บ่อยครั้งที่คนรักรถมักต้องปวดหัวกับการหาคำตอบให้กับคำถามที่ว่า เปลี่ยนยางรถยี่ห้อไหนดี ไม่ว่าจะ ยางรถยนต์ โตโยต้า ฮอนด้าหรืออื่น ๆ คิดทบทวนแล้วทบทวนอีกก็ยังหาคำตอบไม่ได้ เพราะคำตอบของยางรถยนต์มีให้เลือกอย่างหลากหลาย ซึ่งนอกจากจะหลากยี่ห้อยางแล้ว ยังมีหลายรุ่นให้ต้องเลือกอีกด้วย
ยิ่งในปัจจุบันมีผู้ประกอบการผลิตและจำหน่าย
ยางรถ มากขึ้นเรื่อย ๆ ยิ่งทำให้ผู้บริโภคจำต้องพิจารณาเลือกซื้อมากยิ่งขึ้น แต่กระนั้นก็มีเพียงไม่กี่เจ้าดังที่ยังสามารถครองตลาดและขึ้นแท่นติดอันดับผู้เชี่ยวชาญเรื่องยางมาอย่างยาวนาน อาทิเช่น BRIDGESTONE, YOKOHAMA, MICHELIN เป็นต้น
เริ่มจากแบรนด์ผู้ผลิตยางรถยนต์แห่งแดนอาทิตย์อุทัยอย่าง BRIDGESTONE ที่ติดอันดับยางคุณภาพระดับสากล มักจะมาพร้อมกับกระบวนการและนวัตกรรมการผลิตยางที่ล้ำสมัยภายใต้คุณภาพ มาตรฐาน และความปลอดภัย ที่ได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคมากที่สุด ทั้งยังสามารถรองรับการใช้
งานกับรถยนต์ได้อย่างหลากหลาย เช่น
BRIDGESTONE ECOPIA ที่ถูกออกแบบด้วยนวัตกรรม NANO PRO-TECH จุดเด่นอยู่ตรงโมเลกุลซิลิกาในเนื้อยางที่ออกแบบพิเศษ มีการจัดเรียงตัวได้มากขึ้นทำให้เกิดประสิทธิภาพในการต้านทานการหมุนส่งผลต่อรอบเครื่องยนต์ที่สามารถประหยัดน้ำมันได้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีนวัตกรรมของดอกยางที่สามารถกระจายแรงกดได้อย่างสม่ำเสมอ ทำให้ ยางรถ สามารถยึดเกาะถนนได้เป็นอย่างดี แม้ในบริเวณที่พื้นถนนเปียกก็ตาม ซึ่งในรุ่น ECOPIA นี้ถูกออกแบบมา 2 ชนิด คือ ECOPIA EP300 ที่เหมาะสำหรับรถยนต์ขนาดเล็กถึงขนาดกลาง อย่าง Vios, Altis, Jazz, Civic เป็นต้น และรุ่น ECOPIA H/L001 สำหรับรถ SUV และรถครอสโอเวอร์ อย่าง C-HR, Mitsubishi Pajero Sport, Honda CR-V เป็นต้น
แต่ถ้ามาแนวรถสายลุยอย่างกระบะ แบรนด์ BRIDGESTONE ก็ยังคงคุณภาพด้วย DURAVIS ที่ผลิตขึ้นด้วยการเสริมเนื้อยางสูตรพิเศษ สำหรับเพิ่มความแข็งแรงและลดแรงกระแทกบริเวณขอบกระทะล้อ ทำให้สามารถรับน้ำหนักได้อย่างคงทนแม้จะต้องเผชิญกับแรงกระแทกก็ตาม ทั้งยังมีร่องดอกยางแบบพิเศษที่ช่วยรีดน้ำทำให้การยึดเกาะมีประสิทธิภาพ มาพร้อมกับรุ่น DURAVIS R611 และ DURAVIS R624 HEAVY DUTY ที่เหมาะกับรถ SUV และปิกอัปอเนกประสงค์ เช่น Vigo, Revo, Commuter, Isuzu D-Max เป็นต้น
อีกหนึ่งแบรนด์ที่มีชื่อเสียงตามกันมาติด ๆ ต้องยกให้ YOKOHAMA ที่สร้างจุดเด่นในเรื่องของการประหยัดน้ำมันและการยึดเกาะถนนได้เป็นอย่างดี ด้วยนวัตกรรม Nano Blend Compound ช่วยในเรื่องของการลดความร้อนและการต้านแรงหมุน ช่วยให้การขับขี่ประหยัดน้ำมันมากยิ่งขึ้น และอีกหนึ่งเอกลักษณ์พิเศษของ YOKOHAMA คือเทคโนโลยีน้ำมันส้ม ที่เป็นเทคโนโลยีพิเศษสูตรลับเฉพาะของ YOKOHAMA ถูกคิดค้นเพื่อตอบสนองในเรื่องของความเบาสบาย ทำให้เนื้อยางนุ่ม ลดการเกิดเสียงในระหว่างการขับขี่ แต่ยังคงประสิทธิภาพการยึดเกาะถนนได้เป็นอย่างดี ซึ่งตัวชูโรงในเรื่องของการประหยัดน้ำมันของ YOKOHAMA ต้องยกให้กับรุ่น BluEarth ES ES32 และ BluEarth GT AE51 ที่เหมาะกับรถยนต์ซีดานทั่วไปในท้องตลาด เน้นเรื่องของความนุ่นนวลของตัวยางและเรื่องการประหยัดน้ำมันเป็นหลักนั้นเอง
นอกจาก BRIDGESTONE และ YOKOHAMA ทั้งสองแบรนด์ที่มีชื่อเสียงเรื่องยางรถยนต์แล้ว ในท้องตลาดยังคงมีแบรนด์อื่น ๆ ให้ผู้บริโภคได้เลือกหาอีกมากมาย แถมยังมีคุณภาพไม่แพ้กันด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ปัจจัยสำคัญหลักในการเลือกว่าจะ เปลี่ยนยางรถยี่ห้อไหนดี ก็ไม่ได้ขึ้นอยู่ที่ชื่อเสียงของแบรนด์อย่างเดียวเท่านั้น เพราะว่าโดยหลักการต้องขึ้นอยู่กับความเหมาะสมในการใช้งานและเจ้าของรถเสียมากกว่า ต่อให้เลือกยางแบรนด์ดังแต่ไม่เหมาะกับรถยนต์ ไม่นานวันก็ต้องกลับมาเปลี่ยนอีกอยู่ดี ถ้าจำเป็นจะต้องควักกระเป๋าจ่ายเงินแล้ว ก็ควรเลือกสิ่งที่เหมาะสมและคุ้มค่ามากที่สุด เพื่อตอบสนองการใช้งานที่ตรงกับวัตถุประสงค์การขับขี่