เมืองดัชต์ “เนเธอร์แลนด์” เป็นเมืองเล็กๆที่ตั้งอยู่ในทวีปยุโรป เป็นประเทศที่เปิดรับผู้คนจากหลายๆเชื้อชาติมารวมตัวกัน นักท่องเที่ยวที่จะมาที่นี่ ไม่ต้องกลัวว่าจะสื่อสารไม่รู้เรื่องเพราะคนส่วนมากพูดภาษาอังกฤษได้ คนที่นี้เป็นมิตร ใจดี ยิ้มแย้มแจ่มใส และเป็นอีกเมืองที่บรรยากาศดีมากๆ เป็นเมืองที่สะอาด อากาศดี มลพิษน้อยเพราะส่วนใหญ่คนที่นี่จะปั่นจักรยานกันเกือบทั้งเมือง
อีกทั้งยังมีคูคลองหลายสายที่เป็นการคมนาคม เป็นการเพิ่มเสน่ห์ในการเดินทางอีกทางหนึ่งใครที่ไปเที่ยวเมืองดัชต์ก็คงจะได้ลิ้มลองวัฒนธรรมน่ารักๆแบบนี้
เมืองดัชต์ถือเป็นอีกประเทศที่ชื่นชอบอิสระและรักความสนุกสนาน ตอนกลางวันเราสามารถปั่นจักรยานเก็บภาพธรรมชาติ เที่ยวพิพิธภัณฑ์ชมสถาปัตยกรรมได้ทั่วเมือง ไม่เหมือนบ้านเราที่เดินไม่ถึง 5 นาทีเหงื่อไหลเป็นธารน้ำ เย็นๆก็หาร้านอาหารทานได้ไม่ยาก นั่งจิบเบียร์ฉ่ำๆแล้วรอค่ำๆเราก็จะพบกับเมืองดัชต์ที่เปลี่ยนไปในยามค่ำคืนกับแสงสีของเมืองนี้ เสียงดนตรีที่ดังออกมาจากผับบาร์กระตุ้นให้เลือดนักเต้นพุ่งขึ้นมาเลยทีเดียว พูดถึงในด้านอารมณ์ทางดนตรีแล้ว เมืองดัชต์เป็นเมืองที่รวมดีเจและโปรดิวเซอร์ทำ
เพลงมากมาย แม้กระทั่งโรงเรียนสอนดนตรีก็มีให้เด็กๆได้เรียนและทำตามฝันกันอย่างจริงจัง จึงไม่แปลกที่เมืองนี้จะมีเทศกาลทางดนตรีที่ยิ่งใหญ่และหน้าประทับใจอย่าง Amsterdam music festival และ Sensation แค่บอกชื่อ
งานมาก็ ว้าวว แล้วเพราะทุกคนคงคุ้นหูกันดีกับชื่อ Sensation ซาวน์แน่นๆใน Hall ให้เราได้ตื๊ดกันอย่างเต็มที่มากับธีมชุดขาวที่รอเล่นกับไฟนีออนที่รอสาดใส่เหล่านักเต้นทั้งหลาย ให้ฟิวเหมือนว่าอยู่อีกมิติหนึ่งยังไงยังงั้นแหละ โปรดักชั่นก็ไม่เป็นสองรองใครในเมื่อแสง สี เสียง มาเต็มขนาดนี้ ก็รับรองได้เลยว่าลูกเล่นทีเด็ดภายในงานนั้นเซอร์ไพรส์อย่างแน่นอน งานนี้ก็ขอเอาภาพบรรยากาศสนุกๆของงานมาฝากให้ชมสักหน่อย

Cr.www.sensation.com
เห็นภาพบรรยากาศงานเทศกาลดนตรีแบบนี้แล้ว ผมนี่อยากลุกขึ้นเต้นเลย เป็นงานเทศกาลทางดนตรีที่น่าสนใจจริงๆเพราะมีดีเจดังๆมาร่วมสนุกกันหลายคน เมืองดัชต์แห่งนี้ถือเป็นจุดแลนมาร์คสำหรับผู้ที่หลงรักแนวเพลงแด๊นซ์ เพราะตลอดทั้งปีจะจัดงานเทศกาลดนตรีบ่อยมาก สำหรับเพื่อนคนไหนที่พลาดงานใหญ่ๆไปแล้วก็ไม่ต้องเศร้าเสียใจไป เพราะที่นี่มีจัดเทศกาลทางดนตรีตลอดทั้งปี เอาเป็นว่าที่เมืองนี้มีปาร์ตี้ให้ได้เต้นกันทุกเดือนเหมาะกับชื่อเสียงเมืองแห่งปาร์ตี้อย่างแท้จริง
แล้วถ้าใครยังไม่สะใจกับงานดนตรีในดัชต์ ก็ขยับตัวเองออกมาอีกนิด นั่งรถไฟชิลๆ เดินทางชื่นชมบรรยากาศความงามของบ้านเมืองเพียง 2 ชั่วโมง ก็มาโผล่ที่เมือง Boom Belgium คุณก็จะได้พบกับงาน EDM ระดับโลกอย่าง Tomorrowland ที่มีคนเข้าร่วมงานมากกว่า 180,000 ชีวิต จาก 85 ประเทศทั่วโลก ถือเป็นงานเทศกาลดนตรีที่ยิ่งใหญ่สุดๆอีกงานหนึ่ง

Cr.www.tomorrowland.com
Tomorrowland คืองานดนตรี EDM ระดับโลกหรือชื่อเต็มคือ Electronic Dance Music ที่รวบรวมศิลปิน ดีเจชื่อดังระดับแนวหน้า อย่าง Armin Van Burren, David Guetta,
Afrojack, Avicii, Hardwell,Alesso และอีกมากมาย ที่มาเป็นผู้นำทางเสียงดนตรีแบบ Non-Stop ให้สาวกคนคลั่ง EDM ได้แด๊นซ์กันจนหลุดโลก

Cr.www.tomorrowland.com
ด้วยการจัดงานที่ยิ่งใหญ่ตระการตาที่มาพร้อมกับลูกเล่นแพรวพราวแสงสีเสียงจัดเต็ม ที่ผู้จัดงานปล่อยออกมาแบบไม่อั้น ให้ผู้เสพเสียงเพลงทั้งหลาย ต้องตกอยู่ในภวังค์แบบที่เรียกได้ว่าไม่อยากจะกลับมาสู่โลกแห่งความจริง และด้วยผู้คนมากมายหลายเชื้อชาติที่มาอยู่รวมกันในงานทำให้วัฒนธรรมทางภาษาได้ทลายลงเพราะทุกคนได้พูดเป็นภาษาเดียวกันคือภาษาดนตรี

Cr.www.tomorrowland.com
งานนี้ถือว่าคุ้มค่ามากๆสำหรับเพื่อนๆที่อยากจะบินไปเที่ยวที่อัมสเตอร์ดัมและลุยต่อที่เบลเยี่ยม เพราะทั้ง 2 งานจัดเดือนเดียวกัน เตรียมไปอยู่ยุโรปกันยาวๆเลย และก็คงต้องหาโปรโมชั่นดี ราคาถูก ให้เหมาะสมกับวัยรุ่นขาแด๊นซ์อย่างเรา มีสายการบินให้เลือกมากมาย ที่บินตรงถึงอัมสเตอร์ดัม พูดแล้วสาวก EDM อย่างเรานี่ รีบหาสายการบินรัวๆ หาโปรโมชั่น + ราคามาวางเทียบกันไปเลย ที่ดูๆไว้ก็มี Eva Air/ China Air และ KLM Airlines ที่บินตรงไปลงที่เมืองอัมสเตอร์ดัม ตอนนี้ที่สนใจสุดก็มี KLM Airlines เพราะจากอัมสเตอร์ดัมต่อไฟลท์ไปลงเบลเยี่ยมได้เลย จ่ายเพิ่มอีกนิดเดียว แถมยังมีเฟสบุ๊คแฟนเพจที่ให้คำปรึกษาเป็นภาษาไทยอีกด้วย เคยลองแชทไปถามข้อมูลตอนตี3 ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงตอบกลับมาแล้ว เรียกได้ว่าถ้ามีปัญหาอะไรระหว่างการเดินทางแชทไปถามได้ตลอด 24 ชั่วโมงเลยทีเดียว ดีไปอีก งานนี้ใครรักดนตรี ตื๊ดๆ ไม่ควรพลาด!!