อยากให้คุณ จขกท ไปพบสูติ-นรีแพทย์ มากกว่ามารอคำตอบตามเว็บไซต์แบบนี้
จากภาพที่ดูน่าจะเป็นมดลูกต่ำ (หย่อน) คือ ภาวะที่มดลูกเคลื่อนตัวต่ำลงมาในช่องคลอด หรือมีการหย่อนของผนังช่องคลอด ซึ่งเป็นมาตั้งแต่กำเนิดหรือเกิดจากความหย่อนยานของของกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อบริเวณอุ้งเชิงกราน (อุ้งเชิงกรานหย่อนหรือกระบังลมหย่อน) ที่ทำหน้าที่ในการพยุงให้มดลูกสามารถวางตัวอยู่ในช่องเชิงกรานได้ ซึ่งภาวะมดลูกต่ำนี้มักจะเกิดขึ้นกับหญิงวัยกลางคนและหญิงสูงวัย
ภาวะมดลูกต่ำนี้ใคร ๆ ก็เป็นได้ และเป็นโรคสตรีที่อันตรายคือ ทำให้รู้สึกไม่สุขสบาย เช่น ปวดถ่วงท้องน้อย ปวดหลัง, หากตั้งครรภ์อาจทำให้คลอดก่อนกำหนดได้, กรณีที่มีความรุนแรง อาจทำให้ปัสสาวะและอุจจาระลำบาก ช่องคลอดด้านหน้าและด้านหลังโป่งออกหรือที่เรียกว่ากะบังลมหย่อน, อาจเกิดแผลเสียดสีที่ปากมดลูกหรือตัวมดลูก, ตัวมดลูกอาจคั่งเลือดและบวม นอกจากนี้ภาวะมดลูกต่ำยังหมายถึงความมั่นใจที่จะมีกิจกรรมรักด้วย เพราะหากไม่ได้รักษา ดูแลแก้ไขที่ดี อาจนำไปสู่ปัญหาเวลาที่มีเพศสัมพันธ์จะเจ็บ มีเลือดออก และการสอดใส่ของคู่สมรสอาจไม่ได้ดังใจจนทำให้เกิดการเบื่อหน่ายและยังผลต่อสุขภาพจิตของทั้งคู่รวมไปถึงปัญหาการไปมีบ้านเล็กบ้านน้อยได้
มดลูกต่ำเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น คลอดบุตร, อายุมากขึ้นทำให้กล้ามเนื้อเชิงกรานหย่อน, ผ่านการมีเพศสัมพันธ์มาก, ไม่มีรังไข่, เคยผ่าตัดอุ้งเชิงกรานหรือท่อปัสสาวะ, น้ำหนักตัวมาก, ท้องผูกเป็นประจำ ต้องเบ่งนาน, พันธุกรรม, แม้กระทั่งการยกของหนักเป็นประจำ
สำหรับอาการก็มีอยู่หลายลักษณะ เช่น รู้สึกคับ แน่น บวม ภายในช่องคลอด, มีเลือดออกจากช่องคลอด, ระบบปัสสาวะผิดปกติ, ระบบขับถ่ายผิดปกติ, ตกขาวคล้ายหนองปนเลือด, ปวดหลังเวลายืน แต่จะหายปวดเมื่อนอนพักผ่อน, มีความรู้สึกเหมือนมีอะไรมาอยู่บริเวณปากช่องคลอดและอยากเบ่งก้อนนั้นให้หลุดออกมา, มีก้อนอะไรยื่นออกมาจากช่องคลอด พบในกรณีที่เป็นมานาน อาจจะเป็นส่วนของช่องคลอดเองและอาจจะเป็นส่วนของปากมดลูกที่ยื่นออกมา
การตรวจสอบตนเองว่าประสบภาวะมดลูกต่ำหรือไม่
ความจริงดูภายนอกไม่รู้หรอก ต้องอาศัยการสังเกตดูว่าภายในช่องคลอดซึ่งปกติยาวประมาณ 3 นิ้ว หรือเมื่อลองเอานิ้วสอดเข้าไปจนสุดแล้ว ปลายนิ้วจึงอาจสัมผัสไปถึงปากมดลูกได้ แต่ถ้าใครสอดเข้าไปแค่ครึ่งนิ้ว หรือสัมผัสดูเหมือนมีอะไรห้อยย้อยลงมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าลองออกแรงเบ่งหรือไอแรง ๆ ดู แล้วพบว่ายิ่งยื่นห้อยลงมาแล้วละก็ แสดงว่าต้องมีการหย่อนของกระบังลมเกิดขึ้นบ้างแล้วไม่มากก็น้อย รายที่เป็นมากอาจพบปัสสาวะเล็ดออกมาพร้อมกับเวลาไอด้วย และควรลองขมิบช่องคลอดดูด้วยว่ายังรู้สึกว่ามีผนังช่องคลอดมาบีบรัดนิ้วมือ อย่างกระชับแน่นหรือไม่ เพื่อประเมินความแข็งแรงของกล้ามเนื้อที่หย่อนเหล่านั้น
สำหรับการรักษาว่าจะใช้วิธีการใดนั้น ขึ้นอยู่กับความรุนแรงหรือระยะของภาวะมดลูกต่ำที่เป็นอยู่
1. ถ้าเป็นไม่มาก (สังเกตได้จากการเริ่มมีปัสสาวะเล็ดขณะไอหรือจาม) สามารถฝึกการบริหารกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานโดยการ ขมิบ โดยการขมิบที่ถูกต้องก็เหมือนกับเวลาที่เรากลั้นอุจจาระ ให้ทำค้างไว้เป็นเวลา 5–10 วินาที ต่อครั้ง ปล่อยตัวตามสบายประมาณ 3 วินาทีแล้วขมิบใหม่ ทำเป็นเซต เซตละ 10 ครั้ง วันละ 10 เชต นับรวมได้ 100 ครั้งต่อวัน
2. รักษาด้วยการใช้ห่วงพยุงมดลูก และการผ่าตัด หรือภาษาที่เรามักจะพูดกัน คือ การทำรีแพร์ ซึ่งจะใช้เมื่อประสบภาวะมดลูกต่ำอย่างรุนแรง การทำรีแพร์นั้นจะต้องพิจารณาถึงปัจจัยอื่น ๆ ของผู้ป่วยด้วย เช่น อาการที่แสดงออกมา อายุ ความสัมพันธ์ทางเพศ หรือความต้องการมีบุตร
มียากระชับช่องคลอดและมดลูกเหมือนกัน เช่น ยาว่านชักมดลูก แต่ไม่อยากให้คุณทดลอง แพทย์เป็นบุคลากรที่เหมาะสมที่สุดในการวินิจฉัยถึงสาเหตุและให้วิธีการรักษาที่ถูกต้อง อย่าอายหรือกลัวที่จะไปพบแพทย์ และอย่าลืมปรึกษาสามี