เรียกว่าเป็นการแก้เกมที่ได้รับการจับดูอย่างมาก เมื่อค่ายรถยนต์ Honda ประกาศศักดาส่งรถยนต์อีโค่คาร์ 4 ประตูลงชิงชัยในชาวงโค้งสุดท้ายรถคันแรก ล่าสุดมันคลอดออกมาในนาม Honda Brio amaze ที่เริ่มวางจำหน่ายแล้วใน Motor Expo 2012 Honda Brio Amaze จัดได้ว่าเป็นรถยนต์ที่มีความน่าสนใจในตัว ด้วยการสั่งสมประสบการณ์ในกลุ่มรถซีดานของ Honda เอง หรือจะเป็นในส่วนของความน่าสนใจในตัวโปรดักส์ ที่เปิดตัวมารอบแล้วรอบเล่า และมันก็มีความลงตัวทางด้านการออกแบบที่ต้องการลบคำสบประมาท จากที่เคยในรุ่น 5 ประตู ซึ่งเป็นอีกข้อหนึ่งที่ทำให้รุยนต์คันนี้ต้องแก้ลำในกลุ่มอีโค่คาร์ให้ได้ จากความคาดหวังจากสาวกเอง
ในที่สุดหลังจากเปิดตัวเมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา Honda ก็ชวนเรามาสัมผัสรถยนต์ Honda Brio Amaze ที่เขาใหญ่ โดยในการขับขี่ครั้งนี้เป็นการทดสอบหมู่ในช่วงเวลาสั้นๆ แต่มีทุกอย่างลงตัวได้ในความจน ต้องปริปากบอกทุกคนว่า มันมีดีมากมายจนน่าคบหา เมื่อยิ่งได้แบรนด์ฮอนด้า การันตีด้วย นี่จะเป็นอีกหนึ่งอีโค่ค่าร์ที่ดีในประเทศไทย
การขับทดสอบ Honda Brio Amaze ใหม่ เราเริ่มต้นในวันนี้เรียกน้ำย่อย กับรุ่น M/T หรือเกียร์ธรรมดา ที่จอดนิ่งเตะรอให้ขับขี่ ด้วยหลายคนมองว่าเกียร์ธรรมดา อาจจะไม่ใช่ตัวเลือกของเมือง และเราก็ถือโอกาสนำมันออกมาขับขี่กัน
เส้นทางการทดสอบนั้นไม่ได้มีการกำหนดรูปแบบ บอกแต่แค่ว่า “ 15 นาทีนะคะ” นึกถึงอารมณ์เช่าโกคาร์ทขับในสนาม แต่เมื่อเหลียวมองว่านี่คือรถยนต์อีโค่คาร์ ที่มีคนสนใจไม่น้อย มันยิ่งเย้ายวนให้เอามันไปขับ แบบว่าใจมันเรียกร้องมากขึ้น
จากครั้งแรกที่เจอ Honda Brio amaze ในการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ รถอีโค่คาร์คันนี้ถือเป็นการพลิกเกมที่สำคัญและเราเฝ้ารอที่จะได้ขับทดสอบมัน ด้วย เรือนร่างที่ถูกผลักดันออกมาในสไตล์สปอร์ตและดูหรูหรา ที่ทั้งหมด บรรจุในความยาว เพียงไม่ถึง 4 เมตร เพื่อตอบสนองความคล่องตัวมากขึ้น โดยเสน่ห์ความหรูก็เริ่มจาก การเปลี่ยนจังหน้าดีไซน์ใหม่ เส้นสายสปอร์ตเดิมที่ลงตัวอยู่แล้วผลัดเข้ากับด้านข้างของตัวรถ ที่ให้รายละเอียดเส้นสายแยบคมในการข้บขี่มากยิ่งขึ้น ต่อเนื่องผ่านประตู สู่บ้านที่กลมกลืนแต่ปรับกลับมาความหรูรับเข้ากับไฟท้ายที่ดูสปอร์ต จัดวางลงตัวกับคิ้วโครเมี่ยม ที่ทั้งหมดตั้งบนล้ออัลอย ขอบ 14 นิ้ว รัดด้วยยาง 175/65/R14 จาก Michelin Energy Xm2
เปิดประตูเข้ามาภายในสีเบจต้อนรับเราเป็นอย่างดี ในการให้อารมณ์ที่สื่อความอบอุ่นตามสไตล์รถนั่ง และมันถือว่าเป็นรถยนต์ที่มีความลงตัวพอสมควร คอนโซลหน้าปรับให้มีชิ้นส่วนพลาสติกสีน้ำตาลเข้ามา ซึ่งดูแปลกตาแต่กลับกันก็ลดแสงสะท้อนในการขับขี่กลางวันได้ดีและลงตัวมากขึ้น
เบาะนั่งยังคงเป็นแบบชิเดียวจากรุ่น 5 ประตู ให้ความลงตัวมากยิ่งขึ้นในเรื่องโอบกระชับและความนั่งสบายของมันที่คงต้องยกนิ้วให้ เหลียวหลังไปก็พื้นที่วางขามากมาย และเราลองปรับเบาะในการใช้
งานจริงแล้วก็เห็นว่า Honda Brio Amaze มีพื้นที่วางขาที่ลงตัวไปพร้อมกับการเบานั่งที่นั่งสบายดุจโซฟาที่บ้าน เลยทีเดียว
เหยียบคลัทช์กระชากเกียร์เราพร้อมเข้าสู่การขับขี่ และ เมื่อปล่อยคลัทช์สวนคันเร่งก็พบว่า เจ้า Brio Amaze M/T นั้น มีคลัทช์สูงไปสักนิด เพราะ ต้องชักคลัทช์มาครึ่งทางจะได้ถึงจะเริ่มจับ ซึ่งไม่ค่อยเหมาะนักกับรถนั่ง ซึ่งควรต้องทำให้มีการใช้งานที่ง่ายไม่ยุ่งยากและเช่นเดิมมันต้องตอบสนองเร็วไปพร้อมกันด้วย
เราเริ่มเร่งเคลื่อนตัวข้างที่พบว่า เครื่อง 1.2 ลิต ร i-vtec 90 แรงม้า ตอบสนองดีเกินคาดอาจจะมาจากน้ำหนักตัว เพียง 935 ก.ก. เมื่อรวมเราและผู้โดยสาร ก็ประมาณว่าหนักเพียง ตันเศษๆ แต่ทั้งหมดถูกฉุดกระชากอย่างรวดเร็วรอบเครื่องตีไว จนแปปเดียว เสียงเครื่องอื้อๆพร้อมถีบตัว ดื้อๆ ก็ตามหมายถึงเราสุดในขัดจำกัด ที่ได้ตั้งเอาไว้ ซึ่งมันก็ค่อนข้างเร็วไปสักหน่อยยิ่งเมื่อพบว่า มันมาพร้อมกับอัตราทดเฟืองท้ายที่ 4.249 แต่เกียร์ 1 นั้น มีการเน้นให้เร่งดีมากๆที่อัตราทด 3.461 แต่ใครที่ชอบความสปอร์ตบอกได้เลยว่าห้ามพลาด
เราขลุกขลักกับเครื่องยนต์เล็กน้อย แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี และระหว่างการขับขี่สิ่งที่ฝโดเด่นขึ้นนั้นคงต้องบอกว่าเป็นระบบช่วงล่างที่เซทมาได้ใกล้เคียงกับรถยนต์คอมแพ็คคาร์บางรุ่นด้วยซ้ำ ในสไตล์หนึบและตอบสนองอย่างคล่องแคล่วว่องไวในการขับขี่ หลุมเล็กๆบางหลุมหายไปด้วยซ้ำ แต่ถึงแบบนั้นช่วงล่างด้านหน้าก็อ่อนกว่าด้านหลังเกน้อย แต่ก็ไม่ใช่ปัญหา เว้นแต่จะเจอโค้งที่ทรายอย่างระหว่างการทดสอบ ซึ่งแน่นอนว่า มันลื่น และเกิดอาการหน้าดื้อได้ง่ายกว่า และมันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ
ช่วงล่างที่ดี ยังให้ความลงตัวมาพร้อมกับระบบเบรกที่ดีขึ้นด้วย โดย ในครั้งนี้สามารถรู้สึกได้ถึงความแตกต่างในการขับขี่ ทีมวิศวกรได้เปิดเผยว่ามีการเปลี่ยนชุดปั้มเบรกใหม่ที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ไปพร้อมกัน ซึ่งทำให้มันใจยิ่งขึ้นในเรื่องการปราบฝูงม้า
ไม่นานนักเราก็ได้เวลาที่จะมาจับในรุ่นเกียร์ CVT ที่ครั้งนี้ขับกันยาวๆ ไปตามเส้นที่กำหนด และแม้จะมีน้ำหนักตัวมากขึ้น แต่ทุกอย่างในระหว่าเกียร์ธรรมดา กับ CVT มีความเหมือนกันในการขับขี่ โดยรวมอาจจะไม่รู้สึกแตกต่างทั้งในเรื่องช่วงล่างที่ยิ่งทดสอบความเร็วสูงขึ้นก็ยิ่งดี มั่นใจ รถไม่มีอาการโคลงหรือส่าย แม้จะเปลี่ยนเลนอย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับพวงมาลัยที่มีระยะฟรีบ้าง แต่ก็ไม่มากนัก ถามว่า
แม่ยำไหมก็โอเคในระดับที่รับได้ ถือว่าพอใช้ แต่เมื่อใช้งานจริงเช่นในการเปลี่ยนเลนความเร็วสูงนั้น มันกลับตอบสนองได้ดีกว่าที่คิดเอาไว้พอสมควร และในยามความเร็วสูงก็ให้น้ำหนักที่มั่นใจไปพร้อมกันด้วย
ความมั่นใจที่ดีในการขับขี่เราลองทำอัตราความเร็วสูงสุด Honda Brio amaze แล้วก็พบว่า วิศวกรยังคงนึกในเรื่องความปลอดภัยเป็นสำคัญ ล็อคความเร็วที่ 145 ก.ม./ช.ม. อย่างไม่เสื่อมคลาย
สิ่งที่น่าชมอีกเรื่องนั้นคือการเห็บเสียงเพราะ Honda Brio Amaze ทำได้ดีมาก ในเรื่องนี้มีการพัฒนาพอสมควร คุณจะไม่พบเสียงลมอู้ๆมาให้ได้ยิน แต่ เสียงจากซุ้มล้อ ระหว่างยางถนนก็อาจจะกวนใจบ้างพอควร ยิ่งขับความเร็วสูงแต่ก็ปกติเมื่อขับความเร็วเดินทาง ในระยะจริง 80-90 ก.ม./ช.ม.
ส่วนเรื่องอัตราประหยัด งานนี้ยังไม่ได้จับอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน แต่เราลองมองอัตราการใช้รอบเครื่องพบว่าที่ความเร็ว 100 ก.ม./ช.ม. จะใช้รอบเครื่องยนต์ราวๆ 1900 รอบต่อนาที และ ที่ความเร็ว 120 ก.ม./ช.ม. ใช้รอบเครื่องยนต์ 2300 รอบต่อนาทีเท่านั้น
Honda Brio Amaze มีดีหลายอย่างจนพอจะบอกได้ว่ามันเป็นตัวเลือกหนึ่งที่ไม่ควรพลาดในรถอีโค่คาร์ 4 ประตู ซึ่งแน่นอนเรายังมีเรื่องให้เล่าอีกมาในบทรีวิว ที่น่าจะพร้อมในเร็วๆนี้ ...