หน้า: 1 2  ทั้งหมด

ชนิดกระทู้ ผู้เขียน กระทู้: พระเกษม ผิดวินัยหรือไม่  (อ่าน 15765 ครั้ง)
add
เรทกระทู้
« ตอบ #45 เมื่อ: 27 ก.ย. 11, 20:33 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
Send E-mail

แบ่งปันกระทู้นี้ให้เพื่อนคุณอ่านไหมคะ?

ปิดปิด
 

ดูพวกคุณๆคงจะไม่เข้าใจ เรื่อง เขาโค กับ ขนโค ว่ามันต่างกันยังไง พวกคุึณอธิบายคำว่า พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ กันได้หรือไม่ว่าแต่ละคำแปลว่าอะไร ท่านเป็นถึง พระอรหันต์ ไปว่าท่านอย่างนี้ก็มีแต่จะพาพวกคุณไปลงนรกเร็วขึ้น พระพุทธรูปทองเหลืองทั้งหลาย ถามหน่อยหากเปลี่ยนบล็อกหล่อ จากรูปพระ เป็นรูปหมา คุณยังจะกราบไหว้อยู่หรือไม่ พระทองเหลืองไม่ใช่ตัวแทนพระพุทธเจ้านะคู้นนน หากพวกคุณ ยังไม่ได้ศึกษาอย่างแท้จริงจากพระไตรปีฎกแล้วนั้น โปรดกรุณาอย่าคิดพล่อยๆ เพราะพวกคุณอยู่กันได้ไม่เกิน 80 ปีกันแน่นอน แล้วต่อจากนั้นพวกคุณจะไปไหน ท่านไม่ผิดพระวินัยแน่นอน ท่านศึกษามาอย่างดีแล้ว ท่านเป็นถึง ธรรมิกราช(ถ้าพิมพ์ผิดต้องขออภัยด้วยค่ะ)แปลว่า ผู้ดึงศาสนา หากแต่พระที่ สำรวม ปากหวาน แล้วรับเงินรับทอง อย่างนี้ไม่ผิดพระวินัยหรือค่ะ พระดื่มเหล้า ตัดหญ้า ขับรถ นี่หรือค่ะพระ ท่านได้ส่งหนังสือถึง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเรื่องเกี่ยวกับพระนั้นต้องอ่านพระไตรปีฎกแล้วนะค่ะ แล้วก็ออกเป็นรัฐธรรมนูญไว้แล้วด้วย กรุณาอ่านด้วยนะคะ ใครอยากได้ ก็เข้าไปโหลดพระไตรปีฎกมาอ่านนะค่ะ www.samyaek.com จะให้อ่านเรื่องพระห้ามรับเงินทอง

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
sdf
เรทกระทู้
« ตอบ #46 เมื่อ: 27 ก.ย. 11, 20:37 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ธรรมเบื้องต้นยังไม่มีสักอย่าง เปรียบดั่งขี้หมาในผ้าเหลืองที่อวดอ้างเป็นทองคำแท้ๆ... สึกเหอะ..สาธุชนจะได้ไม่บาปเพราะติเตียนพระไปกว่านี้

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #47 เมื่อ: 27 ก.ย. 11, 20:52 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
น่าเวทนา คนที่ตั้งกระทู้นี้และพวกที่เข้ามาวิจารณ์ ในทางเสียๆหายๆจริงๆ นรกจะกินกบาลไม่รู้ตัว มีความรู้ในทางพุทธศาสนาแค่หางอื่ง ก็เที่ยวมาวิจารย์คนนั้นคนโน้น คนนี้ ในทางเสียๆหายๆ โดยอ้างว่าตนเป็นชาวพุทธ ขอถามหน่อย ศีล 5 มีอะไรบ้าง และ่ท่านปฏิบัติได้จริงๆ กี่ข้อ ท่านเข้าใจและเข้าถึงแก่นแท้ของพระพุทธศาสนามากแค่ไหน ท่านอ่านแค่หนังสือ นวโกวาท ซึ่งมีแค่หลักธรรมคำสอนง่ายๆ ใกล้ๆตัว ให้พวกปุถุช้นนน ปุถุชน และพระบวชใหม่ซึ่งกิเลสยังสุดแสนจะหนาได้อ่านและศึกษาเรียนรู้ เพื่อขัดเกลากิเลสให้เบาบางและนำไปใช้ในชีวิตประจำวันเท่านั้น ท่านเคยศึกษาหลักธรรมชั้นสูงหรือเคยเปิดอ่านพระไตรปิฎกหรือไม่ ลองไปอ่านหรือศึกษาดูก่อนแล้วค่อยมาวิจารณ์เรื่องอนุสัยหรือสันดานของพระอรหันต์ที่เป็นสาวกขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เช่น เรื่องของพระอัครสาวกเบื้องขวา พระสารีบุตร มีอยู่ว่า มีเศรษฐีท่านหนึ่งละกัน
ผมจำชื่อไม่ได้เอาผ้าไตรมาถวายท่าน 7 ชุดด้วยกันแต่พอเ็ห็นอากัปกิริยาีที่ไม่สำรวมของท่านก็เลยขอคืน ทีละชุดๆ จนเหลือเพียงชุดเดียว มีคนสงสัยว่าทำไมพระสารีบุตรถึงไม่ค่อยสำรวม พระพุทธเจ้าตรัสว่า พระสารีบุตรนั้นเดิมเคยเกิดเป็นลิงมาก่อนถึง 500 ชาติ อากัปกิริยานิสัยของท่านจึงเป็นเช่นนั้นบรรดาสาวกที่เป็นพระอรหันต์ทั้งหลายไม่มีใครละสันดานของตัวเองได้ มีเพียงผู้เดียวในโลกที่สามารถละสันดานเดิมของตัวเองได้คือองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในพระไตรปิฎกมีบันทึกไว้อีกเยอะ เช่นองค์ที่เคยเกิดเป็นไส้เดือน 500 ชาติ เอาแต่นอนอย่างเดียว พวกที่เคยเกิดเป็นเสือ สิงโต มีนิสัยที่โหดและดุ ท่านเหล่านี้ล้วนเป็นพระอรหันต์ ฉะนั้นอย่าพึ่งตัดสินคนเพราะเพียงแค่เห็นพฤติกรรมภายนอก ลองไปศึกษาประวัติของท่านดูก่อน บางทีบุคคลผู้นี้อาจจะวิเศษกว่าที่สติปัญญาน้อยๆอย่างท่านจะคาดคิดก็ได้

ผมเห็นด้วยครับถ้าไม่รู้จริง และมีความรู้น้อยมาเที่ยวมากตั้งกระทู้เลย นรกจะกินกะบาน
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
นายควาย
เรทกระทู้
« ตอบ #48 เมื่อ: 27 ก.ย. 11, 20:53 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
q*033 กัมมุนา วัตตะตี โลโก สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ศาสนาสอนเรื่องทุกข์ และพูดถึง กิเลส รัก โลภ โกรธ หลง ใครมีมากมีน้อย อยาก"ลงนรกขุมใหน"ก็เลือกกันเอาน๊ะ เราเบื่อเต็มทนแล้ว q*038q*034
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
คนที่ศึกษา
เรทกระทู้
« ตอบ #49 เมื่อ: 27 ก.ย. 11, 21:36 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ที่แท้...ท่านกำลังตีกลองปลุกคนที่หลับให้ตื่น(ลองดูคลิบคำสอนอื่นของท่านดูแล้วจะรู้ว่าคำสอนท่านคือคำสอนพระพุทธเจ้าล้วนๆ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
ผู้ศึกษา
เรทกระทู้
« ตอบ #50 เมื่อ: 27 ก.ย. 11, 21:46 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ที่แท้...ท่านกำลังตีกลองศึกเพื่อปลุกผู้ที่พึงจะสอนได้..สาธุ(ควรไปดูคลิปอื่นเพิ่มเติมจะรู้ว่าท่านใชธรรมของพระพุทธเจ้าล้วนๆ)

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
โลกีย์
เรทกระทู้
« ตอบ #51 เมื่อ: 27 ก.ย. 11, 22:13 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ขอตามกระแสพระเกษม
การที่ทุกคนจะไปถึงเป้าหมายเดียวกันได้มีหลายวิธีการและหลายเส้นทางเพียงแต่ระยะเวลาที่จะไปถึงยังจุดหมายของแต่ละคนนั้นไม่เท่ากันดังนั้นจึงต้องใช้ปัญญาในการเดินทางไปสู่จุดหมาย กรณีข้อพิพาทขัดแย้งในเรื่องแนวทางของศาสนาที่พระเกษมกำลังสื่ออยู่ขณะนี้ทำให้นึกถึงสมัยประถมหรือมัธยมที่นักเรียนลอกการบ้านกันเพราะขี้เกียจทำการบ้านที่คุณครูสั่ง ถ้าเพื่อนที่ทำการบ้านทำถูกคนที่ลอกก็ถูก ถ้าเพื่อนทีทำการบ้านเกิดทำผิดก็ผิดทั้งหมด เพราะผู้ที่ลอกการบ้านเพื่อนไม่ได้ศีกษาหรือแก้โจทย์การบ้านด้วยตัวเอง ก็เลยไม่รู้ว่าถูกอย่างไรหรือผิดอย่างไร..ได้ดูคลิบอื่นๆของพระเกษมแล้วไม่ขอสรุปว่าพระเกษมทำถูกหรือทำไม่ถูก แต่จะสรุปว่าเข้าใจ

วิธีการที่พระทำมีผลในเชิงบวกต่อศาสนาแต่มีผลในทางลบต่อพระเอง ตอนนี้ทุกคนถกเถียงกันใหญ่มีคนสนใจพระวินัยมากขึ้น ในเมื่อสามารถปลุกคนส่วนใหญ่ให้ถกเถียงกันในเรื่องของศาสนาได้แล้วจะเสื่อมถอยได้อย่างไร

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
ดำ ศาลาแดง
เรทกระทู้
« ตอบ #52 เมื่อ: 27 ก.ย. 11, 22:19 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

พระดี ไม่ต้องทำอะไรให้ตัวเองเด่นดัง


ศรัทธาของมวลชน ต้องมาจาก้นบึ้งของจิตใจ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
นพวรรณ
เรทกระทู้
« ตอบ #53 เมื่อ: 27 ก.ย. 11, 23:28 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

พระรับเงิน ผิดกว่าหลวงพ่ออีก

พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๒
พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๒ มหาวิภังค์ ภาค ๒ หน้าที่ ๑๐๙/๗๑๗ หัวข้อที่ ๑๐๕
พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงติเตียนว่า ดูกรโมฆบุรุษ การกระทำของเธอนั่น ไม่เหมาะ
ไม่สม ไม่ควร ไม่ใช่กิจของสมณะ ใช้ไม่ได้ ไม่ควรทำ, ไฉนเธอจึงได้รับรูปิยะเล่า? การกระ
ทำของเธอนั่น ไม่เป็นไปเพื่อความเลื่อมใสของชุมชนที่ยังไม่เลื่อมใส หรือเพื่อความเลื่อมใสยิ่งของ
ชุมชนที่เลื่อมใสแล้ว. โดยที่แท้ การกระทำของเธอนั่น เป็นไปเพื่อความไม่เลื่อมใสของชุมชนที่
ยังไม่เลื่อมใส และเพื่อความเป็นอย่างอื่นของชนบางพวกที่เลื่อมใสแล้ว.
ทรงบัญญัติสิกขาบท
พระผู้มีพระภาค ทรงติเตียนท่านพระอุปนันทศากยบุตร โดยอเนกปริยายดั่งนี้แล้วตรัส
โทษแห่งความเป็นคนเลี้ยงยาก ความเป็นคนบำรุงยาก ความเป็นคนมักมาก ความเป็นคนไม่สันโดษ
ความคลุกคลี ความเกียจคร้าน ตรัสคุณแห่งความเป็นคนเลี้ยงง่าย ความเป็นคนบำรุงง่าย
ความมักน้อย ความสันโดษ ความขัดเกลา ความกำจัด อาการที่น่าเลื่อมใส การไม่สะสม
การปรารภความเพียร โดยอเนกปริยาย ทรงกระทำธรรมีกถาที่สมควรแก่เรื่องนั้น ที่เหมาะสมแก่
เรื่องนั้น แก่ภิกษุทั้งหลาย แล้วรับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะเหตุนั้นแล เราจักบัญญัติสิกขาบทแก่ภิกษุทั้งหลาย อาศัยอำ
นาจประโยชน์ ๑๐ ประการ คือ เพื่อความรับว่าดีแห่งสงฆ์ ๑ เพื่อความสำราญแห่งสงฆ์ ๑
เพื่อข่มบุคคลผู้เก้อยาก ๑ เพื่ออยู่สำราญแห่งภิกษุมีศีลเป็นที่รัก ๑ เพื่อป้องกันอาสวะอันจะบัง-
เกิดในปัจจุบัน ๑ เพื่อกำจัดอาสวะอันจักบังเกิดในอนาคต ๑ เพื่อความเลื่อมใสของชุมชนที่ยัง
ไม่เลื่อมใส ๑ เพื่อความเลื่อมใสยิ่งของชุมชนที่เลื่อมใสแล้ว ๑ เพื่อความตั้งมั่นแห่งพระสัทธรรม
๑ เพื่อถือตามพระวินัย ๑.
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็แลพวกเธอพึงยกสิกขาบทนี้ขึ้นแสดงอย่างนี้ ว่าดังนี้:-
พระบัญญัติ
๓๗. ๘. อนึ่ง ภิกษุใด รับก็ดี ให้รับก็ดี ซึ่งทอง เงิน หรือยินดีทอง เงิน
อันเขาเก็บไว้ให้, เป็นนิสสัคคิยปาจิตตีย์.
เรื่องพระอุปนันทศากยบุตรจบ.
สิกขาบทวิภังค์
[๑๐๖] บทว่า อนึ่ง ... ใด ความว่า ผู้ใด คือ ผู้เช่นใด มีการงานอย่างใด มีชาติ
อย่างใด มีชื่ออย่างใด มีโคตรอย่างใด มีปกติอย่างใด มีธรรมเครื่องอยู่อย่างใด มีอารมณ์อย่างใด
เป็นเถระก็ตาม เป็นนวกะก็ตาม เป็นมัชฌิมะก็ตาม, นี้พระผู้มีพระภาคตรัสว่า อนึ่ง ... ใด.
บทว่า ภิกษุ ความว่า ที่ชื่อว่า ภิกษุ เพราะอรรถว่าเป็นผู้ขอ. ชื่อว่า ภิกษุ เพราะอรรถ
ว่าประพฤติภิกขาจริยวัตร. ชื่อว่า ภิกษุ เพราะอรรถว่าทรงผืนผ้าที่ถูกทำลายแล้ว. ชื่อว่า ภิกษุ
โดยสมญา. ชื่อว่า ภิกษุ โดยปฏิญญา. ชื่อว่า ภิกษุ เพราะอรรถว่าเป็นเอหิภิกษุ. ชื่อว่า ภิกษุ
เพราะว่าอรรถว่าเป็นผู้อุปสมบทแล้วด้วยไตรสรณคมน์. ชื่อว่า ภิกษุ เพราะอรรถว่า เป็นผู้เจริญ.
ชื่อว่า ภิกษุ เพราะอรรถว่ามีสารธรรม. ชื่อว่า ภิกษุ เพราะอรรถว่า เป็นพระเสขะ, ชื่อว่า
ภิกษุ เพราะอรรถว่า เป็นพระอเสขะ. ชื่อว่า ภิกษุ เพราะอรรถว่า เป็นผู้อันสงฆ์พร้อมเพรียง
กันอุปสมบทให้ด้วยญัตติจตุตถกรรม อันไม่กำเริบ ควรแก่ฐานะ. บรรดาภิกษุเหล่านั้น ภิกษุที่สงฆ์
พร้อมเพรียงกันอุปสมบทให้ด้วยญัตติจตุตถกรรม อันไม่กำเริบ ควรแก่ฐานะ, นี้ชื่อว่า ภิกษุ
ที่ทรงประสงค์ในอรรถนี้.
ที่ชื่อว่า ทอง ตรัสหมายทองคำ.
ที่ชื่อว่า เงิน ได้แก่กหาปณะ มาสกที่ทำด้วยโลหะ มาสกที่ทำด้วยไม้ มาสกที่ทำด้วย-
ครั่ง ซึ่งใช้เป็นมาตราสำหรับแลกเปลี่ยนซื้อขายกันได้.
บทว่า รับ คือรับเอง เป็นนิสสัคคีย์.
บทว่า ให้รับ คือให้คนอื่นรับแทน เป็นนิสสัคคีย์.
บทว่า หรือยินดีทองเงินอันเขาเก็บไว้ให้ ความว่า หรือยินดี ทอง เงินที่เขาเก็บ
ไว้ให้ด้วยบอกว่า ของนี้จงเป็นของพระคุณเจ้า ดังนี้เป็นต้น, เป็นนิสสัคคีย์ทองเงินที่เป็นนิสสัคคีย์
ต้องเสียสละในท่ามกลางสงฆ์.

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
นพวรรณ
เรทกระทู้
« ตอบ #54 เมื่อ: 27 ก.ย. 11, 23:36 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๒
พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๒ มหาวิภังค์ ภาค ๒ หน้าที่ ๒๗๔/๗๑๗ หัวข้อที่ ๒๕๔

[๒๕๔] ภิกษุมุ่งอรรถ ๑, ภิกษุมุ่งธรรม ๑ ภิกษุมุ่งสั่งสอน ๑, ภิกษุวิกลจริต ๑,
ภิกษุมีจิตฟุ้งซ่าน ๑, ภิกษุกระสับกระส่ายเพราะเวทนา ๑, ภิกษุอาทิกัมมิกะ ๑, ไม่ต้องอาบัติแล.

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
นพวรรณ
เรทกระทู้
« ตอบ #55 เมื่อ: 27 ก.ย. 11, 23:45 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๒
พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๒ มหาวิภังค์ ภาค ๒ หน้าที่ ๒๗๔/๗๑๗ หัวข้อที่ ๒๕๔

[๒๕๔] ภิกษุมุ่งอรรถ ๑, ภิกษุมุ่งธรรม ๑ ภิกษุมุ่งสั่งสอน ๑, ภิกษุวิกลจริต ๑,
ภิกษุมีจิตฟุ้งซ่าน ๑, ภิกษุกระสับกระส่ายเพราะเวทนา ๑, ภิกษุอาทิกัมมิกะ ๑, ไม่ต้องอาบัติแล.

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
ดด
เรทกระทู้
« ตอบ #56 เมื่อ: 28 ก.ย. 11, 00:32 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

คนเราก้องี้แหละเห็นเท่าที่เห็น ไม่สนใจแก่นแท้ที่ท่านต้องการสื่อถึงสิ่งที่เรายังไม่เข้าใจแล้วไปกราวหาท่าน
ผมเชื่อว่าถ้าใครสัมผัสกับพระสงฆ์ที่เป็นสายพระป่าหรือฝ่ายธรรมยุต
กิริยาที่แสดงออกกับลูกศิษย์อาจเห็นว่าพูดกาจานั้นดุดันจะตรงไปตรงมาเช่นหลวงพ่อชา หลวงปูมั่น แต่อาจจะไม่แสดงถึงขั้นนี้ มีพระหลายองค์ที่ทำตัวไม่สำรวมและผิดวินัยมากกว่านี้ ให้เห็นอยู่มากมายแต่ไม่เป็นข่าวเท่านั้น อย่างที่ คห. 38 กล่าวนอกจากพระอานนท์ในสมัยพุทธกาลแล้ว อรหันต์จี้กง ที่ใครๆๆก้อเห็นว่าท่านบ้า ไม่สำรวม ท่านก้อสามารถเป็นอรหันต์ ได้ ฉะนั้นควรดูแก่นแท้เสียก่อนว่าท่านต้องการสื่ออาราย แค่สัมผัสภายนอกแล้วบอกว่าไม่ถูกต้อง ก้ออย่าเพิ่งไปว่าเสียก่อนมันจะเป้นบาปโดยไม่รู้ตัว

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
นพวรรณ
เรทกระทู้
« ตอบ #57 เมื่อ: 28 ก.ย. 11, 00:45 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๑
พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๑ มหาวิภังค์ ภาค ๑ หน้าที่ ๓๓๒/๗๕๔ หัวข้อที่ ๒๓๐

มหาโจร ๕ จำพวก
[๒๓๐] ดูกรภิกษุทั้งหลาย มหาโจร ๕ จำพวกนี้ มีปรากฏอยู่ในโลก มหาโจร ๕ จำพวก
เป็นไฉน
๑. ดูกรภิกษุทั้งหลาย มหาโจรบางคนในโลกนี้ ย่อมปรารถนาอย่างนี้ว่า เมื่อไรหนอ
เราจักเป็นผู้อันบุรุษร้อยหนึ่ง หรือพันหนึ่งแวดล้อมแล้ว ท่องเที่ยวไปในคามนิคมและราชธานี
เบียดเบียนเอง ให้ผู้อื่นเบียดเบียน ตัดเอง ให้ผู้อื่นตัด เผาผลาญเอง ให้ผู้อื่นเผาผลาญ
สมัยต่อมา เขาเป็นผู้อันบุรุษร้อยหนึ่ง หรือพันหนึ่ง แวดล้อมแล้วเที่ยวไปในคามนิคมและ
ราชธานี เบียดเบียนเอง ให้ผู้อื่นเบียดเบียน ตัดเอง ให้ผู้อื่นตัด เผาผลาญเอง ให้ผู้อื่น
เผาผลาญฉันใด ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้เลวทรามบางรูปในธรรมวินัยนี้ ก็ฉันนั้นเหมือนกันแล
ย่อมปรารถนาอย่างนี้ว่า เมื่อไรหนอ เราจึงจักเป็นผู้อันภิกษุร้อยหนึ่ง หรือพันหนึ่งแวดล้อมแล้ว
เที่ยวจาริกไปในคามนิคมและราชธานี อันคฤหัสถ์และบรรชิต สักการะ เคารพ นับถือ บูชา
ยำเกรง ได้จีวร บิณฑบาต เสนาสนะ และคิลานปัจจัย เภสัชบริขาร สมัยต่อมา เธอเป็นผู้
อันภิกษุร้อยหนึ่ง หรือพันหนึ่งแวดล้อมแล้ว เที่ยวจาริกไปในคามนิคมและราชธานี อันคฤหัสถ์
และบรรพชิตสักการะ เคารพ นับถือ บูชา ยำเกรงแล้ว ได้จีวร บิณฑบาต เสนาสนะ
และคิลานปัจจัยเภสัชบริขารทั้งหลาย ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้เป็นมหาโจรจำพวกที่ ๑ มีปรากฏอยู่
ในโลก
๒. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อีกข้อหนึ่ง ภิกษุผู้เลวทรามบางรูปในธรรมวินัยนี้ เล่าเรียน
ธรรมวินัยอันตถาคตประกาศแล้ว ย่อมยกตนขึ้น ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้เป็นมหาโจรจำพวกที่ ๒
มีปรากฏอยู่ในโลก
๓. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อีกข้อหนึ่ง ภิกษุผู้เลวทรามบางรูปในธรรมวินัยนี้ ย่อมตามกำจัด
เพื่อนพรหมจารี ผู้หมดจด ผู้ประพฤติพรหมจรรย์อันบริสุทธิ์อยู่ด้วยธรรมอันเป็นข้าศึกแก่
พรหมจรรย์อันหามูลมิได้ ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้เป็นมหาโจรจำพวกที่ ๓ มีปรากฏอยู่ในโลก
๔. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อีกข้อหนึ่ง ภิกษุผู้เลวทรามบางรูปในธรรมวินัยนี้ ย่อมสงเคราะห์
เกลี้ยกล่อมคฤหัสถ์ทั้งหลาย ด้วยครุภัณฑ์ ครุบริขาร ของสงฆ์ คือ อาราม พื้นที่อาราม
วิหาร พื้นที่วิหาร เตียง ตั่ง ฟูก หมอน หม้อโลหะ อ่างโลหะ กะถางโลหะ กะทะโลหะ
มีด ขวาน ผึ่ง จอบ สว่าน เถาวัลย์ ไม้ไผ่ หญ้ามุงกะต่าย หญ้าปล้อง หญ้าสามัญ ดินเหนียว
เครื่องไม้ เครื่องดิน ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้เป็นมหาโจรจำพวกที่ ๔ มีปรากฏอยู่ในโลก
๕. ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้กล่าวอวดอุตตริมนุสสธรรม อันไม่มีอยู่ อันไม่เป็นจริง
นี้จัดเป็นยอดมหาโจร ในโลกพร้อมทั้งเทวโลก มารโลก พรหมโลก ในหมู่สัตว์พร้อมทั้งสมณะ
พราหมณ์ เทวดา และมนุษย์ ข้อนั้น เพราะเหตุไร เพราะภิกษุนั้น ฉันก้อนข้าวของชาว
แว่นแคว้น ด้วยอาการแห่งคนขโมย.

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
แมน
เรทกระทู้
« ตอบ #58 เมื่อ: 28 ก.ย. 11, 01:19 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ท่านเป็นถึงพระศรีอริยเมตไตรแล้วคนที่ว่าท่านระวังจะตกนรกชั้นอเวจีเลยนะครับไม่รู้อย่าแสดงความคิดเห็น ที่ท่านทำๆเพื่อไม่อยากให้ใครมาวัดท่าน ไม่เชื่อลองดูสิแล้วจะหาว่าไม่เตือน

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
ธรรม
เรทกระทู้
« ตอบ #59 เมื่อ: 28 ก.ย. 11, 02:06 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว

ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ


ดีก็มี ไม่ดีก็มี

เพราะยังดีไม่สมบูรณ์แบบ คนเลยติเตียนได้อยู่

พระพุทธเจ้าบอก ให้มีตนเป็นที่พึ่ง มีตนเป็นสรณะ
ให้มีธรรมเป็นที่พึ่ง มีธรรมเป็นสรณะ

อย่ามีสิ่งอื่นเป็นที่พึ่ง เป็นสรณะเลย

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
ธรรม
เรทกระทู้
« ตอบ #60 เมื่อ: 28 ก.ย. 11, 02:30 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว
ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ

ดีก็มี ไม่ดีก็มี

เพราะยังไม่ดีสมบูรณ์แบบ โลกจึงยังติเตียนได้อยู่

พระพุทธเจ้าบอก ให้มีตนเป็นที่พึ่ง มีตนเป็นสรณะ
ให้มีธรรมเป็นที่พึ่ง มีธ่รรมเป็นสรณะ
ไม่เอาอย่างอื่นเป็นทีึ่พึ่ง เป็นสรณะเลย
ทางสายกลาง ตึงเกินไปก็ขาด หย่อนเกินไปก็หย่อนยาน
ถามตนเองว่าตึงเกินไปรึเปล่า รู้จักสมมติน้อยไปรึเปล่า
พระพุทธรูป เป็นเพียงสมมติ แต่สมมติไม่ใช่ไม่มีประโยชน์ เพราะสามารถ
เป็นที่ระลึกให้ระลึกถึงพระผู้เป็นเจ้า เรียกว่าพุทธานุสสติ ขนาดจิตใจว้าวุ่น
เมื่อมองพระพักตร์พระพุทธรูปเราก็ยังรู้สึกสงบได้

สมมติไม่ใช่ไม่มีประโยชน์ จริงๆมีมากแต่ต้องมองให้เห็น เช่น รถยนต์ บ้าน ชื่อเรียกต่างๆ มีประโยชน์หมด ไม่ควรดูถูกสมมติ

จะบอกว่าพระหลายองค์สมัยนี้ จับเงิน มีเมีย มีกิ๊ก นั่นก็เป็นเรื่องของเขา
เขาทำเขาก็บาปเอง ไม่ควรพูดให้ภาพรวมเสียไปด้วย เพราะจะยิ่งบาปหนัก
แล้วพูดเพื่อยกตนเองอีกก็ยิ่งบาปหนัก จริงๆ พระที่ปฎิบัติดี ปฎิบัติชอบ
สมัยนี้ยังมีอีกมาก ท่านปฎิบัติสมถะไม่ค่อยแสดงตัว เพราะท่านหยุดแล้ว
ในเรื่องชื่อเสียงเกียรติยศ ทรัพย์สิน เงินทอง ครอบครัว เราปุถุชนก็ต้อง
รู้จักสังเกตพระองค์ไหนน่านับถือ ไม่น่านับถือก็ต้องพิจารณากันไป
อย่าเหมารวมเพราะเป็นบาปอย่างยิ่ง

ยังว่าคนอื่นอยู่ แปลว่าก็ยังติดกับสิ่งไม่ดีอยู่ ต้องรู้จักละวางความไม่ดีของคนอื่นเขา

สมัยพุทธกาล มีพระรูปหล่ออยู่องค์หนึ่ง มีผู้ชายคนหนึ่งเห็นก็รู้สึกหลงชอบ
เลยกลายเป็นผู้หญิง ต่อมามาขออภัยเลยกลับกลายเป็นผู้ชาย พระรู้ท่าน
ก็เลยแปลงกายให้ีมีรูปร่างอ้วนไม่ให้เป็นที่หลงไหลอีกต่อไปเพราะกลัวผู้อื่นจะคิดอกุศลอีก เลยเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น

แล้วท่านละเสียสละเพื่อส่วนรวมหรือยัง?

เพราะความวุ่นวายนี้ รู้สึกท่านจะเจตนาจะให้เกิดความแตกแยก วันนี้ไม่รุ้สึกผิด แต่สักวัน เมื่อท่านเห็นอนิจจังจริงแล้ว สักวันอาจจะรู้สึกผิดก็เป็นได้
เพราะความรู้สึกก็เป็นอนิจจัง ไม่เที่ยงแท้แน่นอน....

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #61 เมื่อ: 28 ก.ย. 11, 02:35 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว
ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ

ดีก็มี ไม่ดีก็มี

เพราะยังไม่ดีสมบูรณ์แบบ โลกจึงยังติเตียนได้อยู่

พระพุทธเจ้าบอก ให้มีตนเป็นที่พึ่ง มีตนเป็นสรณะ
ให้มีธรรมเป็นที่พึ่ง มีธ่รรมเป็นสรณะ
ไม่เอาอย่างอื่นเป็นทีึ่พึ่ง เป็นสรณะเลย
ทางสายกลาง ตึงเกินไปก็ขาด หย่อนเกินไปก็หย่อนยาน
ถามตนเองว่าตึงเกินไปรึเปล่า รู้จักสมมติน้อยไปรึเปล่า
พระพุทธรูป เป็นเพียงสมมติ แต่สมมติไม่ใช่ไม่มีประโยชน์ เพราะสามารถ
เป็นที่ระลึกให้ระลึกถึงพระผู้เป็นเจ้า เรียกว่าพุทธานุสสติ ขนาดจิตใจว้าวุ่น
เมื่อมองพระพักตร์พระพุทธรูปเราก็ยังรู้สึกสงบได้

สมมติไม่ใช่ไม่มีประโยชน์ จริงๆมีมากแต่ต้องมองให้เห็น เช่น รถยนต์ บ้าน ชื่อเรียกต่างๆ มีประโยชน์หมด ไม่ควรดูถูกสมมติ

จะบอกว่าพระหลายองค์สมัยนี้ จับเงิน มีเมีย มีกิ๊ก นั่นก็เป็นเรื่องของเขา
เขาทำเขาก็บาปเอง ไม่ควรพูดให้ภาพรวมเสียไปด้วย เพราะจะยิ่งบาปหนัก
แล้วพูดเพื่อยกตนเองอีกก็ยิ่งบาปหนัก จริงๆ พระที่ปฎิบัติดี ปฎิบัติชอบ
สมัยนี้ยังมีอีกมาก ท่านปฎิบัติสมถะไม่ค่อยแสดงตัว เพราะท่านหยุดแล้ว
ในเรื่องชื่อเสียงเกียรติยศ ทรัพย์สิน เงินทอง ครอบครัว เราปุถุชนก็ต้อง
รู้จักสังเกตพระองค์ไหนน่านับถือ ไม่น่านับถือก็ต้องพิจารณากันไป
อย่าเหมารวมเพราะเป็นบาปอย่างยิ่ง

ยังว่าคนอื่นอยู่ แปลว่าก็ยังติดกับสิ่งไม่ดีอยู่ ต้องรู้จักละวางความไม่ดีของคนอื่นเขา

สมัยพุทธกาล มีพระรูปหล่ออยู่องค์หนึ่ง มีผู้ชายคนหนึ่งเห็นก็รู้สึกหลงชอบ
เลยกลายเป็นผู้หญิง ต่อมามาขออภัยเลยกลับกลายเป็นผู้ชาย พระรู้ท่าน
ก็เลยแปลงกายให้ีมีรูปร่างอ้วนไม่ให้เป็นที่หลงไหลอีกต่อไปเพราะกลัวผู้อื่นจะคิดอกุศลอีก เลยเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น

แล้วท่านละเสียสละเพื่อส่วนรวมหรือยัง?

เพราะความวุ่นวายนี้ รู้สึกท่านจะเจตนาจะให้เกิดความแตกแยก วันนี้ไม่รุ้สึกผิด แต่สักวัน เมื่อท่านเห็นอนิจจังจริงแล้ว สักวันอาจจะรู้สึกผิดก็เป็นได้
เพราะความรู้สึกก็เป็นอนิจจัง ไม่เที่ยงแท้แน่นอน....

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
นพวรรณ
เรทกระทู้
« ตอบ #62 เมื่อ: 28 ก.ย. 11, 04:08 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

อ้างกระทู้ คุณ เรดเบิร์ด 2011,คุณ pantakongmha,คุณ ธรรม
พระที่ผิดวินัยโดยการรับเงินรับทอง แล้วเพ่งโทษติเตียนหลวงพ่อเกษมล่ะไม่ผิดหรือ
แล้วคุณรู้ได้อย่างไรว่าท่านไม่บรรลุ อย่ามองแค่สิ่งที่ท่านแสดงให้ดูเพราะจริงๆแล้วคุณไม่เข้าใจ
ถ้าคิดว่าพระทุกรูปที่บวชต้องละ สมัยก่อนนั้นใช่ แต่สมัยนี้รับเงินเพราะยังละกิเลสไม่ได้ และไม่ยอมศึกษาพระไตรปิฏก

ขออนุโมทนาบุญของพวกท่านที่เข้าใจแก่นแท้ที่หลวงพ่อแสดงธรรม

ส่วนคุณjaajaa1 พระอิฐพระปูน อันวิเศษของคุณ จมน้ำหมดแล้ว แล้วทำไมคุณไม่คิดล่ะว่า
พวกที่ขี้ เยี่ยวในน้ำ ไม่ลบหลู่พระอิฐพระปูน อันวิเศษของคุณหรือ
และถ้าเป็นพระพุทธองค์จริงๆป่านนี้ท่านลอยอยู่เหนือน้ำแล้ว

หลวงพ่อเกษม ท่านแค่ต้องการเปิดหูเปิดตาพวกท่าน พระที่รับเงินรับทองผิดพระวินัยกว่าท่าน
ทำไมไม่เพ่งโทษ โพทนา ติเตียนกัน

พวกคุณรู้ไหมสิ่งที่พวกคุณจะได้รับคือ เพ่งโทษหลวงพ่อเกษมกี่คน คูณเท่านั้นบาป
ไม่อยากจะคิดเลย สงสารพวกคุณจริงๆ
ดวงใจท่านดับแล้ว ท่านพยายามเตือนพวกคุณ แต่พวกคุณไม่ยอมทำความเข้าใจ ไปค้นหาความจริงกันเองในพระไตรปิฎก
พวกคุณด่าท่านมากเท่าไหร่คุณสรยุทธรับคนเดียวหมดเลย ถ้าล้านคนก็ล้านเท่า
ท่านสงสารคุณสรยุทธจืงให้คุณสรยุทธได้ไถ่บาป โดยเอาส่วนที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมไปเผยแผ่
ถ้าคุณไม่กล้าเผชิญความจริงตอนนี้ ก็รีบไปศึกษาพระไตรปิฏก

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
vudc'j
เรทกระทู้
« ตอบ #63 เมื่อ: 28 ก.ย. 11, 06:14 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ความคิดที่ไม่ยึดติดรูปเป็นสิ่งที่ดี แต่นำเสนอผิดวิธี ประกอบกับชาวพุทธยึดถือพระพุทธรูปเป็นหนึ่ง เผลอๆมากกว่าพระธรรมคำสอนที่สามารถไปปฏิบัติจริงด้วยซ้ำ สาเหตุที่ชาวพุทธรับไม่ได้คือการนำเสนอที่เกินเลย ตัวผมเองมองต่างมุมดูเหตุและผลมากกว่ารับฟังข้อดี และคิดถึงข้อเสียของพระท่านนี้ โดยตัวผมก็ยังปฏิบัติกราบไหว้บูชาพระพุทธรูปเหมือนเดิม แค่มองเห็นแนวคิดที่แตกต่างออกไปแค่นั่นเอง ถ้าคุณดูคลิปพระท่านนี้แล้วโมโหผมคิดว่าท่านเป็นคนที่ไม่เปิดใจรับความคิดที่แตกที่มีเข้ามา ถึงแม้จะเป็นกิริยาที่ไม่ดี แค่ตัดสิ่งนั้นออก มองแค่เหตุผลที่นำเสนอ และผลเสีย ตัดความโมโหออก ผมว่าจะดีกว่า

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #64 เมื่อ: 28 ก.ย. 11, 06:22 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

เค้าบอกว่า อยากอยู่คนเดียว (ไม่อยากดัง) ก็จะไปยุ่งกับเค้าทำไม ก็ปล่อยให้อยู่คนเดียวสิ คนเดียวโดดๆๆ..เข้าใจไหม..ท่านสาธุชน..ทั้งหลาย q*033q*033
q*073q*073q*031q*039

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
เณรน้อย
เรทกระทู้
« ตอบ #65 เมื่อ: 28 ก.ย. 11, 07:54 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

พระเกษมอยู่ไปทำให้ศาสนาเสียหายไปเอาผ้าถุงใส่ไปปปปปป

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
พระ
เรทกระทู้
« ตอบ #66 เมื่อ: 28 ก.ย. 11, 08:15 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ไม่สมควรเป็นพระ เหมาะที่จะเป็นนักเลง คนที่นับถือก็เกินไป q*027

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
เดินผ่านมา
เรทกระทู้
« ตอบ #67 เมื่อ: 28 ก.ย. 11, 08:25 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

คนตั้งกระทู้ รักษาศีล 5 ได้ครบหรือเปล่าหรือมีการศึกษาคำสอนมาเทียบเคียงบ้างไหม ผมชอบคำสอนพระเกษม ถึงจะไม่ชอบท่าทางท่านบ้าง ผมว่าอย่ามั่วแต่เถียงกันเลย เร่งศึกษา เพื่อตัวท่านเองแล้วกัน

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
พุทธ เก๊
เรทกระทู้
« ตอบ #68 เมื่อ: 28 ก.ย. 11, 09:15 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

อ่านหนังสือไม่จบเล่มกลับวิจารณ์เสมือนหนึ่งรอบรู้ทุกตัวบท
พระเป็นเทวดา..โกรธไม่เป็นหรือไง คนดีแค่ไหนไปตัดสินว่าพระทำอย่างนี้ดีอย่างนี้ไม่ดี คนสมมมุติขึ้นมาทั้งนั้น พระวินัยก็บ่งอยู่แล้วว่าผิดเป็นอาบัติปาจิตตีย์ โทษอย่างเบา จะให้ประหารหรือไง
ทำให้เสียทรัพย์ ด่าชาวบ้าน หมิ่นประมาท ทางโลกโทษสักแค่ไหน ปรับหรือขังหรือประหาร นี่กะจะประหารกันเลยมันไม่มากไปหน่อยหรือ
ไม่เคารพพระรูปไหนก็เป็นเรื่องของแต่ละคน ศาสนาพุทธไม่ได้บังคับให้ใครเคารพนับถือใคร ตัวเองไม่เคารพนับถือก็ไม่ต้องไปโน้มน้าวล้างสมองคนอื่นให้ทำตามหรอก สำรวจตัวเองซะก่อนว่าทำอะไรเพื่อศาสนาหรือตัวเองสักแค่ไหน พุทธ เก๊ นี่หว่า

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
0hk
เรทกระทู้
« ตอบ #69 เมื่อ: 28 ก.ย. 11, 22:59 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ด่าพระหมาตัวนี้ไม่บาป 10000./.มนุษย์คิดยังไงไปฟังหมาเห่า

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #70 เมื่อ: 1 ต.ค. 11, 05:11 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

คนเราชอบตัดสินคนจากภายนอก

พระท่านกำลังสืออะไรที่พวกเราไม่เข้าใจต่างหาก

ท่านกำลังบอกว่า พระไม่เคร่งวินัย หลงในวัตถุ

จนทำให้ศาสนาเสื่อม พระพุทธศาสนาอยู่ที่ใจ

ไม่ใช่วัตถุ นี้คือสิ่งที่ท่านกำลังจะบอกพวกเรา

อย่ามองอะไรแค่ด้านเดียวคับ ทุกอย่างล้วนมี

อะไรซ่อนอยู่เสมอ ผมว่าท่านกล้านะ ที่จะ

ทำอะไรขัดต่อสังคมแบบนี้ คนก็เลยเกลียดท่านกัน

แต่ท่านคือ จุดเปลี่ยนของศาสนาก็เป็นได้

เพื่อให้คนตระหนัก ในคำว่า พุทธศาสนา

เห็นด้วยกับข้อความนี้เป็นอย่างยิ่งค่ะ คิดเช่นนี้เหมือนกัน เพราะตอนนี้เรากำลังถูกปลูกฝังกิเลส และตัณหา ซี่งเป็นต้นเหตุแห่งทุกข์ มากกว่าที่จะสอนให้พวกเราที่นับถือศาสนาพุทธหาทางดับทุกข์ ดิฉันเองก็อยากจะรู้เช่นกันว่าเรื่องนี้จะจบลงอย่างไร พระเถรผู้ใหญ่ท่านจะคิดทำอย่างไร และต้องขอขอบคุณเจ้าของกระทู้ จะได้เป็นกระจกหลายๆ ด้านให้ท่านที่คิดว่าเป็นชาวพุทธจริงๆ ไม่ใช่เป็นชาวพุทธตามทะเบียนสำมโนครัวเท่านั้นได้เข้าใจกันดียิ่งขึ้น ว่าที่จริงแล้วศาสนาพุทธนั้นต้องการให้ปฏิบัติอย่างไรกันแน่ พระธรรมไม่ได้มีไว้ให้เรียนรู้ ท่านต้องการให้เราปฏิบัติค่ะถึงจะเข้าใจอย่างจริงแท้ และถือโอกาสเชิญชวนท่านพุทธศาสนิกชนมุ่งปฏิบัติธรรมกันให้มากๆ โดยการเจริญสติภวานา ให้มากกว่าถือศีล ทำทาน เพื่อประเทศชาติ บ้านเมืองจะได้สงบสุขค่ะ สาธุ อนุโมทนาล่วงหน้าค่ะ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
ธรรมชาติ
เรทกระทู้
« ตอบ #71 เมื่อ: 10 ต.ค. 11, 21:07 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

คริปนี้ผิดอาบัติเล็ก คริปอื่นผิดอาบัติใหญ่อวดอุตริปาราชิกต้องสึก

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า

หน้า: 1 2  ทั้งหมด

 
ตอบ

ชื่อ:
 
แชร์ไป Facebook ด้วย
กระทู้:
ไอค่อนข้อความ:
ตัวหนาตัวเอียงตัวขีดเส้นใต้จัดย่อหน้าชิดซ้ายจัดย่อหน้ากึ่งกลางจัดย่อหน้าชิดขวา

 
 

[เพิ่มเติม]
แนบไฟล์: (แนบไฟล์เพิ่ม)
ไฟล์ที่อนุญาต: gif, jpg, jpeg
ขนาดไฟล์สูงสุดที่อนุญาต 20000000 KB : 4 ไฟล์ : ต่อความคิดเห็น
ติดตามกระทู้นี้ : ส่งไปที่อีเมลของสมาชิกสนุก
  ส่งไปที่
พิมพ์อักษรตามภาพ:
พิมพ์ตัวอักษรที่แสดงในรูปภาพ
 
:  
  • ข้อความของคุณอยู่ในกระทู้นี้
  • กระทู้ที่ถูกใส่กุญแจ
  • กระทู้ปกติ
  • กระทู้ติดหมุด
  • กระทู้น่าสนใจ (มีผู้ตอบมากกว่า 15 ครั้ง)
  • โพลล์
  • กระทู้น่าสนใจมาก (มีผู้ตอบมากกว่า 25 ครั้ง)
         
หากท่านพบเห็นการกระทำ หรือพฤติกรรมใด ๆ ที่ไม่เหมาะสม ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสื่อมเสียแก่สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รวมถึง การใช้ข้อความที่ไม่สุภาพ พฤติกรรมการหลอกลวง การเผยแพร่ภาพลามก อนาจาร หรือการกระทำใด ๆ ที่อาจก่อให้ผู้อื่น ได้รับความเสียหาย กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม