อายุเป็นเพียงตัวเลข คงไม่ใช่เรื่องแปลกในปัจจุบัน การเล่นเกมส์ทายอายุกับเพื่อนใหม่ที่เราเพิ่งรู้จักกลับกลายเป็นเรื่องที่ค่อนข้างท้าทาย เมื่อวิวัฒนาการด้านความงามก้าวล้ำมากจนไม่เพียงแค่หยุดตัวเลขของอายุไว้ แต่สามารถย้อนตัวเลขเหล่านั้นกลับไปได้เป็นสิบปี แถมยังทำให้คุณสวยกว่าเดิมอีก วิวัฒนาการที่ว่านั้น พัฒนาขึ้นมาจากการศึกษาวิจัยที่เกี่ยวข้องกับความชรา บนคำถามที่ว่า ทำไมคนเราถึงแลดูแก่ขึ้นตามอายุที่เพิ่มขึ้น อะไรที่เป็นตัวการที่ทำให้คนอายุย่างเข้าเลขสี่แตกต่างจากหญิงสาววัยยี่สิบต้นๆ โครงหน้าที่งดงามนั้น ประกอบด้วยโครงสร้างสำคัญ 4 ชั้นด้วยกัน เริ่มตั้งแต่ชั้นลึกสุดคือกะโหลกศีรษะ ซึ่งเป็นเสมือนโครงหลักสำคัญของใบหน้า ถัดขึ้นมาคือชั้นกล้ามเนื้อใบหน้าที่ใช้ในการแสดงอารมณ์ต่างๆ เหนือกล้ามเนื้อเหล่านั้นเป็นชั้นไขมัน ที่ทำให้ใบหน้าดูอวบอิ่ม ส่วนชั้นนอกสุดคือผิวหนัง ซึ่งเปรียบดั่งผืนผ้าใบด้านนอกสุด
อายุที่เพิ่มขึ้นทำให้โครงหน้ามีการเปลี่ยนแปลงไป โครงกระดูกใบหน้า มีการยุบตัว และเปลี่ยนแปลง กระดูกบริเวณขมับ โหนกแก้ม กระดูกเบ้าตา กระดูกในส่วนของกลางใบหน้าและฟันบนยุบตัวลง เมื่อโครงสร้างเหล่านี้ยุบลง ก็เปรียบเสมือนเสาค้ำยันของผิวหนังหายไป ทำให้ใบหน้าแลดูคล้อยและแก่ลง ยิ่งกระดูกยุบตัวลงมากเท่าไร ใบหน้าก็แลดูแก่ลงมากเท่านั้น การแก้ไขโครงกระดูกของใบหน้าส่วนที่เปลี่ยนแปลงไป ให้กลับมาเป็นปกติ จึงเป็นเหมือนการตั้งเสาค้ำใหม่ให้ผิวหนัง โครงผ้าใบชั้นนอกสุดก็จะถูกยกขึ้น ผลลัพธ์ที่ได้คือการย้อนวัยให้ใบหน้ากลับมาสาวขึ้นอีกครั้ง
ในอดีตการฉีด
ฟิลเลอร์นั้นมักฉีดลงในชั้นผิวหนังและชั้นไขมันเพื่อเติมเต็มร่องริ้วรอยต่างๆ แต่ในปัจจุบันเมื่อเราทราบถึงปัญหาหลักของความหย่อนคล้อยของผิวหน้าที่แท้จริง ว่ามาจากการยุบตัวลงของโครงกระดูกใบหน้า การปรับแก้โครงกระดูกใบหน้าจึงเป็นการตอบโจทย์ที่ตรงจุดที่สุด ในปัจจุบันเทคนิคที่ง่ายที่สุดในการแก้โครงสร้างหน้านั้นคือการฉีดสารเติมเต็มหรือฟิลเลอร์ วางลงไปแนบชิดติดกับชั้นกระดูกในจุดสำคัญต่างๆบนใบหน้า จุดแรกที่พิจารณาคือบริเวณขมับ การเติมฟิลเลอร์ให้ขมับเต็มขึ้นถือเป็นการสร้างเสาค้ำยันผิวหนัง สารฟิลเลอร์ที่ไปเติมเต็มบริเวณขมับ จะดึงเอาผิวหนังบริเวณขมับให้ยกตัวขึ้น ผิวหน้าที่อยู่ตอนล่างของขมับทั้งหมด ก็จะถูกโกยขึ้นมาอย่างอัตโนมัติ ตำแหน่งต่อไปที่สำคัญคือบริเวณกระดูกเบ้าตา ซึ่งแบ่งแยกย่อยเป็นส่วนบนและส่วนล่าง การเติมเต็มส่วนบนนั้นเริ่มที่บริเวณกระดูกหางคิ้วเพื่อยกคิ้วขึ้น ทำให้ดวงตาเปิดกว้างขึ้น หนังตาบนเปิดเพิ่มมากขึ้น แลดูสดใสขึ้น ส่วนกระดูกเบ้าตาล่างนั้น ถือเป็นส่วนที่สำคัญที่สุด โดยเฉพาะตำแหน่งของหางตาบริเวณโหนกแก้ม ส่วนนี้หากใช้ฟิลเลอร์ได้อย่างมีศิลปะผนวกกับเทคนิคขั้นสูง ผลลัพธ์ที่ได้จากการฉีดฟิลเลอร์บริเวณโหนกแก้มนี้ ค่อนข้างมหัศจรรย์ เพราะสามารถแก้ไขปัญหาร่องน้ำตา ร่องแก้ม และความคล้อยของแก้มได้ในคราวเดียวกัน ส่วนต่อมาคือบริเวณข้างปีกจมูก ส่วนนี้จะเป็นตำแหน่งของกระดูกใบหน้าส่วนกลางที่ยุบตัว ทำให้เกิดร่องแก้มขึ้น การเติมเต็มกระดูกส่วนนี้จึงช่วยให้ร่องแก้มเต็มขึ้นได้อย่างเป็นธรรมชาติ
การฉีดฟิลเลอร์ยกหน้า แก้ไขโครงสร้างกระดูกหน้านั้น ต้องเริ่มฉีดไล่จากบนลงล่าง จากด้านนอกเข้าด้านใน นั่นคือต้องประเมิณตั้งแต่บริเวณขมับ ไล่ไปถึงโหนกแก้ม และมาจบลงที่ร่องแก้มข้างจมูก เพียงเท่านี้ เวทย์มนต์ของฟิลเลอร์จะทำให้คุณย้อนอายุได้เป็นสิบปีเลยทีเดียว การฉีดฟิลเลอร์เทคนิคนี้ ต้องเข้าใจถึงกายวิภาคของใบหน้าอย่างลึกซึ้ง อีกทั้งต้องอาศัยประสบการณ์ของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นอย่างมาก เพราะยิ่งฉีดลึกมากเท่าไร ก็ยิ่งเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียงมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นหากต้องการจะฉีดฟิลเลอร์เพื่อยกหน้า ต้องศึกษาหาข้อมูลให้ดี ประการแรกคือฟิลเลอร์ที่ฉีดต้องผ่าน อย. นั่นคือฟิลเลอร์แบบสลายได้100% ที่ผลิตมาจาก กรดไฮยาลูโรนิค หรือ HA เท่านั้น ประการที่สองคือความชำนาญของแพทย์ หากสองข้อนี้ผ่าน ก็ลุยเลยครับ แล้วคุณจะรู้สึกประทับใจในเวทย์มนต์ของฟิลเลอร์ แบบที่ว่าเผลอเมื่อไรเป็นอันต้องส่องกระจกดูหน้าตนเองแล้วแอบอมยิ้มทั้งวัน
ข้อมูลโดย นายแพทย์เจริญลักษณ์ คงดำเนิน (หมอโจ) แพทย์ผู้บริหาร Skenique Clinic
เรียบเรียงโดย Touch Magzine