นับเป็นอีกหนึ่งความพยายามของแบรนด์รถยนต์ชั้นนำในการสรรค์สร้างนวัติกรรมใหม่ๆ ขึ้นมาตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค โดยเฉพาะอย่างยิ่งการค้นคว้าวิจัยนวัตกรรมยานยนต์ไร้คนขับที่จะไม่เป็นสิ่งที่ไกลเกินเอื้อมหรือมีอยู่แต่เฉพาะในภาพยนตร์ไซไฟหรือนิยายแห่งอนาคตอีกต่อไป แล้วแบรนด์ใดบ้างที่ออกมาเปิดเผยถึงนวัตกรรมไร้คนขับออกมาให้ผู้คนได้ตื่นตาตื่นใจ วันนี้ เฮง ไดเร็ค มีข้อมูลมาฝากกันครับ
1. Tesla กับระบบไร้คนขับแบบ Option เสริมติดรถยนต์
เมื่อปี 2016 ที่ผ่านมา Tesla ออกมาประกาศว่า รถทุกคันที่ผลิตออกจากโรงงานจะสามารถเพิ่มระบบ Autopilot เป็นOption เสริมให้กับรถยนต์ของ Teslaได้ในราคา 6,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 190,000 บาท) โดยระบบไร้คนขับของ Tesla จะเป็นแบบ “Full Self-Driving Capability” หรือระบบไร้คนขับแบบเต็มรูปแบบ ที่จะทำให้รถสามารถเร่งหรือชะลอความเร็วได้ พร้อมด้วยเบรคอัตโนมัติหรือเปลี่ยนเลนได้หากพบวัตถุอยู่ด้านหน้า
พร้อมกันนี้ยังเปิดตัวชิปตัวใหม่ที่อยู่ในระหว่างการพัฒนาร่วมกับทางซัมซุง “Full Self-Driving Chip” เพื่อใช้งานกับโหมดรถยนต์ไร้คนขับโดยเฉพาะ พร้อมตั้งเป้าให้บริการแท็กซี่ไร้คนขับบนท้องถนนมากกว่า 1 ล้านคันภายในปี 2020และล่าสุดได้มีการปล่อยคลิปสาธิตการขับรถยนต์แบบไร้คนขับซึ่งเผยให้เห็นรถที่เคลื่อนที่และหมุนพวงมาลัยเองได้เพื่อขับไปยังจุดหมายที่ตั้งไว้ แม้คนขับจะหลับอยู่ก็ตาม!!! ดูคลิปสาธิตการขับ คลิก https://www.youtube.com/watch?v=tlThdr3O5Qo
2. Waymo ผนึกกำลังเครือข่ายพันธมิตร พัฒนายานยนต์ไร้คนขับที่ทรงประสิทธิภาพ
Waymo บริษัทผู้พัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ไร้คนขับที่ถูกแยกตัวออกมาจาก Alphabet บริษัทลูกในเครือ Google ประสบความสำเร็จในการพัฒนารถยนต์ไร้คนขับเต็มรูปแบบเป็นเจ้าแรกในปี 2015 พร้อมเชิญเจ้าหน้าที่จากศูนย์ผู้พิการทางสายตามาเป็นผู้ทดลองขับ
นอกจากนี้ Waymo ยังได้พัฒนารถยนต์ไร้คนขับร่วมกับบริษัทชั้นนำด้านนวัตกรรมหลากหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น Fiat Chrysler Automobiles (FCA) ที่ปล่อยมินิแวนไร้คนขับรุ่นแรก พร้อมร่วมมือกับHonda ในการพัฒนาเทคโนโลยีไร้คนขับ และร่วมมือกับ Intel พัฒนาชิพสำหรับรถยนต์ไร้คนขับด้วย
ปี 2018 บริษัทได้รับอนุญาตจากรัฐแคลิฟอร์เนีย ให้สามารถทดสอบรถยนต์ไร้คนขับบนท้องถนนได้ โดยไม่ต้องมีคนควบคุมหลังพวงมาลัย และในปีเดียวกัน รถยนต์ไร้คนขับทั้งหมดของ Waymo ยังสามารถวิ่งทดสอบทำระยะทางรวมได้กว่า 8 ล้านไมล์ (ประมาณ 12.8 ล้านกิโลเมตร) ซึ่งล่าสุดเมื่อเดือนมกราคม 2019 ที่ผ่านมา Waymo ประกาศตั้งโรงงานเพื่อผลิตชิ้นส่วนและประกอบรถไร้คนขับในรัฐมิชิแกนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
3. Daimler ตั้งเป้าปล่อยรถไร้คนขับเต็มรูปแบบต้นปี 2020
บริษัทยักษ์ใหญ่จากเยอรมนีผู้เป็นเจ้าของแบรนด์รถยนต์สุดหรูอย่าง Mercedes-Benz ก็มุ่งพัฒนารถยนต์ไร้คนขับด้วยเช่นเดียวกัน โดยมีจุดเริ่มต้นมาจากการจับมือกับทาง Uber เพื่อพัฒนารถยนต์ไร้คนขับขึ้นในปี 2017 และต่อมาก็ได้ประกาศร่วมมือกับ Bosch และ NVIDIA ในการพัฒนารถยนต์ไร้คนขับ ซึ่งมีเป้าหมายพัฒนารถยนต์ไร้คนขับให้สามารถใช้งานได้จริง!!
นอกจากนี้ หัวหน้าทีมพัฒนาของทาง Daimler ยังออกมาเปิดเผยว่า ระหว่างปี 2020-2025 นี้ คาดว่าจะสามารถเดินสายการผลิตรถเพื่อการขนส่งแบบไร้คนขับได้ และนอกจากจะพัฒนารถหรูไร้คนขับสำเร็จแล้ว ยังมี Future Truck 2025 รถบรรทุกไร้คนขับที่พัฒนาต่อยอดมาจาก Freight-liner Inspiration Truck ที่เคยวิ่งทดสอบบนถนนจริงในรัฐเนวาดามาแล้วด้วย
4. BMW ร่วมกับ Tencent สร้างระบบประมวลการขับขี่อัตโนมัติ
BMW ค่ายรถยนต์สัญชาติเยอรมัน ประกาศว่า ภายในปี 2021 จะปล่อยรถยนต์ไร้คนขับออกสู่ตลาดอย่างเต็มรูปแบบ โดยช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทาง BMW ได้มีการคิดค้นนวัตกรรมรถยนต์ไร้คนขับมาอย่างต่อเนื่อง และในงาน LA Auto Show เมื่อปี 2018 ที่ผ่านมา ก็ได้มีการเปิดตัว iNext นวัตกรรมยานยนต์ไร้คนขับที่มาพร้อมกับการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า
นอกจากนี้ BMW ยังได้ประกาศร่วมมือกับ Tencent บริษัทเกมยักษ์ใหญ่ผู้เชี่ยวชาญด้านซอฟแวร์จากประเทศจีน ในการสร้างระบบประมวลผลการขับขี่อัตโนมัติให้ดียิ่งขึ้นเพื่อบรรเทาปัญหาการจราจรติดขัด และหากประสบความสำเร็จก็เป็นไปได้ว่า BMW จะนำมาต่อยอดและใส่ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัตินี้ให้กับรถยนต์ของ BMW ทั่วโลก
5. Ford ตั้งบริษัทเพื่อจัดการธุรกิจสำหรับรถยนต์ไร้คนขับโดยเฉพาะ
Ford มุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมรถยนต์ไร้คนขับมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2012 ก่อนจะเปิดตัวรถยนต์ต้นแบบออกมาอีก 3 ปีให้หลัง และเมื่อไม่นานมานี้ ได้ประกาศก่อตั้งบริษัท Ford Autonomous Vehicle LLC เพื่อแยกหน่วยงานทางด้านวิจัยและฝ่ายจัดการด้านธุรกิจสำหรับรถยนต์ไร้คนขับโดยเฉพาะ และล่าสุดได้จับมือกับ Baidu เป็นพันธมิตรในโปรเจกต์ Baidu-Ford L4 Autonomous Vehicle Test ที่มีเป้าหมายในการพัฒนารถยนต์ไร้คนขับระดับ 4 ซึ่งเป็นระบบอัตโนมัติระดับสูงที่สามารถใช้งานการขับขี่ทุกอย่างได้เองภายใต้เงื่อนไขที่กำหนดไว้ และมีตัวเลือกให้คนขับรถเข้ามาควบคุมแทนได้
รถยนต์ไร้คนขับอาจจะไม่เป็นเพียงแค่ในความฝันอีกต่อไป เมื่อแบรนด์ชั้นนำระดับโลกต่างก็รวมกำลังกันคิดค้นนวัตกรรมนี้ออกมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคให้ได้โดยเร็ว สะดวก และปลอดภัยมากที่สุด
ขอบคุณข้อมูลจาก เฮง ไดเร็ค โบรกเกอร์ www.hengdirect.co.th
