Test Drive Toyota Hilux Revo : ลองขับรีโว่ใหม่ ติดใจซะแล้ว !!!

ช่วงหยุดวันเสาร์ – อาทิตย์นี้ ที่โคราช อากาศครึ้มฟ้าครึ้มฝนดีจริงๆ แต่ก็ดีนะจะได้ไม่ร้อน ผมเลยถือโอกาสไปทดลองขับ Toyota Hilux Revo ซะหน่อย เพราะอยากลองมานานแล้ว แต่ยังหาเวลาว่างไม่ค่อยจะได้สักที ได้แต่นั่งอ่านรีวิวของคนอื่น ก็เลยขอลองรีวิวแบบสั้นๆ ตามความรู้สึกที่ได้ลองขับมานะครับ

ผมไปถึงศูนย์โตโยต้าช่วงสายๆ ติดต่อเซลล์ขอทดลองขับ ก็ได้รับเป็นรุ่นตัวท๊อปสุดมาเลยครับ นั่นก็คือรุ่น Hilux Revo Doublecab 2.8G AT 4x4 ราคา 1,139,000 บาท

พูดกันถึงเรื่องรูปร่างหน้าตา บางคนก็ว่าสวย บางคนก็ว่าไม่สวย แล้วแต่คนชอบ สำหรับผมก็ว่ามันสวยดีนะ ดูมีกลิ่นอายของโตโยต้า ทุนดร้า ทางฝั่งอเมริกาอยู่บ้างนิดหน่อย เส้นสายตัวถัง การออกแบบซุ้มล้อก็ทำได้ดี แลดูบึกบึน ไม่ต้องมีคิ้วขอบล้อมาแปะเพิ่ม ไฟหน้าโปรเจคเตอร์ ไฟเดย์ไลท์แบบ LED ไฟตัดหมอก มีให้ครบครัน ส่วนยางก็ให้มาเป็นแบบ A/T (ยาง All Terrain) นี่แหละแจ่ม วิ่งได้ทุกสภาพถนน จะทางเรียบก็ได้หรือทางลุยก็ไหว รูปร่างหน้าตาบอกได้เลยว่าแล้วแต่คนชอบจริงๆ คู่แข่งเดี๋ยวนี้ก็ทำออกมาสวยๆทั้งนั้น รีโว่แอบมีหวั่นๆบ้างเล็กน้อย

ช่วงล่างแบบใหม่หมดจด ที่เขาว่ากันว่า ไม่ต้องกลัวลื่นไถลลงข้างทางอีกต่อไป และยังติดตั้งระบบ Diff-lock ที่ช่วยล็อคเฟืองเพลาหลัง ทำให้ขับข้ามผ่านเส้นทางโหดๆไปได้โดยไม่ยากเย็นนัก ผมชอบรถที่เป็นระบบ 4x4 เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เวลาขับตอนฝนตก ผมก็ปรับไปที่เกียร์ 4H ขับแล้วมันสบายใจดีครับ

“เครื่องยนต์ 2,800 cc.” หลายคนได้ยินก็ร้องว้า !! เลยครับ ครั้งแรกที่ผมได้ยินก็แปลกใจอยู่เหมือนกัน ว่าทำไมเครื่องเล็กลงล่ะ วีโก้ยัง 3,000 เลย ทำไมรีโว่ให้มาแค่นี้ จะขับสนุกหรือเปล่า แต่พอไปอ่านสเปคเครื่องแล้วก็พบว่า เป็นเครื่องยนต์ที่ออกแบบมาใหม่ อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ ลด cc. ลง แต่แรงม้าและแรงบิดกลับเพิ่มขึ้น

สเปคคร่าวๆของเครื่องยนต์นะครับ Hilux Revo คันนี้ใช้เครื่องยนต์รุ่นใหม่ รหัส 1GD-FTV (High) ขนาด 2,800 cc. เป็นเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ แถวเรียง 16 วาล์ว DOHC VN Turbo มาพร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ที่ย้ายมาติดตั้งไว้ด้านหน้ารถ ให้กำลังสูงสุด 177 แรงม้า (PS) ที่ 3,400 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600 – 2,400 รอบต่อนาที เชื่อมต่อกับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด จะขับสนุกแค่ไหนเดี๋ยวจะเล่าให้ฟังครับ

มาดูภายในกันบ้างครับ เปิดประตูมาก็เจอเบาะคนขับปรับไฟฟ้าหุ้มหนังสีน้ำตาล รู้สึกหรูหรามีระดับไม่น้อย ห้องโดยสารกว้างขวาง นั่งสบาย เบาะนุ่มโอบกระชับ รับกับแผ่นหลังได้ดี

แถบสีเงินยาวๆบนคอนโซลและแผงประตู ดูสวยงาม แต่เวลาแดดจ้าก็สะท้อนแสงเข้าตานิดหน่อยครับ เบาะผู้โดยสารด้านหน้าเป็นแบบอัตโนมือ ไม่ได้เป็นแบบปรับไฟฟ้าเหมือนเบาะคนขับ

มาดูแผงคอนโซลหน้ากันบ้าง ออกแบบได้สวยครับ แสงไฟหน้าจอมาตรวัด เครื่องเสียงและปุ่มควบคุม ใช้โทนสีฟ้าๆ ดูหรูหราดี

พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น ปุ่มนี่ให้พรึ่บพรั่บเต็มไปหมด ชอบการออกแบบพวงมาลัย มี 3 ฟีลลิ่งในวงเดียว ด้านบนวงเล็ก ลงมาหน่อยมีปุ่มวางนิ้วโป้ง ลงมาครึ่งวงล่างก็ใหญ่จับถนัดมือดีจริงๆ

เครื่องเสียงแบบจอทัชสกรีน ถึงแม้ดีไซน์จะแปลกๆ แต่หน้าจอ 7 นิ้ว ใหญ่สะใจดี มี Navigator พร้อมกล้องมองหลัง เล่นได้หมดแทบทุกไฟล์ ดูหนังฟังเพลงได้หมด มีช่องเสียบ usb ด้วย ลำโพงทวีตเตอร์หันองศาได้ดี เสียงออกแนว แหลมใส เบสนุ่ม

ถุงลมนิรภัยให้มาเยอะจริงๆครับ ยัดมา 7 ใบ โอ้ววววว...แม่จ้าว แจ่มแท้ !!!

มีกล่อง Cool Box ตรงคอนโซลหน้าฝั่งซ้าย เปิดออกมาเอาเป๊บซี่กระป๋องแช่รักษาความเย็นไว้ได้

ระบบแอร์อัตโนมัติที่ให้มา ใช้งานไม่ยากเย็นอะไร แถมเย็นเร็วทันใจ ถึงแม้ฟิล์มจะใสปิ๊งไปหน่อย (ก็รถเทสอะนะ) ข้างๆกันก็จะมีปุ่มปรับเปลี่ยนระบบขับเคลื่อน ตอนที่ผมเทสนี่ก็ใช้แค่ขับเคลื่อนแบบสองล้อก็พอครับ ไม่ได้เอาไปลุยป่าเขาที่ไหน ส่วนรูเสียบที่ชาร์ทแบทก็ให้มาสองข้าง ซ้าย-ขวา ไม่ต้องแย่งกันใช้ มีมาเผื่อให้ไว้แล้ว

แอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง นี่คือสิ่งที่คนนั่งข้างหลังถวิลหา โตโยต้ารีโว่ก็จัดมาให้แล้ว

ระบบความปลอดภัยในการขับขี่และเทคโนโลยีใหม่ๆที่มีมาให้ในรถ ขอบอกว่ามันเยอะมากครับ เช่น

- ระบบ VSC ช่วยป้องกันรถเสียการทรงตัวขณะเข้าโค้งบนทางลื่น หรือใช้ความเร็วเกินขีดจำกัดของรถ

- ระบบ TRC ช่วยป้องกันล้อขับเคลื่อนหมุนฟรีขณะออกตัวหรือเร่งแซง

- ระบบ BA เสริมแรงเบรกเมื่อต้องเบรกอย่างกะทันหัน

- ระบบ TSC ช่วยควบคุมตัวรถให้มั่นคงขณะมีการลากจูงส่วนพ่วงหรือขณะขับรถที่มีลมแรงมากระแทกรถ

- ระบบ HAC ช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (หน่วงเบรกไว้ให้รถไม่ถอยหลังขณะสลับเท้าจากเบรกไปคันเร่ง)

- ระบบ A-TRC ช่วยการขับเคลื่อนในโหมด L4 ให้ข้ามผ่านอุปสรรคได้ง่ายยิ่งขึ้นด้วยการควบคุมล้อทั้งสี่อย่างอิสระโดยการเบรกล้อที่หมุนฟรีพร้อมกับถ่ายกำลังไปยังล้อที่สามารถขับดันให้รถเคลื่อนที่ได้ทั้งนี้โดยอัตโนมัติ

- ระบบ DAC ช่วยการลงทางลาดชันในขณะขับเคลื่อนสี่ล้อให้เป็นเรื่องง่ายดายและปลอดภัย โดยการเบรกล้อแยกอิสระทั้งสี่ล้อ เพื่อให้รถเคลื่อนที่ลงทางลาดชันอย่างช้า (พอล้อลอยก็ไม่เบรกล้อนั้น พอสัมผัสพื้นก็เบรกให้เองอัตโนมัติ)

ก็คงประมาณว่าใช้เทคโนยีมาช่วยในการขับแบบ 4x4 ให้ง่ายขึ้น แบบว่าใครๆก็ขับได้ประมาณนั้น

มาว่ากันด้วยเรื่องฟีลลิ่งในการขับขี่

ผมขับรถออกจากศูนย์เพื่อไปหาที่จอดรถถ่ายรูป มาถึงไฟแดงแรกก็เบรกเพื่อหยุดรถตามปกติ พอรถหยุดแค่ไม่กี่วินาที เครื่องยนต์ก็ดับลงทันที ผมก็อ๋อ...นี่หรือคือระบบ Start – Stop System เจ๋งมากครับ แอร์ก็ยังทำงานปกติเลย คือดับเครื่องยนต์เพื่อลดมลพิษ พอไฟเขียวเราก็ปล่อยเบรกแค่นั้นรถก็สตาร์ทและค่อยๆเคลื่อนตัวออกไปเองเลย เซลล์บอกว่า ระบบนี้ ถ้ารถมีการใช้งาน 10 ปี Start – Stop System สามารถเปิด-ปิดได้ 80 ครั้งใน 1 วัน ซึ่งทำให้ประหยัดน้ำมันขึ้น 20-30% จากการใช้งานปกติ

เรื่องพละกำลัง อัตราการเร่งแซง รับรองว่าไม่ผิดหวัง ถ้าอยากได้กำลังเครื่องยนต์สูงสุดให้ก็กดปุ่ม POWER MODE ผมขับที่ความเร็วประมาณ 80 กม./ชม. กดคันเร่งแป๊บเดียวไป 140 แล้ว แรงสะใจมากครับ ช่วงความเร็วจาก 140 ไป 160 ก็ใช้เวลาไม่นานเลย อัตราเร่งมาต่อเนื่องจริงๆ หรือถ้าอยากขับประหยัดก็กดปุ่ม ECO MODE ครับ เครื่องจะลดความแรงลงนิดนึงแบบรู้สึกได้

ระบบเบรกก็นุ่มนวลดี ไม่ถึงขั้นเบรกหัวทิ่ม ผมลองเบรกแบบแรงๆก็พบว่า ABS ทำงานได้ปกติ

ช่วงล่างใหม่ ให้ความนุ่มนวลมากกว่าตัวเดิมแบบรู้สึกได้อย่างชัดเจน เซทมาแบบไม่แข็งกระด้างเหมือนกระบะบางรุ่น Revo จะเป็นแนวนุ่ม หนึบ ผมลองเข้าโค้งแคบๆแบบใช้ความเร็วพอสมควรก็เอาอยู่ สมดั่งที่หลายๆคนที่ได้เคยลองขับมาแล้วเขาก็ชื่นชมกันไว้จริงๆ มีอยู่ช่วงนึงผิวถนนเป็นลูกคลื่นเล็กๆต่อเนื่องกันยาวๆ ก็มีหัวสั่นหัวคลอนกันบ้างนิดหน่อย

สิ่งที่น่าชื่นชมอีกอย่างนึงก็คือ การเก็บเสียงภายในห้องโดยสาร ผมไปลองมาแล้วหลายยี่ห้อ ผมยอมให้ Revo เป็นเบอร์หนึ่งจริงๆ แล้วก็เป็นเบอร์หนึ่งในอีกหลายๆเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นออปชั่น เทคโนโลยีต่างๆที่อัดแน่น ถึงแม้ราคารถจะสูงแต่ก็ได้เทคโนโลยีความปลอดภัย เทคโนโลยีที่ช่วยด้านการขับขี่ที่มากขึ้นกว่ารุ่นอื่นๆ ผมว่าคุ้มค่ามากครับ อีกไม่นานก็คงต้องถอยมาใช้สักคันอย่างแน่นอน

ท่านใดสนใจก็ลองไปทดลองขับได้ที่ศูนย์โตโยต้าทั่วประเทศ แต่ผมเตือนไว้ก่อนครับว่า ระวังจะติดใจนะครับ อิอิ...สวัสดีครับ