ความขัดแย้งที่เกิดในบ้านเรานี้ ก็เคยเกิดขึ้นมาแล้วทั่วโลกไม่ใช่ของใหม่
1.พวกแรก ชนกลุ่มใหญ่แต่ไม่มีอำนาจทางเศรษฐกิจและการเข้าถึงทรัพยากร
2.พวกที่2 ชนกลุ่มน้อย ที่กุมเศรษฐกิจส่วนใหญ่ของประเทศ
ถ้ามีความขัดแย้งกันมากคุยกันไม่รู้เรื่อง หมดหนทางถึงขั้นฆ่าฟันกันแบบนี้ มันก็เป็นธรรมดาอยู่เอง ที่ต้องพึ่งคนนอกที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องให้เข้ามาวินิจฉัยตัดสินหรือแม้แต่ออกความเห็น นี่เป็นเรื่องเบสิคมากๆ ถ้าไม่อย่างงั้นก็คงไม่จำเป็นต้องมีอาชีพทนายกับตำรวจเลยครับ
ฉนั้นใครที่มั่นใจในความถูก-ดีของตนก็ต้องรีบส่งเสริมกระบวนการนี้ ข้อดีอย่างน้อยที่สุดคือ ไม่ต้องได้คุยกับคนที่คุยไม่รู้เรื่องเพิ่มความบาดหมางอีก
นวัตกรรมการ"นิรโทษกรรม"นั้นมันเกิดขึ้นมาพร้อมกับการทำรัฐประหาร เป็นการปรองดองกันในระหว่างพวกที่2(กลุ่มน้อย) นอกจากนั้นคือการกวาดปัญหาเข้าใต้พรม เป็นได้อย่างเดียวคือระเบิดเวลารอบใหม่ เราจึงไม่ค่อยเห็นเรื่องแบบนี้เกิดในชาติ ปชต.พัฒนาอื่นๆ
ความพยายามที่บอกว่าวัฒนธรรมต่างกัน-ไม่มีใครเข้าใจความเป็นไทย บอกได้เลยว่าเป็น"วาทกรรมสนิมเขรอะ"เท่านั้นครับ ไทย-ฝรั่งภายนอกต่างกัน แต่ความรู้สึกนึกคิดไม่ได้ต่างกันหรอกครับ แค่ไม่สันทัดภาษากับการแสดงออกบางอย่างเท่านั้น ถ้าใครเคยใช้ชีวิตอยู่บ้านเค้าจะเข้าใจ(เหตุที่โฮมซิคแค่ไม่เกินปีแรก)
ไม่มีหมวกฟ้าเข้ามาบ้านเราหรอกครับ ถ้ากระตือรือล้นและเคารพคำตัดสิน
หากมีคนที่วิตกจริตและขัดขวาง ก็แสดงว่ารู้ผิด-รู้ถูกกันอยู่แล้ว ทุกวันนี้ก็แค่ตะแบงไปวันๆ รอนิรโทษแล้วก็มาทำปัญหารอบใหม่และรอบใหม่ๆอีก มันก็เท่านั้นเองครับ
เอาแค่นี้ก่อนครับ ท่านใดจะลองภูมิ(แบบสร้างสรรค์)เชิญครับ.




ถูกต้องแล้วครับ
ปัญหาของไทยในปัจจุบัน เราจะรอผู้ใหญ่ มาชี้ถูกชี้ผิดไม่ได้แล้ว เพราะเหนือผู้ใหญ่...ก็ยังมีกำนัน เหนือกำนันยังมีเมียกำนัน เหนือเมียกำนันยังมี...
ที่สำคัญผู้ใหญ่ก็เคยชินกับการเสพอำนาจ อยู่ในอำนาจซะจนเคยชิน จนลืมคิดไปว่า "ความเป็นคน" ระหว่าง ผู้ใหญ่ กำนัน และราษฎร นั้นมันเท่ากัน
การลงนามให้สัตยาบรรณ ICC จึงจะเป็นหลักประกันไม่ให้มีใครแอบสั่ง ผบทบ. (ผู้บ่าวไทบ้าน) ให้ทำอะไรไม่ถูกไม่ควร (แอดมินเค้าห้ามไม่ให้ใช้คำว่า ปฏิวัติ) หากในวันข้างหน้ามีคนแอบสั่งใครให้ทำอะไรนอกกฏิกาสากล และมีการบาดเจ็บล้มตาย พอถึงเวลาขึ้น ICC นั่นก็แล้วแต่ท่านว่าจะสาวถึงคนสั่ง หรือจะเก็บความลับให้ตายไปกับท่านใน "คุกโลก" ก็แล้วแต่ใจจะไขว้คว้า...
โดยส่วนตัวผมยกสองมือสนับสนุนการให้สัตยาบรรณต่อ ICC.