‘ดีพลัส’ แรงฉุดไม่อยู่ เพียงเดือนเศษ ประกาศเพิ่มขนาดกองทุนครั้งที่ 3 ที่ 15,000 ล้านบาท ผลตอบแทนเด่น ตอบรับลูกค้าลงทุน พบกองทุน ‘ดีพลัส’ ได้ที่บูธธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย Money Expo กรุงเทพฯ บลจ.ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล พร้อมเพิ่มขนาดกองทุนซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล เดลี่ อินคัม พลัส ครั้งที่ 3 เป็นหมื่นห้าพันล้านบาท ใช้เวลาเพียงเดือนเศษยอดลงทุนลูกค้าเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ชูกลยุทธ์ Enhanced Return เน้นสร้างยิลด์ที่ดี จับจังหวะการลงทุนเหมาะสม ความเสี่ยงไม่สูง ตอบรับความต้องการลูกค้าภายใต้ภาวะดอกเบี้ยต่ำ พร้อมนำเสริฟ์กองทุน ‘ดีพลัส’ ที่บูธธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย Money Expo กรุงเทพฯ นายจุมพล สายมาลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีความยินดีเป็นอย่างมากที่กองทุนเปิด ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล เดลี่ อินคัม พลัส (CIMB-PRINCIPAL DPLUS) ได้รับการตอบรับจากลูกค้ามียอดลงทุนเข้ามาจำนวนมาก ทำให้เราใช้เวลาเพียงเดือนกว่าๆ ภายหลังจากที่ได้เพิ่มทุนกองทุนไปครั้งที่ 2 ทำให้กองทุนต้องเพิ่มทุนเงินทุนโครงการเป็นครั้งที่ 3 โดยเพิ่มทุนเป็น 15,000 ล้านบาท เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2558 ที่ผ่านมา เพื่อรองรับเงินลงทุนที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง
กองทุน CIMB-PRINCIPAL DPLUS ถือเป็นกองทุนที่ได้รับการตอบรับอย่างดีจากนักลงทุน คือนับตั้งแต่ช่วงการเปิดเสนอขาย IPO กองทุนมียอดลงทุนเต็มมูลค่าโครงการที่ 3,153 ล้านบาท โดยวันที่จดทะเบียน (24 กุมภาพันธ์ 2558) กองทุนประกาศเพิ่มทุนครั้งที่ 1 ทันทีเป็น 5,000 ล้านบาท และใช้เวลาเพียง 4 วัน กองทุนเพิ่มทุนครั้งที่ 2 (6 มีนาคม 2558) ที่ 10,000 ล้านบาท และในครั้งนี้กองทุนเพิ่มทุนครั้งที่ 3 ที่ 15,000 ล้านบาท เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2558 โดยใช้เวลาเพียงเดือนเศษเท่านั้น ถือว่าเป็นกองทุนที่ได้รับการยอมรับจากนักลงทุนและผู้สนับสนุนการขาย โดยเฉพาะธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ทำให้บริษัทฯ สามารถเพิ่มทุนกองทุนเป็น 15,000 ล้านบาท ภายในเวลาเพียง 2 เดือน นับจากวันที่จดทะเบียนกองทุน
จุดเด่นของกองทุนเปิด ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล เดลี่ อินคัม พลัส (CIMB-Principal DPLUS) คือ การออกแบบการลงทุนที่มีความยืดหยุ่นและเพิ่มอายุเฉลี่ย (Duration) ประมาณ 1 ปี ด้วยกลยุทธ์ Enhanced Strategy ลงทุนในตราสารหนี้ทั้งในประเทศและต่างประเทศชั้นดี บริหารพอร์ตการลงทุนในแต่ละช่วงขณะเพื่อมองหาโอกาสการเพิ่มผลตอบแทนที่เพิ่มมากขึ้น เน้นที่จังหวะการลงทุนที่ดีภายใต้ภาวะดอกเบี้ยทรงต่ำและระดับต่ำ ทำให้กองทุนสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดี โดยนับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนอยู่ที่ 3.51% ต่อปี (ณ 30 เม.ย. 2558)
“ภายหลังจากที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้มีการประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% มาสู่ระดับ 1.50% ซึ่งเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 2 ในปีนี้ รวมทั้งสองครั้งปรับลด 0.50% สะท้อนให้เห็นถึงความกังวลต่อเศรษฐกิจไทยที่อยู่ชะลอตัวมากกว่าที่คาด แม้ว่าการเบิกจ่ายงบลงทุนภาครัฐจะทำได้เพิ่มขึ้นและภาคท่องเที่ยวขยายตัว แต่ไม่เพียงพอที่จะชดเชยการส่งออกและการบริโภคที่อ่อนแรงในไตรมาส 1/58 ซึ่งทำให้ภาวะอัตราดอกเบี้ยของไทยอยู่ในระดับต่ำและคาดว่าจะทรงตัวต่อไปอีกช่วงระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งสอดคล้องกับมุมมองการลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ในปีนี้ของทาง บลจ.ซีไอเอ็มบี- พรินซิเพิล ที่มองว่าในปีนี้ภาวะอัตราดอกเบี้ยไทยจะอยู่ในภาวะทรงตัวระดับต่ำ ดังนั้น การจัดพอร์ตการลงทุนในส่วนที่ลงทุนในตราสารหนี้ นักลงทุนอาจจะต้องพิจารณาเลือกลงทุนกองทุนที่มีอายุตราสารลงทุนประมาณ 1 ปี เพื่อสามารถที่จะเพิ่มผลตอบแทนได้ในขณะที่ความเสี่ยงไม่สูงมากนัก จึงเป็นที่มาที่ทำให้กองทุน CIMB-Principal DPLUS เป็นหนึ่งกองทุนที่นักลงทุนเลือกลงทุน อย่างไรก็ตามนับจากนี้เราคาดหมายผลตอบแทนที่ประมาณ 2.30%-2.50% ต่อปีภายหลังจากที่มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงมา” นายจุมพลกล่าว
ทั้งนี้ นักลงทุนที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดกองทุนนี้ได้ที่บูธธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ใน
งานมหกรรมการเงิน Money Expo กรุงเทพฯ ครั้งที่ 15 วันที่ 7-10 พฤษภาคม 2558 ที่อาคารชาเลนเจอร์ 2-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี บริษัทฯ ขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่เชื่อมั่นและไว้วางใจในการลงทุนในกองทุนของเรา บริษัทเชื่อมั่นว่ากองทุน CIMB-Principal DPLUS จะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้ลูกค้าอย่างเหมาะสมและเป็นหนึ่งกองทุนตราสารหนี้ที่ลูกค้าเลือกลงทุน
กองทุนเปิดซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล เดลี่ อินคัม พลัส (CIMB-Principal DPLUS) ซื้อ-ขายได้ทุกวันทำการ ไม่มีค่าธรรมเนียมในการซื้อ-ขาย บุคคลธรรมดาไม่เสียภาษีจากการลงทุนกองทุนมีการป้องกันความ เสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน โดยผู้ที่สนใจสามารถขอสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ทุกสาขาทั่วประเทศหรือที่ บลจ.ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล จำกัด โทร.0 2686 9595
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลของกองทุนรวมโดยเฉพาะอย่างยิ่งนโยบายการลงทุน ความเสี่ยงและผลการดำเนินงานของกองทุนรวมที่เปิดเผยไว้ในเวบไซต์ของบริษัท หรือสามารถขอข้อมูลได้จากฝ่ายการตลาดก่อนตัดสินใจลงทุน
Credit:
Facebook MT Multimedia
