ที่ อับบราฮัม ลินคอล์นใช้ในการโน้มน้าวใจมหาชนชาวอเมริกา
ให้หันมาทำในสิ่งที่ถูกต้องในการคืนอิสรภาพปลดปล่อยทาสพื้นเมืองให้เป็นอิสระ


"ในความเห็นของข้าพเจ้า บ้านซึ่งร้าวออกเป็นสองส่วนไม่สามารถตั้งอยู่ได้ฉันใด ข้าพเจ้าเชื่อว่ารัฐบาลนี้ไม่อาจดำรงอยู่อย่างถาวรบนรากฐานที่ครึ่งหนึ่งเป็นไทและครึ่งหนึ่งเป็นทาสฉันนั้น"


“เมื่อแปดสิบเจ็ดปีก่อน บรรพบุรุษของเราสร้างชาติขึ้นบนผืนทวีปนี้ ชาติใหม่ก่อกำเนิดในอิสรภาพและยึดมั่นในหลักการที่ว่า มนุษย์ทุกคนถูกสร้างให้เท่าเทียมกัน”


“เราได้ตั้งปณิธานอย่างแน่วแน่ว่า ทหารทั้งหลายที่เสียชีวิตนี้จะไม่ตายอย่างไร้ค่า เพราะประเทศชาตินี้ภายใต้พระหัตถ์ของพระเจ้าจะได้ก่อกำเนิดเสรีภาพครั้งใหม่ และรัฐบาลของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน จะไม่สูญสลายไปจากโลก”


noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
terk
เรทกระทู้
« ตอบ #113 เมื่อ: 16 มี.ค. 10, 13:10 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ทัศนคติแย่ ครับ มองโลกแคบมาก เพราะ พวกทหารเล่าภาระกิจให้ฟังแล้วเค้าถึงตัดสินใจไปครับ

คนที่เค้ามีไฟ มีความพยายามอยากมีชีวิตต่อ ในเมื่ออยู่โลกมันไม่เหลืออะไรแล้วเค้าต้องไปแสวงหาอะไรใหม่ๆ

อย่างน้อยก็มีลุ้นที่จะได้ทำอะไรมากกว่าอยู่เฉยๆ

คนแบบคุณที่วิจารณ์หนังมาแบบนี้ บ่งบอกให้เห็นถึงความเป็นคนขี้แพ้เจอปัญหาก็หนีจะตายด้วยความเบื่อหน่ายไปคนเดียวเหอะ

อย่าเอาทัศนคติแคบๆมาโชว์พาวเลย คนทั่วไปเค้าปกติกันดี ไม่ได้คิดแคบๆแบบคุณกันหรอก

ไม่งั้นหนังเค้าไม่ขายได้ขนาดนี้หรอก หรือเอาง่ายๆคอมเม้นที่ผ่านๆมาเนี่ย ไม่มีคนเห็นด้วยกับคุณเลย

คิดใหม่ซะคุณโลกแคบ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #114 เมื่อ: 16 มี.ค. 10, 21:36 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ชื่นชมครับ สำหรับการลงทุนค้นคว้ามาค่อนข้างละเอียดเกี่ยวกับสงครามกลางเมือง
ซึ่งคุณเชื่อว่า มันคือสงครามครั้งเดียว ที่ผู้ยืนหยัดข้างความถูกต้อง เป็นผู้ชนะในสงคราม !!
ส่วนตัวผมกลับไม่คิดว่า นั่นคือสงครามที่คนที่ร่วมต่อสู้ ทำลงไปเพราะเชื่อมั่นในความถูกต้อง
ตรงข้าม เป็นเรื่องของการเมือง และเรื่องของผลประโยชน์ล้วนครับ ที่บังเอิญว่าฝ่ายชนะเป็นฝ่ายเหนือ
ผมกลับมองว่า สมัยนั้นอเมริกายังเป็นสาธารณรัฐ หรือเป็นประเทศแบบหลวมๆ และยังมีการแก่งแย่ง ชิงอำนาจกันระหว่างรัฐ
อยู่ในระดับสูง รัฐบาลกลางไม่มีอำนาจสิทธิขาดอย่างเช่นในปัจจุบัน ทหารที่อยู่ในสงคราม คงไม่มีใครมาคิดเรื่องความถูกต้องหรอกครับ มันคือการทำตามคำสั่งล้วนๆ

จะว่าไปแล้วมันก็หลงประเด็นไปไกลแล้วครับ แต่ก็ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นนะครับ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
อคติสมบูรณ์แบบ
เรทกระทู้
« ตอบ #115 เมื่อ: 16 มี.ค. 10, 22:27 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

เฮ้อ ก็ยังคงเต็มไปด้วย ทัศนคติในการมองโลกที่อคติสมบูรณ์แบบจริงๆขอนับถือ

ผมไม่คิดว่ามหาชนชาวอเมริกาเป็นล้านๆเค้าจะคิดเหมือนคุณทุกคนหรอกครับ
เหตุที่มาของสงครามผมคิดว่ามันมีเหตุผลหลายสาเหตุ ไม่ได้เกิดจากการเมืองล้วนๆจากความคิด
แบบอคติคับแคบของคุณหรอก

คนที่ต่อสู้เพื่อความถูกต้องความเท่าเทียมกันในสังคมอย่าง ประธานาธิบดี อัมบนาฮัม ลินคอล์น
และ ผู้ที่ศรัทธาในตัวเค้าผมว่ามีอยู่แน่นอนจำนวนมากด้วย ระดมคนได้เป็นล้านๆน่ะครับ

เหตุผลทางการเมืองแน่นอนก็ต้องมีอยู่แล้ว การจะให้คนในพรรคสนับสนุนนโนบาย
เลิกทาส คุณธรรมอย่างเดียวมันไม่พอหรอก มันก็ต้องชูประเด็นฐานคะแนนเสียงทางการเมืองด้วย

ส่วนฝ่ายใต้ ที่ไม่ยอมทำตามกฎหมายเลิกทาสง่ายๆ ก็เพราะมันเหมือนไปทุบหม้อข้าวเค้านิ
ทำให้ต้นทุนในการผลิตต่างๆสูงขึ้นลิบๆ ใช้แรงงานทาสมันถูกดีนิไม่ต้องมีเงินเดือน

ผมเชื่อแน่ว่าทหารที่ไปรบ มีหลากหลายครับ ที่ทำตามคำสั่งอย่างคุณว่า ก็มีน่ะ
แต่ที่ไปรบเพื่อความถูกต้อง ยุติธรรมในสังคม ศรัทธาในตัวผู้นำประธานาธิบดี อับบราฮัม ลินคอล์น
ก็ต้องมีแน่นอน

เหตุผลของสงคราม มีหลากหลายครับ ไม่ได้เกิดจากการเมืองล้วนๆแบบความคิดคับแคบ
ของคุณเจ้าของกระทู้หรอก

ไม่น่าเชื่อว่า นี่คือคนเดียวกันกับที่ วิจารณ์หนังแนวรักโรแมนติก
ทีหนังแนวรักโรแมนติก ทำไมมองโลกเป็นสีชมพู จัง ขนาดความรักแนวอกหักไม่จริงใจ

คุณ ก็ยังมองเห็นแง่ดี คิดออกมาเป็นด้านบวกได้ ถึงขนาด ชื่นชมขอบใจ สาวที่ไม่รักจริง
ได้ด้วยซ้ำไป เฮ้อ พับผ่าซิ

สงสัยวันๆ คลุกอยู่กับ หนังรัก มากไปปาวครับ โลกเลยคับแคบ
ที่หนังรักๆ ล่ะก็ วิจารณ์ซะ ใสซื่อหวานแหววเชียวน้า เอิ๊กอ๊ากกก


noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
อยู่กับหนังรักมากไปจริงๆ
เรทกระทู้
« ตอบ #116 เมื่อ: 16 มี.ค. 10, 23:04 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ข้อความของเจ้าของกระทู้
ชื่นชมครับ สำหรับการลงทุนค้นคว้ามาค่อนข้างละเอียดเกี่ยวกับสงครามกลางเมือง
ซึ่งคุณเชื่อว่า มันคือสงครามครั้งเดียว ที่ผู้ยืนหยัดข้างความถูกต้อง เป็นผู้ชนะในสงคราม

เอิ๊กอ๊ากกก วันๆคลุกอยู่กับหนังรักมากไปปาวงิ จนไม่สนใจเรื่องอื่นรอบตัวเลย อะดิ

สงครามครั้งเดียวซะทีใหน ตัวอย่างมีอีกเพียบครับ

สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และ เหล่าทหารกล้าของพระองค์ ก็ได้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง
กอบกู้เอกราชให้ประเทศไทย สำเร็จชนะสงคราม น๊ะครับ

สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ก็ เช่นกันครับ ก็ ทรงทำในสิ่งที่ถูกต้องกอบกู้เอกราช
ให้ประเทศไทย และก็ สำเร็จชนะสงคราม เช่นกัน


สนใจเรื่องอื่นๆรอบตัวบ้างครับ ทำไมมองโลกคับแคบ จัง


noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
ผู้หวังดี
เรทกระทู้
« ตอบ #117 เมื่อ: 17 มี.ค. 10, 15:55 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

สรุปคับ นาย pandagroup อายุ 37 แต่ มีสมองคิดได้แค่ เด็ก 5ขวบ คับ จบ ปล่อยมัน โชว ลาว ไปเถอะคับ โต้เถียงกับคนที่สมองแค่นี้ก็เท่านั้นคับ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
ขอพูดบ้างงิ
เรทกระทู้
« ตอบ #118 เมื่อ: 17 มี.ค. 10, 17:20 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
จาก
......................Dance with Wolves ในปีที่ผมดู ผมรู้สึกชื่นชม ยกย่องมันเหลือเกิน แต่ถ้าหากมาดูในปีนี้ ตอนที่ผมอายุเท่าปัจจุบันนี้ บางทีผมอาจจะมองด้วยสายตาที่แตกต่างออกไป

เปลี่ยนเป็น
......................Avatar ในปีที่ผมดู ผมรู้สึกผิดหวัง ดูหมิ่นและประนามมันเหลือเกิน แต่ถ้าหากมาดูในปีก่อนหน้านี้ ตอนที่ผมอายุยังไม่เท่าปัจจุบันนี้ บางทีผมอาจจะมองด้วยสายตาที่แตกต่างออกไป

อ่านแล้วชะงัก เลยเอามาแซวเล่น อิอิอิ
จขกท.คิดอะไรมากไปมั้ยครับ
คุณเรื่องที่ว่าคนแบบพระเอกมันไม่มีอยู่จริงนั่นอะ
ก็มันเป็นหนังอะครับ สร้า้งมาเพื่อความบันเทิงสนุกสนาน จะห่วยจะดี จะจริงจะเวอร์ มันก็คือหนัง
ซุปเปอร์แมน แบทแมน สไปเดอร์แมน ทำไมคุณไม่ไปด่ามั่งล่ะว่ามันมีจริงที่ไหน
หรือหนังที่พระเอกมันเก่งเวอร์ๆฆ่าไม่ยอมตายซะที มันมีที่ไหน

ก็เค้าทำหนังนี่(โว๊ย)ไม่ใช่สารคดีตีแผ่ชีวิตใคร
แต่ละเรื่องพระเอกก็มันจะเป็นคนดีมีคุณธรรม คนดูไปแล้วก็จะได้ซึมซับเอาความดีเหล่านั้นไปคิดไปทำบ้าง
ถ้าคนเอาแต่สร้างหนังที่มีแต่คนขี้ขลาด เห็นแก่ตัว คดโกงประเทศชาติกัน
แล้วมันจะมีคนดีเกิดขึ้นมาได้มั้ยครับนี่ ถ้าเอาแต่ชี้นำแต่แบบนั้น

คุณก็เกือบจะแก่แล้วนะครับ อย่าเอาแต่ความคิดตัวเองเป็นใหญ่เหมือนพวกคนแก่หัวแข็งสิ
คุณเรียกตัวเองว่าคอหนังคนหนึ่ง เลยตั้งข้อบังคับของตัวเองขึ้นมาว่าโดยไม่รู้ตัวว่า ต้องดูได้ทุกแนว
เลยดูมันไปซะหมด แม้จะรู้ว่าเรื่องนี้ไม่ใช่แนวที่ชอบ q*003
เหมือนคุณจะดูไปเพื่ออยากจะเป็นคนที่ถูกเรียกว่าคอดูหนังแค่นั้นเองนะ

คนที่เรียกว่าคอหนังดูได้ทุกแนวเค้าไม่เป็นแบบคุณหรอกครับ
เค้าจะดูแนวไหนเค้าก็ดูได้สนุกถ้าหนังมันดี ไม่ได้เน้นว่าชอบแนวนั้นไม่ชอบแนวนี้
พอพูดถึง Avatar ที่ใครๆก็บอกว่าดี แล้วก็ยังมีชื่อเข้าชิงออสการ์
คุณกลับแย้งต่างว่ามันห่วย โจมตีหนังในเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง
อคติเยอะแบบนี้ เป็นคอหนังที่ดีไม่ได้แน่ครับ

ผมไม่ใช่คอหนังครับ แล้วก็ดูชอบดูแต่แนวที่ผมชอบ
รู้ว่าไม่ใช่แนวที่ชอบผมก็ไม่ดู
แต่ถ้าคนชมว่าเรื่องไหนดี ผมก็อยากลองหามาดูบ้าง
ถ้าดูแล้วไม่ชอบผมก็จะไปด่าหนังเค้าก็ไม่ถูกนะ ก็มันไม่ใช่แนวเราอยู่แล้วนิ q*022


noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
ฮีโร่มีจริง
เรทกระทู้
« ตอบ #119 เมื่อ: 17 มี.ค. 10, 22:19 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

นี่ถ้าบรรพบรุษของประเทศไทยในสมัยก่อน คิดแบบเจ้าของกระทู้บางทีอาจไม่มี
ประเทศไทยบนแผนที่โลกก็ได้ แต่อาจถูกผนวกรวมกับพม่าไปแล้ว เวรกรรม

พม่าบุกตียึดเมืองได้ก็ปล่อยเค้าไป ยกให้เค้าไปเถอะเพราะมนุษย์เรานั้นขี้ขลาด
เป็นหมาป่วย อย่าไปสู้เค้าเลยสู้ไปก็ตายเปล่า มีแต่หาเรื่องเจ็บตัวตายฟรีไม่คุ้มกัน

วีรบุรุษที่จะมาเสียสละกอบกู้บ้านเมือง ไม่มีจริงหรอกอย่าฝันเฟื่องเลย
สู้ไปก็มีแต่แพ้ แพ้ แพ้ลูกเดียว สู้ไปทำไมอยู่เฉยๆดีกว่าสบายกว่า

สู้แล้วชนะไม่มีหรอก

ชาวพม่าจะมาฉุด เอาเมีย เอาน้องสาว พี่สาว ลูกสาว ไปข่มขืนก็ยอมๆเค้าไปละกัน
อย่าไปสู้เค้าเลย เดียวเจ็บตัวตายฟรี อยู่เฉยๆดีกว่าเพราะพวกเรานั้นมันขี้ขลาด

เวรกรรม ช่างเป็นทัศนคติแนวความคิดที่บัดซบจริงๆ

โชคดีที่ วีรบุรุษฮีโร่ ของประเทศไทยในสมัยก่อน สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
และ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช รวมถึงเหล่าบรรดาทหารกล้าของพระองค์

มีความเสียสละ กล้าหาญมุ่งมั่น กล้าต่อสู้ยืนหยัดในความถูกต้องยุติธรรม
ที่จะทวงสิทธิในความเป็นเจ้าของประเทศกลับคืนมา

บรรดาเราๆท่านๆทั้งหลายรวมถึงเจ้าของกระทู้ด้วยในวันนี้จึงมีแผ่นดินไทย
ให้ได้อยู่กันอย่างเสรี สุขขีสโมสร เพราะโลกเรานี้มีวีรบุรุษอยู่จริงๆน๊ะครับ

อยู่ที่ว่าจะเปิดใจยอมรับและมองเห็นกันหรือไม่


noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
ผู้กำกับหนังอินดี้เล็กๆ
เรทกระทู้
« ตอบ #120 เมื่อ: 18 มี.ค. 10, 09:19 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

น่าให้ก้อง ฤทธิ์ดี มากระทืบไอ จขกท.ชิบเค้าเป็นนักวิจารณ์ระดับเทพยังไม่เกรียนเท่ามันเลย q*019

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
ละอ่อนเหนือ
เรทกระทู้
« ตอบ #121 เมื่อ: 18 มี.ค. 10, 17:56 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ถ้า จขกท. บอกว่าฮีโร่ที่สู้เพื่อความถูกต้องไม่มี แล้ว บรรพบุรุษของเรา เพราะเจ้าตากสินมหาราช สมเด้จพระนเรศวรมหาราช และอื่นๆอีกมากมายเสีลสละเลือดเนื้อ เพื่อ รักษาเอกราชของไทยเราใว้นี่เรียกว่าอะไรครับ แผ่นดินที่คุณ จขกท ยืนทุกวันนี้ มีอากาศหายใจ นี่เพราะใครครับ บรรพบุรุษ ทั้งนั้น นั่นแหละครับฮีโร่ แล้วฮีโร่ในสายตาคุณเป็นแบบไหนล่ะครับคุณถึงคิดว่าไม่มีจริง ถ้าคุณไม่ชอบหนงที่ไม่ใช่แนวก็อย่าไปดูครับถ้าดูแล้วออกโรงมาวิจารณ์แบบนี้ดูแล้วไม่มีความเป็นมืออาชีพเหมือนอคติซะมากกว่า กลับกันลองคิดดูถ้าคุณดูหนังแนวที่คุณชอบ แล้วไม่ได้เข้าชิงออสการ์ คุณคิดว่าหนังเรื่องนั้นจะมีข้อดีข้อเด่นไรไหมไม่ได้รางวัลแต่คุณชอบอ่ะ คุณจะว่าไง

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
เต็มๆ
เรทกระทู้
« ตอบ #122 เมื่อ: 18 มี.ค. 10, 23:05 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

อืม .. q*049โดนเข้าไปเต็มๆ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
kiewww
เรทกระทู้
« ตอบ #123 เมื่อ: 19 มี.ค. 10, 00:50 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

เราว่า...
ต่างคนต่างความเห็น ลางเนื้อชอบลางยานะคะ

จขกท.น่าจะเป็นคนที่จริงจังกับชีวิตจริงอยู่ซักหน่อยเลยมีความเห็นแบบนี้ออกมา

ส่วนตัวเราประทับใจเรื่องอวาตาร์มากเลยล่ะ q*006
แต่ไม่ได้ปลื้มกับเทคนิคการสร้างมากนะ(เพราะไม่รู้ว่าตอนนี้เทคนิคสร้างมันมีอะไรมั่งแล้วที่เค้าบอกว่าเทคนิคการถ่ายเรื่องนี้มันเจ๋งและใหม่ๆเนี่ยมันเจ๋งจริงขนาดไหน)
ที่ชอบคือ ถึงเรื่องมันจะเดาตอนจบออกเหมือนกึ่งๆการ์ตูน ไม่ได้หักมุมอะไรเป็นพิเศษ
แต่เค้าทำให้เราคิดขึ้นมาจริงๆเลยอะ ว่าตอนนี้มนุษย์เรากำลังทำลายธรรมชาติไม่น้อยไปกว่าพวกตัวร้ายซักเท่าไหร่เลย
เกิดตระหนักรักธรรมชาติขึ้นมาทันที(จริงๆนะ >
เอาเป็นว่าเป็นหนังดีเรื่องนึงแหละสำหรับเรา เพราะมันให้ข้อคิดด้วยอะ ไม่ได้ไร้สาระ
แต่เราก็อพอเข้าใจความคิดจขกท.นะ
คนเรามีความแตกต่างกัน มองคนละมุมกัน ชอบคนละอย่างกันได้นะค่ะ
ว่ากันเบาๆก็พอมั้งคะ อ่านแล้วสงสารจขกท. q*027

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
สมควรแล้วล่ะ
เรทกระทู้
« ตอบ #124 เมื่อ: 19 มี.ค. 10, 23:52 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ข้อความของเจ้าของกระทู้

มันก็พูดไปได้นะครับ เอามาจากห้าแพร่ง
แล้วห้าแพร่งไปเอามาจากใหนล่ะครับ อ้อ มันคิดเองเหรอ คุณผกก ค่ายจีทีเอช นี่มันเป็นเทวดา มาจากสวรรค์หรือไงครับ

หนังสยอง หนังตลก หรือหนังทุกๆแนว มันก็ดัดแปลง และมีส่วนคล้ายคลึงกันไปทั้งนั้นแหละครับ
หายากครับที่จะมีความเป็นออริจินอลจริงๆ โน่นไปดูหนังอาร์ตเมืองคานส์ โน่น ไป๊ ครับ

หนังตลาด มันก็ซ้ำซากทั้งนั้นแหละครับ อยู่ทีว่ากำกับออกมาสนุกหรือเปล่า เท่านั้น เล่าเรื่องจังหวะดีหรือเปล่า แค่นั้น
ดูหนังอย่าง avatar สิครับ ชมกันเข้าไปได้ หนัง*** โคตรเด็กอมมือเลย


แต่ผมว่าสมควรแล้วล่ะ ใช่คนเรามองต่างมุมได้ คิดต่างได้ ชอบต่างกันได้ แต่ที่เจ้าของกระทู้แสดงออกมาน่ะ
มันคือการหลบลู่ดูหมิ่น ไปถึงทั้งผู้สร้างหนังรวมตลอดถึงคนดูที่ชื่นชอบหนังเรื่องนี้น่ะ

เจ้าของกระทู้บอกว่า Avatar เป็นแค่หนังโคตรเด็กอมมือ

งั้นในความเห็นของผม บทความที่เจ้าของกระทู้เขียนก็เป็นเพียงแค่บทวิจารณ์ขยะ
ที่เขียนโดย หนอนปัญญาอ่อน ที่คลานกระดึ๊บๆไปมาก็อยู่แค่ใน ถังขยะ เท่านั้นเอง


ทีหนังผีน้ำเน่าซ้ำซากหลับหูหลับตาให้ไปได้ตั้ง 4 ดาว

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
Belanblong
เรทกระทู้
« ตอบ #125 เมื่อ: 20 มี.ค. 10, 16:39 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
ใช่ไรคิดอ่ะ หัวหลอ ? รู้ว่าใช้ สมองคิดนะในการวิจาร อ่ะ

แต่ พอดี สมองขี้เลื่อย เลยคิดได้แค่นี้ .. หนังดีๆ มีน่ามาบ่น โธ่ ..

น่าสมเพช !!
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #126 เมื่อ: 20 มี.ค. 10, 21:11 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

อุ๊ย เขียนแบบใช้อารมณ์กันจริงๆนะ เด็กๆแต่ละคนแถวนี้เนี่ยล่ะก็ อิอิ ...

เรื่องพระเจ้าตากสิน ฮีโร่ของชาติเราน่าสนใจนะครับ ... อ่านเรื่องกอบกู้เอกราชแล้ว
อยากทราบว่าเด็กๆไทยของเรา ได้อ่านถึงบั้นปลายชีวิตของท่านหรือไม่ครับ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับท่าน ??

เรื่องประวัติศาสตร์ชาตินิยม ผมไม่อยากเถียงตรงนี้ครับ ถ้าคุยกับผมต่อหน้า ผมจะอธิบายให้เป็นฉากๆเชียวแหละ

ส่วนเรื่องหนังรัก ผมเขียนชม เขียนชอบ เขียนด่า ( ก็เยอะ ) ส่วนตัวหนังรักเป็นหนังแนวถนัดของผมครับ เพราะงั้นผมเขียนได้อร่อยเหาะอยู่แล้ว ... เห็นมีอยู่คนบอกว่า ผมเขียนเชียร์แม้กระทั่งตัวละครผู้หญิงที่ รักไม่จริง อะไรประมาณนี้
อยากเรียนถามว่า หมายถึงใครเหรอครับ ผมอยากรู้เหมือนกัน จะได้รู้ว่าคิดเห็นต่างจากใครหรือเปล่า ?

เรื่องการที่ผมมีชีวิตอยู่สุขสบาย ผมไม่ถือว่าเป็นบุญคุณของใครหรอกครับ
ผมอ่านประวัติศาสตร์ เพื่อเรียนรู้ครับ ไม่ได้อ่านแล้วเชื่อทันที เชื่อโดยไม่คิดครับ แบบนั้นเขาเรียกโง่

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
ไรกันนี่
เรทกระทู้
« ตอบ #127 เมื่อ: 20 มี.ค. 10, 23:04 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

พระเจ้าไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนเยี่ยงนี้อยู่จริงๆ ไรกันนี่

อันพระราชประวัติของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ในยุคหลังนั้น
ผมก็พอทราบอยู่ แต่ก็ไม่ได้เชื่อถือ 100 เปอร์เซ็น

ว่าไปแล้วพระราชประวัติของพระองค์ในยุคหลัง ก็มีความคลุมเครืออยู่ไม่น้อย
ความจริงที่ชัดเจน เกี่ยวกับเรื่องราวของพระองค์ไม่มีใครยืนยันได้ชัดเจน 100 เปอร์เซ็น
ว่าความจริง นั้นเป็นเช่นไร

ผมเห็นว่า สามารถถูกแต่งเรื่องราวบิดเบือนได้ เพราะรู้กันแค่วงใน ในหมู่คน
สนิทใกล้ชิด ภายในพระราชวังแค่ไม่กี่คน จำนวนคนที่รับรู้ความจริงมีไม่มาก

ไม่ได้เป็นเรื่องราวใหญ่โต สงครามนาน 4 ปีคนตาย 6 แสนคน เหมือนกรณี
ของสงครามกลางเมืองประเทศสหรัฐอเมริกา

ซึ่งอันที่จริงมันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันเลยกับ เรื่องพระราชประวัติในยุคหลังของพระเจ้าตาก น่ะ
กับเรื่องที่พระองค์ ทรงทำศึกกอบกู้เอกราชให้ประเทศไทยแล้วชนะสงคราม

เพราะความดีที่พระองค์สร้างไว้ ก็ทำให้พระองค์ได้กลายเป็น วีรบรุษ
ที่ไม่มีวันตาย ไปจากสังคมไทยต่างหาก ทุกวันนี้ก็มีรูปปั้นของพระองค์
ให้คนไทยได้กราบไหว้แสดงความเคารพ ยกย่องสรรเสริญไม่ใช่หรือ

เราโต้เถียงกันในประเด็นที่ว่า สู้เพื่อความถูกต้องแล้วชนะต่างหาก

ซึ่งก็คือ ทำศึกชนะพม่า เป็นความจริงที่แน่นอน 100 เปอร์เซ็น
ส่วนเรื่องพระราชประวัติของพระองค์ในยุคหลังนั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันเลย

แล้วใครที่โง่กันแน่ เจ้าหนอนปัญญาอ่อน

พระองค์ทรงทำศึกชนะพม่า ข้อมูลทางประวัติศาตร์ยืนยันได้ 100 เปอร์เซ็น
แต่พระราชประวัติยุคหลังของพระองค์นั้น เป็นอย่างไรแท้จริงแล้วไม่มีใครทราบชัวร์ๆ

ไม่ได้มีการยืนยันที่แน่นอน 100 เปอร์เซ็น

เจ้าของกระทู้ก็เพียงทราบเรื่องราวมาแค่คลุมเครือก็ จะเชื่อซะและ
ใครกันแน่ที่ โง่ เจ้าหนอนปัญญาอ่อน

พระราชประวัติของพระองค์ ในช่วงยุคหลังจริงแท้เป็นเช่นไรไม่มีใครยืนยันได้ชัดเจน
100 เปอร์เซ็น นอกจากคนสนิทใกล้ชิดที่เกิดในยุคสมัยนั้นเท่านั้นแหละ

เจ้าของกระทู้อายุแค่ 37 คงไม่ใช่คนในยุคนั้นแน่ รับรู้มาแบบคลุมเครือ
จะเชื่อซะและเหรอ น่าโง่

อันประวัติของ วีรบรุษของไทย เค้ามีไว้ให้ศึกษาเรียนรู้ แล้วคิดเชิดชูสรรเสริญ
นำไปเป็นแง่คิด แบบอย่างในทางที่ดี

แต่ เจ้าของกระทู้ กลับนำมาคิดเป็นแบบอย่างในทางเลวร้าย

ไม่น่าเกิดมาเป็นคนไทยเลย เวรกรรม
น่าไปเกิดที่อื่นซะมากกว่า เฮ้อ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
ฝืนนะจ๊ะ อยากจะบอก
เรทกระทู้
« ตอบ #128 เมื่อ: 21 มี.ค. 10, 09:46 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

เอาคนนู้คนนี้มาแถ ไปเรื่อยๆ อวดตัวเป็นผู้ใหญ่(แล้วไง ดูดีมากขี้น??) ใช้ถ้อยคำหยาบโลน?? ไม่ไหวเลยจริงๆ ผมว่า ลองคุณทำแบบนี้ คำว่าผู้ใหญ่ในใจคุณมันเป็นยังไง ไม่ต้องไปมองที่หนังนะ วิจารณ์แค่ตัวคุณก่อน ในฐานะที่เป็นคนมีวุฒิภาวะด้วยกัน ผมไม่ได้เชียร์หนังหรือชมชอบอะไรนะ ผมก็เป็นคนหนึ่งที่ไปดู แล้วรู้สึกเฉยๆ เรื่องราวแบบนี้ พบเห็นได้ทั่วไปในการ์ตูนนะครับ แต่มาสะกิดใจกับบทวิจารณ์เนี่ย มาอารมณ์ไหน?? ผมว่าคุณค่อนข้างฝืนมากๆ (แล้วไม่ต้องมาเลียบเคียงนานๆมาตอบแล้วทำเป็นsoftลงไปเรื่อยๆนะฮะ มันไม่ใช่ลูกผู้ชาย)

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #129 เมื่อ: 21 มี.ค. 10, 21:49 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

อ่านประวัติศาสตร์ เรียนรู้ประวัติศาสตร์ แต่จงอย่าเชื่อทุกอย่างที่ประวัติศาสตร์บันทึกไว้นะครับ
น่าจะทราบอยู่บ้างว่า ประวัติศาสตร์หรือตำราเรียนบ้านเรา มันใส่ประเด็นชาตินิยมลงไปเยอะ
อย่าบอกนะครับว่าคุณๆยังเกลียดชาวพม่า กลัวชาวพม่า แค้นใจกับชาวพม่าอยู่ถึงตอนนี้

เหอ เหอ เหอ เหอ โลกมันเปลี่ยนไปแล้วครับ

อะไรคือความถูกต้อง ใส่เสื้อแดงออกไปเรียกร้องประชาธิปไตย ถูกต้องใหม
ใส่เสื้อเหลืองไปปิดสนามบิน ถูกต้องใหม หรืออยู่เฉยๆ ไม่ทำอะไรทั้งสิ้น ไม่เลือกข้างใหน ใครจะยึดอำนาจก็ตามใจ
แบบนั้นคือคุณทำสิ่งที่ถูกต้องหรือเปล่า ใหนใครตอบผมหน่อยสิครับ ??

พี่จะบอกให้เอาบุญนะครับ ประวัติศาสตร์ชาติเรา เพิ่งจะรวมเป็นประเทศ แค่ประมาณร้อยกว่าปี สมัยประมาณ รัชกาลที่ 4 - 5
สมัยก่อนหน้านั้น ยังเป็นหัวเมืองๆกันอยู่ครับ ยังไม่มีความเป็นชาติเลย อย่าเรียกสงครามต่อสู้ระหว่างหัวเมือง ว่าเป็นสงครามประกาศเอกราชหรืออะไรแบบนั้นเลยดีกว่าครับ ใครจะสู้ ใครจะรบ ใครจะชนะ ล้วนแล้วแต่แทบไม่มีผลกับประชาชนเลย ประชาชนก็แค่ล้มตาย ไพร่ทาส เป็นแค่เบี้ยของผู้มีอำนาจในขณะนั้นเท่านั้น

อยุธยาชนะ กรุงเทพชนะ ไม่ได้เกี่ยวกับ เชียงใหม่ ปัตตานี หรืออีกหลายๆจังหวัด ที่อยู่ในประเทศไทยหรอกนะครับ
เห็นความรู้ ความคิดเด็กไทยยุคนี้ ก็ไม่แปลกใจเลย ที่คนออกข้อสอบ เค้าถึงได้ออกข้อสอบแบบโอเน็ท อะไรที่เป็นข่าวในปัจจุบัน ( คิก มั้นเกี่ยวกันใหมเนี่ย )

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
แล้วทำไมต้องเชื่องิ
เรทกระทู้
« ตอบ #130 เมื่อ: 21 มี.ค. 10, 23:38 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

แล้วทำไมต้องเชื่อสิ่งที่คุณเจ้าของกระทู้มั่วนิ่มดำน้ำมาพูดด้วยล่ะ

คุณก็ อายุแค่ 37 ปีไม่ได้เกิดในยุคสมัยนั้นซักหน่อย
ก็มั่วนิ่มดำน้ำมาโม้นั่นแหละ ทำเป็นรู้ดี งั่งซะมากกว่า

คุณก็บอกเองว่าอย่าเชื่ออะไรง่ายๆ ซึ่งสิ่งที่คุณนำมาพูดน่ะ
ผมว่ามันงี่เง่า ไร้สาระไม่น่าเชื่อถือยิ่งกว่าซะอีก

ดูจากการตอบกระทู้ที่ผ่านมาของเจ้ากระทู้

พิจารณาแล้วเหมือนคนปัญญาอ่อน คนบ้า
ที่เพิ่งออกมาจากโรงพยาบาลบ้าซะมากกว่า

ไม่น่าเชื่อถือ เลยครับ

ปล. ผมไม่เชื่ออะไรง่ายๆโดยเฉพาะข้อความของคนสติไม่สมประกอบ
ยิ่งไม่น่าชื่อถือ เอาซะเลย อิ+

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
อิอิอิ
เรทกระทู้
« ตอบ #131 เมื่อ: 22 มี.ค. 10, 01:02 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

อิอิอิ ถูกต้องแล้วครับ ข้อความของคนปัญญาอ่อนสติไม่สมประกอบอย่าง
เจ้าของกระทู้นั้นมันไม่น่าเชื่อถือเอาซะเลย ตอบกระทู้แถไปเรื่อยเหมือนคนบ้า

ไม่เต็มเต็งบ้าๆบอๆ ที่ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีไม่รับรู้เหตุผล ซะมากกว่า

วีรบุรุษ หรือ ฮีโร่ นั้นถึงแม้ตัวจะตายไปแล้ว แต่ชื่อของพวกเค้าเหล่านั้น
ก็จะยังคงเป็นอมตะ ไม่มีวันตายไปจากความทรงจำของผู้คนไปตลอดกาล

เรื่องราวและวีรกรรมของพวกเค้า ก็จะยังคงได้รับการนับถือเคารพยกย่องสรรเสริญ
ไปอีกนานนับเป็นพันๆหรือหมื่นๆปี ครับ

วีรบุรุษของต่างประเทศได้แก่ พระพุทธเจ้า พระเยซูคริสต์ โมเสส
อับบราฮัม ลินคอล์น เป็นต้น

วีรบุรุษและวีรสตรีของไทยเราได้แก่ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
สมเด็จพระศรีสุริโยไท ท้าวเทพกษัตรี ท้าวศรีสุนทร และ ชาวหมู่บ้านบางระจัน เป็นต้น


noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
ที่สุดอะ
เรทกระทู้
« ตอบ #132 เมื่อ: 22 มี.ค. 10, 12:08 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
พี่ จะบอกให้เอาบุญนะครับ

ขำจัง ขำแบบเวทนานะ
37 นี่ คิดว่าตัวเองแก่มากเลยใช่มั้ยครับนี่ โถ มองแต่ตัวเองจริงๆเลยเชียว
นี่ชีวิตจริงไปไหนมาไหนเรียกคนเค้าน้องไว้ก่อนเลยสิท่า q*020
นี่ไม่ใช่บ้านคุณนะ ที่หันไปทางไหนคุณก็แก่สุดแล้วน่ะ

ยินดีด้วยละกัน คุณชนะจิตใจทุกคนได้แล้ว
คุณทำให้คนในที่นี้รับรู้อย่างสุดซึ้งแล้วว่าคุณเป็นคนแบบไหน

ไม่เคยพบเคยเจอ หัวแข็งโป้กได้ขนาดนี้ q*028
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
abc
เรทกระทู้
« ตอบ #133 เมื่อ: 22 มี.ค. 10, 15:21 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

เจ้าของกระทู้โคตรอคติอ่ะ

เรทมันก้อบอกว่าเหมาะสำหรับทุกวัย มันก้อต้องทำหนังง่ายๆเพื่อให้แม้แต่เด็ก สองขวบก้อต้องเข้าใจได้สิ แล้วอีกอย่างมันก้อง่ายสำหรับพวกเราผู้สูงอายุด้วย

หนังทุกเรื่องย่อมให้ข้อคิด มีแต่คนโง่ถึงขั้นดักดาน(อย่างคุน)เท่านั้นแหละที่ทำเป็นขวางโลก เรียกร้องความสนใจ ทำเป็นไม่เข้าใจอยู่ได้


เปิดใจหน่อยค่ะ เปิดใจ!!!

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #134 เมื่อ: 22 มี.ค. 10, 20:56 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ไม่ได้มาบอกให้เชื่อนะครับ แต่บอกให้คิด
สังคมไทย การศึกษาไทย สอนกันแบบท่องจำ นกแก้วนกขุนทอง ใครพูดไรก็เชื่อหมด
ไม่เคยมีความคิดเป็นของตนเอง

แล้วเบื่อนะครับ ใครที่ไม่รู้จะตอบยังไง ก็อ้าปากคำว่า อคติ สองคำก็อคติ ....
เปิดใจ บลาๆๆๆ ก่อนจะว่าคนอื่น หัดดูตัวเองซะบ้างนะครับ ว่ามีอคติกับคนอื่นหรือเปล่า เปิดใจรับฟังความเห็นต่างบ้างใหม

แล้วประทานโทษนะครับ คุณที่มาด่าๆผมปาวๆอยู่เนี่ย เจอกันต่อหน้า เห็นไหว้ผม ปะหลกๆกันทั้งนั้น

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า

หน้า: 1 2 3 4 5 6 7
 
ตอบ
ชื่อ:
 
แชร์ไป Facebook ด้วย
กระทู้:
ไอค่อนข้อความ:
ตัวหนาตัวเอียงตัวขีดเส้นใต้จัดย่อหน้าชิดซ้ายจัดย่อหน้ากึ่งกลางจัดย่อหน้าชิดขวา

 
 

[เพิ่มเติม]
แนบไฟล์: (แนบไฟล์เพิ่ม)
ไฟล์ที่อนุญาต: gif, jpg, jpeg
ขนาดไฟล์สูงสุดที่อนุญาต 20000000 KB : 4 ไฟล์ : ต่อความคิดเห็น
พิมพ์อักษรตามภาพ:
พิมพ์ตัวอักษรที่แสดงในรูปภาพ
 
:   Go
  • ข้อความของคุณอยู่ในกระทู้นี้
  • กระทู้ที่ถูกใส่กุญแจ
  • กระทู้ปกติ
  • กระทู้ติดหมุด
  • กระทู้น่าสนใจ (มีผู้ตอบมากกว่า 15 ครั้ง)
  • โพลล์
  • กระทู้น่าสนใจมาก (มีผู้ตอบมากกว่า 25 ครั้ง)
         
หากท่านพบเห็นการกระทำ หรือพฤติกรรมใด ๆ ที่ไม่เหมาะสม ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสื่อมเสียแก่สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รวมถึง การใช้ข้อความที่ไม่สุภาพ พฤติกรรมการหลอกลวง การเผยแพร่ภาพลามก อนาจาร หรือการกระทำใด ๆ ที่อาจก่อให้ผู้อื่น ได้รับความเสียหาย กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม
         

ทางสนุก! จะทำการตรวจสอบ
และขออนุญาตไม่แสดงข้อความ
ที่ไม่เหมาะสม ข้อความที่
ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียแก่
สถาบันชาติ ศาสนา
พระมหากษัตริย์ รวมถึงข้อความที่
เข้าข่ายหลอกลวง การเผยแพร่
ภาพลามกอนาจาร หรือข้อความ
ใดๆ ที่ทำให้ผู้อื่นได้รับความ
เสียหาย บนกระทู้นี้