1. กรีกโยเกิร์ต หรือ กรีกสไตล์โยเกิร์ต
Credit Pic: IG @bitefoodsbeatfat
อย่าเพิ่งเบ้ปากว่ากรีกโยเกิร์ตกินยาก เพราะเดี๋ยวนี้มีกรีกสไตล์โยเกิร์ต ที่เนื้อข้นแต่เนียนนุ่ม และมีรสชาติให้เลือก กินไม่ยากเท่าไหร่ และยังเหมาะมากๆ สำหรับกินเป็นของว่างก่อนหรือหลังการออกกำลังกาย เพราะกรีกสไตล์โยเกิร์ตเป็นโยเกิร์ตที่มีโปรตีนสูง ถ้าใครอยากจะเพิ่มโปรตีน ไม่จำเป็นต้องชงเวย์โปรตีนดื่มเสมอไปแล้ว เพราะตอนนี้ DUTCHIE GREEK STYLE YOGHURT มีโปรตีนมากกว่าโยเกิร์ตทั่วไปถึง 2 เท่า น้ำตาลน้อยกว่า รสชาติก็อร่อย แถมยังหาซื้อได้ง่ายอีกต่างหาก
2. ชาเขียว
Credit Pic: http://goo.gl/kDlDqa
อ๊ะๆ ไม่ใช่ชาเขียวขวดๆ รสน้ำผึ้งมะนาว ข้าวญี่ปุ่น หรืออะไรแบบนี้นะ เพราะนั่นอะน้ำตาลเพียบ! แต่จะต้องเป็นชาเขียวแท้ที่ไม่ได้ปรุงแต่งเท่านั้น เพราะนักวิจัยพิสูจน์แล้วว่าคนออกกำลังกายที่ดื่มชาเขียว 4 แก้วต่อวัน เป็นระยะเวลา 3 เดือน จะมีไขมันรอบเอวน้อยกว่าคนที่ดื่มเครื่องดื่มคาเฟอีนชนิดอื่น แต่ต้องไม่ลืมว่าจะต้องเป็นชาเขียวรสธรรมชาติ ไม่เติมนมหรือน้ำตาลเด็ดขาด เพราะนั่นจะไม่ช่วยอะไรเลย อย่าลืมเชียวล่ะ!
3. น้ำมะนาว
Credit Pic: thehautemess.com
อย่าดูถูกความเปรี้ยวจี๊ดของน้ำมะนาวเด็ดขาด! เพราะในน้ำมะนาวมีวิตามินซีสูงมาก นอกจากจะช่วยเติมน้ำให้เซลล์ในร่างกาย ยังลดอาการบวม และป้องกันภาวะร่างกายเผาผลาญลดลงได้อีกด้วย เรียกได้ว่าเผาผลาญเริ่ด น้ำหนักก็ลด พุงก็ไม่มา ดีงามพระรามแปดจริงๆ >
4. ผักบร็อคโคลี่
Credit Pic: www.goosiam.com
เรียกได้ว่าเป็นผักที่เหมาะกับคนออกกำลังกายและคนรักสุขภาพไปพร้อมๆ กัน เพราะบร็อคโคลี่มีสารที่เรียกว่า indole-3-carbinol ที่จะช่วยต้านซีโนเอสโตรเจน (xenoestrogens) ซึ่งเป็นสารพิษชนิดหนึ่งที่เลียนแบบฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกาย และทำให้เกิดไขมันรอบเอว รวมถึงก่อมะเร็งด้วย การทานผักบร็อคโคลี่จึงมีส่วนช่วยลดไขมันรอบเอว และลดความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งได้อีกทาง ประโยชน์สองต่อแบบนี้ เริ่ดมั้ยล่ะ
5. มะเขือเทศและกระเทียม
Credit Pic: www.care2.com
วัตถุดิบประจำครัวเรือนที่ต้องมีติดไว้ทุกบ้าน อย่างเช่น มะเขือเทศ ก็เป็นผักผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง ช่วยลดฮอร์โมนคอร์ติซอลได้ดี ในขณะที่กระเทียม นอกจากจะกันผี ไม่ใช่! นอกจากจะกระตุ้นการเผาผลาญให้ทำงานได้ดีแล้ว ยังช่วยปรับสมดุลน้ำตาลในเลือดได้ด้วย