‘บริษัท ซินเนอร์เจติค ออโต้ เพอร์ฟอร์มานซ์ จำกัด (มหาชน)’ หรือ ASAP ผู้ประกอบธุรกิจรถยนต์ให้เช่าระยะยาวแบบครบวงจรสำหรับลูกค้านิติบุคคล รถยนต์ให้เช่าระยะสั้นและรถยนต์ให้เช่าพร้อมคนขับ ภายใต้แบรนด์ asap (เอแซ็ป) โชว์ผลงานครึ่งปีแรกของปีนี้ ดันกำไรสุทธิพุ่ง 88% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากจำนวนรถยนต์ให้เช่าที่เพิ่มขึ้นตามปริมาณกลุ่มลูกค้ารถยนต์ให้เช่าระยะยาวที่ขยายตัว แถมได้อานิสงส์จากตลาดรถยนต์มือสองฟื้นตัวได้ดี ส่งผลราคาขายรถต่อหน่วยดีขึ้น ด้านผู้บริหารมั่นใจอุตสาหกรรมรถยนต์ให้เช่าอยู่ในช่วงขาขึ้น จากปัจจัยองค์กรภาครัฐและเอกชนขนาดใหญ่หันใช้บริการรถยนต์ให้เช่าระยะยาวเพิ่มขึ้น เผยแผนงานครึ่งปีหลังชูศักยภาพและความแข็งแกร่งด้านการให้บริการสร้างความประทับใจให้แก่ลูกค้า ขณะที่กระแสตอบรับ asap GO สุดแจ่ม หลังอาคารสำนักงานหลายแห่งสนใจให้ asap เข้าไปเปิดให้บริการเพิ่มขึ้น นายทรงวิทย์ ฐิติปุญญา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซินเนอร์เจติค ออโต้ เพอร์ฟอร์มานซ์ จำกัด (มหาชน) ภายใต้แบรนด์ asap (เอแซ็ป) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ (มกราคม-มิถุนายน 2560) บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 67 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 88% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่มีกำไรสุทธิ 35.73 ล้านบาท และมีรายได้รวมทั้งสิ้น 1,000.85 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 58.24% หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่มีรายได้รวม 632.48 ล้านบาท ส่วนไตรมาส 2/60 (เมษายน-มิถุนายน 2560) บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 33.54 ล้านบาท และรายได้รวม 515.62 ล้านบาท
ปัจจัยการเติบโตที่ดีของรายได้และกำไรสุทธิในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ มาจากขีดความสามารถในด้านการให้บริการรถยนต์ให้เช่าภายใต้แบรนด์ asap ที่แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น หลังจากที่บริษัทฯ ได้เพิ่มจำนวนฟลีทรถเพื่อให้บริการแก่ลูกค้าเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2560 บริษัทฯ มีจำนวนรถยนต์ให้เช่าทั้งสิ้น 9,396 คัน แบ่งเป็นรถยนต์ให้เช่าระยะยาว 8,941 คัน รถยนต์ให้เช่าระยะสั้น 327 คัน และรถยนต์ให้เช่าพร้อมคนขับ 128 คัน
นอกจากนี้ ยังได้รับปัจจัยบวกจากการฟื้นตัวของตลาดรถยนต์มือสองซึ่งส่งผลต่อราคาจำหน่ายรถยนต์มือสองในตลาดที่ดีขึ้นตามไปด้วย ทำให้ asap สามารถจำหน่ายรถยนต์ให้เช่าที่ครบสัญญาแต่อยู่ในสภาพดีในราคาที่เพิ่มขึ้น ส่งผลดีต่ออัตรากำไรขั้นต้นจากการดำเนินธุรกิจและช่วยสนับสนุนการเติบโตด้านผลการดำเนินงานที่ดีให้แก่บริษัทฯ
“ผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้เติบโตได้อย่างโดดเด่นมาก เนื่องจากการดำเนินธุรกิจของเรามีความครบวงจร สามารถตอบสนองการให้บริการและสร้างความประทับใจแก่ลูกค้าทั้งรถยนต์ให้เช่าระยะยาว ระยะสั้นและรถยนต์ให้เช่าพร้อมคนขับได้เป็นอย่างดี จึงมีฐานลูกค้ารถยนต์ให้เช่าระยะยาวรายใหม่ ๆ ให้ความสนใจเข้ามาใช้บริการ รวมถึงรถยนต์ให้เช่าระยะสั้น ที่มีลูกค้ากลุ่มนักท่องเที่ยวที่ใช้บริการเดินทางโดยเครื่องบินไปใช้บริการตามเคาน์เตอร์ที่เปิดให้บริการที่สนามบินในภูมิภาคต่าง ๆ เพิ่มขึ้นด้วย” นายทรงวิทย์ กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร asap กล่าวว่า ส่วนการดำเนินงานในครึ่งปีหลัง asap มั่นใจว่าจะผลักดันการเติบได้ดีอย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยจากการเพิ่มฟลีทรถยนต์ใหม่เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าในปีนี้ 20-30% โดย asap มีแผนขยายฐานลูกค้ารถยนต์ให้เช่าระยะยาวรายใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางความต้องการใช้บริการรถยนต์ให้เช่าในประเทศไทยที่เพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับ ได้เพิ่มจุดให้บริการเคาน์เตอร์ตามสนามบินที่อยู่ภายใต้สำนักงานการบินพลเรือน ล่าสุด asap ได้เปิดเคาน์เตอร์ให้บริการรถยนต์ให้เช่าที่สนามบินอู่ตะเภา จังหวัดชลบุรี รองรับกลุ่มลูกค้านักท่องเที่ยวในโซนตะวันออก และการลงทุนในระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เพื่อผลักดันการเติบโตของธุรกิจรถยนต์ให้เช่าระยะสั้นมากขึ้นจากเดิมที่เปิดให้บริการรถยนต์ให้เช่าระยะสั้นในพื้นที่การท่าอากาศยานไทยหรือ AOT ทั้ง 6 แห่ง ได้แก่ สนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินดอนเมือง สนามบินภูเก็ต สนามบินเชียงใหม่ สนามบินเชียงรายและสนามบินหาดใหญ่
นอกจากนี้ การเปิดให้บริการ asap GO (เอแซ็บ โก) ที่เป็นมิติใหม่แห่งวงการอุตสาหกรรมรถยนต์ให้เช่าของไทย โดยคิดค่าบริการตามใช้งานจริง ได้เริ่มเปิดจุดให้บริการตามอาคารสำนักงาน 6 แห่ง ได้แก่ อาคารคอลัมน์ทาวเวอร์ อาคารอินเตอร์เชนจ์ อาคารศุภลัยแกรนด์ ทาวเวอร์ อาคารจัสมินอโศก อาคารเมโทรโพรลิส สุขุมวิท 39 และ อาคาร 42 ทาวเวอร์ ล่าสุดได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า จึงขยายการให้บริการไปยังอาคารสำนักงานแห่งอื่นเพิ่มเติม โดยคาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะมีจุดให้บริการรวม 30 แห่งตามแผนงานที่วางไว้ ทั้งนี้ จากแผนดำเนินงานดังกล่าว เชื่อว่าจะส่งผลดีต่อผลการดำเนินงานของ asap ในปีนี้ ที่จะผลักดันการเติบโต 25-30% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาที่มีรายได้ 1,400 ล้านบาทอย่างแน่นอน
