ชื่อเรื่อง การพัฒนาการพัฒนารูปแบบการสอนแบบร่วมมือ โดยใช้เทคนิค TGT
ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ความน่าจะเป็น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
รายวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน ค32101
ชื่อผู้วิจัย นางสุกัญญา แขมคำ
ปีที่พิมพ์ 2562
บทคัดย่อ
การพัฒนารูปแบบการสอนแบบร่วมมือ โดยใช้เทคนิค TGT ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ความน่าจะเป็น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 รายวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน ค32101 มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานและความต้องการในการเรียนการสอนรายวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน ค32101 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 2) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการสอนแบบร่วมมือ โดยใช้เทคนิค TGT ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ความน่าจะเป็น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 รายวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน ค32101 3) เพื่อพัฒนารูปแบบการสอนแบบร่วมมือ โดยใช้เทคนิค TGT ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ความน่าจะเป็น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 รายวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน ค32101 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 4) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของการจัดการเรียนรู้ รายวิชา ค32101 คณิตศาสตร์พื้นฐาน ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 5) เพื่อเปรียบเทียบ
คะแนนประเมินผลระดับความรู้ของนักเรียน ก่อนและหลังการใช้รูปแบบการสอนแบบร่วมมือ โดยใช้เทคนิค TGT ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ความน่าจะเป็น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 รายวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน ค32101 6) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียนรู้จากรูปแบบการสอนแบบร่วมมือ โดยใช้เทคนิค TGT ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ความน่าจะเป็น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 รายวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน ค32101
กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการศึกษาวิจัย เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/2 โรงเรียนไตรมิตร สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 30 คน ได้มาโดยการสุ่มอย่างง่าย
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้าง แบบสอบถาม คู่มือการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบวัดความพึงพอใจของนักเรียน
สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าสถิติ t-test (t-Dependent)
สรุปผลการวิจัย
การพัฒนารูปแบบการสอนแบบร่วมมือ โดยใช้เทคนิค TGT ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ความน่าจะเป็น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 รายวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน ค32101 สรุปผลได้ดังนี้
1. จากการสัมภาษณ์ โดยใช้แบบสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้าง และการสนทนาแบบไม่เป็นทางการจากการสัมภาษณ์ครูที่สอนรายวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน ค32101 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ผลการสังเคราะห์จากแบบสัมภาษณ์ พบว่า
1.1 ครูจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในชั้นเรียน ใช้สื่อการสอนที่ไม่น่าสนใจโดยใช้เพียงหนังสือแบบเรียนในกลุ่มสาระเท่านั้น
1.2 เนื้อหาในหนังสือง่ายเกินไป ซึ่งทำให้นักเรียนบางส่วนไม่สนใจจึงใช้วิธีการเรียนพิเศษและนำทักษะการท่องจำมาใช้ในการทำข้อสอบ ซึ่งทำให้นักเรียนไม่ได้ใช้ทักษะการคิดวิเคราะห์ในเนื้อหาที่เรียนในแต่ละเรื่อง
1.3 นักเรียนขาดความกระตือรือร้นในการเรียน เนื่องจากเนื้อหาในหนังสือเรียนและรูปแบบการนำเสนอไม่น่าสนใจ
1.4 ครูส่วนใหญ่ไม่มีสื่อการสอน ใช้การบรรยายอย่างเดียว ทำให้นักเรียนเบื่อไม่สนใจเรียน
2. ผลการทดลองใช้รูปแบบการสอนแบบร่วมมือ โดยใช้เทคนิค TGT ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ความน่าจะเป็น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 รายวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน ค32101 โดยดำเนินการทดลอง กับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนไตรมิตร สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งไม่ใช่กลุ่มตัวอย่าง พบว่า
2.1 ทดลองแบบหนึ่งต่อหนึ่ง (One to One Testing) โดยทดลองกับนักเรียน จำนวน 3 คน โดยเลือกผู้เรียนที่มีผลการเรียนกลุ่มเก่ง ปานกลาง และอ่อน กลุ่มละ 1 คน ได้ค่าประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้ 49.13/54.00
2.2 ทดลองใช้กับนักเรียน จำนวน 9 คน คือ นักเรียนเก่ง 3 คน ปานกลาง 3 คน และอ่อน 3 คน ได้ค่าประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้ 49.00/52.88
2.3 ทดลองใช้จริงกับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนไตรมิตร สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ จำนวน 30 คน ได้ค่าประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้ 85.32/86.70
3. ประสิทธิภาพของรูปแบบการสอนแบบร่วมมือ โดยใช้เทคนิค TGT ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ความน่าจะเป็น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 รายวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน ค32101 มีประสิทธิภาพ 85.32/86.70 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด
4. ค่าดัชนีประสิทธิผลของรูปแบบการสอนแบบร่วมมือ โดยใช้เทคนิค TGT ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ความน่าจะเป็น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 รายวิชาคณิตพื้นฐาน ค32101 มีค่าดัชนีประสิทธิผล เท่ากับ 0.54 หรือคิดเป็นร้อยละ 54.00
5. นักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการสอนแบบร่วมมือ โดยใช้เทคนิค TGT ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ความน่าจะเป็น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 รายวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน ค32101 มีคะแนนหลังการใช้รูปแบบการสอนทุกตอนสูงกว่าก่อนใช้รูปแบบการสอน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
6. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้รูปแบบการสอนแบบร่วมมือ โดยใช้เทคนิค TGT ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ความน่าจะเป็น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 รายวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน ค32101 โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.59 เมื่อจำแนกเป็นรายด้าน พบว่า นักเรียนมีระดับความพึงพอใจ ด้านเนื้อหาโดยเรียงลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย 3 ลำดับแรก คือ ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ เรียงลำดับจากง่ายไปหายาก และมีความทันสมัยน่าสนใจค่าเฉลี่ย 4.62 , 4.57 และ 4.52 ตามลำดับ ในด้านกิจกรรมการเรียนการสอน พบว่า นักเรียนมีระดับความพึงพอใจ เรียงลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย 3 ลำดับแรก คือ มีลำดับขั้นตอนเหมาะสม ร่วมกิจกรรมด้วยความสุข สนุกสนาน และมีส่วนร่วมในกิจกรรมทุกขั้นตอน ค่าเฉลี่ย 4.72 , 4.71 และ 4.68 ตามลำดับ ด้านรูปแบบประกอบ การสอน พบว่า นักเรียนมีระดับความพึงพอใจ เรียงลำดับค่าเฉลี่ยจากมาก ไปหาน้อย 3 ลำดับแรก คือ น่าสนใจ สวยงาม ตัวอักษรอ่านง่าย ชัดเจน และภาพประกอบชัดเจนเหมาะสม ค่าเฉลี่ย 4.92 , 4.74 และ 4.63 และด้านการวัดและประเมินผล พบว่า นักเรียนมีระดับความพึงพอใจ เรียงลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย 3 อันดับแรก คือ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้หลากหลาย เครื่องมือวัดผลประเมินผลชัดเจนและมีประสิทธิภาพและชุดกิจกรรมการเรียนรู้เหมาะสมกับเวลาค่าเฉลี่ย 4.64 , 4.61 และ 4.58 ตามลำดับ