โพสต์อินเตอร์มีเดียไฟเขียวส่ง “Gen 3” ปฏิวัติสื่อสิ่งพิมพ์ จับตาผู้บริหารรุ่นใหม่เผยมีบิ๊กเซอร์ไพรส์เร็วๆ นี้
นายสุทธิเกียรติ จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท โพสต์ พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในห้วงเวลาที่ผ่านมา นับเป็นช่วงที่สื่อสิ่งพิมพ์มีความยากลำบากในการดำเนินธุรกิจ จากไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ประกอบกับภาพรวมของภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว
ในส่วนของ บริษัท โพสต์ อินเตอร์มีเดีย จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือโพสต์ฯนั้น เป็นกลุ่มผู้นำนิตยสารทั้งนิตยสารผู้หญิงและไลฟ์สไตล์ ได้แก่ ELLE, ELLE MEN, Elle Decoration, Marie Claire, Cleo, Science Illustrated, Cycling Plus Thailand และ Forbes Thailand โดยวิกฤตของวงการสื่อสิ่งพิมพ์ครั้งนี้ถือเป็นโอกาสที่จะให้คนรุ่นใหม่เข้ามาปรับเปลี่ยนด้วยวิชั่น 4.0 โดยเจ้าสัวสุทธิเกียรติ ได้ให้ลูกชายคนเล็ก ป๊อก-ภัสสรกรณ์ จิราธิวัฒน์ เข้ามาตำแหน่งหัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการธุรกิจดิจิตอลมีเดียและนิตยสาร และ หลานสาวคนโปรดแพร-พิมพิศา จิราธิวัฒน์ เข้ามาดูแล
งานด้าน Business Development
“สำหรับป๊อกที่ผ่านมาก็ได้ปูพื้นวางแผนให้เขาซึมซับงานด้านสื่อตั้งแต่เด็ก หลังจากที่เขาเรียนจบเศรษฐศาสตร์มาก็ให้มาฝึกงานที่หนังสือพิมพ์ ส่วนแพรก็วางแผนอยากให้เขามาช่วยด้านโรงแรม เพราะจบ
สถาปัตย์ฯมา แต่มันยังไม่ได้จังหวะและโอกาส จนกระทั่งวันนี้ ซึ่งเมื่อเขาลองดูงานด้านนี้แล้วเขาก็ชอบ ตัดสินใจจะมาช่วยสานต่อธุรกิจ หลายคนมองว่าเป็นช่วงวิกฤต แต่สำหรับผมแล้วมองว่าเป็นโอกาส เพราะอย่างไรเสีย คนก็ยังต้องอ่าน จะอ่านจากอะไร สิ่งไหนนั้นยังไงก็ต้องอ่าน อย่างผมพี่ชายมีร้านหนังสือ ให้ผมเฝ้าร้านหนังสือ บังคับให้อ่านหนังสือในร้าน อ่านไปอ่านมา ผมเลยเป็นคนชอบอ่านหนังสือ ผมเชื่อว่าตราบใดคนยังต้องค้นคว้าหาความรู้ ยังไงก็ยังต้องอ่าน เพียงแต่ว่าจะอ่านจากสิ่งไหน การที่เขา อา หลานมาบอกผมว่าจะเข้ามาช่วยธุรกิจสิ่งพิมพ์นี้ เป็นสิ่งที่ผมดีใจมาก เพราะเรามีหุ้นในสื่อสิ่งพิมพ์อยู่ 40 ปี ก็เป็นเวลาสุกงอมโอกาสจังหวะที่เขาจะมารับช่วงต่อ และยังเชื่อมั่นด้วยว่าความเป็นคนรุ่นใหม่ของเขาทั้งสองคนนี้จะทำให้เกิดการปฏิวัติวงการสิ่งพิมพ์เลยทีเดียว” นายสุทธิเกียรติกล่าว
โดย ป๊อก-ภัสสรกรณ์ ทายาทรุ่นที่ 3 ตระกูลจิราธิวัฒน์ สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีด้านเศรษฐศาสตร์จาก มหาวิทยาลัยนอร์ทอีสเทิร์น บอสตัน สหรัฐอเมริกา และระดับปริญญาโทจาก สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์ โดยก่อนหน้านี้เขาได้รับมอบหมายให้เป็นหนึ่งในทีมที่ก่อตั้ง M2F จนกลายเป็นฟรีก็อปปี้ที่มียอดผู้อ่านสูงสุดและประสบความสำเร็จอย่างสูง กระทั่งก้าวเข้ามา บริหารธุรกิจของ โพสต์อินเตอร์เนชั่นแนล มีเดีย ในเครือโพสต์พับลิชชิ่ง ตั้งแต่ต้นปี 2016 ที่ผ่านมา ซึ่งเพียงไม่ถึง 1 ปีเขาสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้ทีมงานด้วยการฝ่าวิกฤตมาได้และมีผลงานเป็นที่พอใจ ซึ่งแม้เป็นงานที่ค่อนข้างหินสำหรับ Gen ใหม่ที่เข้ามาสานต่อธุรกิจแต่เขากลับมองว่าเป็นโอกาสที่จะปรับเปลี่ยนสื่อสิ่งพิมพ์ให้สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่
“ผมและแพรได้มีโอกาสไปศึกษาดูงานด้านสื่อดิจิตอลในต่างประเทศ ที่นั่นมีไลฟ์สไตล์ของคนที่บริโภคสื่อเปลี่ยนไปเร็ว แต่อุตสาหกรรมสื่อก็พลิกเกมได้เร็วมาก สามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ได้ เราจึงคิดว่า เขามีโจทย์เดียวกับเราที่จะนำเทคโนโลยีต่างๆ มาพัฒนาเพื่อต่อยอดให้เกิดรูปแบบของแพลทฟอร์มใหม่ๆ ในธุรกิจสื่อ ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดตัวได้ภายในเร็วๆ นี้” นายภัสสรกรณ์ขยาย
ทางด้านหลานสาวคนโปรดผู้บริหารหน้าใหม่ แพร-พิมพิศา เพิ่มเติมว่า “คำว่าปฏิวัติวงการสิ่งพิมพ์นั้น ไม่ได้หมายถึงการมีเพียงแค่แมกกาซีนดิจิตอลเท่านั้นเพราะสื่อสิ่งพิมพ์หลายที่ก็พลิกตัวไปในทิศทางนั้น หรือไม่ใช่แค่การอ่านแมกกาซีนผ่าน เว็บไซต์ หรือ
มือถือ หรือแอพลิเคชั่นเท่านั้น แต่จะเป็นการนำเสนอคอนเทนต์ใหม่ๆ บนความแข็งแกร่งที่โพสต์อินเตอร์ฯเรามีอยู่แล้ว สามารถเติมเต็มไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ให้สมบูรณ์ขึ้น โดยโจทย์ที่ได้รับจากคุณปู่นั้นคือต้องการให้เราใช้ความรู้ความสามารถของเราให้เต็มที่ ทำให้เต็มที่ จึงไม่รู้สึกกดดันอะไร”
สำหรับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นภายหลังจากการเข้ามาดูแลสื่อแมกกาซีนของเครือโพสต์พับลิชชิ่งได้เกิดกลุ่มงานใหม่ๆ อาทิ ฝ่ายปฏิบัติการธุรกิจดิจิตอลมีเดีย โดยมีทีมงานคนรุ่นใหม่ที่พร้อมจะสร้างสรรค์สื่อในแพลทฟอร์มใหม่ ๆ ให้เกิดขึ้น ซึ่งความคาดหวังนั้นต้องการให้เกิดแรงกระเพื่อมของวงการสื่อสิ่งพิมพ์ ภายในสิ้นปีเพื่อตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ใหม่ของคนไทยยุค 4.0 นั่นเอง