ร่วมด้วยช่วยกัน!
|
สังคมไทยในวันนี้ก็มุ่งไปที่ข่าววัดธรรมกาย ว่าจะจบลงอย่างไร บางคนก็ติดตามและรู้เรื่องราวตั้งแต่ต้นนั้น บางคนนั้นก็ไม่ได้สนใจ ก็หลากหลายในสังคมไทยนี้ แต่ทุกที่ตื่นขึ้นมานี่ก็คิดอย่างเดียวกันเวลานี้ว่าเราจะหาความมั่นคงในชีวิตความเป็นอยู่กันอย่างไร ปัจจัยสี่ในเวลานี้มีครบกันทุกคนไหมที่เกิดเป็นคนไทย และในอนาคตนี้ลูกหลานที่เกิดมาจะมีความสุขสบายในการอาศัยอยู่ในประเทศไทยนี้ไหม ทั้งหมดนี้ก็คือหน้าที่ของผู้บริหารประเทศไทยแทบทั้งสิ้นและส่งต่อเป็นรุ่น ๆ ไปที่จะสืบทอดในการแก้ปัญหาทุกเรื่องทั่วราชอาณาจักรไทย หากคนไทยและทุกคนที่เข้ามาอยู่อาศัยจะทำหน้าที่ของตัวเองกันให้ดีและไม่ทำอะไรที่เกินหน้าที่ของตัวเองกันนั้นได้ บ้านเมืองไทยนี้ก็คงจะสงบดีไม่มีความวุ่นวาย แต่ปัจจุบันนี้คนในไทยไม่ทำหน้าที่ของตัวเองนั้นได้ แต่ไปก้าวก่ายและไปวุ่นวายกับหน้าที่ของผู้อื่นแต่หน้าที่ของตนเองกลับไม่เอาใจใส่ บางคนอาจจะพูดว่าก็เพราะว่าเขาบกพร่องในหน้าที่ยังไง ถึงต้องเข้าไปร้องเรียนเข้าไปทำอะไรที่จะบ่งบอกว่าเขาทำไม่ถูกต้องกระนั้นได้ เช่น ผู้ทำหน้าที่ดูแลเรื่องพลังงานไฟฟ้า น้ำท่า ให้กับบ้านเมืองไทย บางคนอาจจะพูดว่าเพราะว่าไม่เอาสิ่งเหล่านั้นมาให้กับประชาชนส่วนใหญ่ แต่กลับนำไปให้กลุ่มคนที่จัดตั้งโรงงานผู้ประกอบการที่ก็ไม่ใช่ประชาชนส่วนใหญ่ เรื่องเหล่านี้อยู่ที่การบริหารจัดการที่จะต้องนำทรัพยากรทั้งหมดนั้นมาหารเฉลี่ยกันเพื่อให้เกิดความสมดุลกันกระนั้นได้ เพราะไม่เช่นนั้นก็จะมีการแย่งชิงทรัพยากรกันเป็นเหตุให้วุ่นวาย น้ำไม่เพียงพอก็ไปทะเลาะกันเพื่อให้น้ำนั้นมาเข้านาของตนเองนั้นเกิดความวุ่นวาย สังคมไทยก็เช่นเดียวกันหากชักหน้าไม่ถึงหลังก็เกิดเรื่องโจรกรรมทำให้เดือดร้อนกระนั้นได้ ทุกเรื่องคือสิ่งที่ประเทศไทยจะต้องจัดให้เกิดความสมดุลกัน ให้พอเพียงซึ่งกันและกันในการคิดพิจารณาทุกเรื่องให้เกิดความยุติธรรม เกื้อหนุนกันกระนั้นได้ ต้องทำความเข้าใจกับประชาชนเพื่อมิให้เกิดความสับสนและคิดให้เป็นระบบตามระเบียบของประเทศไทย คงจะพูดวันเดียวคงไม่จบได้ ก็ต้องพูดทำความเข้าใจในทุกวัน ๆ จนกว่าจะเข้าใจกันในประเทศไทย
|
|
|
|
![]() |
|
เอาแค่พอเพียง!
|
ไม่รู้จะพูดอย่างไรกับประเทศที่ทำตนว่าดีเหลือล้นกว่าชาติอื่นใดในเรื่องประชาธิปไตยนี่ หากไม่ทำให้ดีให้ถูกต้องในประเทศของตนนั้นไซร้ ก็คงจะไม่เป็นแบบอย่างที่ดีต่อประเทศอื่นใดหรอกน๊ะ ความเชื่อถือน่ะมันจะค่อย ๆ ลดลงไปกระนั้นได้ ทางใคร ทางมัน จะดีกว่ามากมาย ไปดูแลบ้านเมืองตนเองให้ดีก่อนดีกว่า ส่วนชาติไทยที่เขาคิดแต่ความเจริญก้าวหน้าคงไม่ต้องห่วงให้มากเกินสถานะเข้าข่ายก้าวก่ายกระนั้นได้ ก็ให้คิดเพียงบ้านเมืองตัวเองจะดีกว่า เสนอหน้ามาก ๆ ก็น่าเบื่อสำหรับประชาชนคนไทยที่ดีกระนั้นได้ 
|
|
|
|
![]() |
|
ทำดีย่อมได้ดี
|
|
|
|
|
![]() |
|
คิดกันเสียบ้างน๊ะ!
|
|
|
|
|
![]() |
|
คิด คิด คิด
|
|
|
|
|
![]() |
|
มีบ้างไหม?
|
|
|
|
|
![]() |
|
เข้าใจ!
|
ศาสนาพุทธ แบ่งออกเป็นนิกายใหญ่ได้ 2 นิกายคือ เถรวาทและมหายาน นอกจากนี้แล้วยังมีการแบ่งที่แตกต่างออกไปแบ่งเป็น 3 นิกาย เนื่องจากวัชรยานถือว่าตนเป็นยานพิเศษโดยเฉพาะ ต่างจากมหายาน เถรวาท หรือ หีนยาน (แปลว่า ยานเล็ก) หมายถึง คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ซึ่งคำสั่งสอนและหลักปฏิบัติจะเป็นไปตามพระไตรปิฎก นับถือเป็นประชากรส่วนใหญ่ในประเทศไทย, ศรีลังกา, พม่า, ลาว และกัมพูชา ส่วนที่นับถือเป็นส่วนน้อยพบทางตอนใต้ของประเทศเวียดนาม (โดยเฉพาะกลุ่มเชื้อสายเขมร), บังกลาเทศ (ในกลุ่มชนเผ่าจักมา และคนในสกุลพารัว) และทางตอนบนของมาเลเซีย (ในหมู่ผู้มีเชื้อสายไทย) มหายาน (แปลว่า ยานใหญ่) หรือ อาจาริยวาท แพร่หลายในสาธารณรัฐประชาชนจีน, ญี่ปุ่น, ไต้หวัน, เกาหลีเหนือ, เกาหลีใต้, เวียดนามและสิงคโปร์ พบเป็นประชาชนส่วนน้อยในประเทศเนปาล (ซึ่งอาจพบว่านับถือร่วมกับศาสนาอื่นด้วย)[24] [25] ทั้งยังพบในประเทศอินโดนีเซีย, มาเลเซีย, บรูไน และฟิลิปปินส์ ซึ่งส่วนใหญ่มีเชื้อสายจีน วัชรยาน หรือ มหายานพิเศษ พบมากในเขตปกครองตนเองทิเบตของจีน, ประเทศภูฏาน, มองโกเลีย และดินแดนในการปกครองรัสเซีย เช่น สาธารณรัฐตูวา [26] [27] และคัลมืยคียา [28] [29] นอกจากนี้เป็นประชากรส่วนน้อยในดินแดนลาดัก รัฐชัมมูและกัษมีร์ ประเทศอินเดีย [30], เนปาล, ปากีสถาน (ในเขตบัลติสถาน)[31] 
|
|
|
|
![]() |
|
เข้าถึง!
|
เข้าถึงที่มาของ ยานอวกาศ ที่วัดธรรมกาย (บริบทว่าด้วยคำว่า ยาน) 
|
|
|
|
![]() |
|
พัฒนา
|
q*061q*061 คำว่า พัฒนา จะต้องเปิดเรียนหรือทำตำราเกี่ยวกับศาสนาพุทธกันใหม่ มีเรียนเสาร์และอาทิตย์ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ คนสูงอายุ ที่คงจะต้องมาเริ่มต้นใหม่ สถานที่ทำการศึกษานั้นก็คงเป็นวัดวาอารามทั่วราชอาณาจักรไทย ที่จะต้องมีการพิมพ์แบบเรียนเกี่ยวกับศาสนาพุทธที่ใชในประเทศไทยที่จะใช้อบรมในวิชาพุทธศาสนาในไทยกันใหม่ เพราะว่าโลกใบนี้หนามันวิปริตผิดแผกแตกต่างกันไปหมดแล้วกระนั้นได้ แต่สำหรับประเทศไทยต้องมีจุดยืนในเรื่องการเรียกการสอนในเรื่องวิชาศีลธรรม วัฒนธรรม ประเพณี กันใหม่ เพราะว่าปัจจุบันมีการแต่งงานกับคนต่างชาติภาษามากมาย อาจจะมีการคลาดเคลื่อนในสติปัญญาและไม่รู้แก่นแท้ของศาสนาพุทธนั้นคืออะไร ถึงได้เกิดปัญหาแม้แต่คำว่านิยานมหายานและหีนยาน มาแปลเปลี่ยนเป็น ยานอวกาศ หรือ จานบิน แล้วนั้นได้ในไทย  
|
|
|
|
![]() |
|
เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา
|
|
|
|
|
![]() |
|
|
เข้าใจ
|
กรมสอบสวนคดีพิเศษ (Department of Special Investigation)
วิสัยทัศน์
" เป็น องค์กรสหวิชาชีพที่ปฏิบัติงานเชิงรุก เพื่อป้องกันปราบปราม และควบคุมอาชญากรรมที่มีผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อเศรษฐกิจ สังคม ความมั่นคงและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยมุ่งมั่นอำนวยความยุติธรรม ด้วยความเชี่ยวชาญพิเศษ สุจริต โปร่งใส สร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชน "
ความเป็นมา
สืบ เนื่องจากสถานการณ์ของโลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การพัฒนาด้านเทคโนโลยีส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ สังคม การเมือง วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม ไปตลอดถึงการก่ออาชญากรรม ซึ่งพัฒนาจากการใช้ความรุนแรงเป็นอาชญากรรมที่ก่อให้เกิดความเสียหายทาง เศรษฐกิจที่มีมูลค่ามหาศาล ส่งผลกระทบต่อประชาชนเป็นจำนวนมาก การใช้เทคโนโลยีคุณภาพสูงและช่องว่างของกฎหมายปิดบังความผิดของตน มีอิทธิพลและเครือข่ายองค์กรโยงใยทั้งภายในและภายนอกประเทศ ทำให้ยากต่อการสืบสวนสอบสวนดำเนินคดี จึงต้องมีการจัดตั้งกรมสอบสวนคดีพิเศษขึ้น โดยอยู่ภายใต้สังกัดกระทรวงยุติธรรม ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2545 ตามพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. 2545 ใช้ชื่อภาษาอังกฤษว่า DEPARTMENT OF SPECIAL INVESTIGATION มีชื่อย่อว่า DSI ซึ่งมีบุคลากรที่มีความรู้ความชำนาญในด้านต่างๆ พัฒนารูปแบบการทำงานให้มีประสิทธิภาพ เป็นองค์กรหนึ่งซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ในการปฏิรูประบบราชการ ทำให้ประชาชนและประเทศชาติได้รับความเป็นธรรมและประโยชน์สูงสุด
อำนาจหน้าที่
1. ป้องกัน ปราบปรามและควบคุมอาชญากรรมที่มีผลกระทบร้ายแรงต่อเศรษฐกิจ สังคม ความมั่นคง และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ 2. พัฒนา กฎหมาย กฎระเบียบ รูปแบบ วิธีการ และมาตรการในการป้องกัน ปราบปรามและควบคุมอาชญากรรมที่มีผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อเศรษฐกิจ สังคม ความมั่นคง และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ 3. พัฒนาโครงการและการบริหารจัดการองค์กร 4. พัฒนาบุคลากรโดยเสริมสร้างศักยภาพในด้าน ความรู้ ความสามารถ คุณธรรม จริยธรรม และขวัญกำลังใจ 5. ประสานส่งเสริมเครือข่าย ความร่วมมือในการป้องกัน ปราบปรามและควบคุมอาชญากรรมกับทุกภาคส่วนทั้งภายในและต่างประเทศ
|
|
|
|
![]() |
|
งง งวย!
|
คำว่า ขึ้นตรง นี่สับสนน๊ะเนี่ยสำหรับประชาชนคนไทย หากขึ้นตรงในที่เดียวกันคงจะหมดสิ้นปัญหาซึ่งกันและกันกระนั้นไหม ประชาชนเขาฉลาดคิดขึ้นมาแล้วน๊ะ ทำอะไรก็ให้ประชาชนเขาเข้าใจ และจะได้ช่วยกันแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งภายในและภายนอกประเทศกระนั้นได้ 
|
|
|
|
![]() |
|
แน่วแน่!
|
ประเทศไทยคงเป็น ฮับ แห่งสินค้าที่มีคุณภาพมีความมั่นคงและซื่อสัตย์ต่อลูกค้าอันเป็นวิสัยทัศน์ที่มั่นคงและยั่งยืนในโลกออนไลน์ของประเทศไทย 
|
|
|
|
![]() |
|
คิด คิด คิด
|
เห็นด้วยกับคำว่าประชาธิปไตยภายใต้เฟสบุ๊ตและไลน์ จะสามารถขับเคลื่อนประเทศไทยได้รวดเร็วกระนั้นได้ แต่อยู่ที่ว่าจะต้องได้รับข้อมูลที่ถูกต้องแม่นยำและเป็นธรรม ถูกต้องตามหลักการวิถีไทย ก็คนไทยนี่แหละที่จะต้องเป็นผู้สร้างหลักการในข้อนี้เพราะว่าจะเป็นผู้ที่ขับเคลื่อนประชาธิปไตย ก็ให้มีหลักในการคิดพิจารณา โดยตั้งหลักการตรงที่ว่า เพื่อชาติและประชาชน เป็นหลักเบื้องต้นในการคิดเพื่อส่วนรวมกระนั้นได้ 
|
|
|
|
![]() |
|
ร่วมมือร่วมใจกัน
|
|
|
|
|
![]() |
|
คิดให้ไกล ๆ
|
|
|
|
|
![]() |
|
คิดให้หนักเอาไว
|
|
|
|
|
![]() |
|
คิดเพื่อประเทศไทย
|
|
|
|
|
![]() |
|
ข้อคิดเตือนใจ!
|
พระจริง พระปลอม เราคิดว่าจะมีแค่เป็นวัตถุทางธรรมกันกระนั้น ปัจจุบันมีตัวตนปรากฏขึ้นแล้วนั่นในสังคมไทย มีจิตวิญญาณ มีตัวตน และจับต้องได้ อย่างนี้น่ากลัวกว่าเพราะว่าสามารถแสดงอภินิหารแบบตกแต่งกันขึ้นมาได้ ด้วยแรงเชียร์ การสื่อสาร ก็ให้คิดแล้วกันว่าสมควรจะแก้ไขกันอย่างไร และนี่เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับสังคมไทยกันทั้งหมดทั้งมวลนั่น ที่แวดล้อมการดำเนินชีวิตกันตามแนวทาง วิถีไทย วิถีพุทธ ที่ก็ผุดเอาจุดเด่นมาทำเป็นจุดด้อยในเรื่องความน่าเชื่อถือให้หมดสิ้นไป ก็ขอให้คนไทยที่ดีได้ช่วยกันจรรโลงสิ่งที่ดีงามในสยามประเทศกันเอาไว้ เราไม่รู้ว่าสื่อมีความหวังดีต่อชาติบ้านเมืองไทยของเรามากมายขนาดไหน มีหลาย สื่อ เข้ามาทำหน้าที่เจาะข่าว หาข่าว ในบ้านเมืองไทย แต่ก็เอาดีใส่ประเทศตัวเองนั้น เอาความชั่วนั้นใส่ประเทศที่เป็นคู่แข่งขันของเขาไป ทั้ง ๆ ที่ก็มานั่งทำข่าว หาข่าวกันในประเทศไทย แต่ก็หาได้คิดถึงผลประโยชน์ที่ตัวเองได้รับกันนั้นว่าได้เงินทองในการทำข่าวนั้นจากประเทศไหน แถมยังจะมาใส่ความให้ร้ายประเทศที่เป็นต้นทางของข่าวอีกกระนั้น ก็ให้รู้กันว่าหากเป็นคนไทยด้วยกันจะทำเยี่ยงนี้ไหม หรือมีคนตอบมาว่าก็อาจจะใช่ แล้วเป็นคนไทยกันหรือเปล่านั้นอยากถามเหตุใดถึงไม่รักชาติบ้านเมืองตนเองที่มานั่งนอนกินทำลายทรัพย์สินทั้งคน สัตว์ สิ่งของน้นเป็นเรื่องสนุกกันหรืออย่างไร เพิ่มบาปกรรมหนาให้เกิดขึ้นในจิตใจมิมีวันที่จะลบล้างให้หายไปหมดสิ้นได้ นี่ก็มาบังเกิดแล้วในลูกหลานนั่นที่ไปกระทำแต่สิ่งร้าย ๆ ทำให้ตนเองก็หาได้มีความสุขสบายใจไม่ ก็ให้คิดเถิดว่าเป็นเรื่องกงกรรม กงเกวียนหรือไม่หนาในบ้านเมืองไทย ที่กระทำกันอยู่ในเวลานี้ผลก็ย้อนมาที่ตัวเองอยู่วันยังค่ำที่จะเตือนกันเอาไว้นั้นได้ 
|
|
|
|
![]() |
|
คิดเพื่อประเทศไทย
|
|
|
|
|
![]() |
|
สะสมเอาไว้!
|
|
|
|
|
![]() |
|
หรือไม่สำนึกไทย!
|
|
|
|
|
![]() |
|
แด่..คนดีของประเทศไทย
|
|
|
|
|
![]() |
|
ก็น๊ะ...โปรดเข้าใจ!
|
|
|
|
|
![]() |
|
เตือนเอาไว้!
|
ให้ระวังเรื่อง ลมแรง กระนั้นในไทย ลมร้อนจะมากน๊ะและให้ระมัดระวังป้ายใหญ่ ๆ ที่ไม่แข็งแรงกระนั้น บ้านเรือนก็ต้องระมัดระวังในเรื่อง พายุฤดูร้อนที่จะมีมากขึ้นกระนั้นได้ ก็ขอให้เตือนภัยแก่ประชาชนที่อาศัยอยู่ภายใต้ป้ายโฆษณาใหญ่ ๆ ให้ระมัดระวังภัย และให้รักษาบ้านเรือนให้แข็งแรงและหาที่หลบหลีกในอนาคตอันใกล้ 
|
|
|
|
![]() |
|
เรียนรู้!
|
“ศีลธรรมไม่กลับมา โลกาจะวินาศ” ครับ
ข้างต้นนี้ คือประโยคคำสอนของ “ท่านพุทธทาส”
มีปรากฏในเนื้อความตอนหนึ่ง จากหนังสือ “เศรษฐศาสตร์พุทธศาสนา” หัวข้อ “เรากำลังไม่รู้ว่า ปัญหาทุกอย่างนั้น มันมาจากการขาดศีลธรรม”
เนื้อความการบรรยายธรรมน่าสนใจอย่างยิ่ง
และยังเข้ากับยุคสมัยและร่วมสมัยอย่างยิ่ง จนต้องขออนุญาตนำมาถ่ายทอดครับ
"เดี๋ยวนี้ เราไปโทษปัญหาทางเศรษฐกิจนั้น หลับตาโง่ ไปโทษปัญหาทางเศรษฐกิจ ไม่รู้ว่ามันมาจากการขาดศีลธรรม ปัญหาทางเศรษฐกิจมันจึงเกิดขึ้น ในบ้านเรา ในประเทศเรา หรือในโลก ที่เราโง่ที่สุดกันเกือบทั้งโลกนี้ก็ว่า ถ้าเราไปยึดถือศีลธรรม จะทำให้เราเสียเปรียบผู้อื่น
เดี๋ยวนี้มีใครกำลังโง่อยู่อย่างนี้ ขออภัยไปช่วยคิดดูใหม่ว่า ถ้ามีศีลธรรมแล้วจะเสียเปรียบคนอื่น
เรากำลังตีความหมาย หรือตีค่าของศีลธรรมผิด เราเกลียดศีลธรรมทันที เราเกลียดศีลธรรมเพราะเราตีความหมายของศีลธรรมผิด เราเกลียดศีลธรรม ก็เพราะว่ากิเลสของเรา มันต้องการอย่างอื่น
กิเลสของเรามันไม่ต้องการศีลธรรม ฉะนั้นเราจึงเกลียดศีลธรรม
เพราะว่า กิเลสของเรามันต้องการอย่างอื่น เราเกลียดศีลธรรม เพราะเรามองศีลธรรมกันอย่างไม่ยุติธรรม มองศีลธรรมอย่างเสียไม่ได้ อย่างผิวเผิน อย่างไม่ยุติธรรมแก่ศีลธรรม เราจึงเกลียดศีลธรรม
นี่รวมความว่า เราทำโลกนี้ให้สงบสุขไม่ได้ ในเมื่อเราไม่รู้จักสิ่งที่สำคัญที่สุด ที่จะทำโลกนี้ให้มีความสงบสุข คือสิ่งที่เรียกว่า ศีลธรรมนั่นเอง"
ข้างต้นนี้เป็นความตอนหนึ่ง และก็ยังมีความอีกตอนหนึ่งครับ
“ถ้าจะคิดเสียว่า การที่บ้านเมืองมันไม่ปรกติ แล้วเราช่วยกันทำให้มันปรกติ จะไม่เรียกว่า ศีลธรรมอย่างไร ? อย่างที่ว่า ถ้าไม่มีถนนจะเดิน มันลำบาก ก็เรียกว่า ไม่ปรกติ คือ ไม่ปรกติสุข
ถ้าเราแก้ไขปัญหาอันนี้เสียได้ ก็เรียกว่า มันปรกติ มันไม่เดือดร้อนมากนัก หรือมันไม่เดือดร้อนเลย
หรือบ้านเรือนมันรกรุงรังไปด้วยขยะนี้ จะต้องเรียกว่า มันผิดปรกติ กวาดมันให้เรียบร้อย ให้มันเย็นตาเย็นใจ ให้มันไม่มีอันตรายเพราะสิ่งเหล่านั้น ก็ต้องเรียกว่า ทำความปรกติ”
ท่าน “พุทธทาส” สรุปความชัดเจนครับ
“ศีลธรรมไม่กลับมา โลกาจะวินาศ”
บ้านเมืองเราเวลานี้ เต็มไปด้วยปัญหา และเต็มไปด้วยเรื่องไม่ปรกติ
ทั้งปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาสังคม และปัญหาการเมือง
ถึงเวลาหรือยังครับ ที่เราจะกลับไปหา “ศีลธรรม” แก้ปัญหาที่ต้นเหตุ เพื่อเอาความปรกติสุขกลับมา
ทำความดี ละเว้นความชั่ว และทำจิตใจให้บริสุทธิ์ เริ่มต้นใหม่กับวันมาฆบูชาที่จะมาถึงครับ
|
|
|
|
![]() |
|
|
สวัสดีครับคุณจู
คิดดีทำดีสิ่งดีๆก็จะเข้ามาในชีวิตครับประกอบด้วยศีล สมาธิและปัญญาครับ
|
|
|
|
![]() |
|
เรียนรู้!
|
สาราณียธรรม 6 ทำให้สังคมน่าอยู่ได้ เพราะผู้ปฏิบัติยึดหลัก 1) เมตตากายกรรม หมายถึง การกระทำต่อกันด้วยความเมตตา ปรารถนาดีต่อกัน ช่วยเหลือกัน พร้อมใจกันทำงานประสานกัน 2) เมตตาวจีกรรม การพูด การจากัน ก็ต้องเต็มไปด้วยการช่วยเหลือจุนเจือ 3)เมตตามโนกรรม แม้แต่การคิดก็ต้องไม่เคียดแค้น ขัดแย้งในใจ ไม่ติดกับความโกรธ เรียนรู้ที่จะให้อภัยกัน อยู่ร่วมกัน ข้อนี้สำคัญเพราะหาก กายยิ้ม ปากพูดจาดีต่อกัน แต่จิตใจยังขึ้งโกรธ ความสามัคคีย่อมไม่เกิดขึ้นแน่ ข้อ 4) สาธารณโภคี แบ่งปันลาภแก่กันเป็นสาธารณะ สังคมไทยเราแสดงออกชัดเจนว่า อะไรที่เป็นเรื่องสาธารณะจะได้รับการเสียสละแบ่งปัน ยิ่งในยามวิกฤตก็จะเห็นความช่วยเหลือจากคนไทยด้วยกันหลั่งไหลกันเข้ามามากมาย ในหลายรูปแบบ ตัวอย่าง การเกิดอุทกภัยในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นว่า สังคมไทยเป็นสังคมที่มีความเสียสละ จนเป็นที่ฮือฮาไปทั่วโลก ในอดีตก็เช่นกัน คนไทยเราหากมีการบอกบุญ สร้างวัด สร้างโบสถ์ สร้างวิหาร เป็นสาธารณโภคี หรือสมบัติสาธารณะ คนไทยเราก็ยินดี ทำทุกวิถีทางที่จะให้กับสาธารณะยิ่งกว่าให้กับตัวเอง และคนไทยค่อนข้างที่จะถือกับเรื่องนี้ ของวัดแม้แต่ชิ้นเดียวจะเอาเข้ามาในบ้านไม่ได้ จะเป็นบาป วัดจึงเป็นสาธารณโภคี เป็นสมบัติส่วนกลางที่ทุกคนสามารถเข้าไปกิน ไปอยู่ ไปใช้ได้ และไม่ใช่เฉพาะมนุษย์เท่านั้นที่จะได้อาศัยสมบัติสาธารณะนี้ แม้แต่หมา แมวก็ได้อาศัยอยู่กินในวัด สาราณียธรรม ประการที่ 4 นี้ จึงมีความหมายมากมายในสังคมไทย ถึงแม้ว่าทุกวันนี้อาจจะดูเบาบางลงไปบ้าง เพราะถูกกระแสของคลื่นทุนนิยม คลื่นโลกาภิวัตน์กระแทก จนผู้คนไม่เห็นคุณค่าของวัด ของส่วนรวม แม้แต่โรงเรียนนั้น ในอดีตก็อยู่ร่วมกับวัดเป็นส่วนเดียวกัน ต่อมาในยุคการเมืองสมัยใหม่ หลังจากการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครอง เราก็ไปลอกแบบมาจากตะวันตก แยกการศึกษาออกไปจากวัด เพื่อไม่ให้วัดถ่วงความเจริญ (ทางวัตถุ) ไม่ให้วัดไปคอยถ่วงความโลภ เพราะโลกยุคใหม่ต้องการกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่าย ให้มนุษย์มีความละโมบ โลภมาก ดังนั้น วัดจึงเป็นตัวถ่วง ตัวขัดขวางสิ่งที่สมมติว่าเป็นความเจริญไป เหมือนกับศาสนาคริสต์บางนิกาย ที่ถูกดึงกิจกรรมการเรียนการสอนไปหมดสิ้น สิ่งที่ทำให้ “ทาน” นั้นคงอยู่ในวิถีชีวิตจึงหมดไป ไม่ได้ถูกหยิบยกมาสอนกันอย่างจริงจัง ส่วนอีก 2 ข้อสุดท้ายของสาราณียธรรม 6 คือ 5) สีลสามัญญตา และ 6) ทิฐิสามัญญตา การมีกฎระเบียบ หรือศีลร่วมกัน และการมีความเห็นที่เสมอกัน ทั้ง 6 ประการนี้เป็นธรรมะที่สำคัญ เพื่อให้สังคมเราอยู่รอดได้ ส่วนผลของการปฏิบัติตามสาราณียธรรม 6 นั้นจะก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร โปรดติดตามต่อฉบับหน้า +
|
|
|
|
![]() |
|
เรียนรู้!
|
สวัสดีค่ะคุณดีสฯ มีอีกเรื่องหนึ่งค่ะในเรื่องความรุนแรงในครอบครัวที่เกิดขึ้นในเวลานี้ปัญหาน่าจะศึกษาดูกันน๊ะว่าใช่เรื่องนี้หรือไม่
ความรุนแรงในครอบครัว
การทำร้าย ทุบเฆี่ยนตีภรรยา (Wife Battering) การทำร้าย ทุบเฆี่ยนตีภรรยา เกิดขึ้นได้ทุกชนชั้นในสังคม (Lenore E. Walker) สาเหตุเกิดจากความผิดปกติของสมาชิกครอบครัว (Steinmetz, 1977) ทำให้เกิดข้อขัดแย้งและการพิพาทในครอบครัว ถ้าปล่อยทิ้งให้เป็นความขัดแย้งที่เรื้อรังไม่ได้ขจัดแก้ไข ผลสุดท้ายจะเกิดภาวะที่ไม่สามารถควบคุมได้ นักวิชาการหลายท่านแสดงความคิดเห็นว่า ความรุนแรงในครอบครัวเกิดจากการใช้อำนาจอาวุโสระหว่างเพศ เช่น Goode (1971) และ O'Brien (1971) ได้เสนอว่าสามีที่ไม่ประสบความสำเร็จทางสังคมในหน้าที่การงาน มักจะแสดงความวิตกกังวลหงุดหงิดไปสู่ภรรยา Goode (1971)ได้สรุปว่ความรุนแรงในครอบครัวเกิดขึ้นเมื่อสามีไม่สามารถมีสถานภาพทางสังคม ประสบความล้มเหลวต่อการมีอำนาจนอกบ้าน ไม่สามารถทำงานบรรลุวัตถุประสงค์เพื่อนำมาสนับสนุนการมีอำนาจในบ้าน ประเด็นเหล่านี้ ต้องทำการศึกษาต่อไปอีก โดยจะต้องนำปัจจัยอื่นมาทำการศึกษา เช่น กระบวนการขัดเกลาทางสังคม ปัจจัยทางจิตวิทยาปัจจัยความกดดันทางสังคม เช่น ปัญหาการว่างงาน ปัญหาด้านการเงิน และปัญหาด้านสุขภาพ
การกระทำทารุณต่อเด็ก (Child Abuse) การกระทำทารุณต่อเด็ก เกิดขึ้นได้หลายสถานการณ์ตั้งแต่เรื่องความขัดสนด้อยโอกาส ขาดแคลนความจำเป็นพื้นฐานของชีวิต ด้านอาหาร เสื้อผ้า ที่อยู่อาศัย ไปจนถึงเรื่องการขาดความรัก ความอบอุ่นในครอบครัว การกระทำทารุณทางร่างกาย ถูกกักขังหน่วงเหนี่ยว นำไปเร่ขาย ทอดทิ้งให้อดอยากหิวโหย ต้องเร่ร่อนและการฆาตกรรมเด็กตั้งแต่เป็นทารกอยู่ในครรภ์ การฆ่าทิ้งถ้าพบเป็นเพศหญิง และการทำแท้งจากการตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์ บางประเทศที่อยู่ระหว่างการทำสงครามจะให้เด็กจับอาวุธ ทำหน้าที่เป็นทหาร และเด็กต้องตกเป็นเหยื่อจากการสู้รบตั้งแต่อายุระหว่าง 7 - 8 ขวบ การกระทำทารุณต่อเด็กที่นักวิชาการหลายท่านได้สรุปสาเหตุ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงทางสังคม สังคมเกิดภาวะไร้ระเบียบวินัย รวมทั้งการเกิดสภาพความเป็นเมือง (Urbanization) ทำให้สังคมละทิ้งคุณค่าทางวัฒนธรรม และการปฏิบัติหน้าที่ของครอบครัวล้มเหลว ทำให้เสี่ยงต่อการกระทำทารุณต่อเด็กยิ่งขึ้น
|
|
|
|
![]() |
|
สำนึกไทย!
|
|
|
|
|
![]() |
|
คนไทยรักแผ่นดิน!
|
ดูเหมือนว่าในทุกวันประเทศไทยไม่เคยละเว้นสักวันว่าจะไม่มีการแก้ไข ทุกคนคิดและคิดช่วยเหลือกันที่จะให้เหตุร้วย ๆ ในไทยนั้นให้หมดไป แต่ยิ่งคิดก็ยิ่งมีเรื่องให้มาแก้ไขในทุกวัน สื่อที่สร้างสรรค์ก็ควรจะคิดตามไปด้วยกระนั้นได้ ว่าควรจะร่วมด้วยช่วยกันกัับคนไทยอย่างไรที่จะให้เหตุร้ายๆ ในไทยให้หมดไป มิใช่สร้างกระแสให้เรื่องที่กำลังแก้ไขให้รุนแรงมากขึ้น ๆ เสมือนว่าจะแก้ไม่ได้ สื่อควรจะเข้าใจ เข้าถึง และคิดพัฒนา ในการสร้างสรรข่าวขึ้นมาเพื่อให้เกิดขวัญและกำลังใจให้แก่ผู้ที่ทำหน้าที่หลักกระนั้น มิใช่คอยแต่จะตอกย้ำว่าไม่มีทางสำเร็จในทุกเรื่องในการคิดแก้ไข สื่อคือ สิ่งที่จะสร้างสรรค์โลกใบนี้ให้ดีหรือร้ายนี่ก็ขึ้นอยู่กับการ สื่อสาร ของไทยและของโลกใบนี้ว่าจะให้ดีหรือไม่ดีนั้นเห็นจะได้
บทบาทสื่อในโลกปัจจุบันจะต้องสร้างสรรค์แต่สิ่งที่มีประโยชน์ต่อโลกใบนี้นั้นเห็นจะได้ อย่าใช้อคติส่วนตน ส่วนตัวในการคิดที่จะทำลายต้นขั้วของความดีของประเทศใด ๆ สำหรับประเทศไทย ต้นขั้วของความดีนี้ บรรพบุรุษได้ปูทางเอาไว้แล้ว ณ สถานที่นี้คือผืนแผ่นดินไทย ที่จะให้คนไทยได้สืบทอดตามเจตนารมย์นั้น แต่สื่อนั้นกลับไม่เข้าใจ และยิ่งจะไม่เข้าถึงกระนั้น สื่อสารกันชนิดที่จะให้ประเทศไทยไม่มีบรรพบุรุษกระนั้น เอาบรรพบุรุษของชาติใดนั้นมายกชูไว้เหนือประเทศไทยกระนั้นได้ ต้นตระกูลไทยเรามี ต้นขั้นนี้ก็คือประวัติศาสตร์ชาติไทยที่จะทำการศึกษาค้นคว้ากระนั้นได้ มีทั้งหลักฐาน แสง สี เสียง เอาไว้ให้ดูได้ทุกวันเวลาที่มีการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยมาจนถึงปัจจุบันนี้นั้นได้ ประเทศไทยของเราจึงยังยึดมั่นอยู่กับบรรพบุรุษของไทยที่ยังมั่นคง ยั่งยืนอยู่ถึงปัจจุบันนี้และไม่มีวันที่จะเปลี่ยนแปลงความคิดของคนไทยที่ดี ๆ ทั้งหมดนี้ในประเทศไทย 
|
|
|
|
![]() |
|
คนไทยรักแผ่นดิน!
|
 ดูเหมือนว่าในทุกวันประเทศไทยไม่เคยละเว้นสักวันว่าจะไม่มีการแก้ไข ทุกคนคิดและคิดช่วยเหลือกันที่จะให้เหตุร้วย ๆ ในไทยนั้นให้หมดไป แต่ยิ่งคิดก็ยิ่งมีเรื่องให้มาแก้ไขในทุกวัน สื่อที่สร้างสรรค์ก็ควรจะคิดตามไปด้วยกระนั้นได้ ว่าควรจะร่วมด้วยช่วยกันกัับคนไทยอย่างไรที่จะให้เหตุร้ายๆ ในไทยให้หมดไป มิใช่สร้างกระแสให้เรื่องที่กำลังแก้ไขให้รุนแรงมากขึ้น ๆ เสมือนว่าจะแก้ไม่ได้ สื่อควรจะเข้าใจ เข้าถึง และคิดพัฒนา ในการสร้างสรรข่าวขึ้นมาเพื่อให้เกิดขวัญและกำลังใจให้แก่ผู้ที่ทำหน้าที่หลักกระนั้น มิใช่คอยแต่จะตอกย้ำว่าไม่มีทางสำเร็จในทุกเรื่องในการคิดแก้ไข สื่อคือ สิ่งที่จะสร้างสรรค์โลกใบนี้ให้ดีหรือร้ายนี่ก็ขึ้นอยู่กับการ สื่อสาร ของไทยและของโลกใบนี้ว่าจะให้ดีหรือไม่ดีนั้นเห็นจะได้ บทบาทสื่อในโลกปัจจุบันจะต้องสร้างสรรค์แต่สิ่งที่มีประโยชน์ต่อโลกใบนี้นั้นเห็นจะได้ อย่าใช้อคติส่วนตน ส่วนตัวในการคิดที่จะทำลายต้นขั้วของความดีของประเทศใด ๆ สำหรับประเทศไทย ต้นขั้วของความดีนี้ บรรพบุรุษได้ปูทางเอาไว้แล้ว ณ สถานที่นี้คือผืนแผ่นดินไทย ที่จะให้คนไทยได้สืบทอดตามเจตนารมย์นั้น แต่สื่อนั้นกลับไม่เข้าใจ และยิ่งจะไม่เข้าถึงกระนั้น สื่อสารกันชนิดที่จะให้ประเทศไทยไม่มีบรรพบุรุษกระนั้น เอาบรรพบุรุษของชาติใดนั้นมายกชูไว้เหนือประเทศไทยกระนั้นได้ ต้นตระกูลไทยเรามี ต้นขั้วนี้ก็คือประวัติศาสตร์ชาติไทยที่จะทำการศึกษาค้นคว้ากระนั้นได้ มีทั้งหลักฐาน แสง สี เสียง เอาไว้ให้ดูได้ทุกวันเวลาที่มีการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยมาจนถึงปัจจุบันนี้นั้นได้ ประเทศไทยของเราจึงยังยึดมั่นอยู่กับบรรพบุรุษของไทยที่ยังมั่นคง ยั่งยืนอยู่ถึงปัจจุบันนี้และไม่มีวันที่จะเปลี่ยนแปลงความคิดของคนไทยที่ดี ๆ ทั้งหมดนี้ในประเทศไทย
|
|
|
|
![]() |
|
ไหม?
|
|
|
|
|
![]() |
|
คิดเพื่อสื่อสารไทย!
|
ปัจจุบันเด็กก็คงไม่ได้บริโภคข่าวกันหรอกนั่นเพราะว่าไปอยู่ในโลกอินเตอร์เน็ทกระนั้นได้ ก็มีแต่คนวัยทำงาน ผู้สูงอายุเกษียณอยู่บ้านที่ก็คงจะติดตามข่าวสารบ้านเมืองกระนั้นได้ ยิ่งห่อเหี่ยวเข้าไปใหญ่ นอกจากจะไม่ค่อยมีลูกหลานอยู่ดูแล้วนั้น มาเปิดข่าวดูข่าวทุกวันก็จิตตก เป็นโรคซึมเศร้ากลาย ๆ อย่างนี้หากเป็นอยู่ทุกวันนี่คงจะเกิดอาหารสมองกลับด้านกระนั้นได้ คือรับแต่ข่าวร้าย ๆ ด้านเดียวกระนั้น เรื่องดีๆ นั้นไม่ค่อยจะมีสักเท่าไหร่ เอาเป็นว่าให้มีข่าวสักสองวัน อีกสามวันนั่นก็เป็นการพูดคุญกันเบา ๆ สมองกันดีกว่าไหม เช่นเรื่องเอาข่าวมาเล่าแบบให้เกิดความ สมดุลทางสมองในเรื่องการรับฟังข่าวสารกันบ้างก็จะดีอย่างมากมาย เช่น เอาเรื่องบาปบุญคุณโทษมาคุยกันบ้าง เอาพระมาเทศน์สดับกับการอ่านข่าวดูบ้างก็จะดีอย่างมากมาย ลองให้พระมาเทศน์แบบอ่านขาวสารของพระกันบ้างก็จะดีไหม จะได้ฟังข่าวทางธรรมบ้าง ทางโลกบ้างสลับกันไป ก็มีเรื่องเศรษฐกิจบ้างก็สลับกันบ้างก็จะดีน๊ะสำหรับไทย ๆ แบบบริโภคข่าวแบบพอเพียงกันกระนั้น ให้เกิดสมดุลในเรื่องการรับฟังข่าวสารในบ้านเมืองเราจะดีกว่าไหม แบบให้เห็นโลกทรรศน์ในบ้านเมืองอื่นเขาบ้าง ว่าบ้านเมืองเขามีอะไรที่ดีกว่าเรามีอะไรบ้างจะดีไหม ให้มาเปรียบเทียบกันจะได้มีการสร้างสรรค์ให้บรรเจิดในความคิดนั้นในการสร้างสรรค์ประเทศไทยกันต่อไปจะดีกว่าไหม? 
|
|
|
|
![]() |
|
แก้ไข!
|
ทำไมพระพุทธเจ้าจึงห้ามอวดอุตริมนุษยธรรม?
เหตุและผลของการอวดอุตริมนุษยธรรม
(ทำไมพระพุทธเจ้าจึงห้ามอวดอุตริมนุษยธรรม?)
บทบัญญัติซึ่งแสดงถึงเจตนารมณ์ที่มุ่งเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม ให้ความสำคัญแก่สงฆ์ ได้แก่ พุทธบัญญติไม่ให้ภิกษุอวดอุตริมนุษยธรรม คือ คุณวิเศษหรือการบรรลุธรรมอย่างสูงที่เกินปกติของมนุษย์สามัญ เช่น สมาธิ ฌาน สมาบัติ มรรคผล ถ้าอวดโดยที่ตนไม่มีคุณวิเศษนั้นจริง คือ หลอกเค้าย่อมต้องอาบัติปาราชิก ขาดจากความเป็นภิกษุ แต่ถึงแม้ว่าจะได้บรรลุคุณวิเศษนั้นจริง ถ้าพูดอวดหรือบอกเล่าแก่ชาวบ้าน หรือผู้อื่นใดที่มิใช่ภิกษุ หรือภิกษุนี ก็ไม่พ้นเป็นความผิดเพียงแต่เบาลงมา เป็นอาบัติชาจิตตีต์
ต้นเหตุที่จะให้มีพุทธบัญญัตินี้เกิดจากในคราวทุพภิกขภัย ภิกษุพวกนี้คิดหาอุบาย ให้พวกตนมีอาหารฉันโดยไม่ลำบาก กล่าวสรรเสริญกัน ให้ชาวบ้านฟังทั้งจริงและไม่จริงบ้าง ชาวบ้านเลื่อมใสพากันบำรุงเลี้ยงภิกษุกลุ่มนั้น พระพุทธเจ้าทรงทราบจึงทรงบัญญัติสิกขาบทขึ้นห้าม ติเตียนว่าไม่สมควรอวดอ้าง คุณความดีพิเศษกัน เพราะเห็นแก่ท้องและสำหรับผู้ที่อวดอ้างโดยไม่เป็นจริง ทรงติเตียนอย่างรุนแรงว่า เป็นมหาโจรที่เลวร้ายที่สุดในโลก เพราะบริโภคอาหารของชาวบ้านชาวเมือง โดยฐานบริโภค พุทธบัญญัติอีกข้อหนึ่ง ในจำพวก ห้ามอวดอุตริมนุษยธรรม คือ สิกขาบทที่มีให้ภิกษุแสดงอิทธิปาฏิหาริย์แก่ชาวบ้าน ภิกษุใดแสดงภิกษุนั้นมีความผิด ต้องอาบัติทุกกฎ ต้นเหตุเกิดจากเศรษฐีท่านเอาบาตรไม้จันทร์แขวนไว้ที่ปลายไม้ไผ่ แล้วประกาศท้าพิสูจน์ว่า ใครเป็นพระอรหันต์ มีฤทธิ์จริงก็ขอถวายบาตรนั้นแต่ให้เหาะไปเอาลงมาพระปิณโฑลภารัทวาชะได้ยินคำท้า ต้องการจะรักษาเกียรติของพระศาสนา จึงเหาะขึ้นไปเอาบาตรลงมา พระพุทธเจ้าทรงทราบจึงทรงบัญญัติสิกขาบทห้าม โดยตำหนิว่า ไม่สมควรแสดงอิทธิปาฏิหาริย์ซึ่งเป็นธรรม ล้ำสามัญมนุษย์ เพราะเห็นแก่บาตรที่มีค่าต่ำ ทรงเปรียบการทำเช่นนั้นว่าเป็นเหมือนสตรี ที่เผยอวัยวะพึงสงวนให้เขาดูเพราะเห็นแก่เงินทองของต่ำทราม เจตนารมที่คำนึงถึงสงฆ์ เพื่อการดำรงพระศาสนา ตามหลักการของพระพุทธศาสนา การดำรงอยู่แห่งธรรมวินัย เพื่อประโยชน์สุขของชาวโลกนั้น ขึ้นอยู่กับสงฆ์เป็นส่วนรวม การที่จะสืบต่อพระศาสนา หรือรักษาธรรมวินัย จึงต้องทำให้สงฆ์คงอยู่ยั่งยืน การอวดคุณพิเศษของภิกษุ ย่อมทำให้ประชาชนรวมจุดความสนใจไปที่ภิกษุนั้นแล้วหันไปทุ่มเทความอุปถัมถ์ บำรุงให้ในเวลาเดียวกัน สงฆ์จะด้อยความสำคัญลงภิกษุ ส่วนใหญ่ไม่ได้รับความเอาใจใส่ แลทะสงฆ์ส่วนรวมก็จะอ่อนกำลังลง การยืนยันความตรัสรู้ เป็นหน้าที่ของพระศาสดา การอวดหรือบอกกล่าวอุตริมนุษยธรรม คือ คุณวิเศษของตน แก่ชาวบ้าน แม้จะเป็นจริงก็มีผลเสียหาย ที่สำคัญแก่ส่วนรวม ดังนี้
1. ทำให้ชาวบ้านตื่นเต้น ระดมความสนใจ มารวมที่บุคคลทั่วไป หรือกลุ่มเดียว แทนสนใจสงฆ์ดังได้กล่าวแล้ว และชาวบ้านผู้ไม่รู้ไม่เข้าใจก็จะคิดเปรียบคิดเทียบเกิดความรู้สึก ดูถูกดูแคลนท่านอื่น กลุ่มอื่น อย่างถูกต้องบ้าง
2. เมื่อมีการอวดกันได้ ไม่เฉพาะท่านที่รู้จริงได้ จริงเท่านั้น ที่จะอวดท่านที่สำคัญตนผิด ก็จะอวดแต่ที่ร้ายแรงยิ่งก็คือ เป็นช่องให้ผู้ไม่ละอายทั้งหลาย พากันฉวยโอกาสกันวุ่นวาย ชาวบ้านซึ่งไม่ได้รู้ไม่ได้มีประสบการณ์เอง ก็แยกไม่ถูกว่าอย่างไหนจริงอย่างไหนเท็จ
3. ชาวบ้านระดับโลกียปุถุชน ทั้งหลายมีความพอใจนิยมชมชอบต่างๆกัน ตื่นเต้นในต่างสิ่งต่างระดับกัน และผู้ที่บรรลุธรรมวิเศษ ก็มีบุคลิกลักษณะ คุณสมบัติและความสามารถด้านอื่นๆต่างๆ กันไป มิใช่จะมีคุณสมบัติที่พร้อมจะเป็นผู้นำตามรอยบาทพระศาสดาได้เหมือนกัน
4. เมื่อท่านที่บรรลุจริงสอนเก่ง อวดแล้วสอนบ้าง ท่านที่บรรลุจริงสอนไม่เป็น แต่พูดออกมาบ้างท่านที่ไม่รู้จริงสำคัญตนผิด คิดว่าบรรลุแล้วเที่ยวบอกเล่าไว้บ้าง ท่านที่ไม่บรรลุแต่ชอบหลอกพูดลวงเขาไปบ้างต่อไป หลักพระศาสนา ก็จะสับสนป่นเปฟั่นเฟือน ไม่รู้ว่าอันใดแท้อันใดเทียมเพราะหย่อนความรู้ทางปริยัติก็ทำให้หลักธรรมสับสนเสียเอกภาพแห่งคำสอนของพระศาสดา ความจริงนั้นความยืนยันความตรัสรู้ เป็นภารกิจของพระศาสดา ซึ่งเป็นผู้นำในเมื่อจะทำหน้าที่ตั้งพระศาสนา และปกป้องพระศาสนานั้น พร้อมทั้งหมู่สาวก ส่วนหมู่สาวกภายหลัง เมื่อสมัครเข้ามาก็คือยอมรับคำสอนของพระองค์ ความรับผิดชอบในการสอน ไม่อยู่ที่อ้างกานบรรลุของตน แต่อยู่ที่สอนให้ตรงกับคำสอน ของพระศาสดา
ชื่อหนังสือ เหตุและผลของการอวดอุตริมนุษย์ธรรม ( ทำไมพระพุทธเจ้า จึงห้ามอวดอุตริมนุษยธรรม)
ชื่อผู้แต่ง พระธรรมปิฎก (ป.ว. ปยุต.โต )
พิมพ์ครั้งที่ 16 มิถุนายน 2549
รูปเล่มดำเนินการผลิต บริษัทปาปิรุส พับลิเคชั่น จำกัด โทร 258-2492
|
|
|
|
![]() |
|
ยังปลงกันไม่ได้!
|
|
|
|
|
![]() |
|
คิดเพื่อประเทศไทย
|
อากาศประเทศไทยจะแปรปรวนมาก คือร้อนสลับหนาว ให้ระวังร่างกายจะปรับเปลี่ยนไม่ทันและจะกลายเป็นไข้หวัดกันได้ ทั้ง คน และ สัตว์ ก็ขอให้เตรียมป้องกันระวังภัยของสัตว์เลี้ยง วัว ควาย ที่อยู่ในความดูแล เพราะร่างกายจะปรับเปลี่ยนไม่ทัน ฝนคงจะน้อยนัั้น เพราะไอน้ำไม่ค่อยจะมีเพราะภัยแล้ง ฝนทิ้งช่วงแบบนี้จะต้องคิดหานวัตกรรมที่จะทำให้เกิดไอน้ำที่จะลอยตัวไปเป็นกลุ่มก้อนเมฆกระนั้น บางทียังคิดว่าควรจะใช้พลาสติกปูเพื่อให้เกิดละอองไอน้ำจากแสงอาทิตย์เพื่อให้เกิดเป็นไอ เราจะต้องใช้พื้นที่กันสักเท่าไหร่เพื่อที่จะทำให้เกิดไอจากน้ำให้ลอยขึ้นไปเป็นกลุ่มก้อนเมฆกันกระนั้นได้ การทำยางพารา หรือใช้ยางพารามาทำประโยชน์จะกระทำกันได้ไหม ต่อไปนี้คงต้องคิดหลายวิธีการเพื่อที่จะก่อให้เกิดน้ำฝนกันเพื่อบรรเทาความร้อนและเก็บกักน้ำไว้ใช้ คิดว่าสติปัญญาของคนไทยควรจะนำมาใช้ในการที่ช่วยเหลือส่วนรวมกันจะดีกว่ามากมาย แทนที่จะเอาสติปัญญาไปต่อสู้กันแต่ผลประโยชน์นั้นมิได้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมหรือของประเทศแต่อย่างใด ก็ขอให้ช่วยกันคิดหาทางช่วยเหลือประชาชนมิให้เกิดทุกข์ภัยจากการขาดแคลนน้ำ หรือทรัพยากรของชาตินั้นเติบโตไม่ทันที่จะใช้ ก็ควรที่จะร่วมกันคิดหาทางช่วยเหลือประชาชนคนไทยให้รอดพ้นจากทุกข์ภัยในอนาคตอันใกล้เถิดคนไทย 
|
|
|
|
![]() |
|
คิดเพื่อประเทศไทย
|
|
|
|
|
![]() |
|
คิดเพื่อประเทศไทย
|
|
|
|
|
![]() |
|
คิดเพื่อประเทศไทย
|
|
|
|
|
![]() |
|
นี่คือเกมส์หรืออะไร?
|
|
|
|
|
![]() |
|
บรรพบุรุษของไทย
|
บรรพบุรุษของไทยแต่โบราณ ปกบ้านป้องเมืองคุ้มเหย้า เสียเลือดเสียเนื้อมิใช่เบา หน้าที่เรารักษาสืบไป ลูกหลานเหลนโหลนภายหน้า จะได้มีพสุธาอาศัย อนาคตจะต้องมีประเทศไทย มิยอมให้ผู้ใดมาทำลาย ถึงขู่ฆ่าล้างโคตรก็ไม่หวั่น จะสู้กันไม่หลบหนีหาย สู้ตรงนี้สู้ที่นี่สู้จนตาย ถึงเป็นคนสุดท้ายก็ลองดู บ้านเมืองเราเราต้องรักษา อยากทำลายเชิญมาเราสู้ เกียรติศักดิ์ของเราเราเชิดชู เราสู้ไม่ถอยจนก้าวเดียว 
|
|
|
|
![]() |
|
คิดเพื่อประเทศไทย
|
|
|
|
|
![]() |
|
|
สวัสดีคุณจูกัสเหลียง
เรื่องวัดพระธรรมกายคงจะจบลงในอีกไม่นานครับหลวงพ่อสดท่านคงเสียใจท่านเคยมาเข้าฝันมาหลายหนแล้วครับ
|
|
|
|
![]() |
|
|