อันดับ 10. Puerto Princesa Subterranean River National Park, Philippines
อุทยานแห่งชาติแม่น้ำใต้ดินปวยร์โต-ปรินเซซา หนึ่งใน มรดกโลก ของประเทศฟิลิปปินส์ และถูกยกให้เป็น หนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องไปเยือนก่อนตาย เป็นแม่น้ำใต้ดินที่แวดล้อมไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ มีความยาว 8.2 กิโลเมตร ถือเป็น แม่น้ำใต้ดินที่ยาวที่สุดในโลก ตั้งอยู่ใต้ภูเขาหินปูนรูปทรงแปลกตา เป็นศูนย์รวมนานาสัตว์และพันธุ์พืช สำหรับการท่องเที่ยวในอุทยานนั้น สิ่งที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือ การนั่งเรือเข้าไปในถ้ำเพื่อชมความสวยงามและสัมผัสแม่น้ำใต้ดินอย่างใกล้ชิด อันดับ 9. Ha Long Bay, Vietnam
ฮาลองเบย์ อ่าวแห่งหนึ่งในพื้นที่ของอ่าวตังเกี๋ย ตั้งอยู่ในจังหวัดกว่างนิงห์ ทางตอนเหนือของกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ชื่อตามการออกเสียงในภาษาเวียดนามคือ Vinh Ha Long หมายถึง อ่าวแห่งมังกรผู้ดำดิ่ง ขึ้นชื่อว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความงดงามมหัศจรรย์ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ประกอบด้วยหมู่เกาะหินปูนน้อยใหญ่กว่า 3,000 เกา ะบนเนื้อที่กว่า 1,500 ตารางกิโลเมตร ยูเนสโกยกให้ ฮาลองเบย์ เป็น มรดกโลก ใน ปี 1994อันดับ 8. Angkor Wat, Cambodia
นครวัด ศาสนสถานสำคัญซึ่งตั้งอยู่ในเมืองพระนคร จังหวัดเสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา ปราสาทนครวัดมีขนาดใหญ่มากถึง 200,000 ตารางเมตร สร้างในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 12 โดยใช้หินรวม 600,000 ลูกบาศก์เมตร ใช้แรงงานช้างกว่า 40,000 เชือก และแรงงานคนนับแสน เทวสถานแห่งนี้ถือเป็นที่สุดของสถาปัตยกรรมเขมรสมัยคลาสสิกรุ่งเรือง ได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของประเทศกัมพูชา โดยปรากฏในธงชาติ และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวหลัก ได้รับการจดทะเบียนเป็น มรดกโลก ภายใต้ชื่อ เมืองพระนคร
อันดับ 7. The Golden Pavilion, Japan
ปราสาททอง หรือ ปราสาทคินคาคุจิ เป็นอารามที่มีชื่อเสียงที่สุดของประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่ที่เมืองเกียวโต จังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 1940 เพื่อเป็นที่พักของโชกุนอาชิคางะ โยชิมิตสึ (ใครเคยดูอิคคิวซังน่าจะพอนึกออก) ภายหลังถูกไฟไหม้ทำลายในช่วงสงครามโอนิง ปี 1950 และสร้างขึ้นใหม่ใน ปี 1955 โดยถอดแบบจำลองโครงสร้างจากของจริงในยุคศตวรรษที่ 14 และปิดคลุมด้วยแผ่นทองคำบริสุทธิ์ทั้งหลัง เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปและโบราณวัตถุอันมีค่า และหนึ่งสัญลักษณ์อันโดดเด่น คือ นกฟีนิกซ์ บนยอดปราสาท ได้รับการจดทะเบียนเป็น มรดกโลก ในปี 1994
อันดับ 6. Galpagos Islands, Ecuador
หมู่เกาะกาลาปากอส เป็นหมู่เกาะกลางมหาสมุทรแปซิฟิก ครอบคลุมพื้นที่ในทะเล 59,500 ตารางกิโลเมตร อยู่ห่างจากชายฝั่งด้านตะวันตกของเอกวาดอร์ ราว 1,000 กิโลเมตร หมู่เกาะนี้เกิดจากการสะสมตัวของลาวาจากภูเขาไฟ เมื่อ 7-9 ล้านปีมาแล้ว มีความมหัศจรรย์อันดึงดูดทั้งด้านธรณีวิทยา สัตววิทยา และนิเวศวิทยา จดทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อ ปี 1978 แต่เพราะการท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น จนส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมอย่างรุนแรง ทำให้ยูเนสโกจัด หมู่เกาะกาลาปากอส ให้เป็นมรดกโลกที่อยู่ในสภาวะอันตราย ใน ปี 2007 อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน คณะกรรมการมรดกโลกของยูเนสโกลงมติ ตัดสินถอนชื่อ หมู่เกาะกาลาปากอส ออกจากบัญชีมรดกโลกที่เสี่ยงอันตรายสูญเสียสภาพแวดล้อม หลังทางการหมู่เกาะกาลาปากอสจัดการพัฒนาแก้ปัญหาหมู่เกาะได้ดีขึ้น อันดับ 5. Santorini, Greece
ซานโตรินี เป็นเมืองบนเกาะตอนใต้ของทะเลอีเจียน ซึ่งเกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟ เล่าขานกันเป็นตำนานแห่งแอตแลนติส เป็นหมู่เกาะที่มีชื่อเสียงที่สุดของประเทศกรีซ โดดเด่นด้วยหมู่บ้านสีขาวสถาปัตยกรรมสไตล์ไซคลาดิกที่ลดหลั่นกันตามผาสูง ตัดกับสีท้องฟ้าและมหาสมุทร เกิดเป็นทัศนียภาพอันเป็นเอกลักษณ์ ด้วยภูมิศาสตร์ที่สวยงามจนได้รับการโหวตจากนักท่องเที่ยวว่าเป็นเกาะอันดับต้นๆ ของโลกที่ต้องมาเยือน