jhik
|
เดี๋ยวรู้ ดูไปก่อน ดูกันว่า ใครจะใส้แห้ง ดูกันว่า ใครได้ทำงาน ใคร ตกงาน
|
|
|
|
![]() |
|
|
ไม่น่าเลย
|
อ้าว ลอกมาหรอกหรือ? ทำไมใช้วิธีหลอกลวงเหมือนปูล่ะ
|
|
|
|
![]() |
|
fgfh4546
|
แจ้งลบกระทู้นี้ตั้งชื่อเรื่องไม่ใช่ข้อเท็จจริง
|
|
|
|
![]() |
|
|
|
นิรนาม
|
มาเลเซีย..เป็นประเทศ สหพันธรัฐ ประกอบด้วยรัฐต่างๆ 13 รัฐ การปกครองแต่ละท้องถิ่นจึงต่างกัน ลักษณะการจ้างงานก็แตกต่างกันไปตามท้องถิ่น ยกตัวอย่างใกล้บ้านเรา รัฐกลันตัน ลักษณะการจ้างงานจะคล้ายๆกับบ้านเราสมัยโบราณ ลูกจ้างกับนายจ้างอยู่กันแบบครอบครัวใหญ่ๆ นายจ้างเลี้ยงดู กินอยู่เสร็จ ส่วนเงินเดือนก็แบบคนใช้บ้านเรา เดือนละ 3-4 ร้อยริงกิต ปีหนึ่งก็ 4-5 หมื่นบาทไทย ขนเงินกลับบ้านมาให้พ่อแม่ลูกเมีย สรุปว่า ทางมาเลเซีย เงินค่าจ้างขั้นต่ำรวมสวัสดิการต่างๆแล้ว สูงกว่าทางฝั่งไทยมาก ผู้คนจึงหลั่งไหลไปทำงาน ปลูกผัก ทำฟาร์มเลี้ยงไก่ เลื้ยงหมู เป็นลูกจ้างร้านอาหาร ที่มาเลเซีย เถียงกันให้ตายก็ถูกทั้งคู่ แล้วจะเถียงกันทำไม
|
|
|
|
![]() |
|
|
มาเลเซีย..เป็นประเทศ สหพันธรัฐ ประกอบด้วยรัฐต่างๆ 13 รัฐ การปกครองแต่ละท้องถิ่นจึงต่างกัน ลักษณะการจ้าง งานก็แตกต่างกันไปตามท้องถิ่น ยกตัวอย่างใกล้บ้านเรา รัฐกลันตัน ลักษณะการจ้างงานจะคล้ายๆกับบ้านเราสมัยโบราณ ลูกจ้างกับนายจ้างอยู่กันแบบครอบครัวใหญ่ๆ นายจ้างเลี้ยงดู กินอยู่เสร็จ ส่วนเงินเดือนก็แบบคนใช้บ้านเรา เดือนละ 3-4 ร้อยริงกิต ปีหนึ่งก็ 4-5 หมื่นบาทไทย ขนเงินกลับบ้านมาให้พ่อ แม่ลูกเมีย สรุปว่า ทางมาเลเซีย เงินค่าจ้างขั้นต่ำรวมสวัสดิการต่างๆแล้ว สูงกว่าทางฝั่งไทยมาก ผู้คนจึงหลั่งไหลไปทำงาน ปลูกผัก ทำฟาร์มเลี้ยงไก่ เลื้ยงหมู เป็นลูกจ้างร้านอาหาร ที่มาเลเซีย เถียงกันให้ตายก็ถูกทั้งคู่ แล้วจะเถียงกันทำไม ผิดแล้วครับ มั่วแล้วนะฮะ ที่คุณบอกว่าค่าจ้างเดือนละ3-4ร้อยริงกิต มันแค่ 3000-4000บาทต่อเดือนเท่านั้น เพราะ1ริงกิตเท่ากับ10บาท แล้วจะบอกว่าค่าแรงขั้นต่ำมาเลย์สูงกว่าไทยได้ยังไงครับ
|
|
|
|
![]() |
|
chutsu
|
ผมว่าไม่ต้องเถียงกันหรอกครับ
ในช่วงที่อะไรๆยังไม่แน่นอน 300 บาท ได้ไม่ได้ก็ยังไม่รู้
เราก็ควรใช้จ่ายอย่างประหยัดครับ ก็จะเปลี่ยนแปลงอะไรสักอย่างมันต้อง
อุปสรรคอย่างใหญ่หลวงอยู่แล้ว พอเพียงกันไว้ดีกว่าครับ
(ขอฝากไว้นิด การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 300 บาท กระทบถึง sme แน่นอน
ครับ เพราะ sme ก็เหมือนกับคนรวยคนจนครับ คนรวยย่อมมีน้อยกว่าคนจน
คนมีฐานะปานกลางจะมีเยอะหน่อย นั่นคือ sme ที่ปัจจุบันมีรายได้พอเลี้ยงตัวได้มีเยอะ
ลองคิดว่าท่านเป็นเถ้าแก่ โรงงานเย็บเสื้อละกัน มีลูกน้องสัก 7-8 คน
ถ้าบังคับขึ้นค่าแรงกระทันหัน ท่านๆจะทำยังไง ปัจจุบันลูกน้องค่าแรงวันละ 200 เพิ่มเป็น 300 บาทต่อวัน
เท่ากับเพิ่มค่าแรง 800 บาทต่อวัน คิดเป็น 24,000 บาท ต่อเดือน
ปัจจุบันได้กำไร พอเลี้ยงตัวได้ 30,000 บาทต่อเดือน (หักค่าใช้จ่ายแล้ว) พอค่าแรงขึ้นปั๊ป เหลือ 6,000 บาท แล้วจะผ่อนรถที่เอาไว้ส่งของยังไงดี วิธีแก้ไขมันก็พอจะมี แต่ยากมากครับ
สรุปก็คือ ต้องขึ้นราคาสินค้า หรือไม่ก็ลดจำนวนลูกจ้างลง ลูกจ้างที่เหลือผมต้องบี้ขึ้แตกแน่ๆ สุดท้ายอาจจะจบเจ๊ง แล้วก็ไปเป็นลูกจ้าง ลูกจ้างที่จ้างไว้ก็ตกงานไปพร้อมกับเถ้าแก่
ที่เขียนมาไม่ได้ตำหนิฝ่ายไหน แต่อยากเตือนว่าไม่ได้มี sme ทุกที่ที่อาจจะแก้ปัญหานี้ได้โดยไม่ขึ้นราคาสินค้า เพราะฉะนั้น ของต้องขึ้นราคาแน่นอน ถึงจะลดภาษีเงินได้ปลายปี แต่คงไม่ทันเพราะจะเจ๊งก่อนได้จ่ายภาษี
เก็บเงินไว้ ใครทำกับข้าวกินเองก็ซื้อข้าวตุนไว้หน่อยครับ เราอาจต้องเผชิญวิกฤตสักพัก กว่าอะไรๆจะปรับตัวได้
|
|
|
|
![]() |
|
|
|
|
|
|
|
|
มาเลเซีย..เป็นประเทศ สหพันธรัฐ ประกอบด้วยรัฐต่างๆ 13 รัฐ การปกครองแต่ละท้องถิ่นจึงต่างกัน ลักษณะการจ้าง งานก็แตกต่างกันไปตามท้องถิ่น ยกตัวอย่างใกล้บ้านเรา รัฐกลันตัน ลักษณะการจ้างงานจะคล้ายๆกับบ้านเราสมัยโบราณ ลูกจ้างกับนายจ้างอยู่กันแบบครอบครัวใหญ่ๆ นายจ้างเลี้ยงดู กินอยู่เสร็จ ส่วนเงินเดือนก็แบบคนใช้บ้านเรา เดือนละ 3-4 ร้อยริงกิต ปีหนึ่งก็ 4-5 หมื่นบาทไทย ขนเงินกลับบ้านมาให้พ่อ แม่ลูกเมีย สรุปว่า ทางมาเลเซีย เงินค่าจ้างขั้นต่ำรวมสวัสดิการต่างๆแล้ว สูงกว่าทางฝั่งไทยมาก ผู้คนจึงหลั่งไหลไปทำงาน ปลูกผัก ทำฟาร์มเลี้ยงไก่ เลื้ยงหมู เป็นลูกจ้างร้านอาหาร ที่มาเลเซีย เถียงกันให้ตายก็ถูกทั้งคู่ แล้วจะเถียงกันทำไม เงินริงกิตไม่ได้แพงขนาดนั้นนี่ ถ้า ได้ 3-4 หมื่นบาท คนไทยคงไม่ต้องถ่อไปทำงาน แถวยุโรป ตะวันออกกลาง แอฟริกาตะวันออกหรอก ถ้าใกล้ๆก็มี เดินทางก็ไม่ไกล
|
|
|
|
![]() |
|
sd
|
การที่จะให้ค่าแรงขั้นต่ำ วันละ ๓๐๐ บาท หมายความว่า เป็นแรง งานไร้ฝีมือ ได้คนละ ๓๐๐ บาทต่อวัน ที่มีฝีมือ ก็จะได้มากกว่านี้ หากทำได้ สินค้าก็จะแพงกว่านี้ มากนักหนา อย่างน้อยๆ ค่าข้าวราอแกงอย่างเดียว น่าจะ ราคาจานละ ๔๐ บาท สารพัดสินค้า ก็จะขึ้นกันไม่น้อยกว่า ๕๐% แล้วไม่ตรงข้ามกับนโยบาย ลดราคาสินค้า หรือ????? ตอนนี้ข้าวราดแกงมันก็อยู่ที่ 35 40 อยู่แล้ว ของทุกอย่างมันก็ขึ้นไปหมดแล้ว โดยเฉพาะน้ำมันพืช แต่ค่าแรงยังเท่าเดิม มันไม่เป็นการเอาเปรียบพวกลูกจ้างไปหน่อยรึ ค่าแรง 300 ทำไมจะทำไม่ได้ แค่ลดภาษีน้ำมันลงลิตรละ 5 บาท จากเดิมเคยเก็บภาษีลิตรละ 10 บาท โดยรัฐบาลมาร์ค ค่าใช้จ่ายที่เป็นต้นทุนในการผลิตก็จะลดลง เอาส่วนที่ลดนี้ไปเพิ่มเป็นค่าแรงให้คนงาน มันก็ไม่น่าจะเป็นปัญหานะ
|
|
|
|
![]() |
|
นะฮะ
|
|
|
|
|
![]() |
|
สายลมแห่งกาลเวลา
|
การที่จะให้ค่าแรงขั้นต่ำ วันละ ๓๐๐ บาท หมายความว่า เป็นแรง งานไร้ฝีมือ ได้คนละ ๓๐๐ บาทต่อวัน ที่มีฝีมือ ก็จะได้มากกว่านี้ หากทำได้ สินค้าก็จะแพงกว่านี้ มากนักหนา อย่างน้อยๆ ค่าข้าวราอแกงอย่างเดียว น่าจะ ราคาจานละ ๔๐ บาท สารพัดสินค้า ก็จะขึ้นกันไม่น้อยกว่า ๕๐% แล้วไม่ตรงข้ามกับนโยบาย ลดราคาสินค้า หรือ????? ขึ้นค่าแรงพร้อมกับควบคุมราคาสินค้าควบคุมสิคับ ถ้าขึ้นแบบนั้นเค้าเรียกว่าขึ้นแบบโง่ๆ..เหมือนขึ้นเงินเดือนข้าราชการ...ยังไม่ทันขึ้นสินค้าก็ขึ้นไปรอแล้ววว...แต่ราคาของไม่ได้ขึ้นเฉพาะขายให้ข้าราชการที่ใหน...คนแรงงานก็ต้องกินใช้ราคาเดียวกัน....ประเสริฐ..แต่ถ้าขึ้นให้ข้าราชการนะมีแต่เสียงเฮไม่มีเสียงค้าน..อะไรกันนักหนา ค่าแรงวันละสามร้อยมันไม่ทำให้ไครจนลงเท่าหร่ายหรอกไม่ทำให้แรงงานรวยด้วยแต่ให้พอหายใจหายคอได้กินอิ่มบ้าง..
|
|
|
|
![]() |
|
supersuss
|
ขึ้นค่าแรงพร้อมกับควบคุมราคาสินค้าควบคุมสิคับ ถ้าขึ้นแบบนั้นเค้าเรียกว่าขึ้นแบบโง่ๆ..เหมือนขึ้นเงินเดือนข้าราชการ...ยังไม่ทันขึ้นสินค้าก็ขึ้นไปรอแล้ววว...แต่ราคาของไม่ได้ขึ้นเฉพาะขายให้ข้าราชการที่ใหน...คนแรงงานก็ต้องกินใช้ราคาเดียวกัน....ประเสริฐ..แต่ถ้าขึ้นให้ข้าราชการนะมีแต่เสียงเฮไม่มีเสียงค้าน..อะไรกันนักหนา ค่าแรงวันละสามร้อยมันไม่ทำให้ไครจนลงเท่าหร่ายหรอกไม่ทำให้แรงงานรวยด้วยแต่ให้พอหายใจหายคอได้กินอิ่มบ้าง..
|
|
|
|
![]() |
|
ฝ่ายบุคคล
|
เงินเดือนพนักงานในบริษัท 100 คน ผู้บริหาร 5 คนเฉลี่ยเงินเดือน 100,000 บาทใช้งบ 500,000บาท/เดือน หัวหน้างาน 10 คนเฉลี่ยเงินเดือน 50,000บาทใช้งบ 500,000บาท แรงงานฝีมือ 25 คนเฉลี่ยเงินเดือน 25,000บาทใช้งบ 625,000บาท ผู้ใช้แรงงาน 60 คนเฉลี่ยเงินเดือน 60,000 บาทใช้งบ 360,000บาท รวมงบเงินเดือน เดือนละ 1,985,000 บาท ถ้าขึ้นค่าแรง ผู้ใช้แรงงานขึ้นคนละ 100 บาท ใช้เงินเพิ่มเดือนละ 60,000 บาท แรงงานฝีมือขึ้นคนละ 3000 บาทใช้เงินเพิ่มเดือนละ 75,000 บาท หัวหน้างานขึ้นคนละ 3000 บาทใช้เงินเพิ่มเดือนละ 30,000 บาท ผู้บริหาร ไม่ขึ้น เพราะมากอยู่แล้ว รวมต้องใช้งบประมาณในการขึ้นเงินเดือนพนักงาน 165,000บาท คิดเป็น 8.3%
ถือว่าการปรับขึ้นเงินเดือนของพนักงานนั้น เล็กน้อยมาก บริษัทไม่ถึงกับขาดทุนแน่นอน บริษัทขนาด 100คน ทำงาน มักมีกำไรต่อเดือนเป็นหลัก 10 ล้านบาทขึ้นไป ตัดเอากำไรออกเดือนละ แสนกว่าบาท เพื่อให้คนพออยู่ได้ไม่น่าจะหนักหนา ดูแล้วเงิน แสนกว่าบาท น้อยมากเมื่อเทียบกำไรของบริษัท หรือถ้าเทียบกับงบการจัดเลี้ยงของผู้บริหาร หรือเจ้าของบริษัทต่อเดือน แล้วก็พอๆกัน กรูณาแบ่งค่าจัดเลี้ยงอาหารของท่าน ปันมาให้พนักงานระดับล่างมีชีวิตความเป็นอยู่ที่พอจะแบ่งอาหารเลี้ยงดูพ่อแม่และลูกของเค้าได้บ้างเถอะอย่าทำเป็นเดือดร้อนนักเลย
|
|
|
|
![]() |
|
|
|
ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 300 บาทต่อวัน ผลที่ได้คือ ต้นทุนสินค้าและบริการเพิ่ม หากว่าผู้ประกอบการขอเพิ่มราคาสินค้าขึ้นบ้างละ ทุกวันนี้ค่าครองชีพของคนไทยสูงเป็นอันดับ 2 รองจากสิงค์โปร์ มากกว่ามาเลเซียที่มีค่าแรงขั้นต่ำสูงกว่าเรา สุดท้ายค่าครองชีพของคนไทยก็เพิ่มขึ้นอีก ไม่ให้ขึ้นราคา ก็ต้องลดต้นทุน ปลดคนงานออกบ้าง หรือไม่ก็ปิดกิจการ เอ้า แล้วไงต่อดีละ นี่เป็นเฉพาะปัญหาภายในประเทศที่จะเกิดขึ้นอย่างชัดเจน
ลองมาดูด้านนักลงทุนต่างชาติบ้าง ไทยเสถียรภาพทางการเมืองก็ไม่มี รัฐบาลปัจจุบันไม่รู้ว่าใครเป็นนายก หรือว่าหัวหน้านายก แค่นี้นักลงทุนก็หนาวแล้วครับ แต่ถ้ามองกันยาวๆ เมื่อค่าแรงปรับขึ้นเป็น 300 บาทต่อวันซึ่งเป็นการปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง จาก 200 ร้อยต้นๆ ภายในระยะเวลา 2 ปีมานี้ ลองดูแนวโน้มแล้ว ค่าแรงที่เวียดนามถูกกว่า ตอนนี้มีการตั้งโรงงานใหม่ที่เวียดนามเยอะมาก โดยบางส่วนย้ายฐานการผลิตจากไทยไป และเริ่มถ่ายโอนงานจากไทยไปเวียดนาม โดยให้พนักงานจากไทยไปสอนงานให้ ฟังแบบนี้ เจ้าของกระทู้คิดว่าไงละ สุดท้ายต้องยอมรับว่านักลงทุนต่างชาติคงจะย้ายฐานการผลิตจากไทยไปประเทศอื่นๆที่มีต้นทุนต่ำกว่า และไม่ใช่ใครหรอกที่เดือดร้อน ชนชั้นแรงงานทั้งสิ้น ปัญหาเลิกจ้าง ปัญหาการว่างงาน ปัญหาอาชญากรรม
ประโยชน์อย่างเดียวที่ได้จากการขึ้นค่าแรงเป็น 300 บาท คือ ผลทางด้านจิตใจ ตัวเลขดูเยอะขึ้น แต่สุดท้ายเมื่อหักจากค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้น ก็เหมือนเดิมหรือว่าอาจจะขาดทุนเสียด้วย
ถ้าทุกท่านยอมรับปัญหาที่จะเกิดขึ้นมาได้ ก็เรื่องของบรรดาชนชั้นแรงงานอย่างท่าน ทำไมไม่ลงไปแก้ปัญหาค่าครองชีพก่อนก็ไม่รู้เหนื่อยใจ
|
|
|
|
![]() |
|
ลุงแอม
|
ทุกคนพูดแต่ค่าแรงขั้นต่ำ ไม่เห็นมีใครพูดถึงโครงสร้างเงินเดือน ปวส. เงินเดือนกีบาท ทุกอย่างต้องปรับทั้งระบบ ไม่ใช่แค่ค่าแรงขั้นต่ำอย่างเดียว ที่ดีควรกำหนดค่าแรงครั้งแรกที่ทำเริ่มทำงาน ไม่ใช่ค่าแรงขั้นต่ำ เมื่อเขาทำงานครบปี ก็มีการปรับค่าจ้างประจำปี ควรออกกฎหมายว่าด้วยการปรับค่าชำนาญงานให้ทุกปี ไปเลยจะได้ไม่ต้องมาเถียงกัน เช่น เริ่มทำงานครั้งแรกสำหรับ คนที่ จบ ม. 6 ก็รับไปเลย 250 บาท เมื่อทำงานครบ 1 ปี ก้เพิ่มค่าชำนาณงาน อีกวันละ 10 บาท ถ้าทำงานที่เดิมอีกไม่มีการเปลียนบริษัทงาน ก็เพิ่ม อีกวันละ 12 บาท และเพิ่มขึ้นเรือยๆ ถ้าบริษัทที่สามารถปรับขึ้นค่าจ้างประจำปีได้มากกว่า 10 % และมี ot ประมาณ 20-40 % ก็น่าแยกกลุ่มออกมาดูแลต่างหาก ส่วนบริษัทที่ชอบรอกฎหมายบังคับก่อนแล้วค่อยขึ้นค่าแรงก็ต้องเข้าไปดูแลว่าทำไม่ไม่ขึ้นค่าจ้าง มีวิธีการช่วยเหลือลูกจ้างอย่างไร และนายจ้างอย่างไร ไม่ให้กระทบหนักถึงขั้นปิดกิจการ หรือย้ายฐานการผลิต สำคัญบริษัทจำนวนมากไม่ใช่ของคนไทย เขาจะย้ายไปไหนเราคงห้ามเขาไม่ได้ ค่าแรงแพง ค่าข้าวของแบบญี่ปุ่น ข้าวจาน 200 กว่าบาทเมื่อ 15 ปีที่แล้วมา ประเทศเขายังไม่ยอมซื้อข้าวไทยไปให้ชาวบ้านเขากินเลย ทำไมคนญี่ปุ่นถึงฆ่าตัวตายมากปีละ 30000 คน เพราะเงินไม่พอใช้ แต่ไทยน่าเป็นห่วงมากกว่ามีข้าว เก็บให้เสื่อมสภาพ ในโกดัง แต่คนไทย กลับต้องกินของแพง และค่าแรงถูก คนไทยปัจจุบันสอนลูกหลานแตกต่างจากคนอดีตเป็นห่วงลูกจะลำบากให้ลูกสบาย ทั้งที่เขายังไม่เข้าใจชีวิตจริง มีหลายคนพ่อแม่ฝากมา บอกว่าสู้ได้ ทำนามาเยอะแล้ว แต่พอเอาเข้าจริง ไม่เอาสักอย่าง แต่คน ในอดีตที่บอกว่า ลูกๆ อดทน งานหนักก้เอา งานเบาก็สู้ รู้จักประมาณตน จะไม่เดือดร้อน สังเกตุได้ทุกคน มากรุงเทพใหม่ๆถ้ายังไม่มีแฟน จะอยู่รวมกันหลายคนได้ ช่วยประหยัดค่าห้องและมีเงินส่งพ่อแม่ แต่สมัยนี้ จบมาพร้อมมีเมีย พอมาทำงานที่กรุงเทพ รับภาระเต็มๆ ไม่มีเงินส่งพ่อ แม่ จริงไหมครับ สังคมเปลียน อะไรก้เปลียนไปหมด คนอื่นมีรถ เราก็อยากมีทั้งที่รายได้ยังไม่พร้อม บางคนก็แก้ปัญหาลุล่วงไป แต่บางตนหนี้เป็นดินพอกหางหมู่ ต้องทิ้งงานดีๆไปเพราะไม่รู้จักประมาณตน อยากเกทับตนอื่นว่าฉันก็ซื้อรถใหญ่ได้ ก็มี ( ตัวเลขค่าแรงในวรรแรก เป๋นการสมมุติเท่านั้น )
|
|
|
|
![]() |
|
|
chamaiporn
|
|
|
|
|
![]() |
|
chamaiporn
|
|
|
|
|
![]() |
|
ขอร่วมวงด้วยคน
|
ผมว่าค่าแรงขั้นต่ำ 300 ถ้าขึ้นจริง ๆ ก็คงจะกระทบกับบริษัทกลาง - ใหญ่ ที่ทำทุกอย่างถูกต้อง(รวมถึงเสียภาษี เกือบจะ ถูกต้อง) แน่นอนว่าก็ต้องได้รับการลดภาษีชดเชยไปบ้าง
แต่สำหรับธุรกิจเล็ก ๆ ที่หลบภาษีกันเป็นเรื่องปกติ (เพราะกำไรก็แทบไม่พอยาไส้ ซื้อของก็แพงกว่าเจ้าใหญ่ แต่ดันต้องมาขายถูกกว่าเจ้าใหญ่ ๆ อีก) คิดว่าถึงประกาศไปเขาก็คงไม่ขึ้นให้ ส่วนคนงานตนจะลาออกไปอยู่กับบริษัทใหญ่ที่ให้ 300 เต็มก็ต้องทำใจ เพราะทุกวันนี้มีสักกี่ร้านกัน ที่จ้างคนงานเท่ากับค่าแรงขั้นต่ำ ประกาศค่าแรงขึ้นต่ำขึ้นทีไร อีกตั้งหลายเดือนกว่าร้านเล็ก ๆ จะปรับขึ้นตาม ดังนั้นร้านเล็ก ๆ ก็ไม่ต้องกลัวกันหรอก แล้วเหตุผลที่พนง.มาทำงานร้านเล็ก ๆ ก็ต้องมีอยู่ คนดี ๆ ขยัน ๆ ก็อาจเลือกขึ้นให้บางคนก็พอ
อีกอย่าง ค่าแรงมาเลเซียที่เถียงกันอยู่ สมมุติ 700 * 10 เข้าใจว่าเจ้าของสูตรคงจะหารด้วย 22 วัน ก็เลยได้ 318 บาท เพราะไม่เห็นมีใครพิจารณาเลยว่ามาเลย์นับทำงาน 5 หรือ 6 วัน/สัปดาห์ ถ้าถือเป็นประเทศที่เจริญแล้ว ก็มักจะทำ 5 วัน/สัปดาห์ (ขนาดออฟฟิศกรุงเทพฯ บริษัทใหญ่ ๆ ยังหยุดเสาร์-อาทิตย์เลย)
ถ้าปกติมาเลย์มีวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ค่าแรงมาเลย์ 318 บาทก็ไม่น่าจะผิด แต่ที่ผิดคือค่าแรงงานคนไทยปัจจุบันถ้าคิดตามสูตรเดียวกันกับเงินเดือนออฟฟิศเมืองไทยที่ 9,000 มันก็ 409 บาทอยู่แล้วจะขึ้นก็คงไม่ได้แล้ว ดังนั้นเท่ากับว่ารัฐบาลใหม่มา ก็คงไม่ได้ช่วยค่าแรงพวกออฟฟิศในกรุงเทพฯ เท่าไหร่ น่าจะพุ่งไปที่ค่าแรงต่างจังหวัดซึ่งได้น้อยอยู่้แล้วมากกว่า
อีกอย่างหนึ่ง ตอนทักษิณบอกว่าจะทำให้จราจรกรุงเทพฯ หารถติด เอาเข้าจริงก็ทำไม่ได้ตามที่พูด แต่ถ้าถามว่าแล้วผลงานดีกว่าทุกรัฐบาลหรือไม่ ก็ต้องยอมรับว่าทำได้ดีกว่าทุกรัฐบาล เหมือน 30 บาทรักษาทุกโรค หรือปราบยาบ้า ถามว่าผลงานดีไหม ก็ตอบตรง ๆ ว่า ไม่น่าพอใจเท่าไหร่ แต่ถ้าถามว่าถ้าเทียบกับรัฐบาลอื่น ๆ ล่ะ ก็ต้องบอกอีกว่าดีกว่ารัฐบาลอื่น ๆ เยอะเลย
ดังนั้น ถึงจะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 300 ไม่ได้จริงในทางปฎิบัติ(อาจบังคับแต่เจ้าของก็คงไม่ขึ้นให้อยู่ดี จะลาออกไปหมดก็คงจนปัญญา จะไปอยู่ไหนอ่ะ บริษัทใหญ่จะอ้าแขนรับทุกคนหรือ?) แต่อย่างน้อยก็น่าจะมีอะไรดี ๆ กว่าเดิม ๆ ที่เป็นอยู่ ดีกว่ารัฐบาลที่เอาแต่พูดดี โกงดี และโบ้ยดี
|
|
|
|
![]() |
|
|
แล้ว 1 ริงกิต มันเป็นกี่บาทไทย คุณนะฮะ ไปแหกตาดูก่อนนะฮะ ว่า 3-4000 ริงกิต มันถึง 4-50000 ไหม อย่าใช้ขี้เลื่อยในหัวตอบนะ ไปดูอัตราเงินก่อนนะฮะ
|
|
|
|
![]() |
|
|
แล้ว 1 ริงกิต มันเป็นกี่บาทไทย คุณนะฮะ ไปแหกตาดูก่อนนะฮะ ว่า 3-4000 ริงกิต มันถึง 4-50000 ไหม อย่าใช้ขี้เลื่อยในหัวตอบนะ ไปดูอัตราเงินก่อนนะฮะ
อ้อ โทษที พิมพ์ 0 เกินไปตัว ต้อง 3-400 ริงกิต ประทานโทษ
|
|
|
|
![]() |
|
ทะเลาะกันทำไม
|
รัฐบาลใหม่เค้าต้องจัดการเรื่องต้นทุนสินค้าอยู่แล้ว สิ่งที่เค้าจะทำคือทำให้ค่าครองชีพต่ำลงและค่าแรงสูงขึ้น ชึ่งนี่เป็นสิ่งที่เรียกว่า "คุณภาพชีวิต" ที่ประเทศที่เจริญแล้วเค้าเป็นกันทั้งนั้น แล้วพวกคุณไม่คิดว่าประเทศไทยจะกลายเป็นอารยะประเทศบ้างไม่ได้หรืออย่างไร ถ้าค่าแรงขึ้นจริงไม่มีใครย้ายฐานการผลิต และ ไม่มีใครเจ๊งด้วย เพราะว่าทุกคนต้องทำทุกวิถีทางให้ตัวเองรอดอยู่แล้ว ที่ค้านๆกันก็เพราะไม่อยากจ่ายเงินเพิ่มเท่านั้น หรือไม่ก็เป็นบุคคลจำพวกไม่ชอบเค้า อะไรที่เค้าทำผิดไปหมด ถ้าเค้าทำไม่ได้หรือว่าทำแล้วผิดพลาดก็ค่อยเป็นคนเลวที่ชอบช้ำเติมคนอื่นก็ได้ ก็ยังน่ารังเกียจน้อยกว่า แชร์ข้อมูลแชร์ความคิด ดีกว่ามาใช้อารมย์เอาชนะคะคานกัน เปล่าประโยชน์ คุณภาพความคิดเป็นสิ่งบ่งบอกถึงคุณภาพประชากร คุณภาพประชากรเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงคุณภาพของประเทศ ถ้าไม่ช่วยทำให้ประเทศชาติเจริญขึ้นก็อย่าทำให้ประเทศชาติแย่ลงเพราะคุณภาพของพวกคุณ..
|
|
|
|
![]() |
|
นะฮะ
|
|
|
|
|
![]() |
|
|
งั้นของคนไทย ขั้นต่ำเอาซัก 215 ต่อวัน 215x30 = 6450 แล้วเอา 6450x12=77400 อันนี้ไม่หักประกันสังคมกับค่ารถ คุณว่ายังไง เอาตามที่คุณคิดเองนะ ไม่ต้องอ้างของคนอื่น แล้วผมขอถามต่อว่า สวัสดิการที่คุณว่า มีทุกคนหรือเปล่า หรือเฉพาะแรง งานต่างด้าวของเขา เอาข้อมูลมาด้วยนะครับ
|
|
|
|
![]() |
|
นะฮะ
|
|
|
|
|
![]() |
|
sssss
|
|
|
|
|
![]() |
|
คนชอบอ่าน
|
คุณปูพูดเสมอตอนหาเสียงว่า .. การขึ้นค่าแรงนั้นจะทำควบคู่ไปกับการควบคุมไม่ให้มีการค้าผูกขาด (เพราะปัจจุบัน มีกลุ่มทุนผูกขาดแค่เจ้าเดียวในประเทศคือ กลุ่มซีพี) (ซีพี ผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่นามสกุล เวชชาชีวะ ) และจะทำควบคู่ไปกับการลดภาษีสำหรับผู้ประกอบการ..ซึ่งทั้งหมดนี้ สามารถยืดหยุ่นได้ตามความเหมาะสม .. ค่าแรง 300 ไม่ใช่จะทำไม่ได้ หากเราเทียบย้อนหลังไป ห้าปี ค่าแรงขึ้นมาแค่ 10.2% แต่ค่าอาหารหมู ปลา ไก่ เนื้อ เพิ่มสูงถึง 80% (คงไม่ต้องบอกว่าใครคือเจ้าของปัจจัยการผลิต) .. การที่ทางรัฐบาลเพื่อไทย ออกโครงการมาเค้าต้องมีการศึกษาแล้วว่าสามารถทำได้ อยากให้ลองให้โอกาสเค้าทำงานก่อนนะคะ ส่วนคุณๆที่คิดว่า คนไทยไม่สามารถได้ 300 บาทเราขอถามว่า คุณไม่คิดว่าชีวิตคุณสามารถมีความเป็นอยู่ที่ดีกว่านี้เลยเหรอ ... เรื่องค่าอาหารนั้น เราขอบอกว่า ที่ไต้หวันค่าแรงวันละพันบาท(ต่างด้าว) ก๊วยเตี๋ยวชามละ 40 -60 บาท ค่ะ ฉะนั้น ไทยเราไม่น่าจะราคาอาหารสูงไปกว่านี้(มาร์คอนุญาติให้ขึ้นราคาเป็น 40 บาท) เพราะรัฐมีมาตรการป้องกันการผูกขาดสินค้า ... ลองๆดูไปก่อนดีมะคะ
ผมว่าคุณมั่วครับ...พยายามหาความจริงมาพูดกันดีกว่า มันตรวจสอบกันได้นะ
|
|
|
|
![]() |
|
|
จริงๆ แล้ว ค่าครองชีพ vs ราคาสินค้าอุปโภคบิรโภค เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ที่ต้องคำนึง ไม่ใช่ค่าแรงขั้นต่ำ ถ้ามาบอกว่าเราถูกกว่่าประเทศนั้นประเทศนี้ ไปดูที่ wikipedia แล้ว ไปที่ List of minimum wages by country ซิ เราไม่ได้น้อยกว่าหลายๆ ประเทศที่ได้โพสท์ไว้ ตอนนี้หากค่าแรงขึ้น ไม่มีใครมาทำธุรกิจ เกิดว่างงาน จะทำยังไง ทำไมไม่คิดเช่นควบคุมราคาสินค้า หรือ รัฐฯ ต้องชดเชยเป็นคูปองเพื่อให้ชนชั้นกรรมกรอยู่ได้ ไม่ใช่ทำแบบนี้ ก็เจ๊งกันไปหมด เศรษฐกิจก็ล่มหมด ขึ้นค่าแรง ราคาสินค้าก็ขึ้นแล้วไงต่อไป เข้าใจก่อนว่าเขาทำธุรกิจไม่ใช่มูลนิธิ เอาใจเขาใส่ใจเรา แก็ให้ถูกจุด พูดแต่เรื่องนายทุน ตอนนี้ดูเถอะพวกที่จะเข้าไปเป็นรัฐฯ ก็นายทุนทั้งนั้น ดูซิจะให้อะไรประชาชนอย่างเรา ฟรี ๆ บ้าง พูดไปได้ 300บาท เอย 15000บาท เชื่อเขาเลย
|
|
|
|
![]() |
|
นะฮะ
|
|
|
|
|
![]() |
|
ขอโพสต์นีซ...
|
ถ้าค่าแรงคนไทยขึ้นเป็น 300 บาท แต่ไม่มีที่ให้เราทำงานเพราะโรงงานย้ายฐานไปประเทศที่ค่าแรงถูกกว่าแล้วคุณจะเอาเงินที่ไหนใช้กัน ทุกวันนี้ดิฉันได้ค่าแรงตกวันละ 235 บาท ดิฉันยังมีเงินเก็บ และต้องให้แม่ดิฉันเดือนละ 3,000 บาท ดิฉันยังอยู่ได้เลย ถ้ารู้จักประหยัดเราก็อยู่ได้ค่ะ อย่าติดยี่ห้อ อย่าคิดอิจฉาคนที่ซื้อของแพงๆ ใช้แค่นี้เราก็อยู่ได้แล้วค่ะ เสื้อผ้าข้าวของดิฉัน โบ้เบ้ทั้งนั้น
|
|
|
|
![]() |
|
|
ผมว่าผมไม่ได้บิดประเด็นแน่นอน เพราะคุณเอาการบวกลบคูณหารให้ผมดู ผมก็ทำให้คุณดู ผมให้คุณเอาข้อมูลที่แน่นอน คุณก็บอกบางรัฐเขาทำอย่างนี้ ไม่ทราบว่าตรงไหนที่ประเด็นมันบิด ช่วยบอกหน่อย
|
|
|
|
![]() |
|
123
|
สนับสนุน ขึ้นเลยจ้าอยากเห็นผลกระทบของจริงอ่ะ เพราะเท่าที่รู้มา บริษัทต่างชาติหลายรายประชุมกันแล้วว่าจะย้ายไปเวียดนามและลาว แสาหร่ายากเห็นคนไทยได้ลืมตาอ้าปากจริงๆ ขึ้นเลยจะได้รู้กันไปเลยว่าของเค้าดี 
|
|
|
|
![]() |
|
|
บางรัฐที่ว่าจ้างเสมือนญาติ ใช่ในเมืองหลวงอย่างเราไหม หรือประมาณ ตจว บ้านเรา ถ้าเป็นแบบนั้น ก็ไม่ต่างกับ คน ตจว ใช้ชีวิต อยู่ ตจว บางอย่างหาเอาได้ในสวน ในนา ก็สามารถเก็บเงินได้บ้าง จะต่างอะไรกัน
|
|
|
|
![]() |
|
kidsurin
|
ขอคัดค้านค่าแรง 300 คับ และไม่ปัญญาอ่อนด้วย ลองคิดูดีๆอะไรจะตามมาอีกมากมาย ขนาดไข่มาร์คยังว่าแพง เดี๋วเจอไข่ น้องปูโคตรมหาแพง รอดูอีกไม่นานจะยิ้มไม่ออกกัน
|
|
|
|
![]() |
|
|
คนทำงาน
|
ปัจจุบันนี้จ่าย 400 กรรมกรและฝีมือ -500 บาทต่อวันแล้วอยู่แล้ว ต่ำกว่านี้ไม่มีใครทำนี้คือความจริง
|
|
|
|
![]() |
|
|