วันที่สองของการเดินทาง ย่างกุ้ง – หงสาวดี – พระธาตุมุเตา – พระราชวังบุเรงนอง – ย่างกุ้ง 07.00 น .รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
08.00 น.นำท่านเดินทางสู่ เมืองหงสาวดี (ระยะทางประมาณ 80 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง)
เมือง หงสาวดี (Hansawadee) หรือที่คนมอญเรียกว่า เมืองพะโค (Bago) เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน ทั้งทางด้านพระพุทธศาสนา และประวัติศาสตร์ชาติพม่า เป็นเมืองหลวงของชาวมอญมาก่อน ต่อมา พระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้ ยึดครองได้และสถาปนาเป็นศูนย์กลางอำนาจของราชวงศ์ตองอู เจริญรุ่งเรืองสุดขีดในรัชสมัยของพระเจ้าสิบทิศบุเรงนอง
นำท่านสักการะ พระธาตุมุเตา หรือ ชเวมอดอร์ (Shwe Mordore) องค์เจดีย์เก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองและยังเป็นอีก 1 ใน 5 มหาบูชาสถานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของพม่า ภายในบรรจุ พระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า เจดีย์องค์นี้เป็นศิลปะที่ผสมผสานระหว่างศิลปะพม่าและศิลปะของมอญได้อย่างกลมกลืน พระเจดีย์สูง 377 ฟุต สูงกว่า พระเจดีย์ชเวดากอง 51 ฟุต มีจุดอธิษฐานที่ศักดิ์สิทธิ์อยู่ตรงบริเวณยอดฉัตร ที่ตกลงมาเมื่อปี พ.ศ. 2473 ด้วยน้ำหนักที่มหาศาล ตกลงมายังพื้นล่างแต่ยอดฉัตร กลับยังคงสภาพเดิมและไม่แตกกระจายออกไป เป็นที่ร่ำลือถึงความศักดิ์-สิทธ์โดยแท้โดยเฉพาะส่งเสริมบารมีในเรื่องของธุรกิจการค้า และ สถานที่แห่งนี้ยังเป็นสถานที่ที่ พระเจ้าหงสาลิ้นดำ ตะเบ็งชเวตี้ ใช้เป็นที่เจาะพระกรรณ(หู) ตามพระราชประเพณีโบราณเพื่อทดสอบความกล้าหาญก่อนขึ้นครองราชย์ รวมถึง พระเจ้าสิบทิศบุเรงนองจะต้องกราบสักการะองค์พระเจดีย์ก่อนออกรบทุกครั้งห้องบรรทมของพระองค์จะต้องหันหน้าไปสู่ทิศที่พระธาตุตั้งอยู่
10.30 น.นำท่านเดินทางไปยัง วัดไจ้คะวาย เพื่อทำบุญใส่บาตรข้าวสวยแด่ภิกษุ สามเณร นับร้อยๆรูป ที่นี้เราจะใส่บาตรข้าวสวยเพียงอย่างเดียว สำหรับอาหารทางชาวบ้านจะจัดเตรียมไว้ต่างหาก (หรือถ้าต้องการถวายสิ่งอื่นๆ ก็สามารถนำไปได้ตามกำลังศรัทธาสิ่งที่ทางวัดต้องการขณะนี้คือ เครื่องเขียน สำหรับการศึกษาของ ภิกษุ สามเณร) สถานที่แห่งนี้เป็นโรงเรียนสอนพระพุทธศาสนานักธรรมชั้น ตรี โท และ เอก
ชม พระราชวังบุเรงนอง (Kanbawza Thardi Palace) พระราชวังแห่งนี้เคยเป็นที่ประทับของท่านผู้ที่ได้รับคำสรรเสริญว่าเป็น ผู้ชนะสิบทิศ และ พระนางสุพรรณกัลยา สมเด็จพระนเรศวรมหาราช หรืออีกชื่อนึงคือ กัมโพชธานี นับว่าเป็นพระราชวังใหญ่โตที่มีประตูทางเข้าออกถึง 10 ประตู สร้างโดยเกณฑ์ข้าทาสจากเมืองขึ้นต่างๆ โดยหนึ่งในนั้นมีเมืองเชียงใหม่และอยุธยารวมอยู่ด้วย ปัจจุบันพระราชวังแห่งนี้ได้เหลือเพียงแต่ร่องรอยทางประวัติศาสตร์ และถูกสร้างจำลองพระราชวังและตำหนักต่างๆ ขึ้นมาใหม่โดยอ้างอิงจากพงศาวดาร และความเข้าใจตามข้อมูลของกรมศิลปกรของรัฐบาลพม่า ภายในมีห้องบรรทม พระที่นั่งขี้ผึ้ง และพระที่นั่งสิงค์ (จำลอง)
กลางวันรับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารเจ้าสัว มีน้ำพริกปาราชอง พร้อมกุ้ง
แม่น้ำเผาคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ด
บ่าย นำท่านนมัสการ พระพุทธไสยาสน์เฉว่ตาเหลียว (Shew Thalyang Buddha) หรือ พระนอน ที่จัดว่าเป็น พระนอนที่งามที่สุดในประเทศพม่า สร้างโดยพระเจ้าเมงกะติปะ กษัตริย์มอญ เมื่อ พ.ศ.1537 (ค.ศ.994) หรือในสมัยอาณาจักรสุธรรมวดี ราวพุทธศตวรรษที่ 11 – 16 (พ.ศ. 1100 – 1600) ปัจจุบันพระนอนองค์นี้มีอายุ 1018 ปี องค์พระยาว 55 เมตร สูง 16 เมตร โดยพระบาทจะวางเหลื่อมกันซึ่งจะเป็นลักษณะที่ไม่เหมือนกับพระนอนของไทยที่นิยมสร้างให้เสมอกัน กล่าวกันว่าพระบาทที่วางเหลื่อมกันเป็นกิริยาของพรุทธองค์ก่อนเสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน นำท่านสักการะ เจดีย์สีขาว องค์พระเจดีย์ที่สร้างขึ้นโดยพระเจ้าสิบทิศบุเรงนอง ซึ่งน้อยคนนักที่จะได้ไปสักการะ ภายในบริเวณของวัดมีของที่ระลึกจำหน่ายหลายชนิด ส่วนใหญ่จะเป็น
งานฝีมือ ไม้แกะสลักฝีมือช่างหงสาวดี เช่น พระพุทธรูปแกะสลักจากไม้จันทน์หอม กล่องใส่นามบัตร และอื่นๆ อีกหลายชนิด จากนั้นนำท่านเดินทางต่อเพื่อชม พระพุทธรูป 4 ทิศ หรือ เจดีย์ไจ้ปุ้น (Kyaik Pun Pagoda) สร้างในปี 1476 ก่อเป็นแกนทึบสี่เหลี่ยมอยู่ตรงกลาง รอบๆ มีพระพุทธรูปนั่งสูง 30 เมตร ประดิษฐานอยู่ทั้งสี่ทิศ แทนองค์พระพุทธเจ้าทั้งสี่พระองค์ในภัทรกัป เล่ากันว่าสร้างขึ้นโดย สตรีสี่พี่น้องที่มีพุทธศรัทธาสูงส่งและต่างให้สัตย์
สาบานว่าจะรักษาพรหมจรรย์ไว้ชั่วชีวิต ต่อมา 1 ใน 4 สาวหนีไป
แต่งงาน ร่ำลือกันว่าทำให้พระพุทธรูปองค์นั้นเกิดรอยร้าวขึ้นทันที ได้เวลาพอสมควรนำท่านเดินทางกลับเมืองย่างกุ้ง
ค่ำรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร Royal Garden ลิ้มลองเมนู กั้งทอดกระเทียมพริกไทย กุ้งผัดพริกแดง
เดินทางเข้าสู่ที่พัก พักผ่อนตามอัธยาศัย
เข้าที่พักระดับ 5 ดาว ณ โรงแรมเซโดนา ย่างกุ้ง (Sedona Hotel Yangon) หรือ เทียบเท่า