Natura &Co ผนึกกำลัง Avon ก้าวขึ้นเป็นบริษัทความงามแบบ Direct-to-Consumer ชั้นนำของโลก
Natura &Co (B3: NATU3) ประกาศซื้อกิจการ Avon Products, Inc. (NYSE: AVP) โดยเป็นการใช้หุ้นซื้อทั้งหมด ซึ่งจะก่อให้เกิดกลุ่มบริษัทด้านความงามรายใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลก พร้อมมอบพลังบวกให้แก่อุตสาหกรรม
การผนึกกำลังครั้งนี้จะก่อให้เกิดกลุ่มบริษัทด้านความงามที่ทำธุรกิจหลายช่องทางและมีหลายแบรนด์ พร้อมส่งตรงถึงผู้บริโภคทุกวัน กลุ่มบริษัทจะก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านการขายแบบสร้างสัมพันธ์กับลูกค้าผ่านเครือข่ายที่ปรึกษาและตัวแทนของ Avon และ Natura รวมกว่า 6.3 ล้านคน รวมถึงจุดจำหน่ายราว 3,200 สาขาทั่วโลก และช่องทางออนไลน์ กลุ่มบริษัทนี้คาดว่าจะมีรายได้รวมกันกว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี มีหุ้นส่วนรวมกันกว่า 40,000 ชีวิต และดำเนินธุรกิจใน 100 ประเทศ
กลุ่มบริษัทจะใช้ประโยชน์จากแบรนด์เด่นในเครือ ความตั้งใจในการสร้างสัมพันธ์กับลูกค้า และศักยภาพในการทำธุรกิจหลายช่องทาง เพื่อส่งมอบความงามสู่ผู้บริโภคกว่า 200 ล้านคนทั่วโลกทุกวัน ทุกที่ และทุกเวลา การดึง Avon เข้าร่วมกลุ่มธุรกิจความงามที่ประกอบด้วย Natura, The Body Shop และ Aesop จะทำให้ Natura &Co สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคกลุ่มต่างๆได้ดียิ่งขึ้น ทำธุรกิจได้หลายช่องทางมากขึ้น และสามารถขยายธุรกิจสู่ภูมิภาคใหม่ๆ
Avon และ Natura ต่างก่อตั้งขึ้นโดยกลุ่มบุคคลผู้มีวิสัยทัศน์ และเข้าถึงลูกค้าผ่านเครือข่ายผู้ประกอบการอิสระที่ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง ซึ่งทำหน้าที่เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์และผู้ให้คำปรึกษาด้านความงาม ทั้งนี้ Avon เป็นแบรนด์ดังที่มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 130 ปี และเป็นแพลตฟอร์มความงามชั้นนำของโลกที่เน้นสร้างสัมพันธ์กับลูกค้า โดยมีแบรนด์ผลิตภัณฑ์ความงามหลายหมวดหมู่และหลายระดับในตลาดต่างๆ บริษัทจึงมีศักยภาพการเติบโตในอนาคต
Natura &Co คาดว่าการทำธุรกรรมควบรวมกิจการครั้งนี้จะให้ผลประโยชน์ทางการเงินประมาณปีละ 150-250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยส่วนหนึ่งจะนำไปลงทุนใหม่เพื่อยกระดับขีดความสามารถด้านการขายผ่านช่องทางดิจิทัลและโซเชียลเน็ตเวิร์ก การวิจัยและพัฒนา การริเริ่มโครงการต่างๆของแบรนด์ และการเดินหน้าขยายตลาดใหม่ๆ
คุณ Luiz Seabra ผู้ร่วมก่อตั้ง Natura กล่าวว่า "เรานับถือและชื่นชม Avon เสมอมา Natura ก่อตั้งขึ้นด้วยความหลงใหลในความงามและความสัมพันธ์ และการควบรวมกิจการในวันนี้ก่อให้เกิดพลังขับเคลื่อนในแวดวงการขายตรง การขายตรงถือเป็นโซเชียลเน็ตเวิร์กก่อนที่คำๆนี้จะเกิดขึ้นเสียอีก ขณะที่การเข้ามาของเทคโนโลยีและโลกาภิวัตน์ได้ช่วยเพิ่มพูนโอกาสในการสร้างความสัมพันธ์ที่มีความหมายยิ่งขึ้นกับผู้บริโภค โมเดลการขายแบบ peer-to-peer กำลังวิวัฒนาการให้เข้ากับการขายผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ก และพลังของเทคโนโลยีดิจิทัลทำให้กลุ่มบริษัทสามารถก้าวข้ามการเป็นผู้ให้บริการผลิตภัณฑ์และให้คำปรึกษา โดยพร้อมสร้างพลังให้ผู้หญิงแข็งแกร่งขึ้น ด้วยการมอบอิสระทางการเงินและความมั่นใจในตัวเอง เราเชื่อว่าธุรกิจสามารถสร้างพลังบวก และเมื่อผนึกกำลังกับ Avon เราก็พร้อมต่อยอดความปรารถนาของเราในการนำคุณค่าทางสังคม สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจมาสู่เครือข่ายที่เติบโตอยู่ตลอดเวลา"
คุณ Roberto Marques ประธานกรรมการบริหารของ Natura &Co กล่าวว่า "หลังจากเข้าซื้อกิจการ Aesop ในปี 2556 ต่อด้วย The Body Shop ในปี 2560 วันนี้ Natura & Co ยังคงเดินหน้าอย่างแน่วแน่ในการสร้างกลุ่มบริษัทระดับโลกที่ทำธุรกิจหลายช่องทาง มีหลายแบรนด์ และขับเคลื่อนด้วยเป้าหมายที่ชัดเจน Avon เป็นบริษัทที่น่าทึ่ง โด่งดัง และมีเครือข่ายตัวแทนขายกว่า 5 ล้านคนที่เชื่อมั่นในพลังแห่งความสัมพันธ์เหมือนกับเรา เราจะร่วมกันยกระดับศักยภาพด้านดิจิทัล รวมถึงเครือข่ายผู้ให้คำปรึกษาและตัวแทนบนโลกโซเชียล พร้อมใช้ประโยชน์จากเครือข่ายร้านค้าและแบรนด์เด่นในเครือทั่วโลก เพื่อเชื่อมโยง สร้างสัมพันธ์ และโน้มน้าวผู้บริโภคหลายล้านคน พร้อมกับสร้างเอกลักษณ์ให้กับกลุ่มบริษัทและสร้างสรรค์แพลตฟอร์มรองรับการเติบโตอันทรงอิทธิพล"
คุณ Jan Zijderveld ซีอีโอของ Avon กล่าวว่า "การผนึกกำลังครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้นบทใหม่อันน่าตื่นเต้นในประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 130 ปีของ Avon สิ่งนี้เป็นเครื่องพิสูจน์ความก้าวหน้าของเราในการเปิดกว้างทางธุรกิจ และจะเปิดโอกาสให้เราสามารถเร่งดำเนินกลยุทธ์และขยับขยายเข้าสู่ช่องทางออนไลน์ ตลอดปีที่ผ่านมา เราได้เริ่มแผนพลิกโฉมองค์กรเพื่อเสริมแกร่งศักยภาพทางการแข่งขัน ด้วยการกลับมาให้ความสนใจกับ Her ปรับการดำเนินงานให้ง่ายขึ้น พร้อมปรับปรุงแบรนด์ให้ทันสมัยและสอดรับกับยุคดิจิทัล การผนึกกำลังกับ Natura ทำให้เรามีนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ในเครือมากขึ้น มีแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซและดิจิทัลที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ทั้งยังสามารถนำเสนอข้อมูลและเครื่องมือที่ดีกว่าเดิมให้แก่เครือข่ายตัวแทน เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตและเพิ่มมูลค่าให้แก่ผู้ถือหุ้นของเรา นอกจากนี้ การสนับสนุนจาก Natura จะทำให้เราสามารถเดินหน้าลงทุนในเทคโนโลยีล้ำสมัย เพื่อเพิ่มขีดความสามารถด้านดิจิทัลและผลิตภาพของเครือข่ายตัวแทน ทั้งนี้ Avon และ Natura ต่างเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยเป้าหมายที่ชัดเจน การรวมพลังกันครั้งนี้จะเปิดโอกาสให้เรารองรับตัวแทนหลายล้านคนได้ดีขึ้น รวมถึงผลักดันการขยายธุรกิจระดับโลกของ Avon ด้วยความมุ่งมั่นเดียวกันในการเพิ่มพูนประสบการณ์และรายได้ของ Her"
คุณ Chan Galbato ประธานกรรมการที่ไม่ใช่ผู้บริหารของ Avon กล่าวว่า "เราทุ่มเทให้กับการยกระดับประสบการณ์ของตัวแทน เร่งขยายธุรกิจในระดับสากล ปรับปรุงโครงสร้างต้นทุนให้ดีขึ้น เพิ่มความยืดหยุ่นทางการเงิน รวมถึงผลักดันบริษัทให้เติบโตและประสบความสำเร็จในระยะยาว ทางคณะกรรมการบริษัทมุ่งมั่นในการเพิ่มคุณค่าให้แก่ผู้ถือหุ้น การผนึกกำลังกับ Natura สะท้อนถึงบทใหม่แห่งการเติบโตของ Avon ในวันข้างหน้า คณะกรรมการของ Avon มั่นใจว่า Natura จะเป็นพันธมิตรที่ทรงพลังสำหรับแบรนด์ Avon และจะเข้ามาช่วยขยับขยายธุรกิจและการดำเนินงาน รวมถึงสร้างโอกาสใหม่ๆให้แก่พนักงานและตัวแทน พร้อมมอบศักยภาพมหาศาลแก่ผู้ถือหุ้นทั้งสองฝ่าย เรายินดีที่ได้ให้การสนับสนุนการผนึกกำลังที่จะพลิกโฉมองค์กรครั้งนี้"
เมื่อการควบรวมกิจการเสร็จสมบูรณ์ คณะกรรมการบริษัทจะมีสมาชิกรวม 13 ราย ซึ่งแต่งตั้งโดย Avon 3 ราย ทั้งนี้ การควบรวมกิจการยังต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขในการปิดการทำธุรกรรม ซี่งรวมถึงการขออนุมัติจากทั้งผู้ถือหุ้นของ Natura &Co และ Avon เช่นเดียวกับหน่วยงานป้องกันการผูกขาดทางการค้าในบราซิลและเขตอำนาจอื่นๆ โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงต้นปี 2563