เหล่านักท่องเที่ยวทั้งหลายคงคิดถึงการเดินทางท่องเที่ยวไม่น้อย หลังจากต้องกักตัวอยู่บ้านเป็นเวลาหลายเดือนไม่ได้ออกเดินทางไปไหน ทำให้หลายคนโหยหาธรรมชาติ คิดถึง ทะเล ภูเขา และน้ำตก แต่หลังจากวันที่ 1 กรกฎาคม สถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งจะพร้อมเปิดให้บริการแล้ว แต่ก็จะเป็นการท่องเที่ยววิถีใหม่ ซึ่งอาจต่างจากเดิม ตามมาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ซึ่งเราต้องวางแผนและเตรียมตัวล่วงหน้า จะต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง
ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมจะมีการเปิดให้บริการอุทยานแห่งชาติ 127 แห่ง หลังจากที่ปิดให้บริการมาเป็นเวลานาน ให้เข้าท่องเที่ยวได้แล้ว แต่ยังมี 28 แห่งที่ยังคงปิดให้บริการอยู่ ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
- อุทยานแห่งชาติที่เปิดให้บริการ 100 เปอร์เซ็นต์ มี 64 แห่ง ได้แก่ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร อุทยานแห่งชาติภูจองนายอย อุทยานแห่งชาติขุนสถาน
- อุทยานแห่งชาติที่เปิดเพียงบางส่วน มีจำนวน 63 แห่ง ได้แก่ อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง ดูสถานที่เพิ่มเติมได้ที่ (https://drive.google.com/file/d/1ROwgIhwAEclxXlya4zTN3IcfNHcIverG/view )
- อุทยานที่ปิดต่อเพื่อฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ 28 แห่ง ได้แก่
1. อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์
2. อุทยานแห่งชาติตะรุเตา
3. อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน
4. อุทยานแห่งชาติเขาหลัก – ลํารู่
5. อุทยานแห่งชาติเขาน้ำค้าง
6. อุทยานแห่งชาติบูโด-สุไหงปาดี
7. อุทยานแห่งชาติน้ำตกซีโป (เตรียมเปิดบริการ)
8. อุทยานแห่งชาติภูกระดึง
9. อุทยานแห่งชาติภูเวียง
10. อุทยานแห่งชาติภูสวนทราย
11. อุทยานแห่งชาติศรีพังงา
12. อุทยานแห่งชาติทะเลบัน
13. อุทยานแห่งชาติศรีสัชนาลัย
14. อุทยานแห่งชาติลานสาง
15. อุทยานแห่งชาติน้ำตกบัวตอง-น้ำพุเจ็ดสี
16. อุทยานแห่งชาติขุนขาน
17. อุทยานแห่งชาติดอยเวียงผา
18. อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์
19. อุทยานแห่งชาติผาแดง
20. อุทยานแห่งชาติแม่โถ
21. อุทยานแห่งชาติแม่วาง
22. อุทยานแห่งชาติลําคลองงู
23. อุทยานแห่งชาติออบขาน
24. อุทยานแห่งชาติเขาปู่ – เขาย่า
25. อุทยานแห่งชาติสาละวิน
26. อุทยานแห่งชาติแม่สะเรียง (เตรียมเปิดบริการ)
27. อุทยานแห่งชาติแม่เงา (เตรียมเปิดบริการ)
28. อุทยานแห่งชาติเวียงโกศัย
ส่วนการเข้าไปใช้บริการอุทยานแห่งชาติ จะเปิดให้บริการตามช่วงเวลาปกติ แต่มีข้อปฎิบัติที่แตกต่างจากเดิมดังนี้
1. ก่อนเข้าไปท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติ ต้องจองล่วงหน้า ผ่านทางแอปพลิเคชัน ชื่อ QueQ (คิวคิว)
ที่สามารถดาวน์โหลดลงได้ทั้งระบบ ios และ android ( ชมวิดีโอการใช้งานได้ที่ https://www.youtube.com/watch?Heading 4v=yRTc2Q7XUXo ) โดยจะเปิดให้จองล่วงหน้าก่อนเข้าท่องเที่ยว 15 วัน จากนั้นต้องยืนยันสิทธิ์เข้าท่องเที่ยว ตาม 6 ช่วงเวลาที่กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชกำหนด เราสามารถตรวจเช็กว่าแต่ละแห่งสามารถรับนักท่องเที่ยวได้จำนวนกี่คนต่อวันผ่านแอปพลิเคชัน
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่ได้จองล่วงหน้าผ่านแอปพลิเคชัน QueQ ก็สามารถมาท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติได้ แต่จะให้สิทธิ์กับผู้ที่ทำการจองผ่านทางแอปพลิเคชัน QueQ ก่อน และเมื่อผู้จองผ่านแอปฯ ไม่มาตามเวลาจอง โดยมีการแบ่งสัดส่วน ระบบจองตั๋วล่วงหน้า 70 เปอร์เซ็นต์ ส่วนอีก 30 เปอร์เซ็นต์ จะเปิดให้ซื้อตั๋วหน้าแหล่งท่องเที่ยว
2. มีการ Check in - Check out ผ่านระบบ " ไทยชนะ"
ทั้งก่อนเข้าและออกจากแหล่งท่องเที่ยวภายในอุทยานแห่งชาติ หากไม่มีสมาร์ทโฟนต้องทำการบันทึกรายชื่อและหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชนเพื่อระบุผู้เข้า-ออก
3. นักท่องเที่ยวต้องเตรียมร่างกายให้พร้อมต้องสวมหน้ากากอนามัยระหว่างท่องเที่ยว และรับประทานอาหารในจุดที่กำหนดไว้
4. เน้นการท่องเที่ยวแบบอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ให้ปฏิบัติตามกฎ ระเบียบ และข้อปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ลดการใช้พลาสติกชนิดใช้ครั้งเดียวทิ้ง และให้นำขยะออกจากอุทยานแห่งชาติทุกครั้ง เพื่อลดปริมาณขยะและเพื่อป้องกันสัตว์ป่าไปกัดกิน
ในการเข้าใช้บริการสถานที่ท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติของกรมอุทยานแห่งชาติยังมีข้อปฎิบัติที่เราต้องให้ความร่วมมือตามมาตรการเพื่อป้องกันโรค COVID-19 อยู่ อาจทำให้เราไม่ได้รับความสะดวกบ้าง เพื่อสังคมที่ปลอดภัยของเรา แต่ก็มีข้อดีของการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยว อาจทำให้เราได้สัมผัสธรรมชาติได้มากขึ้นและเห็นธรรมชาติที่สวยงามจากการฟื้นตัวหลังจากที่ปิดเป็นเวลานานที่ถือว่าคุ้มค่า
สามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมจากกรมอุทยานแห่งชาติได้ที่ เว็บไซต์ “กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธ์พืช” http://portal.dnp.go.th และ เว็บไซต์ “สำนักอุทยานแห่งชาติ” http://portal.dnp.go.th/p/nationalpark หรือ สายด่วน 1362
ขอบคุณข้อมูลจาก สินมั่นคงประกันภัย ...เราประกัน คุณมั่นใจ... www.smk.co.th/prepa.aspx
