ผู้ใช้บริการโรงพยาบาลสัตว์เกษตรเชิญทางนี้ด่วนๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

[เมื่อ:]

อยากถามความคิดเห็นครับ ที่ทางโรงพยาบาลสัตว์เกษตรปรับขึ้นราคา ค่าตรวจรักษาทั่วไปจาก 50 บาท/1ตัว มาเป็น 160 บาท / 1ตัว (จริงๆ มีการปรับราคาค่าตรวจทุกแบบซึ่งยังไม่รวมค่ายากับค่าอื่นๆอีกนะที่ปรับขึ้นทั้งหมดซึ่งแพงมาก) ส่วนตัวผมใช้บริการที่นี่มาหลายปีแล้ว เมื่อต้นปีผมยังพาน้องหมาที่บ้านไปรักษาก็ยังไม่เจอค่าตรวจขนาดนี้ แต่พอดีหลายวันมานี้ผมพาน้องหมาไปรักษาอีกครั้ง ซึ่งช่วงวันแรกๆ ไม่ได้สังเกตุมากแต่พอมาสังเกตุดูอีกที และเอาใบเสร็จที่ผ่านมามาดูก็พบว่า 2-3 วันมานี้ผมจ่ายค่าตรวจรักษาทั่วไป 160 บาท/ครั้ง ยกเว้นวันแรกที่ไปฉุกเฉินเจอค่าตรวจรักษากรณีฉุกเฉินไปประมาณ 400 บาท กลายเป็นว่าน้องหมาผมท้องเสียไปหาหมอตามนัด 3 ครั้งติดกันทุกวันเจอค่ารักษาไปแล้วตอนนี้ 3,xxx บาท ซึงยังไม่หายด้วยนะครับ และคิดว่าถ้ายาหมดแล้วไม่หายผมคงต้องพาไปรักษาตามเอกชนดีกว่า เพราะเอกชนไม่ต้องรอนานเป็นวันๆ และในการรักษาก็ดีกว่า ค่ายา ค่าตรวจรักษาก็ถูกกว่า ดังนั้นในการนัดดูอาการครั้งล่าสุด เมื่อวานนี้ผมจึงตัดสินใจไม่ไปดีกว่า อีกอย่างยาที่บ้านก็ยังไม่หมดเลย ไม่ไหวอ่ะครับเอาน้องหมาตัวกระเปี๊ยกให้หมอฟังเสียงหัวใจแป๊ปเดียวกับหวัดไข้แล้วพบว่าไม่มีไข้ก็เสียเงินแล้ว 160 บาท มีค่าอุปกรณ์ทางการแพทย์ + ค่าฉีดยาฆ่าเชื้อ 0.6 CC อีกเกือบ 200 กว่าบาท เหมือนถูกปล้นเลย แรกๆ ก็ไม่คิดไรมาก แต่พอได้คุยกับสัตวแพทย์บางท่าน ก็คิดไปถึงว่าหลายคนที่ใช้บริการที่นี่เป็นคนยากจนก็เยอะอยู่ เจอฆ่าตรวจที่เปลี่ยนไป บวกกับเพิ่มรายการอุปกรณ์ทางการแพทย์เข้าไปก็ 200 กว่าบาทแล้วไม่ต้องพูดถึงค่ายาที่แพงขึ้นด้วยก็เลย ตัดสินใจมาตั้งกระทู้ตรงนี้ เพราะคิดว่ามันไม่ควรเป็นอย่างนี้ ท่านใดคิดเห็นอย่างไร?? แสดงความคิดเห็นกันหน่อยครับ ขอบคุณครับ

[ตอบ #1 เมื่อ:]

อยากถามความคิดเห็นครับ ที่ทางโรงพยาบาลสัตว์เกษตรปรับขึ้นราคา ค่าตรวจรักษาทั่วไปจาก 50 บาท/1ตัว มาเป็น 160 บาท / 1ตัว (จริงๆ มีการปรับราคาค่าตรวจทุกแบบซึ่งยังไม่รวมค่ายากับค่าอื่นๆอีกนะที่ปรับขึ้นทั้งหมดซึ่งแพงมาก) ส่วนตัวผมใช้บริการที่นี่มาหลายปีแล้ว เมื่อต้นปีผมยังพาน้องหมาที่บ้านไปรักษาก็ยังไม่เจอค่าตรวจขนาดนี้ แต่พอดีหลายวันมานี้ผมพาน้องหมาไปรักษาอีกครั้ง ซึ่งช่วงวันแรกๆ ไม่ได้สังเกตุมากแต่พอมาสังเกตุดูอีกที และเอาใบเสร็จที่ผ่านมามาดูก็พบว่า 2-3 วันมานี้ผมจ่ายค่าตรวจรักษาทั่วไป 160 บาท/ครั้ง ยกเว้นวันแรกที่ไปฉุกเฉินเจอค่าตรวจรักษากรณีฉุกเฉินไปประมาณ 400 บาท กลายเป็นว่าน้องหมาผมท้องเสียไปหาหมอตามนัด 3 ครั้งติดกันทุกวันเจอค่ารักษาไปแล้วตอนนี้ 3,xxx บาท ซึงยังไม่หายด้วยนะครับ และคิดว่าถ้ายาหมดแล้วไม่หายผมคงต้องพาไปรักษาตามเอกชนดีกว่า เพราะเอกชนไม่ต้องรอนานเป็นวันๆ และในการรักษาก็ดีกว่า ค่ายา ค่าตรวจรักษาก็ถูกกว่า ดังนั้นในการนัดดูอาการครั้งล่าสุด เมื่อวานนี้ผมจึงตัดสินใจไม่ไปดีกว่า อีกอย่างยาที่บ้านก็ยังไม่หมดเลย ไม่ไหวอ่ะครับเอาน้องหมาตัวกระเปี๊ยกให้หมอฟังเสียงหัวใจแป๊ปเดียวกับหวัดไข้แล้วพบว่าไม่มีไข้ก็เสียเงินแล้ว 160 บาท มีค่าอุปกรณ์ทางการแพทย์ + ค่าฉีดยาฆ่าเชื้อ 0.6 CC อีกเกือบ 200 กว่าบาท เหมือนถูกปล้นเลย แรกๆ ก็ไม่คิดไรมาก แต่พอได้คุยกับสัตวแพทย์บางท่าน ก็คิดไปถึงว่าหลายคนที่ใช้บริการที่นี่เป็นคนยากจนก็เยอะอยู่ เจอฆ่าตรวจที่เปลี่ยนไป บวกกับเพิ่มรายการอุปกรณ์ทางการแพทย์เข้าไปก็ 200 กว่าบาทแล้วไม่ต้องพูดถึงค่ายาที่แพงขึ้นด้วยก็เลย ตัดสินใจมาตั้งกระทู้ตรงนี้ เพราะคิดว่ามันไม่ควรเป็นอย่างนี้ ท่านใดคิดเห็นอย่างไร?? แสดงความคิดเห็นกันหน่อยครับ ขอบคุณครับ

ร้องเรียนปัญหาของท่านไปที่

- โรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน เลขที่ 50 ถ.พหลโยธิน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900 โทร. 0-2942-8756-9
หรือสายตรงไปยัง คณบดีคณะสัตวแพทยศาสตร์ ผศ.ธวัชชัย ศักดิ์ภู่อร่าม โทร.02-942-8751-9 e-mail : fvetths@ku.ac.th

[ตอบ #2 เมื่อ:]

เป็นนโยบายต้องการ กระชักเงินจากกระเป๋า เจ้าของน้องหมาแบบเชือดนิ่มๆ สะใจ !

[ตอบ #3 เมื่อ:]

ของเราไม่เคยพาไปที่โรงพยาบาลสัตว์เกษตรนะ ช้าอ่ะ
ยอมเสียเงินเพิ่มไปขวัญคำดีกว่า
หรือไม่ก็โรงพยาบาลสัตว์ สัตวแพทย์ 4 โพลีคลีนิค ก็ดีกว่านะ

ไปแต่ 2 ทีนี่อ่ะ พอดีเราเลี้ยงกระต่ายจ้า

[ตอบ #4 เมื่อ:]

เมือ 2 เดือนที่แล้ว พาหมาไป รวมเบ็ดเสร็จเกือบหมื่นบาท ต้องไปรอตั้งแต่ 9 โมงถึง 4-5 โมงเย็น ยังสงสัยว่าไป รพ.สัตว์ ยังไม่แพงเท่านี้แต่ก็ไม่เคยดูบิล

[ตอบ #5 เมื่อ:]

เราพาน้องหมาไปผ่าตัดเพราะถูกอีกตัวกัด (ไปครั้งแรก) หมอที่เกษตรบอกว่า อาจต้องตัดขาทิ้ง อาจเป็นอำมพาฒครึ่งตัว รอการรักษา ตั้งแต่ 9.00 บ่ายโมง

ได้รับการรักษา ทำแผลเสร็จรับตัวน้องหมาตอน 23.00น. ให้ค้าง 1คืน เช้าไปรับกลับ

ทำแผลไม่ดี (ไม่คุ้มกับเงินที่เสียไป) กลับมาบ้านแผลฉีก เลือดไหลออกมามาก ขาบวม

ค่ารักษา 8800 บาท เรารักษาแค่วันนั้นวันเดียวแล้วไม่ไปอีกเลย เปลี่ยน ร.พ. และตอนนี้น้องหมาเราวิ่งได้ครบ 4 ขา ไม่เป็นอำมพาฒ

แข็งแรงดี เจ้าของสุนัขที่เราได้คุยด้วยในวันนั้นหลายคนบ่น แต่ไม่พูดเพราะชีวิตน้องหมาอยู่ในมือหมอ

เราคงแบ่งปันได้เท่านี้ ที่เหลือคุณๆๆ ต้องเอาไปพิจารณาเองว่าเป็นอย่างไร

[ตอบ #6 เมื่อ:]

แพงกว่ารักษาคนอีกนะ -*-

เลี้ยงโคดีมะ -*- เลิกเลี้ยงหมา

[ตอบ #7 เมื่อ:]

เราเองเคยพาหมาเราไปหาหมอ ตอนช่วงปีใหม่ เราเข้าใจนะว่าหมาเราป่วยแบบไม่ฉุกเฉิน แต่ต้องรักษาเร่งด่วน (น้องหมาเราเค้าแก่มาก แล้วท้องบวมมาก) เราอ่านตามป้ายที่เค้าเขียนไว้ กรณีแยกลักษณะอาการตรงหน้าเคาน์เตอร์พาไปก้อประมาณ 3 ทุ่มแล้วเพราะเราเพิ่งเลิกงาน เค้าไล่เรากลับบ้านไม่รักษา คิดว่าเป็นนักศึกษาแพทย์พูดจาไม่ดีมากๆๆ วันนั้นเราก้อกลับโดยที่หมาของเราไม่ได้รักษา กลับมาเรารีบเซิร์ซหาคลีนิคที่รักษาสัตว์ โชคดีที่เราเจอร้านนี้ ชื่อดินแดงรักษาสัตว์ เพราะร้านนี้คิดราคาถูกมากและคนที่รักษาก้อพูดจาดีเป็นอาจารย์ของมหิดล ถ้าท่านไหนสนใจจะพาสัตว์ไปหาหมอเราขอแนะนำที่นี่ค่ะอยู่ใต้ทางด่วนดินแดงตีกติดกับปปสเลยค่ะ ถึงตอนนี้น้องหมาของเราจะจากไปแล้วเพราะว่าแก่มากแล้ว แต่ถ้าเราเลี้ยงใหม่เราก้อจะพาไปที่นี่เหมือนเดิมค่ะ

[ตอบ #8 เมื่อ:]

เราเพิ่งเสียสุนัขลูกรักไปจากการรักษาที่ รพ.สัตว์เกษตรฯ แอดมิทอยู่ 10 วันค่ารักษารวมค่าค้างคืน 3 วันจ่ายครั้งเกือบ 5000 บาทเฉลี่ยก็ตกประมาณวันละ 1650 บ. แต่วันสุดท้ายที่นำลูกที่ไร้วิญญานออกจาก รพ. เสียไปวันละ 4800 บ. เบ็ดเสร็จรวมค่ารักษาก่อนหน้านั้นที่ต้องเทียวไปมาตลอด 3 เดือนเสียเงินไปร่วม 40000 บ. ยังไม่รวมค่าอาหารเสริมต่าง ๆ ค่ารถ ค่าลางานแต่ต้องมาแลกกับการสูญเสียและสภาพที่น่าเวทนาของลูกกลับมา ก่อนเข้าแอดมิท สภาพร่างกายหน้าตาลูกขนสะอาดเกลี้ยงเกลา ทุกครั้งที่ไปขอเยี่ยมจะเห็นขี้ตากรัง หน้าปากเกรอะกรังด้วยคราบยาหรืออ้วกเลอะเทอะอย่างมาก เราคิดผิดหรือเปล่า ปล่อยลูกยิ่งใกล้มือหมอแต่ลูกกลับยิ่งทรุดโทรม แต่เราก็ได้แต่หวังว่าลูกต้องดีขึ้น อีกอย่างที่เราเจอกับตัวเองคือหมอรักษาเหมือนเดา แต่ละครั้งที่ไปเยี่ยมหมอต้องมาถามเรา บางครั้งก็อ่านแฟ้มแล้วก็ถามกันไปมา วันโน้นวันไหนให้ยาอะไรให้วุ่นวาย เราไม่เข้าใจว่าในแฟ้มไม่มีรายงานหรือ ระหว่างแอดมิทมีการมาดูแลรักษาบ้างไหม หรือหมอจะเข้าใจไปเองว่าเป็นโรคนี้แล้วรักษาไม่หายรอเวลาให้เขาตายไปเอง แต่เราเชื่อปาฎิหารย์นะ แต่ก็อาจจะพ่ายความขาดสามัญสำนึกของหมอบางคนไป เรายอมเสียเงินแล้วแม้จะรักษาเขาเต็มความสามารถแต่ไม่ได้ผลเพราะเขาอาจจะต้องการไปเกิดใหม่ก็ไม่ควรปล่อยให้เขาสกปรกขนาดนั้น แล้วสัตวแพทย์บางคนก็ยะโสมากขอบอก เราอยากให้ผู้รับผิดชอบรพ.สัตว์เกษตรฯ เข้าใจและมีจิตใจดีงามต่อสัตว์ ขอให้ระลึกเสมอว่าชีวิตหนึ่งของเขามีความหมายต่อชีวิตคนหลายคน เรื่องการไปรับการบริการที่รพ.ก็เป็นเรื่องที่ลำบากแสนเข็ญอยู่แล้ว ก็ขอให้พิจารณาค่ารักษาอย่าให้แพงเกินเหตุและการรักษาของหมออย่างมีคุณภาพและเมตตาปรานีด้วย

[ตอบ #9 เมื่อ:]

แพงจิงๆ เห็นด้วย โดนครั้งละ 1,000 กว่าบาท ค่าตรวจ รวมค่าหมอ ค่าผู้ช่วย (ถ้ามี 2 คน ก้อคิด 2 คนป่าว!ไม่รู้) ราคาแต่ละครั้งไม่เท่ากันเลย 160 บ้าง 350 บ้าง 800 กว่าก้อยังมี แต่ รพ.เอกชนคิดครั้งละ 120 บาท ทั้งในและนอกเวลาราชการ (มีทั้งหมอ+ผู้ช่วยหมออีก2คน)..กะลังคิดจะกลับไปหาหมอเอกชนแล้วเนี่ย

[ตอบ #10 เมื่อ:]

ผมมีหมาสองตัวเอาไปคลีนิกสัตว์แพทย์ ซักประวัติสองตัวนี้ชื่อไร ตัวนี้ชื่อ เทพเทือก กับไ อ้หมากระเป๋า สัตว์แพทย์ตกใจ เฮ้ยรัฐมนตรีทั้งคู่สองตัวนี่กัดเก่ง จะฉีดยาต้องระวังหนังหนามาก ผมเลยงง

คงนึกว่าคมซะเต็มประดา จะด่าก็ดูกระทู้หน่อย มิน่าล่ะ พอประท้วงอะไรไม่ได้ ก็เผาเมืองซะเลย สันดานสัตว์ชั้นต่ำแบบนี้ ไม่มีสัตว์แพทย์ที่ไหนรับรักษา

[ตอบ #11 เมื่อ:]

เราว่า ร.พ.ของรัฐน่าจะช่วยรักษาให้ฟรีสัตว์จรจัดเต็มถนนเที่ยวไปไล่จับฉีดยาไม่เห็นมันต้องเสียเงินเลยทำไมคนมีเมตตาต่อสัตว์ต้องถูกปล้นเหมือน ร.พ.ของรัฐที่รักษาคนที่ทุกท่านเคยได้ยินว่าเป็นโรงพยาบาลฆ่าสัตว์ยังไงยังงั้นน่าสมเภทเวทนา

[ตอบ #12 เมื่อ:]

ไม่น่าเลย อะไรๆ ก็เปลี่ยนไปหมด อะไรๆ ก็ขึ้นราคา เหมือนโดนปล้น เดี๋ยวนี้คนทำชั่วได้ดี คนทำดีจนต่อไป

[ตอบ #13 เมื่อ:]

โรงพยาบาลสัตว์ เกษตรที่ว่า นี่คือ เกษตรไหนคะ
บางเขนหรือกำแพงแสน ช่วยระบุด้วยค่ะ
จะได้เป็นข้อมูลในการเลือกใช้บริการครั้งต่อไปค่ะ
ขอบคุณนะคะ

[ตอบ #14 เมื่อ:]

ค่าหมอแพงกว่าคนอีก ที่คลีนิกเรารักษาคนคิดค่าตรวจแค่80-100บาท สงสัยต้องขึ้นราคาเสียแล้ว เสียหมดตรวจถูกกว่าหมา

[ตอบ #15 เมื่อ:]

อืมเห็นใจหลายท่านนะ แต่เราเคยไปใช้บริการที่ รพ.สัตว์แถวสยามน่ะ แค่น้องหมาโดนรถชน ไม่มีแผล แต่ซี่โครงร้าว ใส่เฝือก นอนโรงพยาบาล 26 วัน ยอดรวม 40,000 กว่าบาท เพราะต้องจ่ายค่าทำแผลที่แทงน้ำเกลือไม่เข้าแล้วโดนคว้านเนื้อออก จ่ายวันต่อวัน ถ้าต้องการรักษาต่อต้องเอาใบเสร็จมายืนยันว่าจ่ายแล้ว ที่สำคัญไม่เคยมีอาจารย์หมอมาดูเลย มีแต่หมอจบใหม่กับนศพ.เท่านั้น กรรม ไปครั้งเดียวไม่ไปอีกเลย

[ตอบ #16 เมื่อ:]

เด่วนี้ คุณธรรม จริยธรรม มันตีค่าเป็นเงินได้หมดแล้วล่ะ เฮ้อ !!! ทำใจ

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อย่าไว้ใจหมอ อย่าวางใจโรง'บาล

[ตอบ #17 เมื่อ:]

เราเพิ่งเสียสุนัขลูกรักไปจากการรักษาที่ รพ.สัตว์เกษตรฯ แอดมิทอยู่ 10 วันค่ารักษารวมค่าค้างคืน 3 วันจ่ายครั้งเกือบ 5000 บาทเฉลี่ยก็ตกประมาณวันละ 1650 บ. แต่วันสุดท้ายที่นำลูกที่ไร้วิญญานออกจาก รพ. เสียไปวันละ 4800 บ. เบ็ดเสร็จรวมค่ารักษาก่อนหน้านั้นที่ต้องเทียวไปมาตลอด 3 เดือนเสียเงินไปร่วม 40000 บ. ยังไม่รวมค่าอาหารเสริมต่าง ๆ ค่ารถ ค่าลางานแต่ต้องมาแลกกับการสูญเสียและสภาพที่น่าเวทนาของลูกกลับมา ก่อนเข้าแอดมิท สภาพร่างกายหน้าตาลูกขนสะอาดเกลี้ยงเกลา ทุกครั้งที่ไปขอเยี่ยมจะเห็นขี้ตากรัง หน้าปากเกรอะกรังด้วยคราบยาหรืออ้วกเลอะเทอะอย่างมาก เราคิดผิดหรือเปล่า ปล่อยลูกยิ่งใกล้มือหมอแต่ลูกกลับยิ่งทรุดโทรม แต่เราก็ได้แต่หวังว่าลูกต้องดีขึ้น อีกอย่างที่เราเจอกับตัวเองคือหมอรักษาเหมือนเดา แต่ละครั้งที่ไปเยี่ยมหมอต้องมาถามเรา บางครั้งก็อ่านแฟ้มแล้วก็ถามกันไปมา วันโน้นวันไหนให้ยาอะไรให้วุ่นวาย เราไม่เข้าใจว่าในแฟ้มไม่มีรายงานหรือ ระหว่างแอดมิทมีการมาดูแลรักษาบ้างไหม หรือหมอจะเข้าใจไปเองว่าเป็นโรคนี้แล้วรักษาไม่หายรอเวลาให้เขาตายไปเอง แต่เราเชื่อปาฎิหารย์นะ แต่ก็อาจจะพ่ายความขาดสามัญสำนึกของหมอบางคนไป เรายอมเสียเงินแล้วแม้จะรักษาเขาเต็มความสามารถแต่ไม่ได้ผลเพราะเขาอาจจะต้องการไปเกิดใหม่ก็ไม่ควรปล่อยให้เขาสกปรกขนาดนั้น แล้วสัตวแพทย์บางคนก็ยะโสมากขอบอก เราอยากให้ผู้รับผิดชอบรพ.สัตว์เกษตรฯ เข้าใจและมีจิตใจดีงามต่อสัตว์ ขอให้ระลึกเสมอว่าชีวิตหนึ่งของเขามีความหมายต่อชีวิตคนหลายคน เรื่องการไปรับการบริการที่รพ.ก็เป็นเรื่องที่ลำบากแสนเข็ญอยู่แล้ว ก็ขอให้พิจารณาค่ารักษาอย่าให้แพงเกินเหตุและการรักษาของหมออย่างมีคุณภาพและเมตตาปรานีด้วย

ต้องขอแสดงความเสียใจด้วยนะคะ เราคิดว่า ทางโรงบาลไม่ใส่ใจค่ะ เหมือนน้องหมาของเรา ดีที่ ไหวตัวทัน เอามาอยู่บ้านรักษาตามอาการไม่ปล่อยไว้กับหมอนานๆ พวกนี้เค้าสนแต่เงิน

[ตอบ #18 เมื่อ:]

บางทีคลีนิคเอกชนยังดีกว่าเลยครับ...เอาใจใส่มากกว่า...ชำนาญมากกว่า ประสบการณ์มากกว่า ค่ารักษาถูกกว่า (ส่วนใหญ่หมอพวกที่รักษาโรงบาลเกษตรเป็น นศ.แพทย์ฝึกหัดครับ)

เคยนำแมวของผมไปผ่าตัดนิ่ว(ต้องผ่าด่วนครับเพราะฉี่ไม่ออกเดี๋ยวฉี่เป็นพิษถึงตาย)แล้วนำฉี่ไปตรวจแล็ปที่โรงพยาบาลเกษตรบางเขน...เย็บแผลได้แย่มากครับแถมหมอ(ดูเด็กมาก)ไม่มีคำแนะนำเกี่ยวกับโภชนาการ วิธีการดูแลต่างๆไม่มีครับ หมอเอาแต่ก้มหน้าก้มตาจด Chart อะไรก็ไม่รู้....เราต้องเป็นคนถามเองทุกอย่าง

สุดท้ายผ่าเสร็จนำกลับมาดูแลที่บ้าน ประมาณ ตี1 แผลเปิด ท่อฉี่หลุดครับ เลยต้องพาไปรักษาด่วน คราวนี้ไม่ไปโรงพยาบาลครับ ไปคลีนิคแถวๆซอยรัชดา38 ให้หมอเย็บกลับไปคืน....หมอแนะนำดีมากครับดูเอาใจใส่ แถมค่ารักษาไม่แพง 200กว่าบาทเท่านั้น ให้ยาบำรุงพร้อมคำแนะนำมาเยอะมาก

2-3วันต่อมา ผลแล็ปออกมา ผมก็ไปขอผลแล็ปแล้วย้ายมารักษาคลีนิคนี้แทนครับ....ไม่รักษาต่อแล้วครับ รพ.สัตว์เกษตร...โดนไปหลายพันครับค่ารักษาฉุกเฉิน+ค่าแล้ป

ปัจจุบันน้องแมว3ตัว ของผม รักษาที่คลีนิคนี้ประจำครับเป็นคลีนิคเล็กๆแต่คุณภาพและการเอาใจใส่คับแก้ว จะขาดก็แต่เครื่องมือแล็ปใหญ่ๆครับ

[ตอบ #19 เมื่อ:]

ขอแสดงความเสียใจกับทุกท่านที่มีความรู้สึกไม่ดีกับ รพ สัตว์เกษตร เพราะเราก็รักษาปอมที่นี่ ทุกครั้งที่ไปก็คิดว่ามันถูกและน่าจะดี เลยยอมเสียเวลารออย่างน้อยสามถึงสี่ ชั่วโมง ทุกครั้ง หลังๆเริ่มไม่ไหว เลยไปทองหล่อ ลาดพร้าว เพราะคำณวน ราคากับค่าเสียเวลาบวกกับความเอาใจใส่และบริการก็คิดว่าพอรับได้ค่ะ

[ตอบ #20 เมื่อ:]

เห็นด้วย ช่วยกันประท้วงหยุดใช้บริการกันซักพัก จะได้สำนึกและพัฒนาตัวเองซะบ้าง ถ้ายังไปใช้บริการกันเยอะก็จะคิดว่าตัวเองวิเศษแล้ว มีแต่หมอฝึกหัด กับ นักศึกษา พอถามอะไรก็งงๆ ตอบไม่ค่อยได้ อย่าเอาของรักเราไปเสี่ยงเป็นตัวทดลองเลย..

[ตอบ #21 เมื่อ:]

คงนึกว่าคมซะเต็มประดา จะด่าก็ดูกระทู้หน่อย มิน่าล่ะ พอประท้วงอะไรไม่ได้ ก็เผาเมืองซะเลย สันดานสัตว์ชั้นต่ำแบบนี้ ไม่มีสัตว์แพทย์ที่ไหนรับรักษา

เขาลืมใส่ชื่อคุณกับลงไปหรือ อย่าลืมไปฉีดยาพิษสุนัขบ้าพร้อมเตี่ยเองละกัน

[ตอบ #22 เมื่อ:]

ค่าเสียเวลา ค่ารอ ค่าโสหุ้ยต่างๆ รพ.สัตว์เอกชนเถอะค่ะ ถ้าเป็นนิดหน่อย คลินิคเอกชนก็จะดีกว่า ของพี่ที่บ้าน หมาสาม แมวสอง หาคลินิคเอกชนหมด เคยไปเก็บลูกหมาที่เป็นไข้หัดมารักษา แต่ไม่รอด ไปรักษาที่ รพ.สัตว์เกษตรหล่ะค่ะ ก็หมดไม่น้อยหรอกค่ะ

[ตอบ #23 เมื่อ:]

โรงพยาบาลสัตว์เป็นทุกที่เลย วันก่อนก็เอาหมาไปตรวจเลือดรออยู่ 4 ชั่วโมงผลเลือดยังไม่ได้ ตอนเย้็นเลยพาไปหาหมอที่คลินิกแถวพางพลัด ชื่อคุณหมอปาน ดูอาการคุณหมอบอกว่าเป็นลำไส้อักเสบ เลยให้ยาแต่ต้องการดูผลเลือดเลยกลับไปเอาที่โรงบาลสัตว์เกษตร บอกว่าหมาอาการไม่ดีแต่ยังไม่บอกว่าเป็นอะไรต้องให้รับผลเลือดกับหมอให้รออีก ก้เลยโวยไป เขาเลยบอกให้มารับตอนบ่าย ทู่เรศ ราคาก็แพง ที่โรงพยาบาลสัตว์ทีมหิดลศาลายาอีก คือหมาเป็นมดลูกอักเสบ แต่เป็นช่วงที่ปีงบประมาณไม่มียารักษาก็ไม่บอก คือจะใช้จ่ายเท่าไหร่เราก็ยอม ไม่ยอมแนะนำ ีคุณหมออยู่คนหนึ่งเราจึงได้รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ว่ามีหมอเขาบอกว่าไม่ต้องทำอะไรเพราะยังไงก็ตาย คือเราก็คิดว่าสัตวแพทย์จะเหมือนกับหมอคน ที่จะแนะนำวิธีการรักษา หรือรักษาอย่างเต็มที่ หมาเราเลี้ยงมาตั้ง 7-8 ปี มันเสมือนเพื่อเราคนหนึ่ง เราก้ย้ายมันมาโรงพยาบาลสัตว์เกษตรสายไปแล้วก็เพราะหมอก็เหมือนกัน ผลจ่ายไปเกือบ 20,000 หมาตายร้องไห้ตาบวม คือเรารู้สึกว่าเรายังไม่ได้พยายามที่จะช่วยชีวิตมันอย่างเต็มที่ ไปโรงพยาบาลเอกชนเถอะราคาพอกัน เขาดูแลหมาดีกว่าอีก ขอแนะนำคลินิกหมาดีดี ๆ คลินิกหมอปาน ตรงข้ามโลตัสบางพลัด ดีมากรักษาเก่งราคาถูก กับคลินิกแถวบางบัวทองอยู่ตรงแยกบางพลูบางบัวทอง คุณหมอดีมาก แต่ 2 แห่งนีเป็นคลินิกเล็ก ๆๆ ถ้าเป็นมากลองถามคุณหมอดูอาจจะแนะนำได้

[ตอบ #24 เมื่อ:]

รพ. สัตว์เกษตรบางเขนแพงมานานแล้วค่ะ การบริการก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่จะเลือกบริการเฉพาะสัตว์ที่มีสายพันธ์และที่สำคัญเจ้าของต้องคนใหญ่ๆ โตๆ อีกทั้งมีนิสิตมารักษาแทนหมอสัตว์เยอะมากๆ รักษาไปเรียนรู้ไป มี รพ.ที่เป็นเอกชนที่ดีๆ และให้การเอาใจใส่ดูแลสัตว์เลี้ยงได้ดีอีกที่คือ รพ.สัตว์บางนา เป็น รพ. เอกชน คุณหมอใจดีตรวจเช็คสุขภาพสัตว์เลี้ยงละเอียดที่สำคัญการรักษาบางอย่างที่ไม่จำเป็นต้องเสียตังคุณหมอก็เต็มใจทำให้และก็ให้คำแนะนำหลังการรักษาได้ดีมากๆ บางทีคุณหมอก็สอนวิธีรักษาหรือสังเกตุอาการเบื้องต้นให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงเพื่อการดูแลที่ถูกต้อง ไปใช้บริการมาหลายปีละค่ะดีมากๆ สะอาด เร็วๆ และมีบริเวณที่กว้าง รพ.จะพาสัตว์เลี้ยงที่ต้องพักฟื้นมาเดินออกกำลังกายประจำถ้าต้องอยู่นานๆ เชิญไปใช้บริการได้นะคะ

[ตอบ #25 เมื่อ:]

หมอเอาความรักของเจ้าของสัตว์ มาต่อรองกับการรักษา คือเล่นกับความรักและความรู้สึกของคนหนะ สักวัน มันจะเข้าตัวเองนะคุณหมอรักษาหมา

เห็นความรักความเมตตาของพวกเราเป็นอะไร ถึงได้ทำตัวเย็นชาไร้ความรู้สึก ไม่ทุกข์ไม่ร้อนคอย คิดแต่ว่า เคสนี้ราคาเท่าไร งั้นรึหมอ

คนที่จะทำอาชีพนี้ อย่างอรกเลยต้องมีความ เมตตา ตามมาด้วยความรัก และตบท้ายด้วยความสงสาร ถึงคุณจะคิดราคาที่แพงแต่ถ้า ดูแลดี บริการดี

พูดจาดี และมีความจริงใจ คงไม่มีใครเค้าว่าคุณหรอกนะ แต่นี้ ตรงกันข้ามทุกอย่างคุณไม่มีในสิ่งที่เราพูดมาเลย

[ตอบ #26 เมื่อ:]

และยืนยันความห่วยแตกของโรงพยาบาลสัตว์ที่มหิดลศาลายา หมาเราโกลด์เด็น ขาหักแต่เราไม่รู้มาเจออีกที่ 1 สัปดาห์ผ่านมา พาไหาหมอบอกต้องใส่เหล็ก โทรมานัด เราไประชุมต่างจังหวัด เขาบอกว่าให้ใครพามา เราบอกว่าไม่มีใครเลย เพราะแฟนเราเขาก็ไม่ว่างไม่มีใครพาไป เขาบอกว่ายังไงรู้ไหม ถ้ามาไม่ได้ก็ไม่ต้องมาเลย ชื่นใจ เราเลยจับมันใส่เฝือกเอง ผลหายไม่เห็นต้องผ่าเลย

[ตอบ #27 เมื่อ:]

ไข่มุกไป ร.พ.สัตว์ ม.เกษตร หมอและพยาบาลใจดีมาก
รักสัตว์ พ่อเราเคยพาพี่หมาหนูดีไปรักษาเมื่อ 2 ปีก่อน
หมอเก่งมากอ่ะ เครื่องมือตรวจ Lab พร้อมที่สุด
ไข่มุกไปนอน ร.พ. 15 วัน ได้รอดชีวิต
ทั้งๆ ที่ตอนเข้าไปวันแรก ... ร่ำลา สั่งเสียกันไว้แล้ว
ตอนไปตรวจกับหมอหลังออกจาก ร.พ.
ไข่มุกต้องนอนรอในตะกร้าแมว ตั้งแต่ 11 โมงเช้า
กว่าจะได้กลับก็บ่าย 3 โมง แต่พ่อกะแม่ก็เต็มใจรอ
เพราะหมอทำงานแทบไม่ได้กินข้าวกลางวัน
หมาแมวนก มากมาย ซึ้งใจหมอและพยาบาล พี่ผู้ช่วยทุกคน
รู้เต็มอกว่า พ่อเสียค่าใช้จ่ายมาก
แต่เข้าใจว่าต้นทุนของ ร.พ.ก็มากมาย
ขอให้หมอ พยาบาล และ จนท.ทุกคนมีกำลังใจ
อย่าท้อใจกับคนบ่นว่า
ขอให้คิดว่า คนที่เข้าใจหมอ รักหมอก็มี
กลัวว่าหมอจะท้อใจ ขอให้รักแมวเหมือนเดิมนะคะ

[ตอบ #28 เมื่อ:]

อะไรท่ป็นของรัฐจะแพงและห่วยทั้งนั้น

[ตอบ #29 เมื่อ:]

อยากบอกว่าโทรไปแผนกฉุกเฉิน หมอพูดจาแย่มากๆ ก็รู้ว่าคนใช้บริการเยอะ แต่พูดจายิ่งกว่าหมาอีก รับไม่ได้

โดยส่วนตัว เคยไปให้เลือดมาครั้ง1 X-Ray กับทำการอัลตร้าซาวน์ ราคาก็ถือว่าถูกมากกว่า คลินิคเอกชน

รบกวนปรับปรุงเรื่องมารยาทก็ดีนะครับ

[ตอบ #30 เมื่อ:]

โรงพยาบาลสัตว์ ม.เกษตร เราเลือกไปที่นั่นเพราะไม่ไกลจากบ้านมากนัก สิ่งที่เป็นเหมือนหลายๆคนคือ ราคาแพงไปรึเปล่าคะ ลูกหมาไม่ถึงหนึ่งเดือนมีอาการชัก เค้าก็บอกว่ามีความผิดปกติทางสมอง เค้าวินิจฉัยผิดแน่เลยในใจเราก็คิดแบบนั้น แต่จะเถียงอะไรหมอ เพราะเราก็ไม่รู็เรื่อง เข้าห้องฉุกเฉินแพงมากๆค่ะ แล้วหมอก็ให้ยาถ่ายพยาธิให้กับน้องหมาเรามา ไหนบอกว่าสมองผิดปกติแต่ให้ยาถ่ายพยาธิมากิน หนึ่งอาทิตย์หลังจากนั้นไปหาใหม่ บอกว่าอาการชักเกิดจากพยาธิขึ้นสมองอีกละ เฮ้อออ น้องหมาเรารับไปซะหลายโรค ซึ่งดูแล้วจากหลายๆครั้งที่พาน้องหมาไป หมอจะดูเด็กๆเหมือนเป็นนักศึกษาอยู่เลย การวินิจฉัยโรคก็ผิดไป อยากให้แก้ไขค่ะ อีกทั้งรอนานมากๆเลยค่ะ คิดว่าหลายๆคนคงเจอแบบเรา

[ตอบ #31 เมื่อ:]

ผ่านมาอ่านพอดี จบสัตวแพทย์จากเกษตรแต่เปิดคลินิกอยู่ต่างจังหวัดค่ะ เข้าใจความรู้สึกของทุกๆคนค่ะ แต่คุณหมอดีดีก็ยังมีอยู่นะคะ เดี๋ยวจะเสียกำลังใจกันไปหมด
และมาขอยืนยันว่า รพ ไม่ได้มีการให้นิสิตสัตวแพทย์ที่ยังไม่จบการศึกษาเป็นผู้ตรวจรักษาแน่นอนค่ะ เพราะตอนเรียนจะไม่ได้รับอนุญาตให้พูดแนะนำใดๆกับเคสทั้งนั้นค่ะ สำหรับประเด็นอื่นๆไม่ขอแสดงความคิดเห็นจ้า

[ตอบ #32 เมื่อ:]

เราเองเคยพาหมาเราไปหาหมอ ตอนช่วงปีใหม่ เราเข้าใจนะว่าหมาเราป่วยแบบไม่ฉุกเฉิน แต่ต้องรักษาเร่งด่วน (น้องหมาเราเค้าแก่มาก แล้วท้องบวมมาก) เราอ่านตามป้ายที่เค้าเขียนไว้ กรณีแยกลักษณะอาการตรงหน้าเคาน์เตอร์พาไปก้อประมาณ 3 ทุ่มแล้วเพราะเราเพิ่งเลิกงาน เค้าไล่เรากลับบ้านไม่รักษา คิดว่าเป็นนักศึกษาแพทย์พูดจาไม่ดีมากๆๆ วันนั้นเราก้อกลับโดยที่หมาของเราไม่ได้รักษา กลับมาเรารีบเซิร์ซหาคลีนิคที่รักษาสัตว์ โชคดีที่เราเจอร้านนี้ ชื่อดินแดงรักษาสัตว์ เพราะร้านนี้คิดราคาถูกมากและคนที่รักษาก้อพูดจาดีเป็นอาจารย์ของมหิดล ถ้าท่านไหนสนใจจะพาสัตว์ไปหาหมอเราขอแนะนำที่นี่ค่ะอยู่ใต้ทางด่วนดินแดงตีกติดกับปปสเลยค่ะ ถึงตอนนี้น้องหมาของเราจะจากไปแล้วเพราะว่าแก่มากแล้ว แต่ถ้าเราเลี้ยงใหม่เราก้อจะพาไปที่นี่เหมือนเดิมค่ะ

อ่านแล้วอึ้ง ทำไมทำกันได้ขนาดนี้ ขอบคุณครับสำหรับข้อความท่านนี้ ทำให้ผมรู้ว่าแถวๆ บ้านผมมีคลีนิคสัตว์ที่ดีๆ มีโอกาสจะแวะไปลองใช้บริการดูครับ

[ตอบ #33 เมื่อ:]

ขอบคุณครับสำหรับทุกความคิดเห็น ก็ได้แต่หวังว่า ผู้บริหารโรงพยาบาลสัตว์เกษตร จะได้มีโอกาสเข้ามาอ่านและฟังความคิดเห็นของผู้ที่เข้าไปใช้บริการที่นั่นด้วยละกันครับ

แต่ขออนุญาตชี้แจ้งหน่อยละกันนะครับ ว่าผมก็ไม่ได้อคติอะไรกับสัตวแพทย์ที่โรงพยาลสัตว์เกษตรนะครับ แม้ที่ผ่านมาทุกท่านจะพูดแนะนำไม่เหมือนกัน ผมก็ยังคิดว่าน่าจะเป็นเรื่องของประสบการณ์ที่แตกต่างกันมากกว่าครับผม ก็ไม่ว่ากันหรอกครับ อย่างเรื่องล่าสุดผมขอคำแนะนำคุณหมอเรื่องการให้วัคซีนสุนัข ผมถามทั้งหมด 4 ท่าน แม้จะพูดไม่เหมือนกัน (เล่นเอาผมงง) ผมก็เอาข้อมูลมาเวจเอง แล้วเลือกเอาข้อมูลตรงกลางที่ผมเห็นว่าน่าจะดีสุด (โดยตัวผมเอง..55555+) ผมก็โอเคนะครับ

แต่ที่ผมเป็นห่วงมากตอนนี้ก็คือเรื่องค่าบริการที่ปรับขึ้นจาก 50 บาทเป็น 160 บาท/ตัว และยังเพิ่มค่าอุปกรณ์ทางการแพทย์มาอีกต่างหาก 50 บาท (ไม่รวมค่ายา) ซึ่งพอสรุปได้ว่าถ้าผมพาน้องหมาที่บ้านไปหาหมอ ทันทีที่ตรวจผมจะเจอค่าวิชาชีพ 160 บาท + ค่าอุปกรณ์ทางการแพทย์ 50 บาท รวมเป็น 210 บาท ซึ่งราคานี้ยังไม่รวมค่ายาอีก (ซึ่งก็ขึ้นราคาอีกด้วยเช่นกัน) ซึ่งถ้าเทียบจากเดิมดังตัวอย่างด้านล่างนี้ก็จะเห็นว่าค่าใช้จ่ายที่เพิ่มมานั้นต่อน้องหมา 1 ตัวมันเยอะมากครับ และยังต้องไปรออีกเป็นเวลาหลายๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ชั่วโมง (ไม่ไหวจริงๆ ครับ)

เปรียบเทียบค่าใช้จ่ายในการตรวจโดยยกมาเพียง 1 ครั้ง(ที่มีลักษณะเหมือนกันมากสุด)

ตัวอย่างน้องหมาท้องเสียเดือนพฤศจิกายน 2009 ตัวอย่างน้องหมาท้องเสียเดือนพฤษภาคม 2010
1. ค่าตรวจ 50 บาท 1. ค่าตรวจ 160 บาท
2. ค่ายา 320 บาท 2. ค่าอุปกรณ์ทางการแพทย์ 50 บาท
3. ค่ายา 860 บาท
รวมทั้งหมด 370 บาท รวมทั้งหมด 1,070 บาท

ตอนนี้น้องหมาที่เล่าให้ฟังหายป่วยแล้วนะครับ ผมตัดสินใจเป็นหมอให้เค้าเองดูแลให้ยา และจัดการเรื่องเข็มน้ำเกลือออกเอง เพราะคิดว่าถ้าพาไป รพ.สัตว์เกษตรอีก ผมคงต้องเจอค่าวัดไข้ 50 บาท + ค่าตรวจ 160 บาท (ยาไม่ขอพูดถึงนะครับ) ทั้งที่จริงๆ แล้วไปแค่ถอดสายน้ำเกลือออก แต่ตรงนี้ต้องขอขอบคุณหมอสัตว์แพทย์ที่ รพ.สัตว์เกษตร ทีแนะนำให้ทำเองครับ เพราะคุณหมอคงทราบดีว่าเจ้าาของหมาต้องเจอค่าอะไรอีกถ้าพามาอีกรอบ (ขอไม่เอ่ยชื่อนะครับเด๋วคุณหมอจะเดือดร้อน) ต้องขอบคุณจริงๆ เพราะคุณหมอน่ารักมาก ผมประทับใจที่คุณหมอบอกว่า "ถ้าทำไม่เป็น ก็โทรมาหาหมอได้นะ ไม่ก็มารับหมอไปทำให้ได้ ไม่คิดเงิน ถ้าน้องหมาหายดีแล้วพามาอีกก็คงต้องเสียเงินอีก หมอสงสารคนจนๆ หลายคนนะเค้าลำบากกว่าคุณเยอะ มีอะไรให้ช่วยก็บอกหมอได้ค่ะ"

ขอแสดงความเสียใจกับหลายๆ ท่านที่ต้องสูญเสียน้องหมาไป ก็อยากให้คิดซะว่าเค้าคงมีอายุขัยเพียงเท่านี้จริงๆ อย่าคิดมากเลยนะครับ

และขอขอบคุณทุกท่านสำหรับทุกความเห็นที่โพสต์เข้ามานะครับ นึกว่าจะไม่มีคนมาอ่านซะแล้ว..เหอๆๆๆๆๆ

[ตอบ #34 เมื่อ:]

อยากให้ ทางรพ สงสารและเห็นใจคนที่มีใจเมตตาต่อสัตว์เลี้ยงบ้าง
การขึ้นค่าบริการแบบมหาโหดแบบนี้(คล้ายๆกับค่าทางด่วน)
มันเป็นภาระมากๆ พาสัตว์เลี้ยงไป รพ ทีก้อต้องมีค่าพาหนะไป-กลับ ด้วยนะครับ

[ตอบ #35 เมื่อ:]

เคยไปโรงบาลสัตว์เกษตรเหมือนกัน เอากระต่ายไปรักษา คิดดูดิ จากกระต่ายที่ท้องอืด ไม่อึมา7วัน เราทั้งเฝ้าพาไปหาหมอทุกสองวัน จนอาการดีขึ้น ถ่ายเป็นก้อน(ช่วงนี้เราเอาไปรักษาที่แผนกสัตว์พิเศษของเกษตรนั่นแหละ พวกกระต่ายโดยตรงเลย หมอรักษาดีมาก เอาใจใส่กระต่ายเราดี ทั้งๆที่มันก็กระต่ายพันธุ์ไทยธรรมดา) แต่อยู่ดีๆ แต่มันก็ท้องเสียจากติดเชื้อบิดอีก แล้วชักตอนกลางดึกตี5!!! โชคดีที่มันชักแล้วตัวมันไปกระตุกใกล้ลังกระดาษ เราเลยตื่น ตกใจมาก ทำอะไรไม่ถูกเลย รีบพามันไปแผนกฉุกเฉิน ของโรงบาลสัตว์เกษตรนั่นแหละ พอไปถึงเค้าก็เอามันเข้าไปข้างใน เราก็รอข้างนอก ซักพัก หมอก็ให้เข้าไปดู ก็บอกว่ามันเสียน้ำมาก มันเลยชัก ฯลฯ... ตอนนี้หมอก็ให้น้ำเกลือกะออกซิเจนนะ แต่ก็ไม่รับประกันว่ามันจะรอด แต่ตอนนี้ดูท่าก็น่าจะดีขึ้นแล้ว รอดูอาการต่อไป เราก็โอเคค่ะ มีหวังว่ามันจะรอดแหละ เพราะเราเอามาโรงบาลทันไง จากที่ชักไม่น่าจะรอด พอหมอให้น้ำเกลือ มันก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดอ่ะ เช้าเราก็เลยไปเรียนต่อ บ่ายๆฉุกเฉินเค้าก็โทรมาแต่เราไม่ได้รับ เพราะเราเรียนอยู่ แต่พอเราเห็นเบอร์เราก็รีบโทรกลับ ก็ห่างจากเค้าโทรมาไม่นานเท่าไหร่หรอก แต่ก็ติดต่อไม่ได้ ไม่มีคนรับ สรุปบ่ายนั้นเราก็ไม่รู้ข่าวร้ายอะไรเลย มัวแต่คิดอยู่ในใจว่าเออ เรียนเสร็จก็จะได้ไปหากระต่ายแล้ว คือคิดไว้แล้วอ่ะ ว่ามันรอด พอไปโรงบาลสัตว์ตอนเย็น เราก็บอกคนที่เคาเตอร์ว่ามารับกระต่ายค่ะ เค้าก็เอาบิลมาให้ บอกราคานู่นนี่นั่นไป(ไม่ใช่ถูกๆ แพงอยู่) แต่เราก็โอเค กระต่ายรอดก็นับว่าคุ้มแหละ เราก็เตรียมตังจ่ายพร้อมถามเค้าว่ากระต่ายดีขึ้นยัง พากลับบ้านเลยได้มั้ย เค้าก็ทำหน้าตกใจ อ้าวกระต่ายน้องตายแล้วนะคะ! เราอึ้ง... ทำไรไม่ถูกเลย ใจเสีย ฯลฯ แล้วเค้าก็ให้เราเอาบิลไปจ่ายก่อน ถึงจะมารับศพได้ แต่ก็ไม่ได้มีการชี้แจงอะไรเลย ว่ามันเป็นอะไร ยังงัย คือก็เข้าใจว่าเค้าไม่ใช่หมอ แต่หมอที่รักษาอ่ะ มีคำชี้แจง หรือบอกไว้มั้ย ก็ป่าว พอเราถามเค้าก็บอกว่า อ้าวเมื่อกี้น้องไม่ได้ดูในแฟ้มเหรอ ตอนไปจ่ายตังหน่ะคะ (อ้าว ต้องดูเองเหรอ ภาษายา ภาษาแพทย์ กูจะเข้าใจมั้ย???) เสร็จแล้วเค้าก็ก้มๆดูแฟ้มให้ แล้วก็บอกกลับมาว่า ในนี้หมอก็ไม่ได้บอกอะไรนะคะ เขียนแค่ว่าDeathแล้วอ่ะคะ(อืม ขอบคุณมากจิงๆ ตอนนั้นเสียความรู้สึกมากในฐานะหมอที่รักษา น่าจะมีการอธิบายในเจ้าของสัตว์เลี้ยงเค้าได้รู้หน่อย ไหนๆสัตว์เลี้ยงเค้าก็ตายอ่ะนะ อุตส่าห์สู้รักษามา จากที่ปลงตั้งแต่มันไม่อึ7วัน คิดว่าไม่รอด จากที่คอยเฝ้าป้อนน้ำ ป้อนยา แทบไม่ได้หลับไม่ได้นอน เสียค่ารักษาไปจะ3000แล้ว สุดท้ายต้องมาตาย เห้อ...เซงการบริการมากเลย ทั้งหมอที่แผนกฉุกเฉิน และคนที่เคาเตอร์) แต่หมอที่แผนกสัตว์พิเศษอ่ะรักษาดีอันนั้นไม่ว่า อืม..หลังจากเอาศพมาที่บ้าน เค้าก็ห่อมาให้แหละ แกะดู แปลกใจตรงที่ ต้องขากระต่ายมีรอยเลือด ทั้งสองข้างเลย คิดว่าน่าจะเป็นรอยที่เค้าเจาะให้น้ำเกลือ แต่ว่าจากที่เราคิดเองนะ ทำไมหมอไม่ฉีดน้ำเกลือใต้ผิวหนัง(หมายถึงฉีดเข็มใหญ่ เข็มเดียวจบอ่ะนะ) เพราะทุกครั้งที่เราเคยไปหาหมอแผนกสัตว์พิเศษ เค้าจะทำแบบนี้ อีกอย่างคือเราคิดว่า กระต่ายมันตัวเล็กเกินไป แขนขามันก็เล็ก ไปฉีดแบบนั้นมันจะช่วยให้กระต่ายรอด หรืออ่อนแอยิ่งกว่าเดิมกันแน่ กระต่ายมันไม่ใช่คนนะ หรือตัวใหญ่เหมือนหมานะ!! หมอที่รักษาก็ดูไม่ค่อยมีประสบการณ์เท่าไหร่ ไม่น่าเอามาอยู่แผนกฉุกเฉินเลย (แผนกที่สัตว์กำลังแย่ถึงขีดสุด ต้องการคนที่ชำนาญมาช่วยต่อชีวิตมัน ไม่ใช่ทำลายชีวิตมัน)

ที่กล่าวมาข้างต้นไม่ได้โทษหมอที่กระต่ายตายหรอก อันนั้นมันโทษกันไม่ได้อยู่แล้ว แต่ความเอาใจใส่และเห็นอกเห็นสัตว์ อยากช่วยชีวิตมันทุกตัวรึป่าว ทุกชีวิตทุกตัว ถ้ามันได้มาถึงหมอแล้ว อย่างน้อยก็แสดงออกได้ว่าเจ้าของเค้าใส่ใจมันมากขนาดไหน กว่าจะดั้นด้นพามาถึงมือหมออ่ะ อยากให่หมอมีจรรยาบรรณในการรักษาสัตว์หน่อยค่ะ
***ก่อนจะมาเป็นสัตว์แพทย์ อย่าลืมว่ามันต้องมีจุดเริ่มต้นมาจาการรักสัตว์ทุกตัวนะคะ***

[ตอบ #36 เมื่อ:]

สุนัขผมเป็นโรคท้องบวมรักษาทีรพส.เกษตรครับอยู่ห้องฉุกเฉิน4วันค่าใช้จ่าย21000บาทครับ หลังจากนั้นไปหาหมอเพื่อติดตามอาการ2ครั้ง ครั้งละ3000(รวมยา)รวมค่าใช้จ่าย ณตอนนี้ 27000บาท และยังต้องไปหาเพื่อติดตามอาการอีก ผมกำลังคิดว่าจะไปหาที่อื่นอยู่แต่ข้อมูลการรักษาอยู่ที่นี่หมด ผมควรทำไงดีครับ เพราะที่นี่รอนานมากๆครับ อีกทั้งเราไม่สามารถพบแพทย์ท่านเดิมได้อีก บางท่านก็ดูแลดีมาก บางท่านก็ไม่ค่อยดูแลเลยให้รออย่าเดียว ส่วนเจ้าหน้าที่โดยเฉพาะห้องฉุกเฉินบางท่านแย่มากๆๆเลยครับทำเหมือนผมนำสุนัขมารักษาฟรี(ผมอดคิดไม่ได้ว่ามีผู้ใหญ่ที่ไหนฝากเข้ามาทำงานหรือเปล่า) บางทีผมเห็นคุณสาหร่ายังต้องเกรงใจเลย เป็นแบบนี้แย่นะครับ เรื่องเจ้าหน้าที่ก็เป็นเรื่องหนึ่งที่ผมอยากย้ายที่รักษา และเรื่องค่าใช้จ่ายก็ไม่เบาเลยนะครับยังแถมการรอคิวเป็นชั่วโมงอีก ที่ผมเข้ามาบอกถึงเรื่องนี้เพราะผมอยากให้รพส.แห่งนี้มีการปรับปรุง และเป็นที่พึ่งของเจ้าของสัตว์และสัตว์ได้นะครับ

[ตอบ #37 เมื่อ:]

เพิ่งพาน้องหมาลูกรักไปรักษาเมื่อ2-3วันนี้ เห็นความแตกต่างจากเมื่อ 4-5 ปีก่อนอย่างสิ้นเชิง สิ่งที่ได้พบ ณ วันนี้คือหมอและพนักงาน (ทุกคนที่พบในวันนี้) ไม่มีจรรยาบรรณ ไม่มีมารยาท ขาดจิตสำนึก เหมือนเอาคนไม่ได้รับการศึกษามาสวมชื่อเป็นสัตว์แพทย์ มุ่งจะเอาแต่เงินค่ารักษาแพงมหาโหด

เรื่องมีอยู่ว่า น้องลูกรักไม่ทานข้าวมา 2-3 วัน ตอนแรกพาไปรักษา รพส เอกชนแถวรังสิต รักษาดี น้องหมานอนที่นั่นท่าทางมีความสุข พนักงานดูแลพูดจาและใส่ใจดีมากๆ และมีความจำเป็นต้องอัลตร้าซาวน์ แต่เนื่องจากตอนนี้น้ำท่วมอยู่ ไม่สามารถส่งลูกรักเราไปอัลตร้าซาวน์ได้ ลูกรักเราไม่ทานข้าวมารวม 5-6 วันแล้ว เราเลยมีความจำเป็นต้องส่งไปรักษาและทำอัลตร้าซาวน์ต่อที่อื่น สรุปรวมค่าเอกซเรย์ ค่าที่พักค่าอาหาร 2 คืน ประมาณ 2,500 บาท ต่อมาเราตัดสินใจพาน้องหมาลูกรักเราไปรักษาที่ รพส ชื่อดังแถวเกษตร และได้พบประสบการณ์แย่ๆ ...

ขอเล่าโดยละเอียด เริ่มตั้งแต่

1. ไปถึงไม่มีพนักงานมารับหรือมาช่วยอุ้ม หมาคุณจะป่วย จะเป็นจะตายคุณต้องไปเดินหารถเข็นและอุ้มน้องหมาเอง น้องหมาเราหนักเกือบ 30 โล เดินไม่ได้เพราะไม่มีแรง เราต้องอุ้มกันกับแม่ 2 คน
2. เนื่องจากไม่ได้มานาน ไม่แน่ใจว่าต้องทำอะไรบาง ไปถามพนักงานตรงที่ทำบัตรใหม่ เราแค่ถามว่าต้องทำอะไรบ้างนั่งรอตรงไหน พนักงานต้อนรับหรือพนักงานไล่ลูกค้าก็ไม่รู้ ทำหน้าเหมือนรำคาญ แล้วก็บอกให้เราพาลูกรักเราชั่งน้ำหนักด้วยตัวเราเอง หนักเกือบ 30 โล เราต้องยกลงและขึ้นรถเข็น สูงประมาณเมตรกว่าๆอีกรอบนึง
3. พบหมอผู้หญิงคนนึง ท่าทางเป็นนักศึกษา แต่ท่าทางหยิ่งมากขอบอก เหมือนเราต้องไปขอเค้ากิน หน้าตาบอกบุญไม่รับ หมอให้เล่าว่าหมอที่เก่าบอกว่าอาการเป็นยังงัยบ้าง เราบอก "ติดเชื้อในเลือด ตับโต มีก้อนนื้อ เป็นดีซ่าน.." ทันใดนั้นหมอก็พูดขัดขึ้นมาว่า "เป็นดีซ่านไม่ต้องบอกก็ได้ เปิดตาดูก็รู้แล้ว!" (แล้วเมื่อกี้ ดันให้บอกว่าหมอที่เก่าว่ายังงัยบ้าง ถ้าสามารถรู้ได้เองแล้วจะมาถามทำไม)
4.ต่อมาหมอบอกให้ไปชั้นสอง แต่ไม่บอกให้ไปทำไม แล้วหมอก็เดินออกไป เรากับแม่ก็งงงง ว่าให้ไปตรงไหนที่ไหนของชั้นสองไปเพื่ออะไร? เราเลยเดินไปตามหาหมอ เพื่อถามว่าไปที่ไหนยังงัย ที่สำคัญ เราต้องเข็นลูกรักเราไปเอง ไปก็เดินงงงง ติดต่ออะไรยังงัย
5.ไปถึงชั้นสอง ก็แจ้งเค้าไปว่ามาอัลตร้าซาวน์ ซักพักผู้ชายเสื้อชมพูเรียกให้เข้าไปในห้องพร้อมลูกรักและแม่ของเรา เราเพิ่งเดินเข้าไป โทรศัพท์ธุระเรื่องงานก็เข้ามา ผู้ชายเสื้อชมพูถามเรา "พร้อมรึยัง พร้อมรึยัง" เราก็งง งง ว่าพร้อมอะไร เราก็พยักหน้าแบบ งง งง พนักงานบอกให้เราช่วยอุ้มลูกรักขึ้นเบาะสีน้ำตาล เราก็ไม่รู้มันคือเบาะอะไร ซักพักผู้หญิงคนนึงท่าทางเป็นนักศึกษาฝึกหัดอีกละ มาบอกเราว่า "ขณะทำอัลตร้าซาวน์ห้ามคุยโทรศัพท์!" มาพูดเหมือนเราไม่รู้เรื่อง เราก็งงอีกละ จะทำอะไรก็ไม่บอก ว่าขั้นตอนไหนจะทำอะไร จะไปรู้ได้งัย(วะ) พูดกับเราเหมือนไม่รู้อะไร เราแก่กว่าพวกนี้เป็น 10 ปี แต่ทำไมพวกนี้ดูไม่มีสัมมาคารวะ เราคิดในใจ ตอนนั้นเริ่มเดือดแระ หน้าเริ่มบึ้ง แต่คิดซะว่าลูกเรายังต้องรักษากับพวกมัน (ในระหว่างที่อัลตร้าซาวน์ก็เรียก นศ คนอื่นๆ 3-4 คนมามุงดู)
6. พนักงานบอกให้ไปรอชั้น 1 หน้าห้องเดิม ซักพักหมอเรียกถามน้ำหนัก บอกแต่ว่ายังบอกอาการอะไรไม่ได้ให้ไปฉีดยาให้น้ำเกลือ แล้วค่อยมาคุยกันอีกที เราก็ต้องเข็นลูกรักไปให้น้ำเกลือด้วยตัวเอง (ตอนนั้นคิดว่าเอาน่า รพส ของรัฐก็อย่างนี้ ราคาถูกหน่อยก็ต้องบริการตนเอง ขอให้ลูกรักหายเถอะ ไม่เป็นไร)
7.ตอนฉีดยายังไม่เท่าไหร่ ตอนให้น้ำเกลือพนักงานเอาเข็มแทงเหมือนกับลูกรักเราไม่มีชีวิตจิดใจ แทงปั้กเข้าไปกลางหลัง 2 เข็ม เราได้แต่อดทน ว่าสงสัยเค้าคงต้องทำอย่างนี้เป็นปกติ(มั้ง) แล้วเค้าก็เอาอะไรแหย่เข้าไปในอวัยเพศของลูกเรา ลูกเราดิ้นเจ็บจนน้ำตาไหล เรากับแม่ต้องคอยซับน้ำตาให้ตลอด ในระหว่างนั้น นศ. ก็มามุงดูแถมขำคิกๆ เข้าใจว่าอาจจะจำเป็นต้องเก็บ แต่ช่วยเบาๆมือหน่อยได้มั้ย พอเอาเข็มน้ำเกลืออก เลือดน้องหมาเราออกมาเป็นหยด รู้สึกสงสารน้องหมาเรามาก แต่ยังไม่พูดอะไร

[ตอบ #38 เมื่อ:]

== ต่อ ==



8. หมอเดินมาบอกให้นอนดูอาการที่นี่ หมอไปเรียกพนักงานมา ให้พาไปห้องพัก(กรง)น้องหมา เราก็นึกว่าจะมาช่วยเข็น เปล่าเลย เดินนำลิ่วๆ เรากับแม่ต้องเข็นกันเองอีกแล้ว (ไม่หนักแต่งง ว่าพนักงานผู้ช่วยพวกนี้มีไว้เพื่อ...)
9.คนนำทางบอกให้รอหน้าห้องพักน้องหมา ซักพักผู้หญิงคนนึงบอกให้เข้าไปติดต่อห้องฝั่งตรงข้ามทำเรื่องได้เลย เราก็เดินเข้าติดต่อขอทำเรื่อง ผู้หญิงในห้องที่นั่งอยู่ทำหน้าไม่พอใจ บอกเราว่า "กรุณารอเรียกค่ะ" (น้ำเสียงสีหน้าบ่งบอกว่าไม่พอใจ) เราชักยั๊วะ เลยบอกไปว่า ก็พนักงานห้องตรงข้ามบอกให้เข้ามาติดต่อได้เลย (เราคิดในใจจะเอายังงัย(วะ))
10. พาน้องหมาเข้าที่พัก และให้เราไปติดต่อชำระเงิน ดูใบเสร็จวันนี้วันเดียว 2000 กว่าบาท แล้วเราถามว่าค่าพักคืนเท่าไหร่ ได้รับคำตอบมาว่า รวมค่าใช้จ่ายต่างๆ คืนละ 800++ ขั้นต่ำคือ 800 แต่อ่านจาก คห ด้านบนๆแล้ว อยู่ที่ประมาณ 1500 - 2000 แม่เจ้าแพงกว่าเอกชนอีกนะนั่น ทำก็ไม่ต่างกัน แถมเราต้องทำทุกอย่างเข็นรถอุ้มน้องหมาเอง มาเจอพนักงานแต่ละคน ทำเหมือนเรามาขอมันกิน แถมแพงกว่าเอกชนที่เรารักษาซะอีก ที่เก่าค่าเอ็กซเรย์ รวมค่าดูแล 2 คืน 2500 บาท แต่ที่นี่มาตรวจ+อัลตร้าซาวน์ ยังไม่รวมค้างคืน ไปแล้ว 2000 กว่าบาท แถมบริการแบบเหมือนมาขอมันกิน ที่เราเจอเป็นทุกคน คงไม่บังเอิญแล้ว ที่สำคัญจ่ายเงินแล้วยังไม่รู้เลยว่าน้องหมาเราเป็นอะไร หมอบอกเดี่ยวค่อยมาคุยแล้วก็ให้เราเข็นน้องหมาไปโน่นไปนี่ แล้วก็จ่ายตังค์ให้กลับบ้าน ยังไม่รู้เลยว่าน้องหมาเราเป็นอะไร จ่ายตังค์ไปยังไม่ได้รับคำตอบที่ควรจะได้รู้ หรือ
แม้กระทั่งคำอธิบายยังไม่มีเลย

ต่อมาวันนี้ไปเยียมลูกรัก เวลาเยี่ยมก็แค่ 13.30-18.30 ถ้าเลิกงานค่ำก็ไม่ต้องมาเยี่ยมกันเลย แถมมีคนดูแลไม่ตลอดทั้งคืนอีกด้วย มาเจอกันอีกที 8.30 เค้าจะเขียนไว้้เลย ซึ่งถ้าหากเป็นอะไรมาตอนกลางคืนก็คงรอความตายอย่างเดียว

ลูกรักเจอเราดีใจมากจนฉี่ราด แม่เราก็แจ้งพยาบาล พยาบาลบอกให้แม่เราเปิดกรงและช่วยจับ เนื่องจากว่าน้องหมาเราตัวใหญ่ดุด้วย แม่เราก็กลัวเปิดแล้วมันจะวิ่งออกไปจับไม่ทัน แม่เราเลยบอกว่า ถ้าเปิดเดี๋ยวมันจะวิ่งออกนะ พยาบาลตอบมาเหมือนแม่เราโง่ว่า "ก็จับไว้ซิคะ" (กุรู้ แต่ที่แม่กุพูดอะ หมายถึงถ้าจับไม่ทันละ) ขอโทษที่ใช้คำหยาบแต่มันน่าใช้มั้ยกับคนแบบนี้ แม่เราอายุก็เยอะ และบอกเด็กพยาบาลนั่นดีๆ พยาบาลเด็กคนนั้นไม่น่าพูดกับผู้ใหญ่แบบนี้ น้องหมาเราก็ทำท่าดีใจมากที่แม่เรากับแม่มาหา เค้าคงนึกว่าจะได้กลับบ้าน แต่พอเราบอกว่าให้อยู่ที่นี่เป็นเด็กดีนะ น้องหมาเรา เค้าจ๋อยลง และรีบเห่า (น้องหมาเราจะเข้าใจบางประโยค เช่นประโยคเมื่อกี้เรากับแม่จะพูดตอนก่อนออกจากบ้าน เพราะฉะนั้นแม้เค้าจะไม่รู้ความหมาย แต่เค้าก็เข้าใจว่า เรากับแม่กำลังจะไปและเค้าต้องอยู่ตัวเดียว) ทั้งเห่าทั้งตะกุยกรง น่าสงสารมาก ขนาดแรงไม่ค่อยมีนะ เหมือนเค้าอยากจะบอกอะไร ตอนนอนค้างที่ รพส ที่เก่า ยังไม่เห็นอยากกลับขนาดนี้เลย

ท่าทางแต่ละคนไม่เหมือนคนรักสัตว์เลยซักคน ไม่รู้ลับหลังแอบทำอะไรน้องหมาเรารึเปล่า เพราะเค้าดุด้วย

ตลอดเวลาที่มาเยี่ยมน้องหมาเรา พยาบาลก็จับกลุ่มคุยกันเองง ไม่มาบอกว่าอาการเป้นยังงัย จนเราต้องถามขอคุยกับหมอคนดูแล พยาบาลก็บอกว่า "ก็นี่แหละคะหมอ" ... เราอึ้ง พยาบาลเด็กนี่เนี่ยนะหมอ เราถามอาการเป้นยังงัย พยาบาลเด็กคนนั้นตอบ "ก็ไม่ค่อยทานข้าว" .. แล้วก็ไม่บอกอะไรต่อ นี่คือคำตอบเดียวที่เราได้จากหมอที่นี่จริงๆ เราอยากรู้ว่าเป็นโรคอะไร จะรักษายังงัย ก็ได้คำตอบให้รออีก 2-3 วันรอดูผลเลือด คือขนาดนี้แล้วยังไม่รู้อีกเหรอว่าเป็นอะไร พระเจ้า เราเดินออกมาโดยไม่ได้รับคำตอบอะไร

เรารีบกลับบ้านและรีบเข้าเน็ตหาข้อมูล รพ นี้โดยด่วน จนมาเจอกระทู้นี้ เราให้แม่อ่าน และตัดสินใจพรุ่งนี้จะไปเอาลูกรักเราออกมาแล้ว
รับไม่ได้กับบริการที่เหมือนมาขอกิน
รับไม่ได้กับค่ารักษาที่แพงกว่าเอกชนแต่บริการเหมือนคนอนาถา
รับไม่ได้กับบุคคลากรที่เหมือนไม่มีการศึกษา ไม่มีสมองว่าอะไรควรทำ รับไม่ได้กับเด็กไม่มีหัวนอนปลายเท้าได้ชื่อว่าเรียนสัตวแพทย์แล้วทำตัวหยิ่ง เหมือนตัวเองวิเศษนักหนา

เมื่อก่อนดีจริง แต่ตอนนี้มันเปลี่ยนไปหมดแล้ว ถ้าถามรักษาที่ไหน ขอแนะนำไปที่อื่นเถอะ ทำไมต้องมาจ่ายแพงกว่า เพื่อให้เด็ก นศ พวกนี้มาแสดงมารยาทแย่ๆใส่ คนดีก็คงมี แต่พอดีที่เราไปเจอมาคงบังเอิญ(มั้ง)เจอแต่พนักงานแย่ๆทุกคนเลย

[ตอบ #39 เมื่อ:]

โรงบาลสัตว์เกษตร เหอะๆพอกันที หมาของผมตายไปเมื่อ2วันก่อน เพราะหมอวินิจฉัยผิด รักษาแบบส่งเดชขอไปที 3เดือนก่อนพาหมาไปหาหมอ ก็รักษาไปตามอาการ แล้วบอกผมว่าอาจจะเป็นโรคหัวใจนะ เดือนหน้าให้พามาดู ผมผิดเองที่ผมไม่ได้ไปตามนัด ตอนนั้นติดอะไรซักอย่าง พอเวลาล่วงเลยก็ลืมไปเลย และลูกผมก็ดูแข็งแรงดี ล่าสุดน้องหมาดูซึมๆพาไปให้หมอดู หมออ่านแฟ้ม
แล้วบอกเป็นโรคหัวใจนี่ (เรานึกในใจว่าแค่อาจจะเป็น หรืออาจจะไม่เป็นก็ได้นะหมอ แต่หมอต้องรู้แหละน่าก็ให้ตรวจดู) เจาะเลือดไปตรวจ มาบอกปกติดีแต่อาจจะติดเชื้อ(แล้วตกลงติดหรือไม่ติด)ให้ยามากินบอกว่าหัวใจหมาเต้น240ครั้ง/นาที ปกติต้องไม่เกิน160 ตรวจแป๊บเดียวออกมานั่งรอเราก็เอามือไปทาบตรงอกลูกสัมผัสถึงการเต้นของหัวใจชัดเจน จับเวลา นับๆๆ ครบนาทีได้150 อาจจะผิดเอาใหม่ นับๆๆ 150 เอาใหม่ 150 ก็เริ่มแปลกใจละ ว่าทำไมมันต่างจากที่หมอนับเยอะจัง หมอใช้วิทีนับแป๊บนึงแล้วคูณเอา ไม่รู้ว่าเพราะขี้เกียจหรือสอนกันมาแบบนั้น ได้ยา กลับบ้าน กินปุ๊บ มันซึมง่อยไปเลย อีกวันไปหาใหม่หมอเดิม รีบบอกหมอว่ากินปั๊บง่อย หมอบอกตัวหมอไม่ใช่หมอโรคหัวใจ ไม่ถนัดใช้ยาด้วย (อ้าวเวรกรรมของใครเจอหมองี้) หมอรีบพาไปฉุกเฉินให้ออกซิเจนแล้วบอกว่าหมอให้ยาลดการเต้นของหัวใจไป กินแล้วไม่ดีงั้นไม่ต้องกินละ (ผมคิดคงจะให้กินต่อหรอกนะหมาผมจะตายอยู่ละ ลิ้นซีดเกือบจะม่วง) หมอออกเวรมาบอกเราว่าฝากอีกคนดู คืออยู่ตั้งแต10โมงเช้าจนตอนนั้น5โมงเย็นทั้งวันไม่ได้ทำอะไรรอดูอาการ มันเริ่มตาลอยล้มลงนอนฉี่ราด ผมเรียกหมอ หมอก็พาไปในห้องให้ผมรอข้างนอก พักนึงก็พาออกมา หมาผมก็นอนนิ่งๆ หมอออกเวร หมออีกคนมาดูบอกกลับบ้านได้ (เฮ้ย งงมากๆ) หมอบอกให้ยาเพิ่มความดันไปละพรุ่งนี้มาใหม่ ไม่มียา อีกวันมาเจอหมออีกคนเป็นคนที่4 บอกผมว่าดูอาการแล้วเหมือนเมื่อวานงั้นกลับบ้านได้เลย นัดหมอหัวใจให้ละอีก4วันข้างหน้า (เฮ้ยอะไรวะสรุปหมากุยังไม่ได้เจอหมอหัวใจเลยเหรอเนี่ย แล้วตกลงเป็นโรคหัวใจจริงเหรอเปล่าเนี่ยเพราะดูแล้วแย่เพราะยาหมอนะ) หมาผมก็ซึมอย่างนั้นอีก2วัน ก็อยู่ดีๆก็นอนร้องครางและนิ่งไป เสียใจที่สุด สรุปหมากุเป็นอะไร พยายามหาข้อมูลอาการโรคหัวใจมันก็ไม่ได้ตรงกับอาการที่ผมเห็นแล้วพามันไปหาหมอนี่ โธ่ลูกพ่อ หรือรักษาผิดโรคเนี่ย น้ำในตามันใหลแก้ไขไม่ได้แล้ว หลับฝันดีนะลูก (ที่เล่ามานี่ยังมีรายละเอียดอะไรอีกเยอะที่เห็นได้ชัดว่าหมอก็ดูๆเดาๆรักษาผ่านๆไป ที่ไม่ได้พูดถึงอีกมากนะ)

[ตอบ #40 เมื่อ:]

โรงบาลสัตว์เกษตร เหอะๆพอกันที หมาของผมตายไปเมื่อ2วันก่อน เพราะหมอวินิจฉัยผิด รักษาแบบส่งเดชขอไปที 3เดือนก่อนพาหมาไปหาหมอ ก็รักษาไปตามอาการ แล้วบอกผมว่าอาจจะเป็นโรคหัวใจนะ เดือนหน้าให้พามาดู ผมผิดเองที่ผมไม่ได้ไปตามนัด ตอนนั้นติดอะไรซักอย่าง พอเวลาล่วงเลยก็ลืมไปเลย และลูกผมก็ดูแข็งแรงดี ล่าสุดน้องหมาดูซึมๆพาไปให้หมอดู หมออ่านแฟ้ม
แล้วบอกเป็นโรคหัวใจนี่ (เรานึกในใจว่าแค่อาจจะเป็น หรืออาจจะไม่เป็นก็ได้นะหมอ แต่หมอต้องรู้แหละน่าก็ให้ตรวจดู) เจาะเลือดไปตรวจ มาบอกปกติดีแต่อาจจะติดเชื้อ(แล้วตกลงติดหรือไม่ติด)ให้ยามากินบอกว่าหัวใจหมาเต้น240ครั้ง/นาที ปกติต้องไม่เกิน160 ตรวจแป๊บเดียวออกมานั่งรอเราก็เอามือไปทาบตรงอกลูกสัมผัสถึงการเต้นของหัวใจชัดเจน จับเวลา นับๆๆ ครบนาทีได้150 อาจจะผิดเอาใหม่ นับๆๆ 150 เอาใหม่ 150 ก็เริ่มแปลกใจละ ว่าทำไมมันต่างจากที่หมอนับเยอะจัง หมอใช้วิทีนับแป๊บนึงแล้วคูณเอา ไม่รู้ว่าเพราะขี้เกียจหรือสอนกันมาแบบนั้น ได้ยา กลับบ้าน กินปุ๊บ มันซึมง่อยไปเลย อีกวันไปหาใหม่หมอเดิม รีบบอกหมอว่ากินปั๊บง่อย หมอบอกตัวหมอไม่ใช่หมอโรคหัวใจ ไม่ถนัดใช้ยาด้วย (อ้าวเวรกรรมของใครเจอหมองี้) หมอรีบพาไปฉุกเฉินให้ออกซิเจนแล้วบอกว่าหมอให้ยาลดการเต้นของหัวใจไป กินแล้วไม่ดีงั้นไม่ต้องกินละ (ผมคิดคงจะให้กินต่อหรอกนะหมาผมจะตายอยู่ละ ลิ้นซีดเกือบจะม่วง) หมอออกเวรมาบอกเราว่าฝากอีกคนดู คืออยู่ตั้งแต10โมงเช้าจนตอนนั้น5โมงเย็นทั้งวันไม่ได้ทำอะไรรอดูอาการ มันเริ่มตาลอยล้มลงนอนฉี่ราด ผมเรียกหมอ หมอก็พาไปในห้องให้ผมรอข้างนอก พักนึงก็พาออกมา หมาผมก็นอนนิ่งๆ หมอออกเวร หมออีกคนมาดูบอกกลับบ้านได้ (เฮ้ย งงมากๆ) หมอบอกให้ยาเพิ่มความดันไปละพรุ่งนี้มาใหม่ ไม่มียา อีกวันมาเจอหมออีกคนเป็นคนที่4 บอกผมว่าดูอาการแล้วเหมือนเมื่อวานงั้นกลับบ้านได้เลย นัดหมอหัวใจให้ละอีก4วันข้างหน้า (เฮ้ยอะไรวะสรุปว่าหมาเรายังไม่ได้เจอหมอหัวใจเลยเหรอเนี่ย แล้วตกลงเป็นโรคหัวใจจริงเหรอเปล่าเนี่ยเพราะดูแล้วแย่เพราะยาหมอนะ) หมาผมก็ซึมอย่างนั้นอีก2วัน อยู่ดีๆก็นอนร้องครางและนิ่งไป เสียใจที่สุด สรุปหมาเราเป็นอะไร พยายามหาข้อมูลอาการโรคหัวใจมันก็ไม่ได้ตรงกับอาการที่ผมเห็นแล้วพามันไปหาหมอนี่ โธ่ลูกพ่อ หรือรักษาผิดโรคเนี่ย น้ำในตามันใหลแก้ไขไม่ได้แล้ว หลับฝันดีนะลูก (ที่เล่ามานี่ยังมีรายละเอียดอะไรอีกเยอะที่เห็นได้ชัดว่าหมอก็ดูๆเดาๆรักษาผ่านๆไป ที่ไม่ได้พูดถึงอีกมากนะ)

[ตอบ #41 เมื่อ:]

สัตว์แพทย์ 761 ตรงประชานิเวศน์ ห่วยมาก น้องตาเจ็บ แก้วตายุบ หมอดูแค่เพิน ๆ เท่านั้น แล้วให้ยามา หมดไป 950 มียาหยอดตา 2 หลอด แล้วก็ยากิน 6 หลอด แถมหมอบอกให้มาใหม่ หมอพูดว่า ผมไม่ชำนาญเรื่องตา ให้มาพบอีกหมอ บริการแย่ สกปรก มาก หมอดูสติไม่ค่อยดี ผู้ช่วยก็ดูไม่เป็นงาน ตอนนี้น้องตาเป็นหนักยิ่งกว่าเดิม เซ็ง

[ตอบ #42 เมื่อ:]

จากที่ได้ฟัง ความคิดเห็น ส่วนใหญ่มักจะไปในทิศทางแง่ลบ ทุกสังคม ทุกอาชีพ ย่อมมีคนดี และไม่ดี เมื่อพูดอย่างนี้ จะหมายรวมไปทั้งหมดทุกคน อยากให้ลองเปิดใจคะ อาจจะมีคนดีๆ อยู่ก็ได้นะ แต่ว่าวันนั้นอาจจะไม่ได้เจอ ชีวิตสัตว์ เป็นสิ่งสำคัญ ที่คนเป็นหมอ ต้องดูแล ทุกคนก็คงมีความคิดเรื่องนี้ แต่การที่จะบอกว่า สัตว์เป็นอะไรเลย ในวันแรก ที่คุณพาไปพบ มันอาจจะทำไม่ได้อย่าง ทันท่วงที เพราะสุนัขไม่เหมือนกับคน บอกไม่ได้ ว่าเป็นอะไร บอกไม่ได้ ว่าเจ็บตรงไหน เป็นมานานแล้วหรือยัง สิ่งที่หมอจะช่วยในการวินิจฉัยคือ อาการที่สัตว์แสดงให้เห็น บางทีก็ไม่ชัดเจน กับประวัติ ที่ได้ จากเจ้าของซึ่งสำคัญมาก การที่จะบอกว่าเป็นอะไรต้องใช่เครื่องมืออื่นๆ ช่วย เช่นผลแลบ การตรวจเลือด ซึ่งก็คงต้องใช้เวลาสักระยะในการรอ อยากให้เจ้าของใจเย็นๆนะคะ เพราะถ้าหมอ รีบ บอกไปมันอาจจะไม่ถูกก็ได้ นะ อยากให้เจ้าของเข้าใจ ในเรื่องข้อจำกัดหลายๆอย่างนะคะ ทุกอย่างต้องทำเป็นขั้นตอน นะคะ แต่เรื่องมารยาท หรือ กิริยา ก็ต้องเป็นคนๆไปนะคะ คิดว่า คงไม่ได้เป็นทุกคนหรอกมั้ง หนูรู้คะ ว่าเจ้าของทุกคนรักสัตว์ หนูก็เป็นคนหนึ่งที่กำลังจะเป็นหมอ มันยากมากเลยนะคะ กับการที่จะบอกว่าสุนัขตัวนี้ ป่วยอะไร จากการที่เขาบอกเราไม่ได้ เรื่องประสบการณ์ในการรักษาจึงถือเป็นสิ่งที่สำคัญมาก หนูยอมรับว่าหมอฝึกหัดอย่างไงก็เก่ง เท่าหมอทีชำนาญไม่ได้ แต่หมอที่ชำนาญ แต่หมอที่ชำนาญทุกคนก็ต้องผ่านการเป็นหมอฝึกหัด กันมาทั้งนั้น ถ้าไม่ฝึกหัดก็คงไม่ชำนาญ จึงอยากที่จะขอให้ท่านเจ้าของสุนัข ได้โปรดเห็นใจหมอฝึกหัด ให้ได้มีโอกาสฝึกฝนตัวเอง ให้มีโอกาสได้รักษา อาจจะยังไม่รู้อะไรมาก แต่การไม่รู้ ก็จะนำมาซึ่งการรู้ในอนาคต เพราะสิ่งสุดท้ายที่สำคัญสุดนั้น คือชีวิตของน้องหมาแมว คะ

[ตอบ #43 เมื่อ:]

แมวโดนหมากันอาการ ฉุกเฉิน รอคิวตั้งแต่เช้า ถึงบ่าย14:15ถึงได้ตรวจ พอตนวจเส็จ ต้องไปเอ็กซ์เลย์ รอผลเอ็กซ์เลย์ไปอีกเย็นเลย พอไปพบแพทย์ชั้นสองหมอชอกว่าต้องผ่ตัดด่วน หมอนัดอีกที สองทุ่่มครึ่ง ต้องผ่าใน20/ตค./55พอถึงเวลาผ่าตัดชอกเราน้องแมวไม่พร้อมที่ร่างกายขาดออกซีเจนครั้งแรกบอกว่าทำได้ ถามราคา4,000-5,000บาท งงบอกจะผ่ก็ไม่ผ่าบอกให้เราไอกชน ก็บอกว่ากินไม่พอจ่ายค่่ะเอกชน ผ่านไปกี่วันยังไม่ได้ผ่าเลยช่วยหน่อยนะค่่ะช่วยรับผ่าตัดแมวทรัพย์สินทีคารักษาที่โรงบา

[ตอบ #44 เมื่อ:]

แมวโดนหมากันอาการ ฉุกเฉิน รอคิวตั้งแต่เช้า ถึงบ่าย14:15ถึงได้ตรวจ พอตนวจเส็จ ต้องไปเอ็กซ์เลย์ รอผลเอ็กซ์เลย์ไปอีกเย็นเลย พอไปพบแพทย์ชั้นสองหมอชอกว่าต้องผ่ตัดด่วน หมอนัดอีกที สองทุ่่มครึ่ง ต้องผ่าใน20/ตค./55พอถึงเวลาผ่าตัดชอกเราน้องแมวไม่พร้อมที่ร่างกายขาดออกซีเจนครั้งแรกบอกว่าทำได้ ถามราคา4,000-5,000บาท งงบอกจะผ่ก็ไม่ผ่าบอกให้เราไอกชน ก็บอกว่ากินไม่พอจ่ายค่่ะเอกชน ผ่านไปกี่วันยังไม่ได้ผ่าเลยช่วยหน่อยนะค่่ะช่วยรับผ่าตัดแมวทรัพย์สินทีคารักษาที่โรงบา

[ไอค่อนข้อความ:]

	ปรากฎข้อผิดพลาดตังต่อไปนี้ขณะส่งข้อความนี้:
	คำเตือน: ความคิดเห็นนี้ถูกล็อกไว้! เฉพาะผู้ดูแลเท่านั้นที่ตอบได้
ชื่อ:
	แชร์ไป Facebook ด้วย
กระทู้:
ไอค่อนข้อความ:	ไอค่อนขณะนี้ กระทู้ทั่วไปเหมาะสำหรับผู้ชมทุกวัย กระทู้สำหรับเด็กก่อนวัยเรียน กระทู้สำหรับเด็ก กระทู้ที่ผู้ใหญ่ควรให้คำแนะนำ กระทู้ที่ผู้ใหญ่ควรให้คำแนะนำแก่ผู้อ่านที่มีอายุน้อยกว่า 13 ปี กระทู้ที่ผู้ใหญ่ควรให้คำแนะนำแก่ผู้อ่านที่มีอายุน้อยกว่า 18 ปี กระทู้เฉพาะไม่เหมาะกับเด็กและเยาวชน
	ตัวหนาตัวเอียงตัวขีดเส้นใต้จัดย่อหน้าชิดซ้ายจัดย่อหน้ากึ่งกลางจัดย่อหน้าชิดขวา ขนาดตัวอักษร เล็กมาก เล็ก ปกติ ใหญ่ ใหญ่มาก เปลี่ยนสี สีดำ/ขาว สีแดง สีเหลือง สีชมพู สีเขียว สีส้ม สีม่วง สีนํ้าเงิน/ฟ้า สีเทา สีน้ำตาล สีเขียวฟ้า สีกรมท่า สีเลือดนก สีเหลืองอมเขียว
	[เพิ่มเติม]
	กลับไปกระทู้นี้ หลังจากการตั้งความคิดเห็น ไม่ใช้สัญลักษณ์แสดงอารมณ์
แนบไฟล์:	(แนบไฟล์เพิ่ม) ไฟล์ที่อนุญาต: gif, jpg, jpeg ขนาดไฟล์สูงสุดที่อนุญาต 20000000 KB : 4 ไฟล์ : ต่อความคิดเห็น
ติดตามกระทู้นี้ :	ส่งไปที่อีเมลของสมาชิกสนุก
	ส่งไปที่
พิมพ์อักษรตามภาพ: