|
4 IN 1 เรียกร้องให้แบงค์ชาติแก้ปัญหาแบงค์พาณิชย์ฮั้วขูดรีดทำนาบนหลังคนหนักยิ่งกว่าเดิม
เช้าวันนี้ (17-9-53) ได้โทรไปหาเลขาหน้าห้องผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยเพื่อสอบถามเรื่องหนังสือร้องเรียนธนาคารกสิกรไทยและธนาคารต่าง ๆ ลงวันที่ 2 มิถุนายน 2553 ทำไมยังไม่มีคำตอบ รอตั้งนานจึงมีเจ้าหน้าที่ร้องเรียนมารับสาย แต่คุยยังไม่ทันรู้เรื่อง คิดว่าโอนสายผิด เลยวางหูไป จึงได้โทรไปสอบถามผู้จัดการเขตธนาคารกสิกรไทยที่เคยรับปากเรื่องลดอัตราดอกเบี้ยกระแสรายวันให้ แต่ก็เงียบหายไปเป็นเดือน ๆ เช่นเดียวกับกับแบงค์ชาติ และก็ได้คำตอบว่ายังอยู่ระหว่างการปรึกษาหารือกันอยู่ แต่ทำไมไม่ยอมแจ้งให้รู้ว่าไม่ยินดีให้แต่ต้น ๆ เป็นการแสดงให้เห็นได้ถึงการขาดความจริงใจ ไม่สนใจปฏิบัติตามสัญญาที่ให้ไว้แต่อย่างไร ในที่สุดจึงตัดสินใจรีบร่างจดหมายโดยนำเอากระทู้เกี่ยวกับเรื่องธนาคารกสิกรไทย 4 กระทู้ที่ตั้งในเว็บบอร์ด www.sanook.com ซึ่งได้คัดส่วนที่สำคัญ ๆ นำไปแปะแนะนำตามกระทู้ที่ตั้งอื่น ๆ มาประกอบการร้องเรียนเพิ่มเติมเพื่อจะได้รีบพิมพ์นำไปส่งด้วยตนเองในตอนบ่าย เจ้าหน้าที่ฝ่ายรับหนังสือได้รับอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรก โดยประทับตรารับ ธนาคารแห่งประเทศไทย เลขที่ E 5302 3638 วันที่ 17 ก.ย.2553 เวลา 15.29 น. ผู้รับ ...... โทร........... ทำให้สบายใจขึ้นได้ว่า จะไม่โดนทางผู้รับเรื่องบอกปัดไม่ได้รับเช่นครั้งที่แล้วอีก รวมทั้งการปฏิเสธความรับผิดชอบในการตอบตามระเบียบของแบงค์ชาติด้วย (3 เดือนกว่าแล้วที่ยังไม่ตอบกลับหนังสือที่ร้องเรียนวันที่ 2 มิถุนายน 2553 แต่อย่างไร) เพื่อเป็นการกันปัญหาการตอบล่าช้า จึงได้ขึ้นไปหาเจ้าหน้าที่ที่ดูแลเรื่อง โชคดีที่เจอพอดี ให้รอสักครู่ ก็มีเจ้าหน้าที่อีก 2 ท่าน มาร่วมฟังด้วย สรุปได้ความว่า เจ้าหน้าที่ที่รับเรื่องจะให้จบเรื่องทั้ง ๆ ที่ร้องเรียนมากว่า 3 ปี แบงค์ชาติยังไม่สามารถแก้ปัญหาใด ๆ ได้เลย แค่เรื่องส่วนตัวยังไม่ยอมแก้ปัญหาให้ แล้วเรื่องส่วนรวมยิ่งแล้วใหญ่ ทำเหมือนกับไม่มีการร้องเรียนใด ๆ ทั้งสิ้น จึงอดที่จะคิดไม่ได้ว่าหน่วยงานนี้ไม่รู้ตั้งขึ้นเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนหรือแบงค์พาณิชย์กันแน่ เจ้าหน้าที่ยอมรับว่าหน่วยงานนี้กำลังจะถูกยกเลิกไปในตุลาคมนี้ ส่วนเจ้าหน้าที่นั้น ต่างก็จะแยกย้ายกันกลับหน่วยงานเดิม ส่วนหนังสือที่ร้องเรียนนี้ถือว่ามีการรับอย่างเป็นทางการแล้ว ต้องรอดูว่าจะมอบให้ใครเป็นผู้รับผิดชอบอีกที จึงได้ต่อว่าเจ้าหน้าที่ที่รับเรื่องซึ่ง ๆ หน้าว่า ทำไมถึงไม่ยอมติดต่อกลับมาทั้ง ๆ ที่โทรหาตั้งหลายครั้ง ไม่สมศักดิ์ศรีลูกผู้ชาย อ้างแต่ว่าเป็นเรื่องเดิม แต่ไม่ได้สนใจดูเลยว่าจริง ๆ แล้วเป็นเรื่องร้องเรียนส่วนรวมมากกว่า เพราะถ้าหากหลักการใหญ่ ๆ ได้รับการแก้ไขตามที่ร้องเรียนและเรียกร้อง เช่นส่วนต่างดอกเบี้ยเงินกู้-เงินฝากลดลง สิ่งที่ร้องเรียนส่วนตัวก็จะได้รับเองโดยอัตโนมัติอยู่แล้ว เนื่องจากเจ้าหน้าที่ติดธุระจะต้องรีบไปด่วน จึงได้อ่านเฉพาะหัวเรื่องกระทู้ 3- 4 กระทู้ให้ฟังเท่านั้นก่อนกลับ การร้องเรียนครั้งนี้เท่ากับการร้องเรียนถึงผู้ว่าการแบงค์ชาติเพื่อต้อนรับว่าที่ผู้ว่าการแบงค์ชาติท่านใหม่ ดร.ประสาร กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกสิกรไทย คู่กรณีที่กำลังจะมารับตำแหน่งในเดือนตุลาคมนี้ จะคอยดูสิว่าแบงค์ชาติจะสามารถแก้ไขปัญหาการเอารัดเอาเปรียบดังที่ได้ร้องเรียนหรือไม่ หรือว่าจะเป็นอย่างที่มีคนครหาว่า ว่าที่ผู้ว่าแบงค์ชาติ ดร.ประสารนี้ จะมากำหนดนโยบายเพื่อผลประโยชน์แก่แบงค์พาณิชย์มากยิ่งกว่าเดิม หากว่าเป็นจริงเช่นนั้นจริง ๆ แล้ว ประชาชนตาดำ ๆ คงต้องลำบากรับชะตากรรมการถูกรีดนาทาเร้นทำนาบนหลังคนหนักกว่าเก่าอย่างไม่รู้จักจบจักสิ้นอย่างแน่นอน และที่เลวร้ายยิ่งไปกว่านั้นก็คือ เศรษฐกิจของชาติอาจจะต้องพินาศฉิบหายวายป่วงยิ่งกว่าครั้งใด ๆ เพราะว่าที่ผูํว่าการแบงค์ชาติท่านใหม่นี้ก็เป็นได้ จากกระทู้ที่ตั้ง 4 กระทู้นี้ จึงได้เน้นเอาเฉพาะที่สำคัญ ๆ มาเป็นหนังสือเรียกร้องให้แบงค์ชาติ แก้ปัญหาแบงค์พาณิชย์ฮั้วขูดรีดทำนาบนหลังคนหนักยิ่งกว่าเดิม 1.ร้องKBankแกล้งเอาเปรียบมา5ปี+ร้องแบงค์ชาติและสคบ.กว่า3ปี+สนุก5เดือน เหมือนไร้ผล 1 2 ทั้งหมด jrchai 71 4588 ความคิดเห็นล่าสุด 13 ก.ค. 10, 18:20 น โดย jrchai http://webboard.news.sanook.com/forum/3140735
2.นี่หรือว่าที่ผู้ว่าการแบงค์ชาติ? แค่ปัญหาเล็กๆกว่า 5 ปี ยังไม่มีปัญญาแก้ไขได้เลย 1 2 ทั้งหมด jrchai 56 3035 ความคิดเห็นล่าสุด 13 ก.ค. 10, 12:41 น โดย jrchai http://webboard.news.sanook.com/forum/3155947
3.ต้องโหดร้ายขูดรีดเอาเปรียบได้เลวสุด ๆ อย่างนี้สินะ จึงชนะได้เป็นผู้ว่าแบงค์ชาติ! jrchai 40 3627 ความคิดเห็นล่าสุด 20 ก.ค. 10, 22:20 น โดย jrchai http://webboard.news.sanook.com/forum/3163012
4.คุณหนูเสี่ยปั้นปั้นหน้าตายปฏิเสธลั่นไม่ยุ่งการเมือง แต่เรื่องทำนาบนหลังคนถนัดนัก jrchai 35 6037 ความคิดเห็นล่าสุด 26 ก.ค. 10, 10:53 น โดย jrchai http://webboard.news.sanook.com/forum/3170256
|
|
|
|
Tags: |
|
![]() |
|
|
17 กันยายน 2553
เรื่อง ร้องเรียนธนาคารกสิกรไทยและธนาคารต่าง ๆ เพิ่มเติม เรียน ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย อ้างถึง หนังสือที่ฝวต.(43) 292/2553 เรื่องร้องเรียนธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ลงวันที่ 25 พฤษภาคม 2553 หนังสือร้องเรียนธนาคารกสิกรไทยและธนาคารต่าง ๆ ลงวันที่ 2 มิถุนายน 2553 (เลขที่ E 53013755)
ตามที่ข้าพเจ้าได้ยื่นหนังสือร้องเรียนโดยตรงถึงท่านเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2553 และได้ตัดสินใจนำข้อความที่ร้องเรียนทั้งหมดไปลงในเว็บบอร์ด www.sanook.com เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน โดยตั้งชื่อกระทู้ว่า ร้องKBankแกล้งเอาเปรียบมา5ปี+ร้องแบงค์ชาติและสคบ.กว่า3ปี+สนุก5เดือน เหมือนไร้ผล 1 2 ทั้งหมด jrchai 71 4587 และได้ลงต่อเนื่องตามกระทู้ต่าง ๆ จนถึงปัจจุบันนี้ ซึ่งน่าจะมีคนอ่านหลายหมื่นคน แต่สิ่งที่ข้าพเจ้าไม่เข้าใจคือ คุณ.........ได้พยายามบ่ายเบี่ยงปฏิเสธว่าไม่เห็นอย่างน่าเกลียดมาก รวมทั้งคุณ........ซึ่งข้าพเจ้าโทรไปสอบถามก็แสร้งตอบไม่รู้เรื่อง โทรหาคุณ.........ล่าสุดก็เงียบ ไม่มีคำตอบ เช้านี้โทรหาคุณ....... เลขาหน้าห้อง ก็โอนไปไหนไม่ทราบ แล้วเจ้าหน้าที่ก็รีบวางหู นี่หมายความว่าอย่างไรกันแน่ ข้าพเจ้าจึงมีความจำเป็นที่จะต้องทำหนังสือร้องเรียนเพิ่มเติมโดยอ้างอิงกระทู้ที่ลงในสนุกนี้มาให้เห็นชัด ๆ เพื่อประกอบการพิจารณาคำร้องเรียนต่อไป
(ส่วนนี้จะเป็นกระทู้จากเว็บสนุกที่แนบประกอบดังที่ได้แสดงข้างล่างนี้)
ข้าพเจ้าจึงเรียนมาเพื่อท่านได้ใช้ข้อมูลและข้อเท็จจริงต่าง ๆ ตามที่ได้นำมาประกอบการร้องเรียนนี้ในการพิจารณาให้ความเป็นธรรมทั้งต่อข้าพเจ้าและส่วนรวมด้วย รวมทั้งกระทู้ล่าสุดนี้ด้วย กระทู้: กรณ์ เตรียมฟัน ค่าธรรมเนียมแบงค์โหด (อ่าน 7836 ครั้ง)http://webboard.news.sanook.com/forum/3238869 ซึ่งน่าจะมีการลดมากว่านี้ในหลาย ๆ อย่างด้วยกัน ขอแสดงความนับถืออย่างสูง
|
|
Tags: |
|
![]() |
|
|
ต้องโหดร้ายขูดรีดเอาเปรียบได้เลวสุด ๆ อย่างนี้สินะ จึงชนะได้เป็นผู้ว่าแบงค์ชาติ! http://webboard.news.sanook.com/forum/3163012 เบื่อคำโฆษณาสร้างภาพมายาจอมปลอมหลอกลวงผู้คนให้หลงเชื่อโดยไม่รู้จักละอายใจ "บริการทุกระดับประทับใจ" ที่แท้กลายเป็น "บริการเอารัดเอาเปรียบจนกว่าลูกค้าจะตาย" ในเมื่อนายประสารไม่สามารถแก้ไขปัญหาที่ร้องเรียนมากว่า 5 ปีนี้ได้ ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าไม่เป็นธรรม แล้วอย่างนี้ยังมีหน้ามาเสนอหน้าเป็นผู้ว่าการแบงค์ชาติโดยไม่รู้จักละอายแก่ใจตัวเองบ้างเลย อีกไม่กี่วันก็จะออกจากกสิกรไทยไปแล้ว ปัญหาก็ยังคาอยู่ แล้วจะมาสู้หน้าผู้ร้องเรียนได้อย่างไร ศักดิ์ศรีว่าที่ผู้ว่าการแบงค์ชาติคนใหม่ จะหาได้จากที่ไหนกัน น่าขายหน้าเสียจริง ๆ
เบื่อหน่วยงานของรัฐที่ทำงานสนองนโยบายเฉกเช่นขี้ข้าสอพลอไร้ประสิทธิภาพไร้จุดยืน เบื่อนักการเมืองที่ไร้ความกล้าหาญในการยืนหยัดเพื่อต่อสู้ให้ได้มาซึ่งระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง เบื่อผู้นำหลักการเสื่อม ไร้คุณธรรม ห้ำหั่นเข่นฆ่าเพื่อนร่วมชาติอย่างป่าเถื่อนไร้ความปรานี เมื่อไรเราถึงจะมีคนดี ๆ มีความกล้าหาญที่สามารถยืนหยัดต่อสู้เพื่อรักษาความเป็นธรรมในสังคมให้คงไว้ เมื่อไรบ้านเมืองจึงจะสงบสุข มีสิทธิเสรีภาพและความเสมอภาคเท่าเทียมกันอย่างแท้จริงเสียที
กรุณาอ่านข้อมูลที่เรียบเรียงอย่างดีจากกระทู้ข้างล่างนี้ประกอบด้วย นี่หรือว่าที่ผู้ว่าการแบงค์ชาติ ? แค่ปัญหาลูกค้าเล็ก ๆ ที่ร้องเรียนมากว่า 5 ปี ยังไม่มีปัญญาแก้ไขได้เลย http://webboard.news.sanook.com/forum/?topic=3155947.0;all จากกระทู้ประกอบข่าวข้างล่างนี้ท่านมีความเห็นอย่างไรบ้าง ? มิน่าล่ะ วันนี้โทรไปหาผู้รับเรื่องโกหกและปัดอย่างมะนาวไม่มีน้ำว่า ไม่ได้รับหนังสือร้องเรียนผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2553 เรื่อง ร้องเรียนธนาคารกสิกรไทยและธนาคารต่าง ๆ ทั้ง ๆ ที่เจ้าหน้าที่ผู้นี้ มีการเจรจากับผู้จัดการเขตให้ระงับหนังสือร้องเรียนไว้ก่อน แต่ผมโทรแจ้งยืนกรานไปว่าให้ดำเนินการตามที่ร้องเรียนไว้ดังเดิม มิหนำซ้ำเจ้าหน้าที่นี้ยังรีบยุติตัดบทการสอบถามขอคำตอบโดยให้ผู้ร้องคิดเอาเองเสียอีกด้วย โทรหาหน้าห้องท่านผู้ว่าการฯ ว่าเจ้าหน้าที่ไม่เป็นกลางและไม่ใส่ใจในเรื่องที่ร้องเรียน ขอพบผู้ว่าก็อ้างมีคิวเยอะ ผู้ที่มีอาวุโสเหนือกว่าผู้ที่รับเรื่อง ก็ให้ชื่อและเบอร์ไว้ แต่ไม่ยอมโอนให้ จึงต้องโทรไปใหม่ ปรากฎว่าท่านไม่อยู่ ไปต่างประเทศ กว่าจะกลับก็อีกหนึ่งอาทิตย์ ให้ต่อรองผู้ว่า ก็แกล้งไม่รับสาย โทรไปติด แต่กเลขาหน้าห้องรองผู้ว่าซึ่งน่าจะรู้เรื่องดีก็กดทิ้ง โทรหาผู้จัดการเขตก็อ้างติดประชุมทุกครั้ง และยังไม่มีคำตอบที่ชอบด้วยเหตุผลให้อยู่ดี ถ่วงเวลาไปเรื่อย ๆ เหมือนเช่นทุก ๆ ครั้งที่ผ่านมา โดยมีเจตนาไม่ชอบมาพากล แล้วหากว่าที่ผู้ว่าแบงค์ชาติท่านใหม่ ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกสิกรไทย มารับตำแหน่งเมื่อไร ท่านจะกล้าสั่งให้ดำเนินการลงโทษธนาคารกสิกรไทยตามเรื่องที่ร้องเรียนมากว่า 5 ปี หรือ ? (รวมทั้งแบงค์อื่น ๆ ตามข้อมูลที่บรรจุไว้ในซีดีด้วย) ร้องKBank แกล้งเอาเปรียบมา 5 ปี +ร้องแบงค์ชาติและสคบ.กว่า 3 ปี+สนุก 5 เดือน เหมือนไร้ผล http://webboard.news.sanook.com/forum/3140735ร้องเรียนKBankกลั่นแกล้งเอาเปรียบมาประมาณ 5 ปี +แบงค์ชาติและสคบ.กว่า 3 ปี+สนุก 5 เดือน ดูเหมือนไร้ผล สืบเนื่องมาจากการร้องเรียนแลกเปลี่ยนความคิดเห็นผ่านเว็บบอร์ดอาชญากรรม-สังคมของเว็บสนุกมาอย่างต่อเนื่องประมาณ 5 เดือน โดยมีกระทู้หลักว่า
กลยุทธการบริการเอารัดเอาเปรียบจนกว่าลูกค้าจะตาย ของธนาคารกสิกรไทยที่ท่านควรทราบ ? http://webboard.news.sanook.com/forum/2970966.html
และได้แตกกระทู้ออกไปอีกประมาณ 40 กระทู้ ซึ่งส่วนใหญ่ได้รับการพิจารณาให้เป็นประเด็นร้อนสุด ๆ มาโดยตลอด มีคนสนใจเข้ามาอ่านรวมเกินกว่า 130000 ครั้ง ต่อมาได้ถูกลบออกไปหมด จนปัจจุบันนี้มีกระทู้เหลืออยู่เพียง 3 กระทู้ดังนี้
ขึ้นบอร์ดกระทู้แนะนำแล้ว ! พวกสันดานแบงค์ อภิสิทธิ์ชน พรรคประชาวิบัติ ใครเลวกว่ากัน ? http://webboard.news.sanook.com/forum/3042091_ขึ้นบอร์ดกระทู้ แนะนำแล้ว_!_พวกสันดานแบงค์_อภิสิทธิ์ชน_พรรคประชาวิบัติ_ใครเล.html
ประกาศ ! กระทู้ KBank และ... ที่โดนลบ ได้เขียนใส่ CD ส่งถึงผู้ว่าการแบงค์ชาติเรียบร้อยแล้ว http://webboard.news.sanook.com/forum/?topic=3055870
เทวดามีจริงหรือ ?- ฉีกหน้ากากเทวดา +คลิปตาสว่าง+กระทู้แนะนำโดยสมาชิก http://webboard.news.sanook.com/forum/?topic=3064283
หลังจากหยุดโพสต์มานานหลายเดือนเพราะต้องการรอคำตอบจากท่านผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยและสคบ. ก่อน จนกระทั่งวันที่ 1 มิถุนายน 2553 จึงได้รับหนังสือตอบอย่างเป็นทางการจากธนาคารแห่งประเทศไทย ลงวันที่ 25 พฤษภาคม 2553 จึงได้ทำหนังสือร้องเรียนกลับไปใหม่ดังนี้ (อ่านต่อด้านล่างเนื่องจากจำนวนคำเกิน 6000 ตัวอักษร) (ข้อความทั้งหมดเหมือนหนังสือร้องเรียนที่ยื่นโดยตรง เลขที่ E53013755 วันที่ 2-6-53 จึงละไว้เพราะธนาคารแห่งประเทศไทยมีอยู่แล้ว) ส่วนทางสคบ.เจ้าหน้าที่ได้แจ้งให้ทราบว่า ให้ยุติเรื่องสั้น ๆ จะทำหนังสือแจ้งให้ทราบ รอมาร่วม 2 อาทิคย์แล้วก็ยังไม่ได้รับ หากได้รับเมื่อไรก็จะดำเนินการร้องเรียนแย้งกลับเช่นเดียวกับที่ทำกับแบงค์ชาติเช่นกัน จึงได้ตัดสินใจตั้งกระทู้นี้เพื่อชี้แจงให้เพื่อนสมาชิกที่เคยติดตามกระทู้ผมมาโดยตลอด รวมทั้งเพื่อนสมาชิกท่านอื่น ๆ ที่สนใจ จะได้รับทราบ และช่วยกันออกความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมต่อไป กระทู้โปรด-27-2-2553
|
|
Tags: |
|
![]() |
|
|
|
|
jrchai
ร้องKBank แกล้งเอาเปรียบมา5ปี+ร้องแบงค์ชาติและสคบ.กว่า3ปี+สนุก5เดือน เหมือนไร้ผล http://webboard.news.sanook.com/forum/3140735 ตอบ #6 เมื่อ: 22 มิ.ย. 10, 13:34 น ยังไม่จบเรื่องอีกหรอเนี้ย
ลองไปร้องเรียนที่หนังสือพิมพ์มั้งยัง ธนาคารหลายๆทนาคารก็พักพวกกันทั้งนั้น ตอนนี้ไม่ว่าจะกี่เสียงความเดือดร้อน มันไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว
ตอนนี้ มหาอำนาจ ครองเมือง คนมือเท้าครบ32 เดือดร้อนอย่าหวังว่ามันจะช่วย ขนาดคนพิการเดือดร้อนเรื่องอาชีพทำกินที่ถูกพักพวกกันแย่งอาชีพคน
พิการ มันยังไม่สนใจเลย ไล่ตะคลุบจับเข้าคุกหมด ประเทศไทยตอนีมีแต่พวกบ้าอำนาจ แย่ที่สุด
สู้มันต่อไปนะ
ขอบคุณครับ คุณ จขกท ที่มาร่วมแสดงความคิดเห็นและให้กำลังใจเป็นอย่างดี เรื่องนี้คงอีกยาวนานครับกว่าจะจบ เพราะพวกสันดานเจ้าพ่อมาเฟียแบงค์นั้นอิงกับอำนาจเผด็จการมืดดำที่ชั่วร้ายดังที่คุณทราบดี ตราบใดที่บ้านเมืองปกครองโดยพวกโจรกบฏเผด็จการทรราชชาติชั่วมือเปื้อนเลือดไร้คุณธรรม ซ้ำยังใจดำโหด***มอำมหิตบงการสั่งเข่นฆ่าประชาชนมือเปล่าอย่างเลือดเย็นที่สุด รวมทั้งการตามล้างตามผลาญล่าสังหารใส่ร้ายป้ายสีคนดี ๆ อยู่เช่นนี้ คนดี ๆ ที่ไหนเขาจะยอม จึงต้องออกมาร่วมมือร่วมใจกันแสดงพลังเรียกร้องต่อสู้ต่อต้านให้ถึงที่สุด จนกว่าจะได้ประชาธิปไตยอย่างแท้จริงและความเป็นธรรมกลับคืนมาด้วย
สำหรับเรื่องส่วนตัวผมนั้นเป็นเรื่องเล็กครับ แต่เรื่องส่วนรวมนั้นสำคัญกว่ามากมายนัก ทางธนาคารเจ้าเล่ห์จะเสนอลดดอกเบี้ยเงินกู้ชดเชยความสูญเสียให้ 1 % คืนเงินที่หั่นไปโดยไม่ชอบธรรม รวมทั้งคืนเงินค่าประเมินที่ดินที่บริษ้ท PROGRESS APPRAISAL ประเมินที่ต่ำกว่าความเป็นจริงมาก และไม่ถูกต้องตามหลักวิชาการเพราะสมรู้ร่วมคิดกับแบงค์กสิกรไทยเพื่อต้องการเอาเปรียบและปฏิเสธการกู้เงินเพิ่มจากหลักทรัพย์เดิม โดยทางธนาคารมีเงื่อนไขให้หยุดร้องเรียนเรื่องทั้งหมดที่จะทำให้ธนาคารเสียหาย และไม่ขอกู้เพิ่มอีกต่อไป ซึ่งผมทำไม่ได้เนื่องจากเรื่องส่วนตัวนั้น 2-3 เรื่ือง ตามที่เรียกร้องนั้น เป็นสิ่งที่ทางธนาคารสมควรอย่างยิ่งที่จะต้องรีบทำอยู่แล้ว -การลดดอกเบี้ย 1 % นั้น จริง ๆ แล้ว ทุกธนาคารสมควรลดให้ผู้กู้ทั่วทั้งประเทศด้วยซ้ำไป เพราะธนาคารเอาเปรียบจากการลดดอกเบี้ยเงินฝาก 0.5 %และเงินกู้ 0.25 % มา 3-4 ครั้ง รวม 0.75-1 % อยู่แล้ว -ส่วนเงินที่หั่นไปโดยไม่ชอบธรรมนั้น ตราบใดที่ธนาคารไม่คืนให้ ก็ไม่สามารถที่จะโฆษณาว่าแบงค์มีคุณธรรมจริยธรรมอีกต่อไป -เรื่องเงินค่าประเมินที่ดินที่จะเจรจาคืนให้แล้วให้ยุติเรื่องนั้น แต่ความเสียหายได้เกิดขึ้นแล้ว และเป็นส่วนที่อยู่ในความรับผิดชอบของสคบ. -ส่วนการกู้เงินเพิ่มเติมที่แบงค์ปฏิเสธมาโดยตลอดนั้น ตอนนี้ผมสูญลูกค้าไปหมดแล้ว และไม่มีแก่ใจที่จะคิดทำอะไรในตอนนี้เพราะมีรัฐบาลเผด็จการทรราชชาติชั่วมือเปื้อนเลือด โคตรชั่วแสนห่วยแสนเลวทรามต่ำช้าหน้าด้านไร้ยางอาย ถ้าหากวันข้างหน้าผมมีโครงการดี ๆ มาเสนอ ก็ควรพิจารณาด้วยเหตุด้วยผล ไม่ใช่มาสั่งห้ามเสนอหรือหากเสนอครั้งเดียวไม่ผ่านก็ให้ยุติ อย่างนี้เท่ากับแสดงว่าธนาคารชอบใช้อำนาจเผด็จการที่ไม่ชอบธรรม สนองตามนโนบายกลั่นแกล้งเอาเปรียบลูกค้าอย่างสุด ๆ ดังที่เป็นอยู่ในขณะนี้ ซึ่งนับว่าไม่สมควรอย่างยิ่ง
สำหรับเรื่องส่วนรวมนั้น เช่น -การคืนเงินที่หักโดยมิชอบจากบัญชีกระแสรายวัน 100 บาทต่อเดือน และ 50 บาทต่อเดือนจากบัญชีออมทรัพย์ และควรยกเลิกกฎนี้ทิ้งไปเสีย -ส่วนต่างดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝากมากเกินไป อย่างน้อยควรลดเงินกู้ลงอีก 1 % -ค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ที่ธนาคารเพิ่มเอาเองตามใจชอบแบบมัดมือชก -บัตรเครดิต บัตร ATM -เครื่องรับฝากเงินสดกินเงิน ตู้ ATM -การใช้เล่ห์เหลี่ยมหลอกผู้กู้ให้เสียค่าธรรมเนียมเกินจำเป็น เสียค่าประเมินฟรีแล้วไม่อนุมัติ เสียค่าประกันเพิ่มโดยใช่เหตุ ฯลฯ -รวมทั้งเรื่องปลีกย่อมอีกมามายในแผ่น CD เช่น การให้บริการไม่ดี การให้ข้อมูลไม่ชัดเจนทำให้ลูกค้าเสียหาย การเอารัดเอาเปรียบลูกค้าอย่างหน้าด้าน ๆ ให้มากที่สุด การสร้างความรำคาญขายโน่นขายนี่เพื่อสร้างยอดและผลงาน การมีทัศนคติจิ้งจอกเจ้าเล่ห์โกหกหน้าตายไร้ยางอายไร้คุณธรรม ฯลฯ
|
|
Tags: |
|
![]() |
|
|
jrchai ร้องKBank แกล้งเอาเปรียบมา5ปี+ร้องแบงค์ชาติและสคบ.กว่า3ปี+สนุก5เดือน เหมือนไร้ผล http://webboard.news.sanook.com/forum/?topic=3140735.0;all ตอบ #33 เมื่อ: 26 มิ.ย. 10, 11:01 น ก็ในเมื่อคุณไม่สนใจอ่านกระทู้ที่ผมตั้ง แล้วยังมาแสดงความคิดเห็นเสมือนตาบอดคลำช้างเสียยืดยาว จะใช้ได้ที่ไหน คุณมัวแต่เดาสุ่มสี่สุ่มห้า ไร้ความเข้าใจในหลักการที่ถูกต้องของการเสนอความคิดเห็นขั้นพื้นฐาน ผมว่าเสียเวลาเปล่า หากคุณโหลดกระทู้ที่ผมแปะไว้ให้ไปอ่านศึกษา คำตอบจะมีอยู่ในนั้นมากมาย และมีสาระมากจนคุณอาจคาดไม่ถึงเสียด้วยซ้ำไป การที่ผมยอมเสียสละเวลามาตั้งกระทู้เพื่อให้คนรับรู้ความไม่ดีไม่งามและการเอารัดเอาเปรียบของแบงค์อย่างต่อเนื่องนั้น คุณเองก็น่าจะทราบดีว่า น่าจะมีผลดีผลร้ายอย่างไร ไม่เช่นนั้น คุณก็คงไม่เสียเวลามาตอบโต้สะเปะสะปะอย่างนี้หรอก รูปแบบของคนที่มาโต้กับผมนั้นมีสารพัดอย่างซึ่งคุณสามารถหาอ่านได้ในกระทู้ที่ผมแนะนำ และอย่ามาดูถูกดูแคลนว่าเป็นการด่าไร้สาระเด็ดขาด แค่หัวข้อการร้องเรียนทั้งส่วนตัวและส่วนรวมนั้น ก็นับว่ากระทู้นี้เต็มไปด้วยสาระอยู่แล้ว ทำไมคุณไม่ลองโหลดมาอ่านและศึกษาดูล่ะ รับรองว่าจะเกิดประโยชน์อย่างแน่นอน
คุณคิดว่าเรื่องต่าง ๆ เหล่านี้ที่ผมได้เสนอไปเป็นเรื่องไร้สาระหรืออย่างไร -การหัก 50-100 บาท/เดือน เป็นการเก็บค่ารักษาบัญชีที่ค้ากำไรเกินควรด้วยเจตนาจะล้างบัญชีจนลูกค้าตายจากไป เงินที่ดูดเลือดไปจากประชาชนเข้ากระเป๋าแบงค์ไปเป็นเงินเท่าไร นับไม่ถูก -ส่วนต่างดอกเบี้ยมากเกินควร ส่วนหนึ่งมาหักค่าเสียหายใช้หนี้ที่แบงค์ทำเจ๊งเองตอนเกิดวิกฤติทางเศรษฐกิจ แล้วเวลากำไร ทำไมแบงค์ไม่แบ่งคืนประชาชนหรือผู้ฝากเงินบ้างหรือไม่ เงินแค่ 0.5-1 % แบงค์ก็ได้เงินจำนวนมหาศาลแล้ว -บัตรเอทีเอ็มขึ้นจาก 100 บาท เป็น 200 บาทแบบมัดมือชกด้วยความเจ้าเล่ห์แสนกลสารพัดที่งัดเอามาใช้ ฟาดกำไรเพิ่มไป 100 % -ตู้รับฝากเงินสดกินเงินคราวละ 100 500 หรือ1000 บาท หากไม่ร้องเรียน เข้ากระเป๋าใคร หากมีหลายร้อยหลายพันตู้ จะเป็นเงินเท่าไร มีการตรวจสอบแก้ไขตู้ทั้งหมดให้มีสภาพดีแล้วหรือยัง รวมทั้งตู้เอทีเอ็มที่เสียในบางครั้งด้วย ร้องเรียนกว่าจะได้คืนยากลำบากมาก -วันดีคืนดีเงินในบัญชีถูกอายัดเกลี้ยงทั้ง ๆ ที่ต้นเหตุมีแค่หนึ่งในสี่ ไม่มีวันคืน 3 ส่วนให้ แม้จะชี้แจงด้วยเหตุด้วยผลอย่างไรก็ไม่รับฟัง -อยู่ดี ๆ เรื่องยังไม่สิ้นสุด ก็มาขอให้เขียนหนังสือยอมให้หักเงินในบัญชีหมุนเวียนไปครึ่งหนึ่ง ในขณะที่มีเงินเหลืออยู่น้อยมากอยู่แล้ว -เงินประกันอัคคีภัยยังทำเกินกว่าเงินกู้ถึง 7 เท่า ก็ทำมาแล้ว บ้านที่อยู่เฉย ๆ ก็ทำแบบประกันธุรกิจเสียเกินจริงกว่า 10 ปี ทำประกันเกินยอดที่กู้แบบจำยอม -สมรู้ร่วมคิดกับบริษัทประเมินหลักทรัพย์ ในอดีตเจอแบงค์ทำเองประเมินต่ำติดดินอย่างไร ปัจจุบันก็เฉกเช่นเดียวกัน เอาเปรียบอย่างสุด ๆ -ยึดหลักทรัพย์ลูกค้า แล้วขายทอดตลาดเอง ประเมินเองต่ำ ๆ ขายได้เงินทุนคืน แล้วยังมาทวงหนี้เท่าเดิมอีก -หลอกลูกค้าเสียค่าประเมินค่าใช้จ่ายฟรีโดยไม่แจ้งให้ทราบว่า แบงค์ประเมินได้มากน้อยเพียงไรไม่สามารถให้กู้ได้ ใช้กฎที่ไร้ความเป็นธรรม -บวกดอกเบี้ยบัญชีใหม่มากกว่าบัญชีเดิมถึง 1.75 เป็นปี ๆ หากไม่รู้ไม่ทักท้วง ก็ต้องจ่ายไปเรื่อย ๆ -เงินกู้ผ่อนหมด ไม่ปรับเป็นโอดีให้ตามสัญญาถึง 2 ครั้ง ต้องทักท้วงจึงจะได้ ฯลฯ
-การยอมพวกโจรกบฏรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 เป็นรัฐาธิปัตย์ -รัฐบาลไม่ได้มาจากเสียงส่วนใหญ่ของประเทศ แต่งตั้งกันเองโดยการบีบบังคับ ไร้ความชอบธรรม -รัฐบาลและผู้บงการเข่นฆ่าประชาชนมือเปล่า ทั้ง ๆ ที่ในสงครามเขายังยกเว้น -ตุลาการยอมรับโจรกบฏรัฐประประหาร ไม่สามารถฟ้องร้องได้ ไร้ความเป็นธรรมจนได้รับฉายาตุลาการวิบัติ ฯลฯ
ฉะนั้น คราวหน้าคราวหลัง อย่าได้มาติเรือทั้งโกลนโดยไม่ดูตาม้าตาเรือให้ดีเสียก่อนจะดีกว่า หากไม่รู้จริงก็น่าจะเจียมตัวสักนิดก็ยังดี เรื่องบัตรเครดิตนั้นก็อิงกับบัญชีแบงค์อยู่และผมไม่เคยมีปัญหาใด ๆ ทั้งสิ้นตลอดกว่า 21 ปีที่เปิดบัญชีมา ไม่เชื่อก็ถามแบงค์ดูได้ อย่ามาเนียนอิงแอบเข้าข้างแบงค์และดิสเครดิตผมจะดีกว่า โคลงกลอนต่าง ๆ นั้น ผมกลั่นออกมาจากใจตามความเป็นจริง น่าจะแสดงให้เห็นชัดแล้วนะครับทุกวันนี้ ใคร ๆ เขาก็รู้กันว่าโจรครองเมือง ตุลาการวิบัติ รัฐบาลฆาตกรมือเปื้อนเลือด ความเป็นธรรมแทบหาไม่ได้ ยิ่งมาเจอแบงค์สันดานชั่วอีก ใครจะรับไหว ก็ต้องมาประจานให้เพื่อน ๆ ที่คิดเหมือนกันได้รับรู้เพื่อช่วยกันต่อสู้ต่อต้านให้ถึงที่สุด หรือคุณจะยอมเป็นขี้ข้าพวกชั่วช้าสารเลวเหล่านี้ ให้กระทำการย่ำยีโกงกินตามอำเภอใจ จนบ้านเมืองฉิบหายตำตาตำใจอีกต่อไปโดยไม่ทำอะไรบ้างเลยหรือ ช่วยตอบผมให้ชื่นใจสักนิดก็ยังดี
****************************************************** ขอแนะนำกระทู้ที่รวมเอาความคิดเห็นสำคัญ ๆ จากกระทู้ต่าง ๆ หลายสิบกระทู้ที่แตกออกไปมารวมกัน ท่านที่สนใจสามารถที่จะดาวน์โหลดได้ จากลิ้งค์ที่ให้ไว้ข้างล่างนี้ครับ ใช้โปรแกรม winrar แตกไฟล์ จะได้ 13 แฟ้ม แฟ้มที่ 1-12 ต้องใช้โปรแกรม OPERA ที่ว่างเปล่า ไม่มีการเปิดเว็บใด ๆ ค้างไว้ จึงจะเปิดได้ (โหลด opera ฟรีได้จากลิ้งค์นี้ครับ http://www.opera.com/download/) ส่วน แฟ้มที่ 13 นั้น เปิดโดย browser ใด ๆ ก็ได้
กลยุทธการบริการเอารัดเอาเปรียบจนกว่าลูกค้าจะตายของธนาคารกสิกรไทยที่ท่าน ควรทราบ http://www.mediafire.com/?oiynzncah3m#2
|
|
Tags: |
|
![]() |
|
|
|
ขอแนะนำกระทู้ข้อเท็จจริงจากการเป็นลูกค้าธนาคารกสิกรไทย(และธนาคารต่าง ๆ) ซึ่งได้รวบรวมเอาความคิดเห็นสำคัญ ๆ เกี่ยวกับการเอาเปรียบประชาชนอย่างไม่เป็นธรรม จากกระทู้ต่าง ๆ หลายสิบกระทู้ที่แตกออกไปจากกระทู้หลักนี้มารวมกัน รวมทั้งตัวอย่างกระทู้ที่สำคัญ ๆ ที่อ้างอิงในกระทู้นี้มาเป็นเครื่องยืนยันถึง มาตรฐานกระบวนการยุติธรรม จริยธรรมและคุณธรรมในสังคมและการเมืองไทยนั้น ช่างหาได้ยากเย็นแสนเข็ญเสียจริง ๆ
ท่านที่สนใจสามารถที่จะดาวน์โหลดได้จากลิ้งค์ที่ให้ไว้ข้างล่างนี้ครับ ใช้โปรแกรม winrar แตกไฟล์ที่ดาวน์โหลดมา จะได้ 13 แฟ้ม แฟ้มที่ 1-12 ต้องใช้โปรแกรม OPERA ที่ว่างเปล่า ไม่มีการเปิดเว็บใด ๆ ค้างไว้ จึงจะเปิดได้ ส่วนแฟ้มที่ 13 นั้น เปิดโดย browser ใด ๆ ก็ได้
(ดาวน์โหลด Opera 10.61 web browser ฟรี สำหรับเปิดแฟ้ม http://www.opera.com/)
กลยุทธการบริการเอารัดเอาเปรียบจนกว่าลูกค้าจะตายของธนาคารกสิกรไทยที่ท่าน ควรทราบ http://www.mediafire.com/?oiynzncah3m#2 หรือ กลยุทธการเอาเปรียบของกสิกรไทย.zip (มี 13 แฟ้ม) 15.87 MB http://www.mediafire.com/?mcyy643cvo14l28
ประกาศ ! กระทู้ KBank และ... ที่โดนลบ ได้เขียนใส่ CD ส่งถึงผู้ว่าการแบงค์ชาติเรียบร้อยแล้ว.mht 7.53 MB http://www.mediafire.com/?jthihnzfnzj หรือ http://www.mediafire.com/?861huy8nbua0at0
ระวังน้า คุณหนูเสี่ยปั้นKbank แบงค์ต่าง ๆ ทำเยี่ยงนี้ มีหรือที่เปตนรกอบายภูมิจะไม่ถามหา ระวังน้าคุณหนูเสี่ยปั้น.rar 131.7 KB http://www.mediafire.com/?aust89gx6vjz9u0
เทวดามีจริงหรือ - ฉีกหน้ากากเทวดา+คลิปตาสว่าง+กระทู้แนะนำโดยสมาชิก (มีลิ้งค์ดาวน์โหลดหนังสือธรรมะที่ขึ้นชื่อหลายเล่มด้วยกันในกระทู้นี้ และเป็นกระทู้สุดท้ายก่อนหยุดการตั้งกระทู้และการโพสต์ไปร่วม 2 เดือนได้ เป็นกระทู้ที่มีคนเข้าชมกว่า 10000 ครั้ง ซึ่งถือว่าฮ็อตสุด ๆ กระทู้หนึ่งเลยทีเดียว) เทวดามีจริงหรือ.rar 5.86 MB http://www.mediafire.com/?y0hh9fttmln9yyx
|
|
Tags: |
|
![]() |
|
|
|
ธปท.สั่งเลิกเก็บค่าต๋งข้ามเขต http://www.thairath.co.th/content/eco/108909
ธปท. เตรียมขอความร่วมมือแบงก์พาณิชย์ยกเลิก เก็บค่าธรรมเนียมข้ามเขต โดยจะพิจารณาให้เก็บค่าธรรมเนียมส่วนอื่นเพิ่ม...
ผู้สื่อข่าวรายงานจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ว่า วันที่ 9 ก.ย.นี้ นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการ ธปท. จะเชิญผู้บริหารระดับสูงของธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งที่มีอำนาจตัดสินใจได้ มาหารือ โดย ธปท.จะขอความร่วมมือให้ธนาคารพาณิชย์ ยกเลิกเก็บค่าธรรมเนียม (ฟี) บริการทางการเงินข้ามเขต (กรุงเทพฯปริมณฑล-ต่างจังหวัด) ทุกประเภทที่เรียกเก็บในปัจจุบัน ซึ่ง ธปท.ประเมินว่า จะทำให้รายได้ของธนาคารพาณิชย์ทั้งระบบลดลง 7,000-10,000 ล้านบาทต่อปี แต่ธนาคารพาณิชย์ประเมินว่ารายได้จะหายไป 10,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงแต่ ธนาคารพาณิชย์จะหารายได้ค่าธรรมเนียมทดแทนในส่วนที่ ให้บริการธุรกรรมทางการเงินที่เกี่ยวกับเงินสดและเช็คได้เป็นการแลกเปลี่ยน โดยวันที่ 9 ก.ย.นี้ ธปท.จะพิจารณารายละเอียดที่ธนาคารพาณิชย์จะเสนอมาว่า จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมส่วนใดเพิ่มเติม โดยมุ่งในธุรกรรมที่ไม่เคยเก็บมาก่อน แต่มีต้นทุนการให้บริการสูง ซึ่งจะต้องพิสูจน์และชี้แจงต้นทุนให้ชัดเจน รวมถึงไม่สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนเกินไป
สำหรับค่าบริการที่จะขอให้ยกเลิกแบ่งเป็น 1.บริการฝากและถอนเงินข้ามเขต ทั้งผ่านเคาน์เตอร์ธนาคารและตู้เอทีเอ็ม ปัจจุบันเรียกหน้าเคาน์เตอร์หมื่นละ 10 บาท และมีค่าต่อคู่สายอีก 20 บาทต่อครั้ง คิดค่าธรรมเนียมสูงสุดไม่เกิน 1,000 บาทต่อครั้ง ขณะที่การฝากเงินและถอนเงินผ่านตู้เอทีเอ็มคิดครั้งละ 20-25 บาท 2.การโอนเงินข้ามเขตผ่านเคาน์เตอร์ธนาคารและตู้เอทีเอ็มคิดเฉลี่ยที่ 10-50 บาทต่อครั้งแล้วแต่วงเงิน สำหรับการโอนเงินข้ามเขตข้ามบัญชีข้ามธนาคารไม่เกิน 100,000 บาท เก็บ 12 บาท มากกว่า 100,000-500,000 บาท เก็บ 40 บาท และมากกว่า 500,000 บาท แต่ไม่เกิน 2 ล้านบาท เก็บ 100 บาท 3.บริการเช็คข้ามเขตเก็บหมื่นละ 10 บาท 4.การโอนเงินระบบบาทเน็ตสำหรับรายย่อย.*************************************************** http://www.thairath.co.th/content/eco/109773
|
|
Tags: |
|
![]() |
|
|
ผลสรุป ธปท. หารือ ธนาคารพานิชย์ ยอมลดค่าธรรมเนียม 1 รายการ http://news.sanook.com/965351-ผลสรุป-ธปท.-หารือ-ธนาคารพานิชย์-ยอมลดค่าธรรมเนียม-1-รายการ

ผลหารือ ธปท. กับธนาคารพานิชย์ สรุปลดค่าธรรมเนียมเพียงหนึ่งรายการ คือ การโอนเงินระหว่างบัญชีข้าม ธนาคารเหลืออัตราเดียว คือ โอนเงินไม่เกิน 2 ล้านบาท คิดอัตรา 12 บาทต่อรายการ ธปท.ยันเดินหน้าต่อไป
นายฉิม ตันติยาสวัสดิกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการ ธปท.สายระบบข้อสนเทศ ฝ่ายระบบการชำระเงิน เปิดเผย ผลหารือระหว่างผู้บริหารระดับสูงของธนาคารพาณิชย์ไทย 17 แห่ง ธปท. สายเสถียรภาพระบบการชำระเงิน เรื่องการปรับลดค่าธรรมเนียมการให้บริการทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ ว่า ในการประชุมครั้งนี้ ค่าธรรมเนียมการให้บริการทางการเงินที่สามารถตกลงกันได้ว่าจะยกเลิกการเก็บ ค่าธรรมเนียมมี 1 รายการคือ การโอนเงินระหว่างบัญชีข้ามธนาคาร ที่เคาน์เตอร์ธนาคาร (Bulk Payment Credit) ซึ่งในขณะนี้คิดอัตราค่าธรรมเนียม กรณีไม่เกิน 100,000 บาท คิดค่าธรรมเนียม 12 บาท กรณีมากกว่า 100,000 บาท แต่ไม่เกิน 500,000 บาท คิดอัตรา 40 บาท และกรณีมากกว่า 500,000 บาท แต่ไม่เกิน 2 ล้านบาท คิด 100 บาท โดย ภายในวันที่ 15 ธ.ค.นี้ ทุกแห่งพร้อมจะลดค่าธรรมเนียมการโอนเงินระหว่างบัญชีข้าม ธนาคารเหลืออัตราเดียว คือ โอนเงินไม่เกิน 2 ล้านบาท คิดอัตรา 12 บาทต่อรายการ
แต่ขอเรียกร้องของ ธปท.ได้ขอให้ธนาคารพาณิชย์พิจารณาการยกเลิกการเก็บค่าธรรมเนียมการให้บริการ ทางการเงินข้ามเขต ( กรุงเทพปริมณฑล กับต่างจังหวัด) อีก 3 รายการ อันประกอบด้วย 1.ค่าธรรมเนียมการฝากถอนข้ามเขต ทั้งบัญชีออมทรัพย์และบัญชีกระแสรายวัน ที่เคาน์เตอร์ธนาคาร 2.ค่าธรรมเนียมขึ้นเงินเช็คข้ามเขต 3.การโอนเงินข้ามธนาคารผ่านตู้เอทีเอ็ม (ORFT) ยังไม่สามารถตกลงกันได้ แต่ขอยืนยันว่าทั้ง 3 รายการยังเป็นเป้าหมายที่ทาง ธปท. จะพยายามต่อไป ******************************************** สันดานแบงค์จอมเขี้ยว จอมเอารัดเอาเปรียบ ย่อมเป็นเช่นนี้เอง หากนายกรณ์และแบงค์ชาติมีน้ำยาและเข้าข้างประชาชนจริง คงไม่ปล่อยให้ส่วนต่างดอกเบี้ยเงินฝาก-กู้ห่างกันมากเช่นนี้ รวมทั้งค่าธรรมแบบมัดมือชกให้อยู่ในเงื้อมมือมาเฟียแบงค์หรอก สมแล้วที่คุณนะฮะว่า "ปีศาจทั้งนั้นแหละ คุณเอ๋ย"
|
|
Tags: |
|
![]() |
|
|
ธนาคาร กสิกรไทย (หรือแบงคฺ์ต่าง ๆ) จงอย่าได้เป็น"แบงค์ที่ทำนาบนหลังคน"อีกต่อไปเลย เมื่อ: 23 พ.ย. 09, 10:05 น (กระทู้ฮ็อตสุด ๆ กระทู้หนึ่งที่ท่านไม่ควรพลาด สามารถดาวน์โหลดได้ที่ลิ้งค์นี้ครับ แตกได้ 4 แฟ้ม KBank-อย่าทำนาบนหลังคน.rar (235.55 KB) http://www.mediafire.com/?3sy834gas5f6pei )ตอนที่ 10 ธนาคารกสิกรไทย จงอย่าได้เป็น"แบงค์ที่ทำนาบนหลังคน" อีกต่อไปเลย จากการตั้งกระทู้ เกี่ยวกับธนาคารกสิกรไทยตั้งแต่วันที่ 27 ตุลาคม 2552 จนถึงวันนี้รวม ทั้งหมด 9 กระทู้ ตามลิ้งค์ข้างล่างนี้ รวมทั้งภาพประกอบจำนวนผู้อ่าน และตอบ ถือว่าเป็นที่น่าพอใจพอสมควร ผมจึงได้รวบรวมมาตั้งกระทู้นี้ขึ้น โดยหวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่สนใจ เพื่อที่จะได้นำเอาข้อคิดเห็น ต่าง ๆ ที่ได้แสดงไว้ในกระทู้เหล่านี้มาใช้ให้เป็นประโยชน์ ในการปรับ ปรุงการให้บริการของธนาคารต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ผมหวังว่าธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) สมาคม ธนาคารไทย 1111 กระทรวงการคลัง และรัฐบาล ควรจะได้เอาใจใส่ในการควบคุม การให้บริการของธนาคารพาณิชย์ต่าง ๆ เพื่อไม่ให้ตั้งกฎ กติกา สัญญา ฯลฯ ที่เอารัดเอาเปรียบประชาชนหรือลูกค้าธนาคารเกินไป ดังหัวข้อตอนที่ 1-9 ที่ผมได้ตั้งขึ้นจากประสบการณ์และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ผมจึงนำมา สรุปเป็นตอนที่ 10 นี้ ว่า
ธนาคารกสิกรไทย แบงค์พาณิชย์ และสมาคมธนาคารไทย จงอย่าได้มีนโยบายทำนาบนหลังคนอีกต่อไปเลย ชื่อกระทู้ขอให้เครดิต คุณ nano ที่ได้ให้ความคิดเห็นนี้ไว้ครับ
nano
กสิกรไทย "บริการห้ำหั่นอายัดเงินจนเกลี้ยงอย่างไร้ความยุติธรรม" ตอบ #5 เมื่อ: วันนี้ 08:59 น แก้ไข ลบทิ้ง
ชื่อเขาคือ กสิกรแบงค์ คือแบงค์ที่ทำนาบนหลังคน ****************************************** jrchai Level 4 ความ คิดเห็น: 156
กสิกรไทย "บริการห้ำหั่นอายัดเงินจนเกลี้ยงอย่างไร้ความยุติธรรม" ตอบ #6 เมื่อ: วันนี้ 14:17 น
คุณ nano คิดคำได้เจ๋งจริง ๆ ขอบคุณครับ
****************************** จากกระทู้ กสิกร ไทย "บริการห้ำหั่นอายัดเงินจนเกลี้ยงอย่างไร้ความยุติธรรม" http://webboard.news.sanook.com/forum/2976618
|
|
Tags: |
|
![]() |
|
|
|
|
|
|
|
เอกชนรุมยำ ธปท.เละเทะ ไม่กล้าตัดสินใจทั้งที่บาทแข็งทำส่งออกใกล้ตาย http://www.thairath.co.th/content/eco/111783
เอกชนร้องรัฐบาลจริงใจแก้ปัญหาบาทแข็ง โวยดีแต่พูดไม่กระทบส่งออก ทั้งที่จริงเอกชนทุนหายกำไรหด ปรับตัวจนใกล้ตายแล้ว แขวะ ธปท.ทำงานเหมือนเสมียน ไม่กล้าตัดสินใจ หนำซ้ำยังจะขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มต้นทุน ธุรกิจวอนลดดอกเบี้ย ขู่ย้ายฐานผลิตหนีเพราะพึ่งประเทศไทยไม่ได้แล้ว ขณะที่ ธปท.เผยจะนำเรื่องบาทแข็งเข้าถกในที่ประชุม กนง. 20 ต.ค.นี้
โดยนายดุสิต นนทะนาคร ประธานสภาหอ การค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยระหว่างการเสวนา "ส่งออกอย่างไร ในสภาวะที่เงินบาทแข็งค่า" จัดโดยกรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ วานนี้ (16 ก.ย.) ว่า ขณะนี้ค่าเงินบาทเริ่มส่งสัญญาณแข็งค่ามากผิดปกติ โดยเดือน ส.ค.แข็งค่าถึง 1.8% หากนับตั้งแต่ต้นปี 53 แข็งค่าขึ้น 7.58% และเฉพาะเดือน ส.ค. เดือนเดียวแข็งค่า 3.3% หากเป็นการแข็งค่าในภาวะเศรษฐกิจไทยแข็งแกร่งก็ไม่มีปัญหา แต่ขณะนี้เศรษฐกิจยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ อาจกระทบต่อเศรษฐกิจภาพรวมได้ จึงจำเป็นที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ต้องเข้ามาดูแลอย่างเร่งด่วน เพราะผู้ส่งออกได้รับผลกระทบมาก โดยเฉพาะธุรกิจขนาดเล็กที่พึ่งพาวัตถุดิบในประเทศเป็นหลัก และส่งออก 70-80% รวมถึงภาคเกษตรที่เกี่ยวข้องกับคนจำนวนมาก
ส่วนกลุ่มที่กระทบรองลงมาเป็นธุรกิจขนาดกลาง ที่นำเข้าวัตถุดิบน้อยกว่าส่งออก แต่ธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีทั้งนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศและส่งออกยังพอบริหารจัดการความเสี่ยงได้ เพราะได้ผลดีจากการนำเข้าวัตถุดิบ สำหรับแนวโน้มการส่งออก คาดว่าไตรมาส 4 จะเห็นผลกระทบชัดเจนจากปัญหาเงินบาทแข็งค่า แต่ภาพรวมการส่งออกปีนี้จะยังขยายตัวตามเป้าหมาย เพราะช่วงต้นปีขยายตัวสูง
ธปท.ทำงานเหมือนเสมียน
นายดุสิตกล่าวต่อว่า ปัญหาค่าเงินบาทขณะนี้ ภาคเอกชนต้องการให้รัฐบาลจริงใจในการแก้ปัญหามากกว่านี้ อย่าดีแต่พูดว่าภาคส่งออกไม่ได้รับผลกระทบ เป็นการพูดแบบไม่สร้างสรรค์และน่าคลื่นไส้ รัฐบาลน่าจะพูดให้กำลังใจกันมากกว่า และบอกด้วยว่ารัฐบาลกำลังจะทำอะไรเพื่อแก้ปัญหา การที่เงินบาทแข็งค่ามาจากมีเงินร้อนเข้ามามากจริงหรือไม่ ถ้าจริงก็ต้องแก้ไข สกัดกั้นเงินร้อนอย่าให้เข้ามามากเกินไป ทำไมรัฐบาลไทยไม่ทำเหมือนประเทศอื่น เช่น ญี่ปุ่นที่กล้าแก้ปัญหาค่าเงิน ทั้งที่ ผู้บริหาร ธปท. ก็เรียนจบจากญี่ปุ่น "แบงก์ชาติต้องกล้าตัดสินใจบริหารค่าเงินมากกว่านี้ ไม่ใช่ทำงานเหมือนเสมียน และควรพิจารณาข้อเท็จจริงจากปัญหามากกว่าใช้ความรู้สึก ไม่ใช่บอกว่าไม่มีผลกระทบและให้เอกชนปรับตัว เอกชนตอนนี้ปรับเยอะแล้ว ปรับจนใกล้ตาย หากลากยาวไปอีก 3 เดือน จะมีผู้ส่งออกตายมากกว่าครึ่ง การพูดอย่างนี้เหมือนไม่มีความรับผิดชอบ ไม่จริงใจช่วย น่าจะดูธนาคารกลางญี่ปุ่นเป็นตัวอย่างและนักธุรกิจห่วงมากว่า ถ้าบริหารจัดการไม่ชัดเจน ต่อไปจะพึ่งพาประเทศไทยไม่ได้อีกแล้ว" นายดุสิตกล่าว
แฉธุรกิจเจ๊งระนาว
ด้านนายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า รู้สึกผิดหวังกับการทำหน้าที่ของ ธปท. เพราะสถิติค่าเงินเมื่อวันที่ 15 ก.ย. ที่ผ่านมา แข็งค่าสูงสุดในโลก ภายในวันเดียวบาทแข็งค่าขึ้นถึง 0.35% ขณะที่ประเทศอื่น เช่น ไต้หวัน แข็งค่าขึ้นเพียง 0.05% เกาหลีใต้
แข็งค่า 0.04% เท่านั้น ส่วนคู่แข่งอื่นๆลดลงหมด เช่น ญี่ปุ่น อ่อนค่า 0.32% ฮ่องกงอ่อน 0.0026% สิงคโปร์ 0.01% จีน 0.17% มาเลเซีย 0.19% จึงอยากถาม ธปท.ว่ามัวทำอะไรอยู่ ทำไมไม่เร่งแก้ปัญหา
ทั้งนี้ จากการสำรวจความคิดเห็นผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรม 35 กลุ่ม พบว่า มากกว่า 80% ได้รับผลกระทบมาก กระจุกตัวในอุตสาหกรรมการเกษตร โดยเฉพาะผู้ส่งออกข้าว ที่ตอบว่า บาทแข็งค่าขึ้นทุกๆ 1 บาท เงินจากการส่งออกจะหายไปตันละ 250 บาท ส่วนอุตสาหกรรมยานยนต์ระบุว่าทุก 1 บาทที่แข็งค่า จะกระทบรายได้ 6,000 ล้านบาท แต่ปีนี้รายได้จากการส่งออกไม่น่ามีปัญหา เพราะทำประกันความเสี่ยงค่าเงินไว้หมดแล้ว น่าจะเริ่มกระทบจริงปีหน้า และอาจย้ายฐานการผลิตจากไทยด้วย ส่วนกลุ่มเครื่องนุ่งห่ม รองเท้าที่มีกำไร 5-10% ขณะนี้ค่าเงินแข็งค่า 8% เท่ากับรายได้จากการส่งออกเมื่อแปลงเป็นเงินบาทหายไป 8% ซึ่งเริ่มเจ๊งกันแล้ว "ตอนนี้ปรับตัว และลดต้นทุนจนตัวลีบแล้ว เดิมรับคำสั่งซื้อยาว 6-10 เดือน แต่ลดเหลือช่วงสั้นๆ เพื่อลดความเสี่ยงค่าเงิน และเดิมตั้งรับค่าบาทไว้ที่ 31.50 บาท/เหรียญสหรัฐฯ ตอนนี้ลดเหลือ 30 บาท ซึ่งเริ่มขาดทุนแล้ว ถ้าตั้งรับต่ำกว่านี้ หรือที่ 29 บาทคงขายของไม่ได้แน่ ส่วนการปรับตัว หากเลือกนำเข้าวัตถุดิบมากไป ก็จะกระทบต่อผู้ผลิตในประเทศ และขยายวงกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจทั้งหมดได้"
วอนอย่าขึ้นดอกเบี้ยซ้ำเติม
ส่วนนายผณิศวร ชำนาญเวช นายกสมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทย กล่าวว่า ช่วงที่ค่าเงินบาทแข็ง สมาคม ได้สอบถามสมาชิกรายใหญ่ 12 ราย มีเพียง 1 รายที่ขายสินค้าได้ ส่วนอีก 11 รายไม่สามารถขายได้ เพราะต้องขึ้นราคาทำให้ขายไม่ได้ หากเป็นอย่างนี้ ต่ออีก 3 สัปดาห์ ผู้ส่งออกต้องเสียหายหนักแน่ เพราะ ค่าเงินที่แข็งค่าขึ้น กระทบผู้ส่งออกอาหารแช่เยือกแข็งมาก เพราะใช้วัตถุดิบในประเทศมากถึง 95% และ ได้ปรับตัวแล้ว รับคำสั่งซื้อล่วงหน้าเพียง 1 เดือนจากเดิมที่รับล่วงหน้า 4-6 เดือน เพื่อป้องกันการผันผวนจากค่าเงิน ผลประกอบการตอนนี้กำไรลดลงจากปกติ 4% เหลือ 2%
"ปกติ ก.ย. เป็นช่วงระดมการผลิตให้ส่งออกทันก่อนสิ้น ต.ค. เพื่อป้อนความต้องการช่วงคริสต์มาสและปีใหม่ แต่ปีนี้ทุกคนไม่ไหว ไม่มีใครซื้อวัตถุดิบสต๊อกไว้เลย เพราะบาทที่แข็งทำให้ราคาส่งออกกุ้งทุก 1 กิโลกรัมหายไป 16 บาท หากปีนี้ การส่งออกอาหารทะเลโตได้ 3% ถือว่าครึ่งหลังของปีสาหัส เพราะครึ่งแรกขยายตัวได้ดี จากปีปกติจะขยายตัวเฉลี่ย 5% ทั้งที่น่าจะเป็นปีทองเพราะคู่แข่งคือ อินโดนีเซีย เจอโรคระบาด ส่งออกได้น้อย แต่ไทยเจอปัญหาบาทแข็ง ที่สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากกติการัฐที่เปิดโอกาสให้บางคนใช้เงินทำงาน โดยยืมเงินต่างชาติเข้ามาเก็งกำไร และรัฐบาลก็ทำอะไรไม่ได้ ส่วนดอกเบี้ยไม่ควรขึ้นแต่ควรลดลงดีกว่า"
|
|
Tags: |
|
![]() |
|
|
(ต่อ)อ้อนตั้งกองทุนช่วยเอสเอ็มอี
นายจิรบูลย์ วิทยสิงห์ นายกสมาพันธ์ไลฟ์สไตล์ ไทย กล่าวว่า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเอสเอ็มอีที่ต่อยอดงานศิลปหัตถกรรมพื้นบ้านของชาวบ้าน ซึ่งขณะนี้แทบทุกโรงงานมีคำสั่งซื้อถึงสิ้นปี แต่เป็นทุกขลาภ เพราะค่าเงินบาทแข็งก็ต้องขาดทุนแน่นอน เพราะก่อนหน้านี้ทำสัญญาซื้อขายที่ค่าเงินอ่อนกว่านี้ ทำให้บางรายเจรจาขอคืนคำสั่งซื้อบ้างแล้ว เพราะจะเจ็บตัว จึงต้องการให้รัฐบาลตั้งกองทุนช่วยเหลือเอสเอ็มอีด้านการส่งออก เพราะที่ผ่านมารัฐบาลได้แต่พูดว่าจะช่วย แต่ไม่เคยเหลียวแลจริงจัง ต่างจากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบทีไร รัฐบาลเร่งให้เงินช่วยเหลือทุกครั้ง
นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์จะเสนอให้รัฐบาลผ่อนปรนกฎเกณฑ์ค่าเงินเพื่อช่วยเหลือภาคธุรกิจมากขึ้น เช่น การเสนอขยายระยะเวลาถือค่าเงินดอลลาร์ รวมถึงให้ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) ช่วยประกันการทำความเสี่ยงค่าเงิน และส่งเสริมให้เอสเอ็มอีรวมกลุ่มกันเข้ามาทำประกันความเสี่ยงมากขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงจากค่าเงินผันผวน แต่มั่นใจว่าการส่งออกปีนี้จะโตได้ 20% ตามเป้าแน่นอน
นำบาทแข็งเข้าถกใน กนง.
ขณะเดียวกัน ความเคลื่อนไหวในส่วนของ ธปท.นั้น นายสุชาติ สักการโกศล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจในประเทศ สายนโยบายการเงิน ธปท. เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 20 ตุลาคมที่จะถึงนี้ ธปท.จะนำประเด็นการแข็งขึ้นของค่าเงินบาทเข้าสู่การพิจารณาครั้งนี้ด้วย ซึ่งขณะนี้ ธปท. อยู่ระหว่างประเมินภาพรวมของค่าเงินบาทว่า เมื่อเกิดการแข็งค่าหรืออ่อนค่าลง จะกระทบต่อการบริโภคหรือการส่งออก และต่อภาพรวมเศรษฐกิจไทยอย่างไร อย่างไรก็ตามแม้เงินบาทแข็งค่าขึ้นมากขณะนี้ ธปท.ยังมองว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้ยังขยายตัวอยู่ในกรอบที่ กนง. ประเมินไว้คือ 6.5-7.5% เนื่องจากยังมีปัจจัยบวกมาก
นายไพบูลย์ กิตติศรีกังวาน ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายการเงิน ธปท.กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของค่าเงินไม่จำเป็นต้องเคลื่อนไหวเกาะกลุ่มไปกับประเทศในภูมิภาคเดียวกันเสมอไป แต่จะเคลื่อนไหวไปตามปัจจัยพื้นฐานเศรษฐกิจประเทศเป็นหลัก และปัจจัยที่ทำให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นขณะนี้ นอกจากพื้นฐานเศรษฐกิจที่ดีแล้ว ยังขึ้นอยู่กับการไหลเข้าออกของเงินทุนด้วยเป็นปัจจัยที่ผสมกัน ไม่สามารถแยกได้ว่าค่าเงินแข็งเพราะเหตุใดเหตุหนึ่ง.
|
|
Tags: |
|
![]() |
|
|
"กรุงไทย" ชี้ลดค่าธรรมเนียมข้ามเขตได้ http://www.thairath.co.th/content/eco/112481
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยถึงการหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เรื่องโครงสร้างค่าธรรมเนียมว่า แม้ต้นทุนการโอนข้ามเขตจะปรับลงแล้ว แต่เป็นการลดต้นทุนบางประเภท เช่น ค่าโทรศัพท์หรือคู่สาย แต่หากพิจารณาอย่างละเอียดจะพบว่ามีเงินลงทุนด้านอื่นอยู่ด้วย โดยเฉพาะการลงทุนด้านเครือข่ายสาขาและเครื่องเอทีเอ็ม ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกลที่ควรจะต้องนำต้นทุนส่วนนี้กลับมาพิจารณา เพราะการลดค่าธรรมเนียมการโอนข้ามเขตอาจทำได้จริง แต่หากทำให้การให้บริการเครือข่ายสาขาต้องลดไปด้วยจะเกิดปัญหาตามมา ซึ่งการลงทุนเครือข่ายสาขาในพื้นที่ห่างไกลเป็นจุดสำคัญกับการพัฒนาประเทศ ช่วยสร้างความเจริญให้พื้นที่ห่างไกล เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงบริการทางการเงิน แต่การทำให้ค่าธรรมเนียมบริการลดลงจนอยู่ในระดับที่ธนาคารพาณิชย์ไม่สามารถอยู่ได้ การลงทุนในพื้นที่ห่างไกลซึ่งต้นทุนสูงก็จะหายไป ซึ่งจะกระทบต่อประชาชน
"เห็นด้วยว่าต้องลด แต่ต้องรอบคอบเพื่อให้ได้ ราคาที่ไม่ทำลายทุกๆเป้าหมาย เพราะการลดค่า ธรรมเนียมการโอนข้ามเขตลดลงได้จริง คนต่างจังหวัดโอนเงินได้ถูกลง แต่ในพื้นที่ห่างไกลที่ไม่มีสาขาก็ต้องนั่งรถจากที่อยู่ไกลเพื่อเข้ามากดเงินในเมืองก็กลายเป็นต้นทุนที่แพงกว่า".
ไทยรัฐออนไลน์ โดย ทีมข่าวเศรษฐกิจ 20 กันยายน 2553, 06:00 น.
********************************************** ทีแบงค์เอาเปรียบ กำไรเกินควรหลายต่อหลายอย่าง ทำไมไม่นำเอามาแจ้งให้ทราบรายละเอียดบ้างล่ะว่า ที่แท้แบงค์ขูดรีดเอาเปรียบมากกว่าที่ควรเท่าไร
|
|
Tags: |
|
![]() |
|
|
|
ธปท.รับจับตาค่าเงินบาทใกล้ชิด http://news.sanook.com/968211
นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท. อยู่ระหว่างติดตามสถานการณ์ความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทอย่างใกล้ชิด โดยเน้นสกัดเงินทุนที่จะไหลเข้าจากต่างประเทศอย่างใกล้ชิด โดย เฉพาะในตลาดตราสารหนี้ ซึ่งกำลังตรวจสอบและติดตามสถานการณ์เงินไหลเข้า โดยขณะนี้ยังเน้น 5 มาตรการหลัก ที่สนับสนุนให้เงินทุนไหลออกนอกประเทศมากขึ้น เพื่อเป็นการผ่อนคลายสถานการณ์ โดยช่วยให้บุคคล และ บริษัทที่ต้องการไปลงทุนหรือซื้อกิจการในต่างประเทศมีความสะดวกมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ธปท. ยังมองไม่เห็นการเก็งกำไรค่าเงินชัดเจน เนื่องจากมีความอ่อนไหวและการเปลี่ยนแปลงขึ้นลงเร็วของการไหลเข้าและไหลออก มาก *************************************** จงเลิกคาดหวังว่าแบงค์ชาติจะมีความจริงใจในการแก้ปัญหาอย่างแท้จริง ขนาดผมไปเสนอความผิดที่เห็นชัดของแบงค์กสิกรไทยและแบงค์ต่าง ๆ เขายังไม่ใส่ใจเหลียวแลอย่างที่ควรจะเป็นเลย ทำยังกับว่าแบงค์ชาติมีหน้าที่รับใช้แบงค์พาณิชย์ให้เห็นตำตาตำใจเสียอีก
|
|
Tags: |
|
![]() |
|
|